ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 1121 อยากตายมากเลยใช่ไหม​

บทที่ 1121 อยากตายมากเลยใช่ไหม​

เพื่อให้หาตัวจิ้นเฟิงเฉินเจอ กู้เนี่ยนได้ส่งคนจำนวนมากออกไปยังเมืองต่างๆในอิตาลีเพื่อทำการค้นหา แต่น่าเสียดายที่ไม่พบเบาะแสใดๆเลย

ในวันนี้ ในห้องทำงานถูกปกคลุม​ไปด้วยบรรยากาศที่เคร่งเครียด​

กู้เนี่ยนดึงเนคไทของเขาออกอย่างหงุดหงิด “บ้าเอ้ย ซ่างกวนหยวนเอาคุณ​ชายไปซ่อนไว้ที่ไหนกันแน่ ทำไมถึงหาไม่เจอสักที”

ชีซาเงยหน้าขึ้นและเหลือบมองเขาเล็กน้อย ก่อนจะนิ่งครุ่นคิดอย่างจริงจัง​ “จะเป็นไปได้ไหม​ว่าพวกเขาจะออกจากอิตาลีไปนานแล้ว”

เห้อซูหานที่ยืนอยู่ริมหน้าต่าง พอได้ยิน​ก็เดินเข้ามาทันที “ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน”

กู้เนี่ยนเงยหน้าขึ้นมอง

แต่แค่ฟัง แล้ว​เขาก็พูดต่อ “เราค้นหากันเกือบทั่วทั้งอิตาลีแล้ว แต่กลับไม่มีเบาะแส​ของคุณชาย​เลย ลองคิดดูสิ ซ่างกวนหยวนเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ถึงเธอจะเก่งกาจ​ยังไง​ก็คงไม่ถึงขนาด​ไม่ทิ้งร่องรอยไว้เลยแบบนี้​”

ชีซาพยักหน้าเห็นด้วย “นายพูดถูก ถ้าเป็นฉัน ก็ไม่สามารถรับประกัน​ได้ว่าจะไม่ทิ้งร่องรอยไว้เลย”

“ดังนั้น มีเพียงความเป็นไปได้​เดียวที่สมเหตุสมผลที่สุดในตอนนี้ นั่นก็คือพวกเขาออกจากอิตาลีแล้ว”

กู้เนี่ยนขยี่ผม แล้วพูดอย่างหมดความอดทน: “ถ้าอย่างนั้น​ก็รีบตรวจสอบประวัติ​ข้อมูลเที่ยวบินของซ่างกวนหยวนเดี๋ยวนี้เลย”

“ฉันสั่งให้คนไปตรวจสอบแล้ว” เห้อซูหานพูด “แต่น่าแปลกที่ไม่มีประวัติ​ข้อมูลเที่ยวบินของซ่างกวนหยวนแม้แต่น้อย​ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงของคุณ​ชายเลย”

กู้เนี่ยนอดที่จะสาปแช่งออกมาไม่ได้ “หรือ​ว่าซ่างกวนหยวนจะบินอยู่บนท้องฟ้าแล้วล่องหนหนีไปเองกัน”

“นายคิดอะไรของนายอยู่” ชีซาถลึงตาใส่เขาอย่างไม่พอใจ “แบบนี้ถ้าไม่มี​คนช่วยลบข้อมูลเที่ยวบิน ก็คงจะใช้ชื่อของ​คนอื่น”

“พวกนายคิดว่าข้อไหนมีความเป็นไปได้มากกว่ากัน” ชีซาเลิกคิ้วมองพวกเขา

กู้เนี่ยนกับเห้อซูหานมองหน้ากันไปมา แล้ว​ตอบพร้อมกัน “ข้อแรก”

ชีซายกยิ้ม “ฉันก็คิดเหมือนกัน​”

“แล้วใครเป็นคนทำกัน” กู้เนี่ยนหรี่ตาลง “ในอิตาลีคนที่ทำเช่นนี้ได้ มีแค่คนเดียวเท่านั้น​”

ชีซาลุกขึ้นยืน “ดูเหมือนว่าคนที่เราสงสัยจะเป็นคนเดียวกัน”

“ถึงแม้พวกเราจะรู้ว่าเป็นใคร แต่ก็ไม่มีทางได้ข้อมูลที่เราอยากรู้จากเขาได้” เห้อซูหานพูด

“งั้นก็ลองหาวิธี​ดู​” กู้เนี่ยนพูด “คุณ​ชาย​เคยพูดไว้ว่า ไม่ว่าจะยากแค่ไหน ตราบใดที่มีความตั้งใจที่จะทำ ย่อมต้องมีวิธี​ทางอยู่แล้ว​”

เห้อซูหานหัวเราะ “อาเนี่ยน ทำไมนายจำคำพูดของคุณชายได้ชัดเจนอย่างนี้ล่ะ”

“เพราะว่าฉันถูกฝึกมาโดยคุณชาย​ ถ้าฉันไม่จำคำพูดของเขา จะจำคำพูด​ของ​ใคร​ได้”

กู้เนี่ยนเหลือบมองเขาอย่างอารมณ์เริ่มไม่ดี ​แล้วพูดขึ้น​มา​“ฝู้จิงเหวิน​ ผมคิดว่าเขาน่าจะ​มี​วิธี​”

“เดี๋ยว​นะ ฉันคิดว่านายจะมีวิธี​ที่ดีแล้ว​ซะอีก” เห้อซูหานอดที่จะ​กลอกตามองบนไม่ได้ “สุดท้าย​ก็​ต้อง​ไปขอ​ความช่วยเหลือ​จากคนอื่น”

“ไม่อย่างนั้น​ เธอมีวิธี​ที่ดีกว่า​นี้​หรือไง​” กู้เนี่ยนถามอย่างไม่ยอมแพ้

เห้อซูหานยกมือขึ้นเพื่อยอมจำนน “ฉันไม่มี ทำตามที่นายบอกเลย”

“ก็​แค่​นี้แหละ​” กู้เนี่ยนพูดอย่างพึงพอใจ

ชีซายกมือ​กอดอก มองดูพวกเขาอย่างเหนื่อยหน่าย​และขบขัน “เวลาแบบนี้แล้ว พวกนายยังมีอารมณ์ที่จะทะเลาะกันอีก”

“พวกเราชินแล้ว” เห้อซูหานพูดในขณะที่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อส่งข้อความไปหาฝู้จิงเหวิน

พอเห็นแบบนี้ ชีซาจึงอดที่จะถามออกมาไม่ได้ “นี่พวกนายยังคิดจะไปรบกวนฝู้จิงเหวินอีกครั้งจริงๆเหรอ”

“ไม่อย่างนั้น​จะ​ทำ​ยังไง​ล่ะ” กู้เนี่ยนไม่ตอบแต่ถามกลับ

ชีซาสะอึก​ เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ “ขอร้อง​เถอะ​ คนอื่นเขาไม่ได้เป็นหนี้พวกนาย ทำไมเขาจะต้อง​ช่วยพวกนายทุกครั้งด้วยล่ะ”

“เขาไม่ได้เป็นหนี้พวกเรา แต่เขาเป็นหนี้คุณ​นายน้อยนี่นา” กู้เนี่ยนพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ​

“คุณ​นายน้อยของพวกนายรู้เรื่องหรือเปล่า​” ชีซาส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจ “ช่างเถอะ อย่างน้อยมีคนเข้ามาช่วยเพิ่มก็ดีเหมือนกัน”

“ฝู้จิงเหวินตอบกลับมาเเล้ว​”

เห้อซูหานตะโกนบอก กู้เนี่ยนกับชีซาจึงรีบเดินมารวมตัวกัน

ข้อ​ความบนหน้าจอโทรศัพท์เขียนไว้แค่คำ​เดียวว่า ได้

ชีซาขมวดคิ้ว “เขาเต็มใจที่จะช่วยจริง ๆ เหรอ”

“อืม จะให้​พูดให้ตรง ๆก็คือ เขายอมช่วยก็เพราะคุณ​นา​ยน้อย​” เห้อซูหานเก็บโทรศัพท์ลง “ถึงแม้ว่าเขาจะยอมช่วย แต่พวกเราก็ต้องคิดหาวิธี​อื่นด้วย”

“ฉันจะหาวิธีติดต่อเจ้าหน้าที่ทางสายการบิน เพื่อดูว่าจะสามารถขอประวัติ​ข้อมูลเที่ยวบินของซ่างกวนหยวนได้หรือเปล่า​” ชีซาพูด

เห้อซูหานพยักหน้า “ลำบาก​เธอแล้ว”

“ไม่ลำบาก​อะไรหรอก” ชีซายกยิ้ม “ฉันไปก่อนนะ มีเรื่องอะไรติดต่อมาได้”

“ระวังตัว​ด้วย​”

หลังจาก​ที่ชีซาเดินจากไป เห้อซูหานก็หันไปมองทางกู้เนี่ยน “อาเนี่ยน ฉันว่านายไม่กลับประเทศเถอะ ทางฝั่ง​คุณ​นายน้อยต้องการแรงของนาย”

กู้เนี่ยนนิ่งคิดอย่างละเอียด​ ก่อนจะพูดว่า “ได้ ฉันจะกลับไปพรุ่งนี้เลย”

ก่อนที่คุณชาย​จะกลับมา พวกเขาจะต้องปกป้องคุณนาย​น้อยไว้ให้ดี

“ฉันจะต้อง​ตามหาคุณ​ชายเจอแน่นอน​” เห้อซูหานรับประกัน​กับเขา

กู้เนี่ยนยิ้ม “ฉันเชื่อ”

……

 

ตอนที่​ฝู้จิงเหวินได้รับข้อความจากเห้อซูหาน เขาอยู่ข้าง​นอกสถาบันวิจัยของเบอร์เกน

เขานั่งอยู่ในรถ มองผ่านกระจกหน้าออกไป แล้ว​มองตรงไปที่ประตูทางเข้า​ออก​สถาบันวิจัย​

เนื่องจากเขาไม่สามารถกลับเข้าร่วมทีมวิจัยของเบอร์เกนได้ ดังนั้น​เขาจึงทำได้เพียงหาวิธีอื่น

เขาตั้งใจจะลักพาตัวศาสตราจารย์คูรี่ ถ้า​เป็น​แบบ​นั้น​ การวิจัยก็จะดำเนิน​ต่อไปไม่ได้ และเขายังสามารถได้รับข้อมูลสำคัญ​หลักที่เขาต้องการจากศาสตราจารย์คูรี่ด้วย

ดังนั้น หลังจากที่ได้รับข้อความ​แล้ว เขาก็ยิ่งตั้งใจมากว่าเขาจะต้องทำแบบนี้

ข่ายสื้อลินเดินออกจากสถาบันวิจัย​ และเดินไปที่รถของเธอตามปกติ

ทันใดนั้นเอง หางตาของเธอก็เหลือบไปเห็นรถที่คุ้นตาโดยไม่ได้ตั้งใจ

เธอรีบหันกลับไปดู และเห็นรถชัดเจนแล้ว ดวงตาของเธอก็เบิกกว้าง

ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่

ข่ายสื้อลินรีบหยิบโทรศัพท์ออกมา

​พอฝู้จิงเหวินเห็นข่ายสื้อลินเดินออกมา เขาไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะคิดว่าเธอคงจะไม่สังเกตเห็นเขา

แต่คิดไม่ถึง​เลย​ เธอไม่เพียงแต่จะเห็นเขา อีกทั้งยังโทรหาเขาด้วย

ทันทีที่กดรับสาย เสียงที่รีบร้อน​ของเธอก็ดังขึ้นมาผ่านสาย “ฝู้จิงเหวิน คุณทำอะไรของคุณ คุณมาที่นี่ทำไม”

ฝู้จิงเหวินมองไปที่เธอซึ่งยืนอยู่หน้าสถาบันวิจัย ก่อนจะยก​ยิ้ม “ผมจะอยู่ที่ไหน ผมต้องรายงานให้คุณทราบด้วยหรือไง”

“ฝู้จิงเหวิน” ข่ายสื้อลินถูกน้ำเสียงเยาะเย้ยของเขาทำให้​โมโห​อย่างมาก

เธอกลัวว่าเสียงของเธอจะดึงดูดความสนใจจากผู้อื่นหากเสียงของเธอดังเกินไป เธอจึงลดเสียงลงและพูดอย่างข่มกลั้นอารมณ์​ “อย่าให้มันมากเกินไปนะ คุณรู้หรือเปล่า​ว่าที่นี่คือที่ไหน”

ถ้าคนของเบอร์เกนเจอเขาที่นี่ เขาจบไม่สวยแน่ๆ

“มีแค่คุณ​คนเดียวที่เห็นผมไม่ใช่​หรือไง” ฝู้จิงเหวินท่าทางเรียบนิ่ง ไม่สนใจความปลอดภัยของตัวเองเลย

“นี่คุณ​” ข่ายสื้อลินโกรธจนพูดไม่ออก เธอเป็นห่วงเขา แต่ตัวเขาเอง กลับไม่ไม่ห่วงตัวเองเลยแม้แต่น้อย​

“คุณมันบ้า คุณนี่มันบ้าไปแล้ว​จริงๆ”

ข่ายสื้อลินกดวางสายอย่างแรง ดวงตางดงามที่เต็มไปด้วยความโกรธของเธอจ้องไปที่ฝู้จิงเหวินที่นั่งอยู่ในรถ

ในเวลานี้เอง ชาร์ส​เดินออกมา พอเห็นว่าข่ายสื้อลินยังไม่กลับ เขาจึงเดินเข้าไปหาเธอ “ลิน”

ข่ายสื้อลินสะดุ้งตกใจ เธอรีบถอนสายตากลับมา แล้วยิ้มให้เขา “ชาร์ส”

“คุณ​กำลังมองอะไรอยู่”

ชาร์สมองตามสายตา​ของ​เธอไป เธอตกใจจนรีบดึงเขาไว้ ก่อนจะรีบพูดขึ้น​มา​ “ชาร์ส เดี๋ยว​คุณพอจะมีเวลาอีกไหม ฉันอยากจะชวนคุณไปทานอาหารเย็น”

“ชวนผมไปกินข้าวอย่างนั้น​เหรอ​” ชาร์สดูดีใจมาก ไม่มีเวลาจะมาสนใจว่าเธอกำลังมองอะไรอยู่

“ใช่ค่ะ คุณว่างไหม”

“ว่างแน่นอนครับ”

ข่ายสื้อลินยิ้ม “งั้นไปกันเถอะค่ะ”

ตอนที่​เดินขึ้นรถ ข่ายสื้อลินเหลือบมองไปยังทิศทางของฝู้จิงเหวินโดยไม่ให้​อีกฝ่ายสังเกต​เห็น

ฝู้จิงเหวินมองพวกเขาขับรถออกไป แล้วหรี่ตาลง ถ้าชาร์สออกมาแล้ว แสดงว่าศาสตราจารย์คูรี่ก็ใกล้จะออกมาแล้วใช่ไหม

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท