ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 1098 ดูไพ่ทาโรต์เป็นหรือ

บทที่ 1098 ดูไพ่ทาโรต์เป็นหรือ

กลับไปที่ชั้นบน เจียงสื้อสื้อกลัดกลุ้มใจไม่หยุด

ตอนแรกคิดว่าจะฉวยโอกาสที่ภรรยาเบอ์รเกนมาหนีออกไปจากที่นี่ ใครจะไปรู้ว่าเกือบเอาชีวิตไม่รออด

ไม่ได้ เธอจะยอมแพ้แบบนี้ไม่ได้

เธอเหล่มองพ่อบ้านที่อยู่ตรงหางตา สมองครุ่นคิดอย่างหนัก ทันใดนั้น ดวงตาสว่างวาบ

“พ่อบ้าน”

เธอหยุดฝีเท้า หมุนตัวมา มองพ่อบ้านด้วยรอยยิ้ม

สีหน้าพ่อบ้านงุนงง “ทำไมเหรอ”

“ฉันขอร้องอย่างหนึ่ง”

“อะไร”

“ฉันขอเดินไปไหนมาไหนอย่างอิสระในคฤหาสน์ได้มั้ย”

พ่อบ้านส่ายหน้า ปฏิเสธคำขอร้องเธออย่างเด็ดขาด “ไม่ได้!”

“ทำไมไม่ได้” เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว

“ในเมื่อคุณเบอร์เกนเอาตัวคุณขังไว้ในห้อง นั่นก็หมายความว่าคุณก็อยู่ได้เพียงแค่ในห้อง ”

เจียงสื้อสื้อพูดอย่างไม่พอใจ “พวกคุณต้องการใช้ฉันทำการทดลอง หรืออย่างจะทำให้ฉันอึดอัดตายกันแน่ ในห้องไม่มีอะไรเลย มีฉันอยู่แค่คนเดียว ฉันเบื่อขนาดไหน”

“ผมจะให้คนมาติดตั้งโทรทัศน์ในห้องคุณ”

“ฉันไม่ต้องการ” เจียงสื้อสื้อปฏิเสธ “ฉันก็แค่อยากเคลื่อนไหวอย่างอิสระในคฤหาสน์ ในเมื่อมีคนคอยเฝ้าอยู่มากมายขนาดนี้ ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะหนีไปได้หรอก”

พ่อบ้านส่ายหน้าอีก “ไม่ได้ก็คือไม่ได้ครับ”

“คุณแน่ใจนะว่าไม่ได้” เจียงสื้อสื้อถามเขา

“ขอโทษครับ ไม่ได้จริงๆ”

เจียงสื้อสื้อจ้องเขาครู่หนึ่ง จู่ๆก็ส่งเสียงไห้ร้องออกมา “ฮือๆ”

“ทำเกินไปแล้วนะ กล้ารังแกฉันแบบนี้!”

พ่อบ้านตกใจทันที เขาเคยชินกับการจัดการกับผู้ชาย ไม่เคยเจอกับสถานการณ์แบบนี้มาก่อน เผชิญหน้ากับคุณหญิง เขาก็ยังไม่เคยวุ่นวา่ยเท่านี้

“เอาละ คุณเจียง คุณไม่ต้องแล้ว!”

แต่เจียงสื้อสื้อเหมือนไม่ได้ยิน ยิ่งร้องเสียงยิ่งดังขึ้น “ทำไมฉันถึงได้น่าสงสารขนาดนี้! สองสามวันก่อนหน้าที่จะทำการทดลองให้ฉันได้มีอิสระบ้างจะเป็นอะไรไปนะ”

พ่อบ้านถูกเสียงร้องไห้รบกวนจนปวดหัว ถ้าไม่ใช่เพราะเบอร์เกนสั่งเขาให้ดูแลเจียงสื้อสื้อให้ดี เขาอยากจะหันหน้าเดินหนีไปจริงๆ

เจียงสื้อสื้อร้องไห้พลาง แอบมองปฏิกิริยาของพ่อบ้านพลาง

เห็นสีหน้าเขารำคาญ เธอก็แกล้งตะเบ็งเสียงร้องไห้ดังยิ่งขึ้น

“พอแล้ว!” ทันใดนั้นพ่อบ้านก็ตะโกนเสียงดัง

เสียงร้องไห้ก็หยุดลง

เจียงสื้อสื้อมองเขาด้วยดวงตาที่มีน้ำตาเอ่อนอง

พ่อบ้านถอนหายใจอีก “พอแล้ว ไม่ต้องร้องแล้ว ผมรับปากคุณก็ได้”

เจียงสื้อสื้อเปลี่ยนจากเสียงร้องไห้เป็นเสียงหัวเราะในชั่วพริบตา จับแขนของเขาไว้ “ขอบคุณค่ะ พ่อบ้าน”

“ก่อนที่คุณเบอร์เกนจะกลับมา ผมอนุญาตให้คุณมีอิสระไปมาในคฤหาสน์ได้ แต่ว่าทันทีที่คุณเบอร์เกนกลับมา คุณต้องอยู่ในห้องอย่างเชื่อฟัง รู้มั้ยครับ”

“ฉันรู้ค่ะ” เจียงสื้อสื้อพยักหน้าแรงๆ

“อย่างนั้นก็ดี” พ่อบ้านก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ถึงได้ตอบรับคำขอร้องแบบนี้ของเธอ

ไม่รู้จริงๆว่าถ้าคุณเบอร์เกนรู้เข้า จะด่าว่าเขาอย่างไร

เจียงสื้อสื้อเช็ดน้ำตา ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ถามว่า “อย่างนั้นตอนนี้ฉันลงไปดูทีวีที่ชั้นล่างได้แล้วใช่มั้ยคะ”

พ่อบ้านพยักหน้า “ได้”

“ขอบคุณค่ะ”

เจียงสื้อสื้อวิ่งไปข้างล่างอย่างดีใจ

พ่อบ้านได้แต่ถอนหายใจตามลงไป

……

กู้เนี่ยนและฝู้จิงเหวินมองเห็นรถของลี่ซาขับผ่านจากด้านข้างไป รีบก้มหน้าขับตามไป

ภายในรถลี่ซายังคงคิดถึงเรื่องของเจียงสื้อสื้อ ไม่ได้สังเกตว่ามีรถตามมาที่ด้านหลังเลย

“คาร์อันนายว่าเบอร์เกนจะชอบผู้หญิงคนนั้นมั้ย” ลี่ซาถาม

คาร์อันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงตอบว่า “ไม่น่าจะชอบครับ ผู้หญิงตะวันออกคนนั้นไม่ได้สวยเหมือนคุณหญิง อีกทั้งยังมีตระกูลอเนรีย์คอยสนับสนุนคุณอยู่เบื้องหลัง แบบนี้ผู้หญิงหลายคนไม่มีทางเทียบคุณได้”

คำพูดของเขาปลอบใจลี่ซา “ที่นายพูดไม่ผิด มีตระกูลอเนรีย์อยู่ เบอร์เกนเขาไม่กล้าทำเรื่องที่ผิดต่อฉันแน่”

“ดังนั้นคุณหญิงคุณไม่ต้องคิดมาก ผู้หญิงคนนั้นก็เป็นแค่สินค้าทดลองจริงๆ”

“เรื่องนี้ฉันรู้” ลี่ซาคิดใคร่ครวญอยู่พักหนึ่ง แล้วพูดต่อว่า “แต่ปล่อยให้เป็นหนามยอกอกอยู่อย่างนี้ ฉันว่าต้องหาวิธีกำจัดหล่อนทิ้งไปซะ”

“คุณหญิงคิดจะทำยังไงครับ” คาร์อันถาม

ลี่ซาเงยหน้า ทั้งสองคนสบตากันในกระจกมองหลัง

“นายหาโอกาสกำจัดหล่อนทิ้งซะ ทำให้เป็นความลับที่สุด แบบนี้เบอร์เกนก็ไม่มีทางมาโทษฉันได้”

คาร์อันรับคำสั่งด้วยความเคารพ “ครับ”

ลี่ซาหันไปมองนอกหน้าต่าง มุมปากยกขึ้นอย่างสะใจ ต่อให้เบอร์เกนมีอะไรกับผู้หญิงคนนั้นจริง เธอก็มีวิธีที่จะฆ่ามัน

“คุณจะให้ผมเข้าใกล้ลี่ซาคนนั้นยังไง”

กู้เนี่ยนขับรถไปพลางหันไปมองฝู้จิงเหวินที่นั่งอยู่บนเบาะข้างคนขับพลาง

“ลี่ซาสนใจเรื่องของเบอร์เกนมากที่สุด ทั้งยังเป็นคนขี้หึงมากอีกด้วย คุณว่าจะเข้าใกล้เธอยังไงล่ะ ” ฝู้จิงเหวินหันหน้ามา มองเขาทำท่าเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ได้ยิ้ม

กู้เนี่ยนขมวดคิ้ว รู้สึกหมดคำพูดเล็กน้อย “ผมไม่ได้ถามคุณเหรอ ผมจะรู้ได้ยังไงเล่า”

“ดูไพ่ทาโรต์เป็นมั้ย”

จู่ๆฝู้จิงเหวินก็ถามแบบนี้ขึ้นมา กู้เนี่ยนชะงักไปหลายวินาที จากนั้นก็ดึงสติกลับมา “ไม่เป็น”

“แล้วลัคนาราศีล่ะ”

“ก็ไม่เป็น แม้แต่เวลาตกฟากก็ยังคำนวณไม่เป็น” กู้เนี่ยนจนปัญญาแล้ว “คุณถามผมแบบนี้ทำไม คงไม่ได้ให้ผมให้ผมเลียนแบบในละครโทรทัศน์แกล้งทำเป็นหมอดูโยกไปโยกมาตรงหน้าเธอหรอกนะ”

“ไม่ผิด ทำแบบนี้แหละ”

กู้เนี่ยนเหยีบยเบรกขึ้นมาอย่างกะทันหัน ลดความเร็วรถลง มองไปทางฝู้จิงเหวินอย่างไม่อยากจะเชื่อ “เฮ้ย คุณบ้าไปแล้วเหรอ เธอเป็นชาวต่างชาติจะไปเชื่อเรื่องพวกนี้ได้ยังไงกัน”

เมื่อเทียบกับความตื่นเต้นตกใจของเขาแล้ว ฝู้จิงเหวินสงบนิ่งมากว่าอย่างเห็นได้ชัด ได้ยินเขาเอ่ยปากอย่างใจเย็นว่า “ผู้หญิงอะนะ ขอแค่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความรู้สึกก็มักจะเชื่อหมดแหละ”

กู้เนี่ยนคิดทบทวนอยู่ครู่หนึ่ง สูดลมหายใจเข้าลึกๆ “ได้ ผมเชื่อคุณ แต่ผมดูไพ่ทาโรต์หรือว่าลัคนาราศีไม่เป็นจริงๆนะ ผมจะปลอมตัวยังไง”

“ท่องเอาไว้ล่วงหน้าไง” ฝู้จิงเหวินตบที่บ่าของเขา ยิ้มแล้วพูดว่า “ผมเชื่อว่าคุณทำได้แน่ ในเมื่อคุณเป็นลูกน้องที่จิ้นเฟิวงเฉินฝึกอบรมออกมา”

“แม่งเอ้ย!” กู้เนี่ยนสบถออกมาอย่างอดไม่ได้ “คุณเลิกพูดประโยคนี้ได้มั้ย”

ฝู้จิงเหวินยิ้ม “ได้ ผมไม่พูดแล้ว คุณรีบตามไปเถอะ ไม่อย่างนั้นอาจจะตามไม่ทัน”

“ผมนี่ดวงซวยจริงๆถึงได้ตามคุณออกมา” กู้เนี่ยนบ่นพึมพำ เหยียบคันเร่งเร่งความเร็วรถ ตามรถของลี่ซาไปอีกครั้ง

ตลอดเส้นทางนี้ ฝู้จิงเหวินบอกเรื่องเกี่ยวกับเบอร์เกนและลี่ซากับกู้เนี่ยนไม่น้อย

กู้เนี่ยนรู้เรื่องพอสมควรแล้ว “ผมรู้แล้วว่าควรจะพูดอย่างไร”

ฝู้จิงเหวินเผยให้เห็นสีหน้าท่าทางชื่นชมแบบที่ว่า “เด็กคนนี้โตพอที่จะถ่ายทอดความรู้ให้ได้แล้ว” ล้อเลียนว่า “คุณนี่สมกับเป็นลูกน้องที่จิ้นเฟิงเฉินฝึกอบรมออกมาจริงๆ ฉลาดมาก”

“คุณไม่ต้องพูดคำนี้อีกได้มั้ย” กู้เนี่ยนจ้องมองเขาอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

“ได้ ไม่พูดแล้ว”

รถของลี่ซาจอดที่ประตูร้านอาหารแห่งหนึ่ง

มองเห็นเธอเดินเข้าไปในร้านอาหาร กู้เนี่ยนปลดล็อกเข็มขัดนิรภัยเตรียมจะลงรถ

“รอเดี๋ยว พวกเราไม่ต้องรีบร้อนตามเข้าไป” ฝู้จิงเหวินรั้งเขาไว้

กู้เนี่ยนหันมา “ทำไม”

“ในเมื่อจะดูไพ่ทาโร่ต์ แน่นอนว่าต้องซื้อไพ่ทาโรต์ก่อน ไม่งั้นจะดูดวงยังไง”

พูดจบ ฝู้จิงเหวินก็เปิดประตูลงจากรถ

กู้เนี่ยนเบ้ปาก แล้วจึงลงจากรถ

ซื้อไพ่ทาโรต์เสร็จแล้ว ฝู้จิงเหวินและกู้เนี่ยนจึงค่อยๆเดินเข้าไปในร้านอาหาร

พอเข้าไป พวกเขาเมินเฉยพนักงานที่เข้ามาต้อนรับ สายตามองกวาดไปทั่วร้านอาหาร เมื่อมองเห็นลี่ซาที่นั่งอยู่ตรงมุมร้าน พวกเขาก็หันมาสบตากัน ก้าวเท้าเดินไป

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท