เจียงสื้อสื้อกำมือถือแน่น ภายในห้องเงียบจนได้ยินแค่เสียงลมหายใจของเธอเท่านั้น
“ว่าไงครับ?” เสียงของเบอร์เกนดังออกมาจากมือถืออย่างบางเบา
เจียงสื้อสื้อหลับตาลง ใช้ฟันกัดริมฝีปากล่าง ผ่านไปเนิ่นนานถึงได้เปล่งเสียงออกมาพยางค์เดียวว่า “ได้”
เบอร์เกนขำออกมาเบาๆ “อย่างนั้นก็ดี ผมรอคุณอยู่นะครับ”
พูดจบ สายก็ถูกวางไป
เจียงสื้อสื้อเอามือถือลง นั่งอยู่บนเตียงไปพักใหญ่ถึงได้ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องไป
ฟางยู่เชินที่เพิ่งเสร็จงานแล้วเดินออกจากห้องหนังสือ ก็พบกับเจียงสื้อสื้อที่ออกจากห้องมาพอดี
“สื้อสื้อ ไหนเธอบอกว่าจะ……นอนแล้วไม่ใช่เหรอ?” พอเธอเดินเข้ามาใกล้ ฟางยู่เชินก็สังเกตเห็นว่าสีหน้าของเธอดูไม่ดีเท่าไหร่ รอยยิ้มบนใบหน้าหายไปทันที แล้วถามไปด้วยความเป็นห่วงว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
“เบอร์เกนติดต่อฉันมาด้วยตนเองค่ะ” เจียงสื้อสื้อหยุดอยู่ตรงหน้าเขา แล้วเล่าทุกอย่างที่เพิ่งเกิดขึ้นให้เขาฟัง
พอฟางยู่เชินฟังจบ คิ้วอันคมกริบของเขาก็ขมวดเป็นปม “แล้วเธอก็รับปากเขาไปแล้ว?”
“ฉันไม่มีทางเลือกอื่น” เจียงสื้อสื้อบอก “ฉันกลัวว่าฉันจะไม่ได้เจอเฟิงเฉินอีก”
พอนึกถึงความเป็นไปได้นี้ เธอก็รู้สึกแย่จนแทบจะหายใจไม่ออกเลย
ถ้าเบอร์เกนไม่บอกว่าเฟิงเฉินจะไม่มีวันกลับมาอีก เธอก็ไม่มีทางรับปากที่จะออกไปเจอเขาเด็ดขาด
ถึงแม้จะรู้ว่าการที่ตัวเองออกไปครั้งนี้ จะอันตรายมาก เธอก็ยังอยากที่จะเสี่ยงกับมัน
แต่ว่า……
“ขอโทษนะคะ พี่ชาย ที่ทำให้พี่ต้องเป็นห่วงอีกแล้ว”
สิ่งที่เธอรู้สึกผิดที่สุดก็คือการที่คนในครอบครัวและเพื่อนฝูงต้องคอยไม่สบายใจกับเรื่องของเธอตลอดเวลา
ฟางยู่เชินยื่นมือมาวางไว้ที่ไหล่เธอ มุมปากแย้มขึ้น แล้วพูดให้กำลังใจเบาๆ ว่า “ไม่ต้องรู้สึกผิดไปหรอก การที่เราเป็นห่วงเธอมันก็เป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้ว แต่การที่เธอยอมตอบตกลงเบอร์เกนไปง่ายๆ แบบนี้ ฉันกลัวว่าเขาแค่กำลังหลอกเธออยู่เท่านั้น”
“ฉันถึงได้มาหาพี่ไงคะ” เจียงสื้อสื้อจ้องเขม็งมาที่เขา “ฉันไม่อยากให้เบอร์เกนได้อย่างสมใจอยาก”
ตอนนี้สายตาเธอเป็นประกายมาก สีหน้าก็ดูมั่นคงกว่าที่เคย
ฟางยู่เชินอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “เธอกลายเป็นคนที่เจ้าเล่ห์แบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?”
“นี่ไม่ใช่ความเจ้าเล่ห์ มันคือความฉลาดต่างหาก” เจียงสื้อสื้อพูดแย้งไป
“ก็ได้ คือความฉลาด” ฟางยู่เชินพูดออกมาเบาๆ จากนั้นก็พูดไปว่า “เอาแบบนี้แล้วกัน เรียกคุณฝู้กับกู้เนี่ยนมา เรามาคิดหาวิธีด้วยกัน เพื่อล้วงเอาข้อมูลของน้องเขยจากปากเบอร์เกนให้ได้ และทำให้เธอสามารถหนีออกมาได้อย่างปลอดภัยด้วย”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า “ได้ค่ะ”
……
พอฝู้จิบเหวินได้ยินว่าเจียงสื้อสื้อจะไปเจอเบอร์เกน เขาก็คัดค้านขึ้นมาทันที “ไม่ได้ คุณห้ามไปหาเขาเด็ดขาด!”
เสียงค่อนข้างดัง ทำเอาคนที่อยู่ตรงนั้นตกใจจนสะดุ้ง
ฟางยู่เชินรีบพูดเกลี้ยกล่อมเขา “คุณฝู้ครับ คุณช่วยใจเย็นลงก่อน ที่ผมเรียกคุณมาก็เพื่อหารือเรื่องนี้ไม่ใช่รึไง?”
ฝู้จิงเหวินหายใจเข้าลึกๆ แล้วนั่งลง
กู้เนี่ยนมองเขาแวบหนึ่ง “ประธานฟาง คุณมีแผนยังไงบ้างครับ?”
ฟางยู่เชินครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง แล้วพูดออกมาว่า “คือแบบนี้ เราไปพร้อมกับสื้อสื้อ ถ้าเบอร์เกนต้องการเอาตัวเธอไป เราก็แย่งเธอมาจากเขา”
พอได้ยินแบบนั้น ฝู้จิงเหวินก็ขมวดคิ้ว “แบบนี้มันจะไม่อันตรายไปหน่อยเหรอครับ? ถ้าเบอร์เกนเกิดโมโหขึ้นมา แล้วทำร้ายสื้อสื้อเข้าจะทำยังไง?”
“แล้วคุณมีแผนยังไงล่ะครับ?” ฟางยู่เชินไม่ตอบแต่ถามกลับ
“แผนของผมคือสื้อสื้อไม่ต้องไป แล้วเรามาตามหาจิ้นเฟิงเฉินด้วยความสามารถของเราเอง”
“ไม่ได้” เจียงสื้อสื้อปฏิเสธความคิดของเขา “เบอร์เกนเตือนฉันไว้แล้ว ถ้าฉันไม่ไปหาเขา ชีวิตนี้ฉันก็ไม่มีทางได้เจอเฟิงเฉินอีก”
“คุณเชื่อเขาด้วยเหรอ?” ฝู้จิงเหวินถาม
“ยอมเชื่อว่ามันจริง ก็ไม่ยอมเชื่อว่ามันไม่จริง”
ไม่ว่าสิ่งที่เบอร์เกนพูดมาจะจริงหรือไม่ เธอก็อยากที่จะลองดู ไม่แน่ก็อาจจะตามหาเฟิงเฉินจนเจอก็ได้
“สื้อสื้อ คุณไร้เดียงสาเกินไปแล้ว” ฝู้จิงเหวินถอนหายใจออกมา การที่คุณยอมเสี่ยงอันตรายเพื่อไปหาเบอร์เกน แล้วถ้าเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้น ต่อให้หาตัวจิ้นเฟิงเฉินกลับมาได้จริง แล้วมันยังจะมีความหมายอะไรอีกล่ะครับ?”
“ขอแค่สามารถพาเขากลับมาได้ก็พอแล้วค่ะ” เจียงสื้อสื้อไม่ได้สนใจความเป็นตายของตัวเองอีกต่อไปแล้ว เธอแค่อยากพาจิ้นเฟิงเฉินกลับมาให้เร็วที่สุดเท่านั้น
“แล้วคุณเคยนึกถึงลูกๆ บ้างมั้ย ไหนจะแม่ของคุณอีก?” ฝู้จิงเหวินเริ่มใส่อารมณ์ขึ้นมาอีกครั้ง “ทำไมคุณถึงไม่ยอมคิดเผื่อตัวเองบ้าง จิ้นเฟิงเฉินมันสำคัญกับคุณขนาดนั้นเลยเหรอครับ?”
“ใช่ค่ะ เขาสำคัญกับฉันมาก เขาเป็นชีวิตของฉัน ถ้าไม่มีเขา ฉันเองก็ไม่อยากมีชีวิตต่อไปแล้วเหมือนกัน” เจียงสื้อสื้อก็ทนไม่ไหวจนเริ่มใส่อารมณ์ขึ้นมาบ้าง
เธอจ้องเขาเขม็งด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “คุณคิดว่าฉันไม่เคยนึกถึงลูกๆ ไม่เคยนึกถึงแม่ของฉันรึไง? เพราะฉันคิดแล้วนี่แหละถึงได้เรียกพวกคุณมาคิดหาวิธีรับมือนี่ไง”
บรรยากาศยิ่งอยู่ยิ่งไม่ถูกต้อง ฟางยู่เชินจึงรีบพูดออกมาว่า “พอแล้ว พวกคุณสองคนช่วยใจเย็นลงก่อน”
“ใช่ครับ คุณหญิง คุณฝู้เขาก็แค่เป็นห่วงคุณ ถึงได้พูดแบบนั้นออกมา คุณอย่าคิดมากไปเลยครับ” กู้เนี่ยนเองก็พูดเกลี้ยกล่อมเหมือนกัน
เจียงสื้อสื้อยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตา “ฉันรู้ค่ะว่าเขานั้นหวังดี แต่ช่วยมาคิดในมุมของฉันจะได้มั้ย”
ฝู้จิงเหวินมองมาที่เธอ ต่อให้ในใจจะร้อนรนแค่ไหน แต่เขาก็ยังสงบลงมาได้ แล้วพูดขอโทษไป “ขอโทษครับ ผมใจร้อนไปหน่อย”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเองก็ใจร้อนเหมือนกัน” เจียงสื้อสื้อสูดหายใจเข้า ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “เรารีบคิดกันดีกว่าค่ะว่าจะทำยังไงดี”
“เอาแบบนี้แล้วกัน เธอไปคนเดียว แล้วเราจะรอเธออยู่ข้างนอก” ฟางยู่เชินออกความคิดเห็น
กู้เนี่ยนะพยักหน้าเห็นด้วย “แบบนี้ได้ ทางที่ดีควรพกมือถือไปด้วย พอคุณถามจนรู้แล้วว่าคุณชายอยู่ที่ไหน คุณก็รีบส่งข้อความให้พวกเราทันที เราก็จะบุกเข้าไปช่วยคุณออกมา”
แผนการของพวกเขาทำให้ฝู้จิงเหวินต้องขำออกมา “นี่พวกคุณประเมินเบอร์เกนต่ำไปรึเปล่า? สิ่งที่พวกคุณคิด เขาก็ต้องคิดได้เหมือนกัน”
“แล้วคุณคิดว่าเราควรทำยังไงดีล่ะ?” กู้เนี่ยนถามเขา
“ก็ต้องเป็น……”
“ห้ามบอกว่าไม่ให้คุณหญิงไปอีกนะครับ” กู้เนี่ยนพูดขัดจังหวะเขา
ฝู้จิงเหวินหัวเราะออกมา “พวกคุณไม่ต้องเป็นห่วง ผมไม่ได้มีความคิดแบบนั้นแล้ว สิ่งที่สื้อสื้อตัดสินใจไปแล้ว ผมมีหน้าที่แค่สนับสนุนในสิ่งที่เธอต้องการเท่านั้น”
ระหว่างที่พูด เขาก็จ้องเขม็งไปที่เจียงสื้อสื้ออย่างลึกซึ้ง
“ขอบคุณค่ะ พี่ฝู้”
ถึงแม้เมื่อกี้จะไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ แต่เจียงสื้อสื้อก็รู้ดีว่าเขานั้นต้องการทำเพื่อเธอจากใจริง
“ไม่ต้องไปหาเขา แต่นัดเขาออกไปเจอข้างนอก ถ้าเป็นแบบนั้น เราก็สามารถส่งคนไปรออยู่ก่อนได้ ในเวลาจำเป็นเราก็สามารถปกป้องสื้อสื้อได้”
ฟางยู่เชินกับกู้เนี่ยนหันมาสบตากัน แล้วหัวเราะออกมา “ใช่ แบบนี้เข้าท่าที่สุด”
“แล้วถ้าเบอร์เกนไม่ยอมล่ะคะ?” เจียงสื้อสื้อกังวลเรื่องนี้
“ไม่น่าจะเป็นแบบนั้น” ฝู้จิงเหวินพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “เขานั้นต้องการตัวคุณเป็นอย่างมาก จึงไม่มีทางปล่อยโอกาสที่จะสามารถจับคุณให้หลุดมือไปได้อย่างแน่นอน”
จากที่เขาคาดการไว้ การวิจัยของคูรี่ได้มาถึงขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญที่สุดแล้ว สื้อสื้อเป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เด็ดขาด ดังนั้นเบอร์เกนจึงจำเป็นต้องเอาตัวเธอไปให้ได้
เจียงสื่อสื้อพยักหน้า “ตกลงตามนั้น ฉันจะส่งข้อความให้เขาเดี๋ยวนี้”
เธอหยิบมือถือออกมา แล้วส่งข้อความให้เบอร์เกนต่อหน้าพวกเขา
ไม่นานก็มีการตอบกลับข้อความ
“เขาว่ายังไงบ้างครับ?” กู้เนี่ยนถามออกมาอย่างรีบร้อน
เจียงสื้อสื้อเปิดข้อความออกมาอ่าน เงยหน้าขึ้นมามองพวกเขา แล้วยิ้มออกมา “เขาตอบตกลงแล้ว”
“ตกลงง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอครับ?” กู้เนี่ยนรู้สึกไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่
เขานึกว่าเบอร์เกนจะรอบคอบกว่านี้ซะอีก ไม่นึกเลยว่าจะตอบตกลงง่ายขนาดนี้
“ในเมื่อเขารับปากแล้ว เราก็ยิ่งต้องเตรียมการให้รอบคอบที่สุด” ฟางยู่เชินมองไปที่ฝู้จิงเหวินกับกู้เนี่ยน
แบบนี้ถึงจะสามารถปกป้องสื้อสื้อได้