เจียงสื้อสื้อร้องไห้แล้ว
ไม่รู้ว่ากี่ค่ำคืนมาแล้ว ที่เธอถูกปลุกให้ตื่นจากฝันร้ายด้วยความตื่นตกใจ ฝันเห็นว่าจิ้นเฟิงเฉินจากเธอไปแล้ว แต่เธอไม่กล้าพูด กลัวว่าคนในครอบครัวจะเป็นห่วง ได้แต่ทนกล้ำกลืนอยู่ลำพัง
ตอนนี้เมื่อได้ข่าวคราวของจิ้นเฟิงเฉิน เธอก็เหมือนหาช่องทางระบายอารมณ์พบ อยากจะระบายความทุกข์ทรมานช่วงที่ผ่านมาให้หมด
ฟางยู่เชินนั่งเงียบๆอยู่ข้างๆเธอ เป็นเพื่อน ที่คอยปลอบโยนเธอโดยไม่ส่งเสียง
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน เสียงร้องไห้ค่อยๆหยุดลง เจียงสื้อสื้อเงยหน้าขึ้นมา รับกระดาษทิชชู่ที่ฟางยู่เชินส่งให้มาซับน้ำตา
เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “พี่คะ พี่รู้เบาะแสได้ยังไงคะ”
เพราะเธอเพิ่งหยุดร้องไห้ เสียงเธอจึงแหบพร่าเล็กน้อย
ฟางยู่เชินหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา กดเปิดภาพถ่าย ให้เธอดู“คนที่พี่ส่งไปถ่ายรูปน้องเขยมาได้”
เจียงสื้อสื้อรีบคว้าโทรศัพท์มือถือมา มองอย่างตั้งใจ ดวงตาเบิกโต
“คือเฟิงเฉิน!”
เธอชี้ไปที่ร่างที่อยู่มุมภาพพลางร้องออกมาอย่างตื่นเต้น
“เธอตาดีมาก มองแวบเดียวก็เห็นเขาแล้ว”ฟางยู่เชินนึกถึงว่าตนเองต้องขยายภาพจึงมองเห็นจิ้นเฟิงเฉิน
“เขาอยู่ที่ไหนคะ”เจียงสื้อสื้อถาม
“สิงคโปร์”
เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว“ก่อนที่พี่จะกลับมาที่เมืองจิ่น เหมือนพวกเธอเคยบอกว่าสังเกตเห็นว่าช่วงนี้ซ่างกวนเชียนมักจะเดินทางไปกลับสิงคโปร์เป็นประจำ ใช่มั้ย”
“อืม พวกเรายังพบว่าเขาไปที่สำนักหยานแก๊งใต้ดินแห่งหนึ่งของสิงคโปร์”
“สำนักหยานเหรอ แก๊งมาเฟียเหรอคะ”
ใจของเจียงสื้อสื้อเต้นรัวอย่างห้ามไม่อยู่ ถ้าเฟิงเฉินถูกแก๊งมาเฟียควบคุมตัวไป อย่างนั้นพวกเขาคงจะช่วยเขาออกมาได้ยาก
“เมื่อก่อนใช่ ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว แต่ว่ายังมีอำนาจอยู่ ถ้าพวกเราผลีผลามเข้าไปช่วยคน อาจจะเกิดเรื่องได้”
“งั้นทำยังไงดีคะ”
พวกเขาไม่อาจปล่อยให้จิ้นเฟิงเฉินอยู่ที่นั่นไปตลอดได้
ฟางยู่เชินตบที่บ่าเธอ พูดปลอบว่า“เธอไม่ต้องกังวล พวกเราจะต้องคิดวิธีช่วยคนออกมาให้ได้ แค่เรื่องนี้จำเป็นต้องมีการวางแผนในระยะยาว”
“ฉันรู้ ฉันก็แค่เป็นห่วงว่าเฟิงเฉินอยู่ที่นั่นจะสุขสบายดีมั้ย”
ฟางยู่เชินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา“สื้อสื้อ เธอคิดมากไปแล้ว มีซ่างกวนหยวนอยู่ น้องเขยจะไม่อยู่อย่างสุขสบายได้ยังไงกัน”
“ฉันไม่เชื่อซ่างกวนหยวน”พอเอ่ยถึงผู้หญิงคนนั้น เจียงสื้อสื้อก็รู้สึกอยากจะตบหน้าตัวเองสักฉาด
ตอนแรกถ้าไม่ใช่เพราะเธอเห็นเธอเป็นเพื่อนด้วยความจริงใจ ก็คงไม่เกิดเรื่องเลวร้ายเหล่านี้ในภายหลัง
เสียใจก็สายไปเสียแล้ว
“เธอวางใจเถอะ เธอชอบน้องเขยขนาดนั้น ไม่มีทางทำร้ายน้องเขยแน่”
เจียงสื้อสื้อนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง จึงเอ่ยว่า“พวกคุณมีแผนการอะไรต้องบอกฉันนะ ฉันไม่อยากถูกปิดหูปิดตาไม่รู้อะไรเลย”
ฟางยู่เชินยิ้มพลางพยักหน้าตอบว่า“ได้ พวกเราจะบอกเธอ”
“พวกคุณคุยอะไรกันอยู่”
เสียงที่จู่ๆดังขึ้นมาทำเอาเจียงสื้อสื้อและฟางยู่เชินตกอกตกใจ พวกเขาหันไปมองต้นเสียง ก็เห็นแม่จิ้น รีบลุกขึ้นมายืน
“คุณป้า สวัสดีค่ะ”
แม่จิ้นยิ้ม“สวัสดีจ้ะ”
จากนั้น เธอก็ขมวดคิ้ว“เมื่อกี้พวกเธอกำลังคุยอะไรกัน เฟิงเฉินเป็นอะไรเหรอ”
เจียงสื้อสื้อและฟางยู่เชินสบตากัน รีบส่ายหน้า“ไม่ได้คุยอะไรกันค่ะ ก็แค่พูดว่าเฟิงเฉินไปทำงานนานขนาดนี้แล้ว ไม่รู้เมื่อไหร่จะกลับมาค่ะ”
“ไม่ใช่”แม่จิ้นส่ายหน้า “ฉันได้ชินอย่างชัดเจนว่าพวกเธอพูดถึงแก๊งมาเฟียอะไร ช่วยคนอะไร ต้องเกิดเรื่องกับเฟิงเฉินแน่เลย”
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความเคลือบแคลงสงสัยของแม่จิ้น เจียงสื้อสื้อกัดริมฝีปาก ลังเลว่าจะบอกหรือไม่บอกความจริงกับเธอ
เห็นพวกเขาสองคนต่างก็ไม่พูด แม่จิ้นก็ร้อนใจ“สื้อสื้อ เธอรีบพูดสิ ตกลงว่าเกิดเรื่องอะไรกันแน่”
“แม่ แม่อย่าเพิ่งใจร้อนนะคะ เจียงสื้อสื้อเดินไปข้างหน้า คิดจะไปประคองเธอ ใครจะไปรู้ว่าพอยกแขนโดยไม่ทันระวังก็ทำให้เจ็บร้าวไปถึงแผลที่ไหล่
“โอ้ย”เธอร้องคราง คิ้วคู่นั้นเข้าหากันแน่น
แม่จิ้นไม่สนใจที่จะซักถามเรื่องจิ้นเฟิงเฉินต่อ รีบถามอย่างร้อนใจว่า“เจ็บแผลอีกแล้วใช่มั้ย”
เจียงสื้อสื้อยิ้มพลางส่ายหน้า“ไม่ได้ระวังแผลก็เลยฉีก ไม่เป็นไรค่ะ”
“แผลเหรอ” ฟางยู่เชินมองพวกเธอสองคนอย่างสงสัย“แผลอะไรเหรอ”
หมดกัน!
เธอลืมบอกเรื่องนี้กับพี่
เจียงสื้อสื้อฉีกยิ้มมุมปากอย่างเก้อเขิน“ก็คือ……ก็คือ……”
เธอไม่ทันได้บอกอย่างชัดเจน แม่จิ้นก็แย่งเธอพูดก่อนว่า“เธอถูกยิงที่ไหล่ เพิ่งจะออกจากโรงพยาบาล”
“ถูกยิงเหรอ”ฟางยู่เชินมองไปทางเจียงสื้อสื้อ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย
“เจอพวกนักเลงยิงปืนระหว่างทาง ไม่ทันระวังก็เลยถูกยิง”แม่จิ้นอธิบาย
ฟางยู่เชินมองไปที่เจียงสื้อสื้อที่กำลังขยิบตาให้เขา ก็พยักหน้าอย่างเข้าใจความหมายทันที“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ถ้าวันนี้พี่ไม่มา เธอก็คงไม่บอกพี่สินะ”
เขาถามเจียงสื้อสื้อ
เจียงสื้อสื้อยิ้มอย่างเขินๆ“ฉันกลัวว่าพี่จะเป็นห่วงนี่”
“งั้นตอนนี้รู้แล้วก็ไม่เป็นห่วงเหรอ”ฟางยู่เชินถลึงตาใส่เธออย่างไม่พอใจ
เจียงสื้อสื้อแลบลิ้น“ขอโทษค่ะ ต่อไปฉันจะบอกพี่แน่นอน”
“ต่อไปเหรอ ต่อไปยังอยากจะเจอกับพวกนักเลงอีกเหรอ”
“ไม่อยาก”
ฟางยู่เชินหัวเราะอย่างจนปัญญา“แผลเป็นยังไงบ้าง”
“ความจริงก็ใกล้จะหายแล้ว แต่เมื่อกี้ฉันไม่ระวังแผลก็เลยฉีก”เจียงสื้อสื้อยิ้ม“ฉันไม่เป็นไร พี่ไม่ต้องห่วง”
ถูกเธอขัดจังหวะแบบนี้ แม่จิ้นก็สงบลง“สื้อสื้อ เธอรีบบอกฉันเร็ว ว่าเฟิงเฉินเป็นอะไร”
เจียงสื้อสื้อยิ้มเจื่อน“แม่คะ ทำไมแม่ยังจำได้อีกคะเนี่ย”
“แม่จำได้แน่นอน นั่นลูกชายแม่นะ”
แม่จิ้นพูดขนาดนี้แล้ว เจียงสื้อสื้อก็ไม่รู้จะปิดบังเธออีกอย่างไร
“แม่ แม่นั่งลงก่อน ฉันจะค่อยๆเล่าให้แม่ฟังค่ะ”
ระหว่างที่รอให้แม่จิ้นนั่งลงข้างๆตนเอง เจียงสื้อสื้อหันไปมองฟางยู่เชิน แล้วจึงเอ่ยเบาๆว่า “ความจริงแล้วเฟิงเฉินไม่ได้ไปทำงาน แต่……”
แม่จิ้นขมวดคิ้ว“คืออะไร”
“หายตัวไปค่ะ”
พอพูดคำนี้ออกมา แม่จิ้นลุกขึ้นทันที ก้มหน้าจ้องเจียงสื้อสื้อ“เธอพูดอะไรนะ เฟิง……เฟิงเฉินหายตัวไปเหรอ”
“แม่คะ แม่อย่าเพิ่งใจร้อน ฟังฉันพูดก่อนนะคะ”เจียงสื้อสื้อดึงเธอนั่งลง พูดต่อว่า“ก็ไม่ถือว่าหายตัวหรอกค่ะ คือถูกผู้หญิงคนหนึ่งเอาตัวไปซ่อนไว้ค่ะ”
“แต่พี่ชายฉันหาเขาเจอแล้ว”เจียงสื้อสื้อพูดพลาง ส่งสายตาเว้าวอนไปยังฟางยู่เชิน ฟางยู่เชินเข้าใจ พูดต่อจากเธอว่า “ใช่ครับ คุณป้า ตอนนี้พวกเรารู้ว่าเฟิงเฉินอยู่ที่ไหนแล้วครับ”
แม่จิ้นขมวดคิ้วแน่น “ไม่ใช่ ทำไมฉันฟังแล้วมันงงๆ อะไรหายตัว อะไรซ่อนเอาไว้ ตกลงว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
เจียงสื้อสื้อถอนหายใจ“แม่คะ แม่ฟังไม่เข้าใจก็ช่างมันเถอะค่ะ ขอแค่แม่รู้ว่าอีกไม่นานเฟิงเฉินก็จะกลับบ้าน ก็พอ”
“อีกไม่นานคือเมื่อไหร่”แม่จิ้นถาม
“คุณป้า คุณป้าต้องเชื่อพวกเรานะครับ พวกเราจะพาเฟิงเฉินกลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอน”ฟางยู่เชินรับประกัน
แม่จิ้นถอนหายใจส่ายหน้า“เรื่องสำคัญขนาดนี้ พวกเธอยังปกปิดฉัน ไม่สมควรเลยจริงๆ”
“แม่ พวกเรากลัวว่าแม่รับไม่ไหว”เจียงสื้อสื้อโอบไหล่เธอเอาไว้ พูดเบาๆว่า
“ฉันไม่ได้อ่อนแออย่างที่พวกเธอคิด เฟิงเฉินลูกคนนั้นตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยทำให้ฉันต้องเป็นห่วง ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้ฉันเป็นห่วงสักครั้ง พวกเธอกลับปิดบังฉัน”
ได้ยินดังนั้น เจียงสื้อสื้อก็ยิ้มอย่างอดไม่ได้ ทำไมเรื่องมันเป็นไปไม่เหมือนกับที่เธอคิดไว้เลย