“รีบไปสืบหาเบาะแสของเจียงสื้อสื้อเดี๋ยวนี้”
ทันทีที่ขึ้นรถ เบอร์เกนก็ออกคำสั่งให้ผู้ช่วยที่นั่งอยู่ข้างคนขับทันที
ผู้ช่วยพยักหน้ารับคำสั่งด้วยความเคารพ “ได้ครับ”
เบอร์เกนหรี่ตาลง นัยน์ตาเคร่งขรึม “ถ้าหาตัวเจอ ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ต้องเอาตัวเธอคืนมาให้ได้”
“ครับ”
เบอร์เกนเอนหลังพิงเบาะรถ แล้วหลับตาลง
เขารีบกลับมาที่นี่ ก็เพียงเพื่อจะมาหาเจียงสื้อสื้อเท่านั้น
แต่ตอนนี้ คนที่เขาอยากเจอกลับหนีออกไปแล้ว
ถึงแม้ว่าเขาจะบอกลี่ซาว่าเธอหนีไปแล้ว การวิจัยจะดำเนินต่อไปไม่ได้ แต่ในความเป็นจริง ที่เขาสนใจที่สุดคือเจียงสื้อสื้อหนีไปแล้วมากกว่า
เธอหนีไปแล้ว ความสุขของเขาก็หมดลงไปด้วย
……
สื้อสื้อ อิตาลีไม่ปลอดภัย เรากลับประเทศกันเถอะ”
ไม่รู้ว่านี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่ฟางยู่เชินพูดเกลี้ยกล่อมเจียงสื้อสื้อ
หลายครั้งก่อนหน้านี้ล้วนถูกเจียงสื้อสื้อปฏิเสธไปจนหมด
เหตุผลก็คือถ้ายังหาจิ้นเฟิงเฉินไม่เจอ เธอก็จะไม่กลับไป
“พี่คะ พี่ไม่ต้องเกลี้ยกล่อมฉันหรอกค่ะ ถ้าฉันไม่เจอเฟิงเฉิน ฉันก็จะอยู่ที่อิตาลีไปเรื่อยๆ” ความคิดของเจียงสื้อสื้อมั่นคงมาก
“เฮ้อ…” ฟางยู่เชินถอนหายใจ เขาไม่รู้ว่าจะเกลี้ยกล่อมเธออย่างไรแล้ว
ตราบใดที่เธอยังอยู่ในอิตาลี ด้วยอิทธิพลของเบอร์เกนจะต้องหาเธอเจอในไม่ช้านี้แน่ๆ ถึงตอนนั้นทั้งสองฝ่ายจะต้องเกิดการต่อสู้กันเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยง เขากลัวว่าพวกกู้เนี่ยนจะไม่สามารถปกป้องเธอได้
เจียงสื้อสื้อส่งยิ้มให้เขาเพื่อปลอบโยน “พี่คะ วางใจได้ค่ะ ฉันจะต้องไม่เป็นไร”
“พี่เข้าใจแล้ว” ฟางยู่เชินยิ้มอย่างเหนื่อยใจ เขาเอื้อมมือไปลูบศีรษะเธอ แล้วทำการตัดสินใจในใจ
“พี่จะอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนน้องเอง”
เจียงสื้อสื้อประหลาดใจมาก “พี่จะอยู่ต่อเหรอคะ แล้วบริษัทล่ะคะ”
“ตอนนี้การสื่อสารสะดวกมากขนาดนี้ พี่สั่งการเรื่องราวในบริษัทจากระยะไกลได้ อีกอย่างมีส้งหยาวอยู่ที่นั่น ไม่เป็นไรหรอก”
ทุกครั้งล้วนแต่เป็นเพราะเรื่องของเธอ ทำให้ทุกคนต้องเดือดร้อนกันไปหมด
เจียงสื้อสื้อรู้สึกเสียใจมาก เธอคิดทบทวนเรื่องนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า “พี่คะ ฉันจะกลับไปกับพี่ค่ะ”
แค่ไม่กี่นาที เธอก็เปลี่ยนใจขึ้นมา
ฟางยู่เชินรู้ดีว่าทำไมเธอถึงเปลี่ยนใจ เขาถอนหายใจออกมา “สื้อสื้อ ในเวลานี้น้องไม่ต้องเป็นเด็กดีเชื่อฟังพวกพี่ไปหมดก็ได้ ในเมื่อพี่ตัดสินใจที่จะอยู่กับน้องที่นี่ เรื่องอื่นพี่ก็จะจัดการให้เรียบร้อยเหมือนกัน”
“ไม่ค่ะ” เจียงสื้อสื้อส่ายหน้า “ถ้าฉันอยู่ที่นี่ต่อ พวกซูหานและคนอื่นๆจะต้องแบ่งเวลามาดูแลฉัน แล้วจะทุ่มเทเวลาเพื่อหาเฟิงเฉินทั้งหมดไม่ได้”
ความหมายก็คือ ถ้าเธออยู่ที่นี่ต่อไปก็เป็นภาระของทุกคน
“น้องแน่ใจแล้วเหรอ” หางยู่เชินเอ่ยถาม
เขาหวังว่าเธอจะคิดอย่างชัดเจนแล้ว ไม่ใช่แค่คิดชั่วขณะ
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า “อืม ฉันตัดสินใจดีแล้วค่ะ”
ฟางยู่เชินยกยิ้ม “งั้นดี พี่จะจองตั๋วเครื่องบินเดี๋ยวนี้เลย พวกเราจะกลับให้เร็วที่สุด”
“ได้ค่ะ”
หางยู่เชินติดต่อหาส้งหยาว แล้วให้เขาจองตั๋วเครื่องบินสองใบเพื่อกลับประเทศ
เจียงสื้อสื้อนั่งลงบนโซฟา แล้วก้มศีรษะ สองมือกุมเข้าหากันจนแน่น
หวังว่ากู้เนี่ยนกับเห้อซูหานจะหาจิ้นเฟิงเฉินเจอ
บางครั้งยิ่งคาดหวังมาก ความผิดหวังก็จะยิ่งมาก
ช่วงดึก กู้เนี่ยนกับเห้อซูหานก็กลับมา
เจียงสื้อสื้อรีบเดินเข้าไปหาพวกเขาทันที แล้วเอ่ยถามอย่างร้อนใจ“เป็นยังไงบ้าง หาเฟิงเฉินเจอไหม”
พอเห็นสีหน้าความคาดหวังของเธอ กู้เนี่ยนกับเห้อซูหานก็มองหน้ากัน ก่อนที่ทั้งสองจะก้มหน้าลง
“คุณหญิงครับ ขอโทษด้วย พวกเรายังหาคุณชายไม่พบครับ” กู้เนี่ยนตอบ
ไม่เจออย่างนั้นเหรอ
เจียงสื้อสื้อทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดแรง
“คุณหญิง”
กู้เนี่ยนกับเห้อซูหานรีบเข้าไปพยุงเธอ
เจียงสื้อสื้อโบกมือให้พวกเขา แล้วบอกว่าพวกเขาว่าตัวเองไม่เป็นไร ก่อนจะถามด้วยความสงสัย “ในห้องนั้นไม่ได้ขังเฟิงเฉินไว้เหรอคะ”
“ไม่ครับ เป็นห้องเก็บตัวอย่างอวัยวะไว้ครับ” กู้เนี่ยนตอบตามความจริง
เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว “ตัวอย่างอวัยวะอย่างนั้นเหรอคะ”
“ใช่ครับ ตัวอย่างอวัยวะของมนุษย์”
ตัวอย่างของมนุษย์อย่างนั้นเหรอ
ใบหน้าของเจียงสื้อสื้อซีดเผือด เสียงของเธอสั่นเทา “หรือว่าเฟิงเฉินเขา … “
ถึงแม้ว่าเธอจะยังพูดไม่ทันจบ แต่กู้เนี่ยนก็เข้าใจความหมายของเธอในทันที เขารีบอธิบายอย่างรวดเร็ว “คุณหญิงครับ คุณคิดมากเกินไปแล้ว คุณชายจะถูกเอาร่างกายมาเป็นตัวอย่างได้ยังไงกัน แล้วอีกอย่างผมเคยดูแล้ว ตัวอย่างเหล่านั้นมีระยะนานแล้วครับ”
เจียงสื้อสื้อโล่งใจ “ฉันขอโทษค่ะ ฉันชอบคิดฟุ้งซ่านไปเองอยู่เรื่อยเลย”
“คุณหญิงครับ ตอนนี้มีเพียงเบอร์เกนเท่านั้นที่รู้ว่าคุณชายหายไปไหน แต่ถ้าเราไปถามเขาตรงๆ เขาคงจะไม่ยอมที่จะพบพวกเรา” เห้อซูหานพูด
เจียงสื้อสื้อคิดอย่างรอบคอบ ก่อนจะถามออกไปว่า “หมายความว่าจะให้ฉันไปหาเบอร์เกนใช่ไหมคะ”
กู้เนี่ยนฟังแล้วหันศีรษะไปมองที่เห้อซูหานด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ “คุณจะบ้าไปแล้วเหรอ เราอุตส่าห์ช่วยคุณหญิงออกมาได้แล้ว แต่คุณกลับบอกให้เธอเดินเข้าดักด้วยตัวเองอย่างนั้นเหรอ”
เห้อซูหานถอนหายใจ “ถ้าไม่ใช่ทางเลือกสุดท้าย คุณคิดว่าฉันอยากให้เป็นอย่างนี้เหรอ”
“นี่คุณ” กู้เนี่ยนพูดไม่ออกสักพัก
เจียงสื้อสื้อพูดออกมา โดยแทบจะไม่คิด “ขอแค่หาตัวเหิงเฉินเจอ ฉันก็ยินดีที่จะไปหาเบอร์เกนค่ะ”
ใบหน้าที่เท่าฝ่ามือดวงนั้น เต็มไปด้วยความหนักแน่น
“ผมไม่เห็นด้วย!”
ฟางยู่เชินเดินเข้ามา เขาเหลือบมองไปที่เจียงสื้อสื้อ แล้วหันไปพูดกับพวกกู้เนี่ยน “พวกคุณจะให้ใครไปหาเบอร์เกนก็ได้ นอกจากสื้อสื้อที่ไปไม่ได้เด็ดขาด”
“ประธานฟางคะ นี่เป็นวิธีสุดท้ายแล้วจริงๆค่ะ “
เห้อซูหานอยากจะพูดเกลี้ยกล่อมเขา แต่กลับถูกเขายกมือขึ้นเพื่อขัดขวาง “ผมรู้ว่าคุณต้องการช่วยประธานจิ้น แต่พวกคุณจะให้สื้อสื้อตกอยู่ในอันตรายไม่ได้อีกเด็ดขาด”
“พวกคุณก็รู้ดีว่าสำหรับเบอร์เกนแล้วสื้อสื้อเป็นอะไร ถ้าสื้อสื้อไปหาเขา ชีวิตของเธอก็จะตกอยู่ในอันตราย”
เห้อซูหานและกู้เนี่ยนมองหน้ากัน ก่อนจะถอนหายใจออกมาอีกครั้ง “พวกเราเข้าใจแล้วค่ะ เป็นฉันเองที่ไม่ได้คิดเรื่องนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน”
“ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณ” กู้เนี่ยนตบไหล่ของเธอแล้วพูดปลอบใจ
เขามองไปทางฟางยู่เชิน“อันที่จริงผมเองก็ไม่เห็นด้วยกับวิธีของซูหาน ดังนั้นเราต้องคิดให้รอบคอบว่าเราจะเข้าใกล้เบอร์เกนได้ยังไง และจะถามเขาเกี่ยวกับเบาะแสของจิ้นเฟิงเฉินได้ยังไง”
พวกเขาทิ้งวิธีที่จะให้เจียงสื้อสื้อไปเสี่ยงอันตรายไป แต่เจียงสื้อสื้อเอง กลับยืนยันหนักแน่น
เมื่อเทียบกับตัวเธอแล้ว เธอหวังว่าเฟิงเฉินจะกลับมาได้อย่างปลอดภัย
เพราะว่า เฟิงเฉินทำเพื่อเธอมามากเกินไปแล้วจริงๆ
เธอเองก็อยากทำอะไรเพื่อเขาบ้างเหมือนกัน
เธอเม้มปากแล้วพูดว่า “ฉันยังอยากไปเหมือนเดิมค่ะ ตอนนี้ไม่มีทางอื่นแล้ว นอกจากให้ฉันไปหาเบอร์เกน…”
ทันใดนั้นเอง ฝู้จิงเหวินก็เดินเข้ามา พอได้ยินที่เธอพอแล้วพูด ก็รีบพูดขัดขึ้นมา “ผมมีวิธีครับ”
พอเจียงสื้อสื้อและคนอื่นๆได้ยิน ทุกคนก็หันไปมองตามเสียง
ฝู้จิงเหวินเดินเข้ามาช้าๆ “ผมยังเป็นสมาชิกในทีมวิจัยของเบอร์เกน ผมคิดว่าบางทีผมอาจจะเข้าไปพบกับเบอร์เกนได้”
“พี่ฝู้ ถ้าจะไปก็ต้องเป็นฉันที่ไป…” เจียงสื้อสื้อไม่อยากให้เขาไปเสี่ยงอันตราย
ฝู้จิงเหวินพูดขัดเธอด้วยรอยยิ้ม “สื้อสื้อ นี่เป็นสิ่งเดียวที่พี่สามารถทำเพื่อเธอได้”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ จมูกของเจียงสื้อสื้อก็อดที่จะรู้สึกแสบไม่ได้ น้ำตาของเธอไหลออกมาทันที เธอกัดริมฝีปากและส่ายหัวไปมา
ฝู้จิงเหวินส่งยิ้มให้เธอ “อย่าร้องไห้สิ พี่ยังไม่เป็นอะไรเลยไม่ใช่หรือไง แล้วเบอร์เกนก็ทำอะไรพี่ไม่ได้ด้วย”
“คุณฝู้ ขอบคุณมากสำหรับความช่วยเหลือของคุณในครั้งนี้” ฟางยู่เชินมองไปที่เขาอย่างรู้สึกขอบคุณ
เขาไม่ได้ช่วย แต่เขากำลังชดเชยความผิดพลาดที่เขาเคยทำ
ฝู้จิงเหวินมองไปที่เจียงสื้อสื้อด้วยสายตาลึกซึ้ง ความปรารถนาสูงสุดของเขาในชีวิตนี้คือเธอมีความสุขไปตลอดชีวิต ได้ใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชายที่เธอรัก
และจิ้นเฟิงเฉินก็เป็นผู้ชายคนนั้น
“สื้อสื้อ ถ้ามีเวลา ช่วยกลับไปเยี่ยมพ่อกับแม่แทนพี่ด้วย ตกลงไหม” ฝู้จิงเหวินพูดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เจียงสื้อสื้อพยักหน้ารับอย่างแรง “ได้ค่ะ ฉันจะไปเยี่ยมพ่อกับแม่แน่นอน แต่พี่ต้องไปด้วยกัน”
ฝู้จิงเหวินก้าวไปข้างหน้า แล้วลูบศีรษะของเธอ ก่อนจะตอบด้วยรอยยิ้มว่า “ตกลงค่ะ แต่เราจะต้องไปด้วยกัน”