ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 1170 เธอมันก็แค่นางจิ้งจอก​เจ้าเล่ห์​

บทที่ 1170 เธอมันก็แค่นางจิ้งจอก​เจ้าเล่ห์​

เจียงสื้อสื้อรักษา​ตัวอยู่ในโรงพยาบาลสองสามวัน จนแผลเกือบจะหายดีแล้ว หมอจึงอนุญาตให้เธอกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้

“สื้อสื้อ กลับไปแล้ว ถ้าอยากทำอะไร ก็เรียกให้คนใช้ทำ อย่าทำเอง รู้ไหม” แม่จิ้นพูดย้ำเตือน ในขณะที่กำลังเก็บของ

เจียงสื้อสื้อยิ้มอย่างเหนื่อยใจ “คุณ​แม่ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้หรอกค่ะ ฉันไม่ใช่เด็กๆแล้วนะคะ”

“ในสายตาของแม่ ลูกยังเป็นเด็กอยู่ รวมถึงเฟิงเฉิน เฟิงเหรา และหวั่นชิงต่างก็ยังเป็นเด็กน้อย” แม่จิ้นถลึงตามองเธอ

เจียงสื้อสื้อยิ้มแหย​ ไม่พูดอะไรอีก ภายในใจของ​เธอรู้สึกอบอุ่นเป็นพิเศษ

เพราะต้องดูแลส้งหวั่นชีง แม่จิ้นจึงไม่ได้พร้อมกับเธอ แต่ขอให้กู้เนี่ยนส่งเธอกลับไปแทน

“รอหวั่นชิงเข้าห้องอยู่เดือน แม่จะกลับบ้านไปดูแล​ลูก​นะจ๊ะ” แม่จิ้นตบหลังมือของเจียงสื้อสื้อเบาๆ

โชคดีที่หวั่นชิงจะไปห้องอยู่เดือนวันพรุ่งนี้ ไม่อย่างนั้นนั้นเธอจะกลัวจริงๆถ้าเธอไม่ดูแลสื้อสื้อดีๆ​ จะเกิดอะไรขึ้นอีก

“คุณ​แม่คะ มีคนรับใช้อยู่ที่บ้านดูแลหนูตั้งเยอะแยะ ไม่ต้องห่วงหรอกนะคะ” เจียงสื้อสื้อพูดปลอบโยน

แม่จิ้นนพยักหน้า “ได้จ้ะ กลับถึงบ้านแล้วโทรบอกแม่ด้วย”

“อืม”

แม่จิ้นช่วยพยุงเธอเข้าไปในรถ จากนั้นก็พูดย้ำอีกหลายรอบ ก่อนจะปิดประตูรถลง

เธอยืนมองรถแล่นออกไปจนลับตา แม่จิ้นจึงหันหลังเดินเข้าไปในโรงพยาบาลอีกครั้ง

ในรถ เจียงสื้อสื้อถอนสายตาจากหน้าต่าง แล้วมองไปทางกู้เนี่ยนที่นั่งตำแหน่งคนขับ แล้วถามออกมาว่า “เบอร์​เกน กลับมาอิตาลีไปแล้วหรือยังคะ”

กู้เนี่ยนเงยหน้า​ขึ้น​มองกระจกมองหลัง แล้วตอบออกไปตามความจริง “ยังครับ แต่ลี่ซากลับไปแล้ว”

พอได้ยิน​ว่า​ลี่ซากลับอิตาลีแล้ว​ เจียงสื้อสื้อก็อดที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอกไม่ได้

พูดตามตรง ตอนนี้ลี่ซาน่ากลัว​กว่า​เบอร์​เกนมาก

เบอร์​เกนเพียงต้องการใช้เธอทำการวิจัยให้สำเร็จ แต่ลี่ซากลับต้องการฆ่าเธอจริงๆ

“คุณ​นายน้อยครับ”

เจียงสื้อสื้อเงยหน้าขึ้นมอง “มีอะไรเหรอคะ”

กู้เนี่ยนแตะจมูกของตัวเอง “เราจะกลับไปที่เมืองหลวงเมื่อไหร่​ครับ”เจียงสื้อสื้อเลิกคิ้ว แล้วพูดหยอกล้อ​ “คิดถึงใครหรือเปล่า​ ทำไมคุณถึงอยากกลับไปเมืองหลวง​เร็วๆ”

“ไม่ใช่​นะครับ” กู้เนี่ยนทำตัวไม่ถูก​“ผมแค่ถามดูเฉยๆ”

“แค่ถามเฉยๆหรอกเหรอคะ” เจียงสื้อสื้อยิ้มมากขึ้น

“คุณนา​ยน้อย​ อย่าล้อผมเล่นสิครับ” กู้เนี่ยนรู้สึกทำตัว​ไม่ถูก​

เจียงสื้อสื้อยกยิ้ม ก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อ​สนทนา จึงพูดขึ้น​มา​ “ถ้าคุณ​ไม่​พูด​ถึง ฉันคงลืมไปเลยว่าเวยเวยไม่เคยโทรหาฉันเลย”

“จริงเหรอครับ” กู้เนี่ยนเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

เขานึกว่าเหลียงซินเวยจะติดต่อเธอซะอีก เพราะเขามองออกว่าเหลียงซินเวยถือว่าคุณ​นายน้อยเป็นเพื่อนสนิท​ของ​เธอจริงๆ

“อืม หลายวันมานี้นอกจากน้าสะใภ้​เล็กกับพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของฉันแล้ว ก็ไม่มีใครโทรหาฉันเลย”

เพื่อปกปิดอาการบาดเจ็บ เธอจึงไม่กล้าวิดีโอแชทกับน้าสะใภ้​เล็กของเธอเลย

“เธอ…อาจจะยุ่งมากมั้งครับ” กู้เนี่ยนช่วยเหลียงซินเวยหาเหตุผล

เจียงสื้อสื้อสูดหายใจเข้าลึก “น่าจะเป็นอย่างนั้น​แหละค่ะ”

เหลียงซินเวยไม่ได้ติดต่อเธอ เธอรู้สึก​ผิดหวัง​เล็กน้อย​

“เธอเองก็ไม่ติดต่อคุณด้วยเหรอ” เจียงสื้อสื้อถาม

กู้เนี่ยนชะงัก​ไป​ “ทำไมเธอถึงต้องติดต่อผมล่ะครับ”

เจียงสื้อสื้อหัวเราะ “ฉันคิดว่าคุณกับเธอเป็นเพื่อนกันนานแล้ว ระหว่างเพื่อนจะติดต่อ​หากันก็เป็นเรื่องปกตินี่คะ”

หลังจากได้ยินแบบนี้ กู้เนี่ยนก็เงียบไปสักพัก​ ก่อนจะพูดออกมา “เพื่อนที่ไม่ติดต่อกันเลยก็มีครับ”

“มันก็จริง” เจียงสื้อสื้อพยักหน้า

ตลอดทางกลับบ้านตระกูล​จิ้น ไม่มีใครพูดอะไรอีกเลย

……

หลายวันมานี้เหลียงซินเวยงานยุ่งมากจริงๆ​ เพื่อนร่วมงานขอลากลับบ้าน เธอต้องทำงานทั้งวันติดต่อ​กันเป็นเวลาหลายวัน

แม้แต่ไปรับอานอานตอนเลิกเรียนก็ทำไม่ได้ เธอได้แต่ขอให้เพื่อนบ้านตอนไปรับหลานชายของเขาช่วยรับอานอานกลับมาด้วย

“เวยเวย เหนื่อยไหม” ผู้จัดการเดินเข้ามา เห็นเหลียงซินเวยกำลังนั่งพิงกำแพงเพื่อพักผ่อน​อยู่​ จึงรู้สึกเป็นเป็นห่วงเล็กน้อย

เหลียงซินเวยนั่งตัวตรง เมื่อเห็นผู้จัดการเดินเข้ามา “ผู้จัดการ ฉันไม่เหนื่อยหรอกค่ะ”

“รอสิงยี่​กลับมาจากลาหยุด เธอก็จะได้หยุดหลายวันเหมือนกัน” ผู้จัดการพูด

“ฉันทำได้เหรอคะ” เหลียงซินเวยถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ นี่ผู้จัดการบอกให้เธอหยุดพักผ่อนด้วยตัวเองเลยเหรอ

ผู้จัดการพยักหน้า “ได้สิ”

เหลียงซินเวยดีใจขึ้นมา​ทันที “ขอบคุณค่ะ ผู้จัดการ”

“ไม่ต้อง​ขอบคุณหรอก นี่เป็นสิ่งที่เธอสมควรได้รับ ออกไปทำงานเถอะ”

“ได้ค่ะ”

ทันทีที่เหลียงซินเวยเดินออกไป เธอบังเอิญเห็นเย่เฉินหยุนเดินเข้ามาพอดี

เธอก้าวเท้าเดินเพื่อจะเข้าไปต้อนรับเขา แต่เธอเห็นเย่เสี่ยวอี้ที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาเสียก่อน

 

เธอถอยหลัง​ แล้ว​หันหลังกลับ ตั้งใจจะทำเหมือนมองไม่เห็น แล้วให้คนอื่นเข้าไปต้อนรับแทน

“เวยเวย มีลูกค้าเข้ามาแล้ว​ เธอทำอะไรอยู่”

เสียงของเพื่อนร่วมงานดังขึ้น​ เหลียงซินเวยตั้งใจจะหลบแต่คงหลบไม่พ้นแล้ว ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงกัดฟันแล้วเดินออกไปต้อนรับ

“ยินดีต้อนรับค่ะ คุณ​ลูกค้ามากัน​กี่ท่านคะ” ใบหน้าของเธอมีรอยยิ้มที่สุภาพตามที่พนักงานต้อนรับ​ควรจะมี

“นี่เธออีกแล้ว​เหรอ” พอเย่เสี่ยวอี้มองเห็นเธอ สีหน้าของเธอก็บูดบึ้ง​ขึ้นมาทันที

เหลียงซินเวยพยักหน้าเล็กน้อย “สวัสดีค่ะคุณเย่ สบายดี​ไหม​คะ​”

เย่เสี่ยวอี้กลอกตามองบน แล้วพูดเหยียดหยาม“เห็นหน้าเธอแล้วฉันกินอะไรไม่ลง​ จะดีได้ยังไง​กัน​”

รอยยิ้มบนใบหน้าของเหลียงซินเวยแข็งเกร็งขึ้นมาทันที ไม่นานก็กลับมายิ้มตามเดิม “ถ้าคุณ​เย่ไม่ชอบฉัน ฉันจะให้พนักงาน​คนอื่นมาบริการ​นะคะ”

เธอพูด ก่อนจะหันหลังเตรียมจะเรียกพนักงาน​อีกคน

“เดี๋ยวก่อน​ครับ” เย่เฉินหยุนจับมือเธอไว้

พอเห็นแบบนี้ เย่เสี่ยวอี้ก็ตกตะลึง “พี่คะ พี่กำลังทำอะไรอยู่”

“เวยเวยเป็นเพื่อนของพี่ พี่ไม่อนุญาตให้น้องพูดกับเธอแบบนั้น” เย่เฉินหยุนมองเธอด้วยสีหน้าที่จริงจัง

“พี่คะ” เย่เสี่ยวอี้ไม่รู้ว่ายัยผู้หญิงไร้ยางอาย​คนนี้กลายเป็นเพื่อนของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่​

“เอาล่ะ” เย่เฉินหยุนจ้องหน้าเธออย่างตักเตือน​ เธอยกมือกอดอกอย่างไม่ชอบใจ แล้วมองหน้า​เหลียงซินเวยด้วยแววตาที่ไม่เป็นมิตร

เหลียงซินเวยอยากจะบอกเย่เฉินหยุน ว่าการที่เขาช่วยเธอด้วยการทำแบบนี้ จะทำให้เย่เสี่ยวอี้ยิ่งเกลียดเธอมากขึ้น

“เวยเวย น้องสาวของผมพูดอะไรไม่ค่อย​คิด คุณ​อย่าถือสาเธอเลยนะครับ” เย่เฉินหยุนพูดอย่างระมัดระวัง

เหลียงซินเวยดึงมือของเธอกลับ แล้วยิ้มให้เขา “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่ได้​ใส่ใจ”

เย่เฉินหยุนมองไปรอบๆร้าน “คุณทำงานที่นี่เหรอ”

“ใช่ค่ะ” เหลียงซินเวยไม่อยากจะพูดอะไรกับเขา “เชิญ​ตามฉันมาได้เลยค่ะ”

เธอพาพวกเขาไปที่ที่นั่งริมหน้าต่าง แล้วผายมืออย่างนอบน้อม​“เชิญ​นั่งก่อนค่ะ”

หลังจากที่พวกเขานั่งลงแล้ว เธอก็ยื่นเมนูให้พวกเขา “ดูเมนู​ก่อนนะคะ ถ้าจะสั่งอาหารกดเรียกดิฉันได้เลย”

เธอยิ้ม แล้วหันหลังเดินจากไป

เย่เสี่ยวอี้หันกลับ​ไป​ แล้วมองหน้า​เย่เฉินหยุน​อย่างไม่พอใจ “พี่คะ ทำไมพี่ถึงเอาคนแบบนั้นมาเป็นเพื่อนได้”

“คนแบบนั้นมันไหนกัน” เย่เฉินหยุนขมวดคิ้ว สีหน้าของเขาดูไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่​

“พี่รู้ไหมว่าเธอทำอะไรไว้บ้าง​”

“ทำอะไร”

“เธอเป็นนางจิ้งจอก​ที่จงใจเข้าใกล้ฟางยู่เชิน และพยายามยั่วยวน​เขาด้วย” พอพูดถึงตรงนี้ เย่เสี่ยวอี้ก็กัดฟันกรอด แทบอยากจะเข้าไปตบเหลียงซินเวย

เย่เฉินหยุนขมวดคิ้วแน่นขึ้น “น้องเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า เวยเวยไม่ใช่คนแบบนั้นหรอกนะ”

“ฉันจะเข้าใจผิดได้ยังไงคะ ก็ฉันเห็นกับตา”

เย่เฉินหยุนนิ่งเงียบ

เย่เสี่ยวอี้พูดต่ออย่างรวดเร็ว “พี่คะ ฉันเป็นน้องสาวของพี่ ฉันจะโกหกพี่ได้ยังไง​กัน​”

“พี่ยังไม่เชื่อ” เย่เฉินหยุนยกยิ้ม “เวยเวยที่พี่รู้จักไม่เหมือนที่น้องพูดมาเลย เธอทำงานอย่างหนักเพื่อเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง…”

“ลูกเหรอคะ” เย่เสี่ยวอี้คิดว่าตัวเอง​ได้ยินผิดไป “พี่บอกว่าเธอมีลูกแล้วเหรอคะ”

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท