ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่1187สามีของเธอนี่ดีจริงๆ เลยนะ

บทที่1187สามีของเธอนี่ดีจริงๆ เลยนะ

“คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ?”

ที่นี่มันอยู่ห่างจากบริษัทของเขาค่อนข้างไกล นอกจากว่า……

เหลียงซินเวยรีบส่ายหน้า ไม่ต้องคิดแล้ว เขาจะตั้งใจมาหาเธอได้ยังไง?

“คุณพูดว่าอะไรนะครับ?” ” คะ?”

พอเขาถามมาแบบนั้น เหลียงซินเวยก็ตกใจจนสะดุ้ง แล้วจึงได้รู้ตัวว่าเธอได้พึมพำในสิ่งที่กำลังคิดออกมาจนหมดเลย

แต่โชคยังดีที่เล็กค่อนข้างเบา เขาเลยไม่ได้ยิน

เธอแอบโล่งอกเบาๆ แล้วส่ายหน้าด้วยรอยยิ้ม “ไม่มีอะไรค่ะ จริงด้วย คุณยังไม่ได้บอกฉันเลยว่าคุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”

“ตอนที่ผมผ่านทางมาเห็นคุณเข้าพอดีครับ”

เหลียงซินเวยมองตามสายตาของเขาไป แล้วก็พบกับรถที่จอดอยู่ข้างทางของเขา

สรุปคือ เขายอมจอดรถเพื่อเธอโดยเฉพาะเลย

ถึงแม้เธอจะเคยเตือนตัวเองว่าอย่าคิดเข้าข้างตัวเองให้มันมากนัก แต่มันก็ยังอดไม่ได้จริงๆ

เธอยิ้มออกมาด้วยความลำบากใจ ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรไปชั่วขณะหนึ่ง

แต่ฟางยู่เชินนั้นกลับดูรีแลคมากกว่าเยอะเลย เขาถามเธอไปว่า “คุณเลิกงานแล้วเหรอครับ?”

“ใช่ค่ะ”

“กำลังกลับบ้าน?”

“ไม่ค่ะ ฉันกำลังจะไปซื้อของในซูเปอร์ค่ะ”

“ผมไปเป็นเพื่อนครับ”

“ค่ะ”

เหลียงซินเวยตอบไปอย่างไม่รู้ตัว พอเธอตั้งสติได้มันก็สายไปเสียแล้ว

เธอจึงรีบอธิบายไปว่า “ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ ฉันหมายความว่าถ้าคุณกำลังยุ่งอยู่ก็ไม่ต้องไปกับฉันหรอกค่ะ ฉันไปคนเดียวได้”

แต่พออธิบายเสร็จ ก็รู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องอีก

เธอหันหน้าไป กัดริมฝีปากด้วยความหัวเสียอย่างถึงที่สุด

พระเจ้า!

นี่เธอกำลังพูดอะไรอยู่เนี่ย?

พวกเธอเป็นแค่เพื่อนทั่วไปเท่านั้นนะ การอธิบายแบบนี้มันดูจะคลุมเครือไปนิด

ฟางยู่เชินไม่ได้รู้สึกว่ามีตรงไหนผิดปกติเลย เขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ยุ่ง และผมก็กำลังอยากเดินเล่นอยู่พอดีเลยครับ”

ท่าทางของเขาดูจริงจังมาก ไม่เหมือนคนที่กำลังพูดล้อเล่นเลย

เมื่อไม่มีทางเลือก เหลียงซินเวยก็ได้แต่พยักหน้าไป “ก็ได้ค่ะ”

ซูเปอร์ที่เหลียงซินเวยจะไปอยู่ใกล้ๆ นี่เอง พวกเขาสองคนเดินไปพร้อมกัน

ระหว่างทาง เหลียงซินเวยกำสายกระเป๋าของตัวเองแน่น หัวใจของเธอกำลังเต้นอย่างน่าประหลาด

ถึงแม้ทั้งคู่จะอยู่ห่างกันค่อนข้างมาก แต่ก็ยังสามารถรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายที่ส่งออกมาจากตัวเขา มันทำให้คนเมินเฉยไม่ได้เลย

พอเข้าไปในซูเปอร์ เหลียงซินเวยก็จะเดินไปหยิบรถเข็น

พอเห็นเธอเข็นรถเข็นเข้ามา ฟางยู่เชินก็พูดไปว่า “เดี๋ยวผมเข็นเองครับ”

“ไม่เป็นไรค่ะ”

เหลียงซินเวยปฏิเสธไป

การให้คนที่เป็นถึงระดับท่านประธานอย่างเขามาทำเรื่องแบบนี้ มันดูจะเสียมารยาทเกินไป

“ไม่เป็นไร ผมเองครับ”

ฟางยู่เชินแย่งรถเข็นมาจากมือเธอ แล้วถามด้วยรอยยิ้มว่า “จะซื้ออะไรก่อนครับ?”

เหลียงซินเวยทำอะไรเขาไม่ได้ ได้แต่แอบถอนหายใจไปทีหนึ่ง

เธอมองไปรอบๆ “ไปโซนของสดก่อนก็ได้ค่ะ”

“ครับ”

ฟางยู่เชินเข็นรถเข็นตามหลังเธอไป มองดูแผ่นหลังที่เรียวบาง สายตาก็แสดงความอบอุ่นออกมาโดยที่เขาไม่รู้ตัว

เพราะกลัวว่าจะไปรบกวนเวลาของฟางยู่เชินเข้า เหลียงซินเวยจึงพยายามที่จะไม่เลือก พอเจอก็หยิบใส่รถเข็นเลย

ไม่นาน ของที่เธออยากซื้อก็ได้จนครบแล้ว

ฟางยู่เชินมองดูของในรถเข็น คิ้วที่คมกริบก็เลิกขึ้น “คืนนี้จะกินหม้ไฟกันเหรอครับ?”

เหลียงซินเวยตอบ “ค่ะ” ไปคำหนึ่ง “อานอานอยากกิน วันนี้เลิกงานเร็วพอดีเลยมีเวลาเตรียมค่ะ”

ฟางยู่เชินพยักหน้า จากนั้นก็ยิ้มออกมา “ความจริงผมก็ไม่ได้กินหม้อไฟมานานแล้วนะครับ”

นี่เขากำลังส่งสัญญาณให้เธอชวนเขาอยู่ใช่มั้ยเนี่ย?

เหลียงซินเวยรู้สึกลังเลขึ้นมาทันที

เธอควรเปิดปากชวนเขาไปเลย หรือจะทำเป็นไม่เข้าใจความหมายของเขาดีล่ะ?

ในขณะที่เธอยังตัดสินใจไม่ได้นั้น จู่ๆ ฟางยู่เชินก็พูดขึ้นมาว่า “ทางนั้นมีกุ้ง เราไปดูกันเถอะครับ”

ตอนที่เหลียงซินเวยดึงสติกลับมาได้อีกครั้ง เขาก็ได้เข็นรถออกไปแล้ว

มองดูแผ่นหลังของเขา เหลียงซินเวยก็ต้องถอนหายใจออกมา บางทีเขาอาจจะแค่พูดไปอย่างนั้นก็ได้ อย่าคิดเองเออเองไปเลย

ตอนที่จ่ายเงิน จังหวะที่เหลียงซินเวยกำลังก้มลงไปหยิบมือถืออยู่นั้น ก็ได้ยินพนักงานเก็บเงินพูดขึ้นมาว่า “คุณลูกค้าคะ ช่วยกดรหัสด้วยค่ะ”

เธอจึงรีบเงยหน้าขึ้นมา แล้วก็ได้เห็นฟางยู่เชินกำลังกดรหัสบนเครื่องรูดบัตรอยู่ เธอรู้สึกร้อนรนขึ้นมาทันที ไม่สนใจอะไรแล้ว รีบคว้ามือของเขาเอาไว้

“ฉันจ่ายเองค่ะ”

ฟางยู่เชินไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงแค่ก้มมองไปที่มือของเธอเท่านั้น

มือของเธอเย็นนิดหน่อย

เหลียงซินเวยมองตามสายตาของเขาลงไป ด้วยความตกใจ จึงรีบชักมือของตัวเองกลับ

ทันใดนั้นเอง ฟางยู่เชินจึงถือโอกาสกดรหัสจนเสร็จ

จ่ายเงินเสร็จสิ้น

“คุณ……” เหลียงซินเวยเงียบไปพูดอะไรไม่ออกไปพักหนึ่ง

“ไปครับ” ฟางยู่เชินถือถุงใบใหญ่สองใบขึ้นมา แล้วเดินนำหน้าออกไปก่อน

เหลียงซินเวยทำได้เพียงแค่ถอนหายใจออกมา แล้วรีบเดินตามเขาไป

……

ฟางยู่เชินขับรถมาส่งเหลียงซินเวยถึงหน้าหมู่บ้าน

เหลียงซินเวยปลดเข็มขัดออก ลังเลไปแวบหนึ่ง ก่อนจะพูดไปว่า “คุณจะไปด้วยกันมั้ยคะ?”

“หือ?” ฟางยู่เชินหันหน้ามา แล้วมองเธอด้วยความสงสัย

“กินหม้อไฟน่ะค่ะ” เหลียงซินเวยยิ้มออกมาอย่างทำตัวไม่ถูก “ซื้อของมาเยอะขนาดนี้ ฉันกับอานอานกินไม่หมดหรอก ถ้าคุณสะดวกละก็ ไปกินหม้อไฟด้วยกันมั้ยคะ?”

พูดจบ เหลียงซินเวยก็รีบกำมือแน่น

ความจริงตอนนี้ในใจของเธอกำลังสับสนมาก

ใจหนึ่งก็อยากให้เขาตอบตกลง แต่อีกใจก็อยากให้เขาตอบว่าไม่

ฟางยู่เชินมองเธออย่างเงียบๆ โดยที่ไม่พูดอะไร ในรถตกอยู่ในความเงียบ เงียบจนรู้สึกอึดอัด

เหลียงซินเวยที่รู้สึกอึดอัด จึงได้หัวเราะแห้งๆ ออกมาสองที แล้วพูดไปว่า “งานคุณยุ่งขนาดนั้น คงไม่มีเวลามานั่งก้นหม้อไฟแน่ๆ”

ดังนั้น เธอจึงไม่ควรถามไปตั้งแต่แรก ตอนนี้ก็กำลังรู้สึกทำตัวไม่ถูกแล้วจริงๆ

“วันนี้ต้องขอบคุณมากเลยนะคะ”

พูดจบ เธอเปิดประตูแล้วเตรียมที่จะลงจากรถ

“เดี๋ยวครับ” ฟางยู่เชินคว้ามือเธอไว้

หัวใจ หยุดเต้นไปชั่วขณะ

เหลียงซินเวยค่อยๆ หันกลับมา

แล้วก็ได้ยินเขาพูดออกมาว่า “ผมกินเผ็ดไม่ได้”

“งั้นก็ไม่กินเผ็ดแล้วกันค่ะ” เหลียงซินเวยพูดสวนไป

ต่อจากนั้น การที่จ้องมองกับแววตาที่กำลังยิ้มของเขา ใบหน้าของเธอก็อดไม่ได้ที่จะร้อนผว่าขึ้นมา

ราวกับความคิดของเธอถูกเขาอ่านออกจนหมดแล้ว

เธอรีบดึงมือของตัวเองกลับ แล้วรีบพูดไปว่า “เรารีบขึ้นไปกันเถอะค่ะ”

พูดจบ เธอก็รีบลงจากรถ

ฟางยู่เชินอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ทำไมเธอถึงได้น่ารักแบบนี้นะ

เหลียงซินเวยอยากช่วยถือของ แต่ก็ถูกปฏิเสธไป

“ในเมื่อผมจะมากินฟรี การที่ช่วยอะไรบ้างมันก็เป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้วครับ”

เหลียงซินเวยอยากพูดไปว่า ของพวกนี้เขาก็เป็นคนจ่ายทั้งหมด แล้วจะเรียกว่ากินฟรีได้ยังไง?

แต่พอคำพูดมาถึงที่ปาก ก็ไม่ได้พูดออกไปอยู่ดี

“เดี๋ยวฉันไปกดลิฟต์นะคะ”

เธอวิ่งไปทางลิฟต์

ตอนที่ฟางยู่เชินเดินมาถึงนั้น ลิฟต์ก็ลงมาถึงพอดี

พอประตูลิฟต์เปิดออก สามีภรรยาวัยกลางคนคู่หนึ่งก็ได้เดินออกมา

ทันทีที่ผู้หญิงเห็นฟางยู่เชินที่ถือของมา เธอก็หันไปพูดกับเหลียงซินเวยด้วยรอยยิ้มว่า “สามีของเธอนี่ดีจริงๆ เลยนะ ช่วยเธอถือของด้วย สามีของฉันน่ะไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนเลย”

พอได้ยินคำพูดของภรรยา สามีของเธอก็รีบคัดค้านขึ้นมาทันที “อย่ามาพูดบ้าๆ นะ ตอนไหนบ้างที่ฉันไม่ช่วยเธอถือของ?”

รอจนประตูปิดลง เธอถึงได้หันมายิ้มให้ฟางยู่เชินด้วยความเกรงใจ “เธอคนนั้นเข้าใจผิดแล้ว คุณอย่าถือสาเลยนะคะ”

ฟางยู่เชินยิ้มออกมาเล็กน้อย “ไม่เป็นไรครับ”

ความจริงเมื่อกี้ตอนที่เธอวิ่งไปยังลิฟต์ เขาเดินตามหลังไป มันให้ความรู้สึกแปลกๆ เหมือนคนเป็นสามีภรรยากันเลย

เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงได้รู้สึกแบบนั้น

แต่มันก็ไม่ได้แย่

กลับมาถึงบ้าน อานอานได้กลับมาจากโรงเรียนแล้ว

ตอนที่เด็กน้อยเห็นฟางยู่เชิน ดวงตาก็เบิ่งกว้างขึ้นมาทันที รู้สึกประหลาดใจมาก

ผ่านไปพักใหญ่เขาถึงตามหาเสียงของตัวเองจนเจอ “ลุงฟาง ลุงมาได้ยังไงครับ?”

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท