วันต่อมา
ก่อนออกจากบ้าน เจียงสื้อสื้อกำชับเด็กสองคนอย่างไม่ไว้วางใจ “ไม่อนุญาตให้พวกเด็กๆวิ่งไปมา แล้วก็อย่างส่งเสียงดังเอะอะ รู้มั้ย”
“หม่ามี๊ พวกเรารู้แล้วค่ะ พวกเราจะเป็นเด็กดีเชื่อฟังคุณยายค่ะ” เถียนเถียนพูดรับรองกับเธอด้วยเสียงเล็กๆแบบเด็กๆ
“เป็นเด็กดีจริงๆ” เจียงสื้อสื้อลูบศีรษะของเธอ หันไปมองทางเสี่ยวเป่า “เสี่ยวเป่าล่ะ”
“ผมจะดูน้องสาวเอาไว้ ไม่ให้เธอวิ่งซน” เสี่ยวเป่าพูด
เวลานี้เจียงสื้อสื้อจึงเผยให้เห็นรอยยิ้มพอใจออกมา “เสี่ยวเป่าเก่งที่สุด”
“พวกเขาต่างก็เชื่อฟัง เธอวางใจเถอะ” ซ่างหยิงมองเธออย่างเหลืออด
เจียงสื้อสื้อยิ้มอย่างซาบซึ้ง “คุณน้าสะใภ้ รบกวนด้วยนะคะ”
ซ่างหยิงแสร้งเหลือบมองเธออย่างไม่พอใจ “คนบ้านเดียวกันไม่ต้องพูดแบบนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะโกรธแล้วนะ”
“ค่ะ ระหว่างทางระมัดระวังด้วยนะคะ เที่ยวให้สนุกนะคะ”
เจียงสื้อสื้อยิ้มส่งพวกเขาออกจากบ้าน มองดูรถที่พวกเขานั่งขับไกลออกไป จึงหมุนตัวกลับเข้าบ้าน
ถนนฝั่งตรงข้ามกับคฤหาสน์มีรถสีดำคันหนึ่งจอดอยู่ หน้าต่างรถด้านหนึ่งลดลง ลี่ซามองร่างที่หมุนตัวเข้าไปในบ้าน หรี่ตามอง
“เจียงสื้อสื้อ ในที่สุดฉันก็ได้พบเธออีกครั้ง”
คาร์อันที่นั่งอยู่บนเบาะคนขับหันหน้ากลับมา “คุณหญิง รอบๆคฤหาสน์หลังนี้มีกล้องวงจรปิดไม่น้อย อีกทั้งยังมีคนคอยเฝ้าอยู่ พวกเราอาจจะลงมือได้ไม่ง่ายนักนะครับ”
“ใครบอกว่าจะลงมือที่นี่ล่ะ” ลี่ซาเบนสายตากลับมา มองเขาอย่างเยือกเย็น
คาร์อันอึ้งตะลึง “หรือว่าไม่ใช่”
ลี่ซาหัวเราะเยาะ “แน่นอนว่าไม่ใช่ รอหล่อนออกจากบ้านแล้ว พวกเราค่อยลงมือ”
คาร์อันตอบรับอย่างนอบน้อม “ครับ”
……
เหลียงซินเวยพาอานอานมาที่สวนสนุก ยืนรอพวกของซ่างหยิงอยู่ที่ประตู
“แม่ครับ ทำไมคุณน้าสื้อสื้อมาไม่ได้ล่ะครับ” อานอานเงยหน้ามองเหลียงซินเวย ถามอย่างสงสัย
เหลียงซินเวยหันมามองเขา ยิ้มให้ “เพราะคุณน้าสื้อสื้อมีธุระ ดังนั้นเลยมาไม่ได้”
อานอานส่งเสียง “อ้อ” บ่นอุบอิบว่า “แต่ผมไม่ชอบคุณย่าฟางคนนั้นเลยครับ”
แม้ว่าเขาจะพูดเสียงเบามาก แต่เหลียงซินเวยก็ยังได้ยิน
เธอรู้สึกแปลกใจอย่างยิ่ง “ทำไมลูกไม่ชอบคุณย่าฟางล่ะ”
“เพราะว่า……” อานอานกัดริมฝีปาก ท่าทางอยากจะพูดแต่ไม่กล้าพูด
เหลียงซินเวยย่อตัวลง อยู่เสมอกับเขา พูดอย่างอ่อนโยนว่า “อานอาน บอกแม่มาเถอะไม่เป็นไร แม่จะไม่ดุลูก”
“เพราะว่า……ผมรู้สึกว่าเธอไม่ชอบแม่ครับ” อานอานก้มหน้า สองมือกุมกันไว้อย่างไม่สบายใจ
“เธอไม่ชอบแม่เหรอ” เหลียงซินเวยยิ่งแปลกใจ เธอลูบศีรษะน้อยๆของเขา “ลูกดูออกได้ยังไง แม่ยังไม่รู้สึกเลย”
“ก็รู้สึกได้ครับ” อานอานก็พูดไม่ออกว่าเหตุผลคืออะไร คือสัญชาตญาณของเด็กที่บอกเขาว่าคุณย่าฟางคนนั้นไม่ชอบแม่ของเขา
“ลูกคิดมากไปแล้ว คุณย่าฟางเขาไม่ได้ไม่ชอบแม่ เขาดีกับแม่มาก วันนั้นลูกก็เห็นแล้ว ไม่ใช่หรือ”
อานอานพยักหน้า “อืม”
เหลียงซินเวยยิ้ม “นี่ก็ถูกต้องแล้ว เด็กไม่ต้องคิดฟุ้งซ่านมาก รู้มั้ย”
“รู้แล้วครับ”
ผ่านไปประมาณสิบกว่านาที นี่สุดซ่างหยิงและเด็กสองคนก็มาถึง
“พี่อานอาน” เถียนเถียนพอเห็นอานอาน ก็ปล่อยมือจากซ่างหยิงทันที วิ่งมาทางอานอาน
“เถียนเถียน ช้าๆหน่อย ” ซ่างหยิงได้แต่ร้องตะโกนพลางวิ่งตามไป
พออานอานเห็นเถียนเถียนกับเสี่ยวเป่า บนใบหน้าก็มีรอยยิ้มเจิดจรัสขึ้นทันที
“สวัสดีค่ะคุณน้า” เหลียงซินเวยก้มศีรษะทักทายกับซ่างหยิงอย่างมีมารยาท
“เวยเวย” ซ่างหยิงยิ้มตาหยีมองมาที่เธอ
เหลียงซินเวยรีบผลักอานอาน “รีบเรียกคุณย่าฟางสิ”
อานอานเรียกอย่างเชื่อฟัง “สวัสดีครับคุณย่าฟาง”
“สวัสดีจ้ะอานอาน”
ซ่างหยิงมองไปรอบๆ หัวเราะหึๆๆ “ ต้องอาศัยพวกเธอ ฉันถึงได้มาสวนสนุก ฉันไม่ได้มาสถานที่แบบนี้หลายสิบปีแล้ว”
“ต่อไปคุณน้าจะได้มาบ่อยๆค่ะ” เหลียงซินเวยพูด
“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ” ซ่างหยิงมองเธออย่างไม่ค่อยเข้าใจ
“รอจนคุณฟางแต่งงานมีลูกแล้ว คุณน้าก็จะได้พาหลานมาเที่ยวที่นี่ไงคะ”
พูดถึงต่อไปฟางยู่เชินจะแต่งงานมีลูก ก้นบึ้งหัวใจของเหลียงซินเวยก็เจ็บปวดเล็กน้อย อึดอัดมาก
ซ่างหยิงเผยให้เห็นความเข้าใจในทันที “เธอพูดถูก ต่อไปฉันจะพาหลานชายหลานสาวมาเที่ยวบ่อยๆ”
เหลียงซินเวยยิ้ม ไม่ได้พูดอะไรอีก
พอเข้ามาในสวนสนุก เด็กทั้งสามคนก็เหมือนได้ปลดปล่อย เห็นอะไรก็อยากเล่นอันนั้น
ซ่างหยิงและเหลียงซินเวยเกือบจะรั้งเอาไว้ไม่อยู่แล้ว
เล่นมาตลอดครึ่งเช้า ถึงเวลาอาหารกลางวัน เด็กทั้งสามจึงได้สงบลงมาบ้าง ตามผู้ใหญ่ทั้งสองคนมาที่ร้านอาหาร เตรียมทานอาหารกลางวัน
ช่วงเวลาที่รออาหารมานั้น จู่ๆซ่างหยิงก็เอ่ยขึ้นว่า “เวยเวย เธอว่ายู่เชินเป็นยังไง”
เหลียงซินเวยถูกถามแบบนี้ ก็ตั้งตัวไม่ทัน
เพราะเธอไม่รู้ว่าซ่างหยิงถามคำถามนี้อย่างจริงใจ หรือว่าอยากลองใจเธอกันแน่
เห็นเธอชะงักไม่พูดอะไร ซ่างหยิงก็อดยิ้มไม่ได้“ฉันก็แค่ถามแบบนี้ เธอไม่ต้องตื่นตกใจ”
เหลียงซินเวยยกน้ำขึ้นมาดื่ม แล้วจึงเอ่ยปากอย่างระมัดระวัง “ฉันคิดว่าคุณฟางเป็นคนเก่งมาก ดีมากค่ะ”
“นั่นแน่นอน” ซ่างหยิงพยักหน้าเห็นด้วย “ดังนั้น เธอไม่ชอบเขาเหรอ”
เหลียงซินเวยตกใจ คิดว่าความคิดในใจของตนเองถูกเธอมองออกแล้ว รีบส่ายหน้าไม่หยุด “ ไม่ ไม่ ฉันไม่ชอบเขาค่ะ”
ซ่างหยิงมองเธอย่างสงสัยมาก “ทำไมเธอถึงต้องมีปฏิกิริยามากขนาดนั้นล่ะ”
“เหรอคะ” เหลียงซินเวยหัวเราะแห้งๆ “หนูก็แค่จะบอกว่าหนูไม่ชอบคุณฟางค่ะ”
“เธอไม่ได้บอกว่ายู่เชินเก่งมากดีมากเหรอ ทำไมไม่ชอบเขาล่ะ” ซ่างหยิงซักต่อ
“คือว่า……” เหลียงซินเวยเองไม่รู้จะตอบอย่างไรดีตอนนั้น
ซ่างหยิงยิ้ม “เอาละ ฉันก็แค่แหย่เธอเล่น ไม่ชอบก็ไม่ชอบ ไม่มีอะไร”
เหลียงซินเวยฉีกยิ้มมุมปากอย่างฝืนๆ ในใจรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“ยู่เชินใกล้จะหมั้นหมายแล้ว ถึงเวลาเธอต้องมาร่วมงานหมั้นด้วยนะ”
งานหมั้นเหรอ
เขาจะหมั้นแล้วเหรอ
มองดูซ่างหยิงที่สีหน้าเต็มไปด้วยความยินดี เหลียงซินเวยได้แต่พยายามสะกดกลั้นความเจ็บปวดในใจ รักษารอยยิ้มบนใบหน้า “เหรอคะ ยินดีด้วยนะคะ คุณน้า”
“ขอบใจจ้ะ” ซ่างหยิงยิ้มจนคิ้วงอเลย “ว่าที่ภรรยาของยู่เชินเป็นผู้หญิงที่เก่งและจิตใจดีมาก ต่อไปมีโอกาสจะแนะนำให้พวกเธอรู้จักกัน”
“ค่ะ”
เหลียงซินเวยยกแก้วน้ำขึ้น หลุบสายตาลง กลบเกลื่อนความเสียใจในดวงตา
ซ่างหยิงมองเธอ รอยยิ้มบนใบหน้าเจื่อนลงเล็กน้อย มีความครุ่นคิดบางอย่างเพิ่มเข้ามา
“คุณยาย คุณน้าเล็กจะแต่งงานแล้วเหรอคะ” เถียนเถียนเงยหน้ามองเธอ ถามด้วยเสียงเล็กเสียงน้อยแบบเด็กๆ
ซ่างหยิงก้มหน้ามองเธอ ยกมือขึ้นมาลูบศีรษะของเธอ ยิ้มพลางตอบว่า “ใช่จ้ะ หนูกับพี่ชายก็จะมีน้าสะใภ้แล้ว”
“อ้อ” เถียนเถียนหันไปมองเหลียงซินเวย กลอกตาไปมา “แต่ว่าหม่ามี๊บอกว่าคุณน้าเล็กมีคนที่ชอบอยู่แล้วนะคะ”
ได้ยินดังนั้น ซ่างหยิงแปลกใจมาก “แม่ของหนูพูดแบบนี้จริงเหรอ”
เถียนเถียนพยักหน้าอย่างแรง “อืม หม่ามี๊เคยพูดแบบนี้ค่ะ”
ซ่างหยิงขมวดคิ้ว “นี่ก็น่าแปลกแล้ว สื้อสื้อทำไมไม่เคยบอกฉันเลย”
หางตาของเธอเหล่มองเหลียงซินเวยที่อยู่ตรงข้าม คิ้วขมวดกันแน่นทันที