กลางดึก
ลี่ซานอนหลับแล้ว
เบอร์เกนมองลี่ซาที่หลับสนิทอยู่บนเตียง ในแววตามีความรังเกียจอย่างไม่ปิดบังเลยสักนิด
ตลอดทั้งวันมานี้ เธอตามติดเขาตลอด ทำให้เขาแทบจะไม่มีเวลาเป็นของตนเองที่จะจัดการเรื่องของเจียงสื้อสื้อ
ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป เขาจะไปหาเจียงสื้อสื้อได้อย่างไร
ไม่ได้
ต้องหาทางส่งเธอกลับไปอิตาลี
เขาหมุนตัวเดินออกจากห้อง
วินาทีที่เขาปิดประตูนั้นเอง ลี่ซาที่ตอนแรกนอนหลับอยู่บนเตียงก็ลืมตาขึ้นมาทันที เธอลุกขึ้นมานั่ง สายตาจับจ้องไปยังประตูที่ปิดอยู่ นัยน์ตามืดมน
พอเบอร์เกนออกมา ผู้ช่วยก็ออกไปรับหน้าทันที
“นายท่าน เจียงสื้อสื้อไม่ได้อยู่ที่เมืองจิ่น”
ได้ยินดังนั้น เบอร์เกนก็หันไปถลึงตาใส่เขา “แกว่าอะไรนะ”
“คนของพวกเราเฝ้าอยู่ด้านนอกบ้านตระกูลจิ้นตลอดทั้งวัน ไม่เห็นเจียงสื้อสื้ออกมาเลยครับ”
เบอร์เกนขมวดคิ้ว “ดังนั้นพวกแกก็เลยมั่นใจว่าหล่อนไม่อยู่ที่เมืองจิ่นเหรอ”
“ถามคนรับใช้ของตระกูลจิ้นแล้ว เจียงสื้อสื้อไม่อยู่จริงๆครับ”
“แล้วอยู่ที่ไหน”
“เมืองหลวงครับ”
เบอร์เกนครุ่นคิด ถามว่า “ตรงไหนของเมืองหลวง”
“บ้านตระกูลฟาง”
เบอร์เกนพยักหน้า “อย่างนั้นก็ดี พรุ่งนี้พวกเราก็ไปที่เมืองหลวงกัน”
“งั้น……คุณหญิงล่ะครับ” ผู้ช่วยถามอย่างระมัดระวัง
“ช่วยจองตั๋วเครื่องบินของวันพรุ่งนี้ให้เธอด้วย เธอจำเป็นต้องกลับอิตาลี” น้ำเสียงของเบอร์เกนไม่เปิดโอกาสให้โต้แย้ง
ผู้ช่วยรีบตอบรับอย่างนอบน้อมทันที “ครับ”
พวกเขาไม่รู้ว่าลี่ซาที่อยู่ในห้องก็ยืนอยู่ตรงประตู เธอเปิดประตูเบาๆพอให้มีช่องว่าง สามารถมองเห็นพวกเขาสองคนได้พอดี
และก็ได้ยินคำพูดที่พวกเขาคุยกันพอดี
อยากให้เธอกลับอิตาลีเหรอ
มุมปากลี่ซากระดกขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะ
ในเมื่อเขายังอยู่ที่ประเทศนี้ เธอก็จะไม่มีทางกลับไปอิตาลี
……
วันต่อมา
ตอนแรกคิดว่าตอนที่ได้ยินว่าจะให้เธอกลับอิตาลีนั้น ลี่ซาจะโวยวายต่อต้าน
แต่คิดไม่ถึงเลย ว่าเธอจะยอมรับปาก
“คุณยอมกลับอิตาลีเหรอ” เบอร์เกนถามอย่างไม่แน่ใจ
ลี่ซาพยักหน้า “ยอมสิ ทำไมเหรอ”
เบอร์เกนก็ยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก และยังเผยให้เห็นรอยยิ้มที่ยากจะได้เห็น “ขอบคุณที่คุณเข้าใจ”
“ความจริงฉันก็มีเงื่อนไขนะ” ลี่ซาพูด
เป็นอย่างที่คิด
รอยยิ้มจางหายไปทันที เบอร์เกนถามด้วยเสียงเคร่งขรึม “เงื่อนไขอะไร”
“เงื่อนไขก็คือ……” ลี่ซาแกล้งลากเสียงยาว ไม่พูดให้จบประโยค
“ตกลงว่าคืออะไรกันแน่”
เบอร์เกนซักไซ้อย่างไร้ความอดทน
“พอคุณเสร็จงานเมื่อไหร่ คุณต้องกลับอิตาลีทันที” ลี่ซาพูด “นี่คือเงื่อนไขของฉัน”
“ก็มีแค่ข้อนี้ข้อเดียวเหรอ”
“อืม”
เบอร์เกนแอบถอนหายใจอย่างโล่งอก จากนั้นพยักหน้า “ได้ ผมรับปากคุณ”
“งั้นฉันไปเก็บของก่อน”
ลี่ซาเข้าไปในห้อง เบอร์เกนหันหน้าไปถามผู้ช่วย “เธอตกลงยอมที่จะกลับไปอิตาลีจริงเหรอ”
ผู้ช่วยพยักหน้า “ครับ คุณหญิงยอมตกลงแล้ว”
เช่นนั้นทำไมเขาจึงยังมีความรู้สึกบางอย่างที่ไม่สบายใจอยู่เลยนะ
ลี่ซาหยิ่งยโสโอหังมาตลอด น้อยครั้งที่จะเชื่อฟังเขาแบบนี้
เบอร์เกนนิ่งเงียบอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะสั่งว่า “แกต้องเฝ้าดูจนเธอขึ้นเครื่องบินนะ”
“ครับ”
เบอร์เกนกลัวว่าลี่ซาจะแค่ทำเป็นรับปากเขา แต่ความจริงแล้วพอถึงเวลาเธอกลับไม่ได้ขึ้นเครื่องบินไปจริงๆ แต่อยู่ที่นี่ต่อเพื่อคิดจะทำร้ายเจียง
สื้อสื้อ
เขาจะไม่ยอมให้ใครผู้ใดมาทำลายแผนการของเขาเด็ดขาด
……
ผู้ช่วยส่งลี่ซาและคาร์อันที่สนามบิน เดินผ่านประตูตรวจเช็คความปลอดภัยพร้อมกับพวกเขา มองเห็นพวกเขาขึ้นเครื่องบินด้วยตาตนเองอีกด้วย
มองเห็นประตูเครื่องบินปิดลง ผู้ช่วยจึงได้ถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก
ถือว่าทำตามคำสั่งของเบอร์เกนสำเร็จลุล่วงแล้ว
เขาเหลือบมองเครื่องบิน แล้วจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาเบอร์เกน รายงานสถานการณ์พลางเดินออกไปข้างนอกพลาง
เวลาเดียวกันนี้เอง บนเครื่องบินก็เกิดเรื่องขึ้นมาอย่างกะทันหัน
หญิงตั้งครรภ์ผู้หนึ่งเกิดเจ็บท้องขึ้นมากะทันหัน ร้องไห้โวยวายจะไปโรงพยาบาล
พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินได้แต่รีบติดต่อเจ้าหน้าที่หมอและพยาบาลของทางสนามบิน
ผ่านไปประมาณสิบนาที หญิงตั้งครรภ์พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทีมแพทย์พยาบาล ก็ลงมาจากเครื่องบิน
“คุณหมอ ผมไปส่งภรรยาของผมที่โรงพยาบาลเองก็ได้ครับ รถของผมจอดอยู่ที่ลานจอดรถ” สามีของหญิงตั้งครรภ์พูดกับทีมแพทย์พยาบาล
“ไม่ได้ครับ พวกเราใช้รถพยาบาลส่งจะเร็วกว่า” คุณหมอปฏิเสธคำขอร้องของเขา
อีกฝ่ายร้อนใจขึ้นมาทันที “ไม่จำเป็นครับ ผมมีรถของตัวเอง ผมไปส่งเองได้”
ภายใต้การยืนกรานอีกสามครั้ง เจ้าหน้าที่ทีมแพทย์พยาบาลของสนามบินจึงได้ยอม ส่งพวกเขาที่ลานจอดรถแล้วก็จากไป
“คุณหญิง ไม่เป็นอะไรนะครับ”
คาร์อันเห็นเจ้าหน้าที่เดินไปไกลแล้ว ก็รีบถามลี่ซาที่นั่งอยู่ในรถ
ลี่ซาส่ายหน้า “ฉันไม่เป็นไร”
เพื่อให้ได้ลงจากเครื่องบิน เธอไม่ลังเลที่จะปลอมตัวเป็นหญิงตั้งครรภ์ โชคดีมาก ที่เธอหลอกทุกคนได้ สามารถลงจากเครื่องได้สำเร็จ
เธอยื่นมือเข้าไปในเสื้อ แกะท้องปลอมที่ติดอยู่ หยิบออกมาโยนไว้ข้างๆ
“ไปเมืองหลวงเหรอครับ” คาร์อันถาม
“อืม” ลี่ซาหรี่ตามอง มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะ “พวกเราจำเป็นต้องกำจัดเจียงสื้อสื้อทิ้งก่อนที่เบอร์เกนจะมา”
ผู้หญิงคนนั้น ไม่สามารถเก็บเอาไว้ได้ ไม่เช่นนั้นจะเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกับเธอ
“ครับ”
คาร์อันตอบรับอย่างนอบน้อม จากนั้นก็สตาร์ทรถขับออกจากลานจอดรถ ขับมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวง
……
พรุ่งนี้เป็นงานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิดของเย่เสี่ยวอี้
ซ่างหยิงกลัวว่าฟางยู่เชินจะลืม ตอนทานอาหารเย็นจึงเอ่ยเตือนสามสี่ครั้ง
“พรุ่งนี้ลูกอย่าลืมว่าเลิกงานเร็วหน่อยนะ กลับมาบ้านก่อน พาเจียงสื้อสื้อแล้วก็เสี่ยวเป่าเถียนเถียนไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดด้วย”
ฟางยู่เชินวางชามกับตะเกียบลง เงยหน้า มองผู้เป็นแม่อย่างจนปัญญา “แม่ครับ ความจำผมไม่ได้แย่ขนาดนั้น แม่ต้องเตือนตลอดเวลาก็ได้”
“แม่กลัวว่าลูกจะจำไม่ได้นี่” ซ่างหยิงถลึงตาใส่เขาอย่างไม่พอใจ “แม่กลัวว่าลูกจะจงใจลืม”
เจียงสื้อสื้ออดขำไม่ได้ คุณน้าสะใภ้ช่างรู้จักพี่ชายดีเหลือเกิน
ด้วยนิสัยของพี่ชาย เป็นไปได้มากว่าถึงเวลาอาจจะไม่ไปจริงๆ จากนั้นก็พูดลอยๆขึ้นมาประโยคหนึ่ง“ลืมไปเลย”
“สื้อสื้อ ตลกหรือไง” ฟางยู่เชินหันไปมองเธอ
เจียงสื้อสื้อตกใจ รีบหุบยิ้ม ส่ายหน้า “ไม่ตลกค่ะ ไม่ตลกเลยสักนิดเดียว”
ฟางยู่เชินกลั้นหัวเราะไม่อยู่ “เอาละ พวกคุณวางใจเถอะ ผมบอกว่าจะไป ก็ต้องไปแน่”
แม้ว่าเขาจะไม่ชอบเย่เสี่ยวอี้ แต่ตระกูลฟางและตระกูลเย่ไม่ได้มีความขัดแย้งอะไรกัน สิ่งที่ควรทำตามมารยาท เขาก็ยังต้องทำ
“ฉันก็ไม่ไปแล้ว” เจียงสื้อสื้อพูด
ซ่างหยิงขมวดคิ้ว “ทำไม”
“ไม่ชอบบรรยากาศแบบนั้นค่ะ” เจียงสื้อสื้อตอบด้วยความจริงใจมาก
ที่สำคัญที่สุดคือเธอและเย่เสี่ยวอี้ไม่ได้รู้จักอะไรกัน ไปแล้วจะรู้สึกแปลกมาก
“ไม่ได้ เธอต้องไปเป็นเพื่อนพี่” ฟางยู่เชินรีบพูดทันที เขาไม่อยากไปร่วมงานวันเกิดคนเดียว ใครจะรู้ว่าถึงเวลาเย่เสี่ยวอี้จะออกอุบายอะไรมาอีก
มีคนเพิ่มมา ถึงเวลาเขาจะได้หาเหตุผลออกไปได้
เจียงสื้อสื้อมองเขาอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร “พี่คะ พี่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แค่ไปร่วมงานวันเกิดต้องให้คนไปเป็นเพื่อนด้วยเหรอ”
“ใช่ พี่ต้องการคนไปเป็นเพื่อน” ฟางยู่เชินทำท่าทางหนักแน่นมั่นใจมาก
“แต่ฉันไม่อยากไปเป็นเพื่อนพี่” เจียงสื้อสื้อคีบอาหารในชาม พูดเบาๆประโยคหนึ่งว่า “ตอนนี้ฉันไม่มีอารมณ์จะไปร่วมงานวันเกิดหรอกค่ะ”
ซ่างหยิงและฟางยู่เชินต่างก็ได้ยินแล้ว
บรรยากาศเงียบลงในชั่วพริบตา
พักใหญ่ ฟางยู่เชินจึงเอ่ยขึ้นว่า “ได้ พี่ไปเองก็ได้”
เรื่องที่เธอไม่เต็มใจทำ ใครก็ไม่สามารถบังคับเธอได้