คุณหมอก็มาตรวจร่างกายของคุณท่านฟาง เขาขมวดคิ้วอยู่สักพัก จากนั้นก็คลายออก หัวใจของเจียงสื้อสื้อตุ้มๆต๋อมๆ
“คุณหมอคะ เป็นยังไงบ้างคะ”
หลังจากตรวจเสร็จ เจียงสื้อสื้อก็รีบถามทันที
“คุณท่านอาการดีทุกอย่างนะครับ”
พอได้ยินคำตอบของหมอ เจียงสื้อสื้อก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “งั้นก็ดีแล้วค่ะ”
พอเห็นท่าทางเธอดูตื่นตระหนกมาก หมอก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ที่จริงแล้วตอนนี้พวกคุณไม่ต้องกังวลนะครับ ร่างกายของคุณท่านฟื้นตัวได้ดีมาก แต่เขาแค่ยังไม่ฟื้นเท่านั้นเอง”
“แล้วเมื่อไหร่จะตื่นล่ะคะ” เจียงสื้อสื้อเอ่ยถาม
“ผมเคยบอกไปแล้ว คุยกับเขาให้มาก กระตุ้นเส้นประสาทสมองของเขา แล้วเขาควรจะตื่นเร็วๆ นี้”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า “ฉันรู้ค่ะ แต่ตอนนี้คุณตาของฉันขยับนิ้ว หลั่งน้ำตา แต่ไม่มีวี่แววว่าจะฟื้นขึ้นมาเลย”
“เรื่องแบบนี้จะใจร้อนไม่ได้ครับ สมาชิกในครอบครัวจะต้องอดทน”
เจียงสื้อสื้อยิ้มแหย “พวกเราใจร้อนเกินไปจริงๆค่ะ คิดแต่อยากจะให้คุณฟื้นเร็วๆ”
คุณหมอหัวเราะ “ผมเข้าใจความรู้สึกของพวกคุณครับ แต่ยังคงต้องขอให้อดทนรออีกสักนิด”
“ได้ค่ะ”
หลังจากที่คุณหมอเดินออกไป เจียงสื้อสื้อก็ช่วยคุณท่านฟางห่มผ้าห่ม แล้วเอนตัวไปกระซิบที่ข้างหูของเขา“คุณตาคะ คุณตาต้องรีบตื่นเร็ว ๆ นะคะ เสี่ยวเป่ากับเถียนเถียนต่างก็คิดถึงคุณตามาก”
พอพูดจบ เธอก็มองคุณท่านฟางอยู่สักพัก ก่อนจะหันหลังเดินออกไป
ตอนที่เธอกำลังจะปิดประตู คุณท่านฟางที่นอนอยู่บนเตียงก็ลืมตาขึ้นมากะทันหัน แต่ก็ปิดลงอีกครั้งในวินาทีต่อมา มันเร็วจนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
……
ข่ายสื้อลินไปหาเบอร์เกน แต่กลับได้ยินว่าเขาไปเมืองจิ่นแล้ว
เมื่องจิ่นอย่างนั้นเหรอ
นั่นไม่ใช่เมืองที่เจียงสื้อสื้ออยู่หรอกเหรอ
หรือว่าคุณเบอร์เกน…
เธอไม่กล้าคิดต่อ เธอรีบขับรถไปหาฝู้จิงเหวินทันที
ฝู้จิงเหวินเปิดประตูออกมา ก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นเธอ “มีข่าวแล้วเหรอ”
“ไม่ ใช่…” ข่ายสื้อลินกำลังจะบอกกับเขา ว่าเบอร์เกนอาจจะไปหาเจียงสื้อสื้อแล้ว
แต่พอคำพูดนั้นมาถึงตรงริมฝีปากของเธอ เธอก็เกิดอาการลังเลใจ
ถ้าเธอบอกเขาเรื่องนี้ เขาคงทำใจปล่อยเจียงสื้อสื้อไปไม่ได้ และต้องคิดหาวิธีช่วยผู้หญิงคนนั้นอีกครั้งแน่ๆ
ไม่ได้
เธอจะปล่อยให้เขาไปยุ่งกับผู้หญิงคนนั้นอีกไม่ได้แล้ว
“ใช่นี่คืออะไร”
พูดแค่ครึ่งเดียวแล้วไม่พูดต่อ ทำให้ฝู้จิงเหวินอดที่จะถามต่อไม่ได้
ข่ายสื้อลินเลิกคิ้ว แล้วพูดว่า “ไม่มีอะไร ฉันแค่อยากจะบอกว่าคุณเบอร์เกนเดินทางไปทำธุรกิจ ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในอิตาลี”
“เดินทางไปทำธุระเหรอ” ฝู้จิงเหวินขมวดคิ้วแน่น “ทำไมถึงบังเอิญเดินทางไปทำธุรกิจช่วงนี้ด้วย”
“ฉันไม่ใช่เลขาหรือผู้ช่วยของเขา ตารางงานของเขาฉันไม่รู้เลยสักนิด”
เบอร์เกนไม่ได้อยู่ในอิตาลี แล้วข้อมูลเที่ยวบินที่เขาต้องการจะทำยังไงดี
เขาคิดอยู่สักพัก ก่อนจะถามออกมา “มีวิธีอื่นอีกไหมที่จะหาข้อมูลเที่ยวบินของซ่างกวนหยวน”
“เรื่องนี้…” ข่ายสื้อลินนิ่งคิดสักพัก ก่อนจะพูดตอบ “ฉันจะหาวิธีเอง”
ฝู้จิงเหวินพยักหน้า “ตกลง งั้นรบกวนคุณด้วย”
ข่ายสื้อลินยิ้มบาง “ฉันไม่ได้รบกวนอะไร แต่หวังว่าคุณจะจำสิ่งที่คุณสัญญากับฉันไว้ได้”
“ไม่ต้องห่วง ผมจำได้อยู่แล้ว”
หลังจากได้รับคำตอบที่มั่นใจ ข่ายสื้อลินก็จากไปอย่างพึงพอใจ
ทางฝั่งเขายังไม่สามารถได้ข้อมูลประวัติเที่ยวบินของซ่างกวนหยวนชั่วคราว ฝู้จิงเหวินจึงโทรหาเห้อซูหาน แล้วบอกเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ขอโทษด้วย ที่ช่วยอะไรพวกคุณไม่ได้”
พอได้ยินคำขอโทษของเขา เห้อซูหานก็รีบพูดออกมา “คุณฝู้คะ คุณไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอก เป็นพวกเราที่รบกวนคุณมากกว่า”
จะพูดให้ชัดก็คือ ตั้งแต่แรก เธอก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก
ดังนั้นตอนที่ฝู้จิงเหวินพูดว่าเขาไม่สามารถช่วยได้ชั่วคราว เธอจึงไม่ผิดหวังมากเท่าไหร่
“ถ้าหากได้ข่าวอะไร จะรีบบอกคุณทันทีเลยนะครับ” ฝู้จิงเหวินพูด
“ได้ค่ะ รบกวนด้วยนะคะ”
“งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ ลาก่อน”
ในขณะที่ฝู้จิงเหวินกำลังจะวางสาย ตอนนี้เอง อีกฝั่งก็มีเสียงของเห้อซูหานก็มีดังขึ้นมา “คุณฝู้คะ รอเดี๋ยวก่อนค่ะ”
“มีอะไรเหรอครับ” เขาถาม
“คุณรู้ไหมคะ ว่าเบอร์เกนไปเมืองจิ่นแล้ว”
“อะไรนะครับ” สีหน้าของฝู้จิงเหวินเปลี่ยนไปทันที “ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”
“น่าจะเป็นช่วงสองวันนี้ค่ะ”
สองวันนี้อย่างนั้น
ฝู้จิงเหวินนึกถึงเมื่อตะกี้ตอนที่ข่ายสื้อลินบอกตนเองว่าเบอร์เกนเดินทางไปทำธุระ แล้วนึกถึงท่าทีอ้ำๆอึ้งๆของเธอที่พูดได้ครึ่งเดียว แล้วไม่พูดต่อ
เขาเบิกตาโต เธอรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว
“เขาจะไปหาสื้อสื้อ ใช่ไหมครับ” ฝู้จิงเหวินถาม
“ค่ะ ไปหาคุณนายน้อย พวกเขายังไม่ยอมแพ้เรื่องนี้”
ฝู้จิงเหวินยกยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นกลับไม่ปรากฏในดวงตาที่เย็นชาเย็นชาของเขาเลย “พวกเขาจะยอมแพ้ได้ยังไง ความโลภของคนเรามันไม่มีที่สิ้นสุดหรอกครับ”
“คุณเห้อครับ ขอบคุณที่บอกผมเรื่องนี้”
พอได้ยินแบบนี้ เห้อซูหานก็ขมวดคิ้ว “คุณคงไม่คิดจะกลับไปอีกคนใช่ไหมคะ”
ฝู้จิงเหวินหันไปมองท้องฟ้าที่มืดมิด ก่อนจะยกยิ้ม “ตอนนี้จิ้นเฟิงเฉินไม่อยู่ ผมคิดว่าผมมีหน้าที่ต้องปกป้องสื้อสื้อให้ดีที่สุดครับ”
เขาไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายสื้อสื้อโดยเด็ดขาด
……
เบอร์เกนเพิ่งเดินทางมาถึงเมืองจิ่น ยังไม่ทันจะเดินออกจากสนามบิน จู่ๆลิซ่าก็ปรากฏตัวต่อหน้าเขา
“ที่รัก เซอร์ไพร์สไหมคะ” ลี่ซายิ้มกว้างมองมาทางเขา
สีหน้าของเบอร์เกนบึ้งตึง แล้วถามอย่างฉุนเฉียวว่า “คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
“มากับคุณไงคะ” ลี่ซาเมินหน้าบึ้งตึงของเขา แล้วเดินไปคล้องแขนเขาไว้ “ตอนที่เราแต่งงานกันยังไม่ได้ไปฮันนีมูนกันเลย ฉันอยากจะใช้โอกาสนี้ มาเที่ยวที่นี่กับคุณ”
“ไร้สาระ” เบอร์เกนสะบัดมือออก “คุณคิดว่าผมมาเที่ยวหรือไง”
“แล้วไม่ใช่เหรอคะ”ลี่ซาดูงุนงงมาก ดูเหมือนเธอจะไม่รู้จุดประสงค์ของการมาที่เขามาเมืองจิ่นจริงๆ
เบอร์เกนคิดว่าตัวเองคงจะถูกเธอทำให้โมโหตายสักวันหนึ่ง เขาหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับความโกรธในใจไว้ แล้วพูดเกลี้ยกล่อมอย่างอดทน “คุณกลับอิตาลีไปก่อน แล้วฉันจะรีบตามกลับไปให้เร็วที่สุด”
นี่เขาคิดจะไล่เธอกลับไป เพื่อที่เขาจะได้อยู่กับผู้หญิงคนนั้นตามลำพังอย่างนั้นสินะ
ไม่มีทาง
ลี่ซาแอบพูดเย้ยหยันในใจ แต่เธอไม่แสดงสีหน้าใดๆ บนใบหน้า เธอเบ้ปากอย่างน้อยใจ “ไม่เอาค่ะ ฉันก็แค่อยากอยู่เป็นเพื่อนคุณ”
“ลี่ซา ผมมาทำงาน คุณอยู่กับผมแบบนี้ ผมจะทำงานได้ยังไง”
พอลี่ซาได้ยินแบบนี้ เธอก็ยกขึ้นมาสาบาน “ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่รบกวนคุณทำงานแน่นอนค่ะ”
เบอร์เกนทำหน้าเคร่งเครียด แล้วมองหน้าเธออย่างไม่พอใจ
“เบอร์เกนคะ” ลี่ซากอดแขนของเขาแล้วพูดออดอ้อน “คุณให้ฉันอยู่กับคุณเถอะนะคะ ฉันจะไม่รบกวนคุณจริงๆนะคะ ได้โปรด”
เธอเป็นประเภทขัดขืนคำสั่งมาโดยตลอด แต่จู่ๆ นิสัยของเธอก็อ่อนลง
เบอร์เกนรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไป ในใจเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย
“ไม่ได้” เขาปฏิเสธเธออย่างเด็ดขาด “คุณรีบจองตั๋วเครื่องบินกลับไปอิตาลีไปเดี๋ยวนี้เลย”
พอเห็นว่าเขายังไม่ยอมตอบตกลง ลี่ซาก็เริ่มโมโห เธอก็ปล่อยมือเขาลง “ได้ ในเมื่อคุณไม่ยอมให้ฉันตามคุณไปด้วย งั้นฉันจะไปเอง ถือซะว่าฉันมาเที่ยวก็แล้วกัน”
“คาร์อัน ไปกันเถอะ”
เธอจ้องหน้าเบอร์เกนด้วยความโมโห แล้วเดินออกจากสนามบินไปกับคาร์อัน
“ท่านครับ ตอนนี้จะทำยังไงครับ” ผู้ช่วยถาม
เบอร์เกนจ้องไปที่แผ่นหลังของลี่ซา ดวงตาของเขาหรี่ลง “ในเมื่อเธอไม่อยากกลับ ก็ปล่อยให้เธอตามเรามาเถอะ”
มีแค่ให้เธออยู่ข้างๆ เขาถึงจะรู้ทุกการเคลื่อนไหวของเธอ เธอจะได้ไม่มีเวลาไปทำร้ายเจียงสื้อสื้ออีก