ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่1222 ปลอมตัว​

บทที่1222 ปลอมตัว​

ซ่างกวนเชียนเลิกงาน​กลับมา ได้ยินพ่อบ้านรายงานว่าวันนี้เจียงสื้อสื้อมาที่นี่

“หยวนหยวนเป็นอย่างไรบ้าง” ซ่างกวนเชียนถอดเสื้อสูทออก แล้ว​ถามเสียงเรียบ

พ่อบ้าน​รับเสื้อสูทไปอย่างรวดเร็ว แล้วตอบว่า “คุณหนูไม่เป็นไร​ครับ​”

“แล้วตอนนี้เธออยู่ไหน” ซ่างกวนเชียนดึงเนคไทของเขาออก

“ชั้นบนครับ”

ซ่างกวนเชียนลืมตามองขึ้นไปชั้นบน แล้ว​ขมวดคิ้วเล็กน้อย “เธอไปเยี่ยมคุณย่าบ้างไหม”

พ่อบ้านพยักหน้า “ไปแล้วครับ”

“งั้นก็ดีแล้ว”

ซ่างกวนเชียนปลดกระดุมแขนเสื้อ แล้วดึงแขนเสื้อขึ้นทั้งสองข้าง เผยให้เห็นข้อมือที่ผอมบาง​

เขาเตรียมจะเดินไปที่ห้องนั่งเล่น

“คุณหนูครับ” พ่อบ้านเรียกขึ้นมากะทันหัน

เขาหันกลับไปมอง จึงเห็นซ่างกวนหยวนที่ไม่รู้ว่ายืนอยู่ตรงบันได​ตั้งแต่​เมื่อไหร่ เธอมองลงมา แล้ว​จ้องหน้าเขาด้วยแววตาเย็นชา

ซ่างกวนเชียนกระตุกยิ้ม ในรอยยิ้ม​แฝงได้ด้วยความเยาะเย้ย “ผมไม่ได้พูดอะไรไม่ดีเกี่ยวกับเธอนะ”

ซ่างกวนหยวนมองเขาเงียบๆ สักพัก เธอก็พูดขึ้นช้าๆ“ฉันมีอะไรจะคุยกับคุณ​”

ซ่างกวนเชียนเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ นี่พระอาทิตย์ขึ้นจากทางทิศตะวันตกแล้วหรือเปล่า​

นี่เธอยอมเอ่ยปากพูดกับเขาเองเลยเหรอ

“มีเรื่องอะไร” ซ่างกวนเชียนถามอย่างเฉยเมย พยายามระงับความตกใจภายในใจของเขาไว้ แล้ว​พูด​ด้วยน้ำเสียงเฉยเมย

“ไปคุยกันที่ห้องทำงาน”

พอพูดจบ ซ่างกวนหยวนก็หันกลับเดินตรงไปที่ห้องทำงาน

ซ่างกวนเชียนยืนคิดอยู่สักพัก​ ก่อนจะเดินขึ้นบันไดไป

พอเขาเดินเข้าไปในห้องทำงาน เขาก็เห็นซ่างกวนหยวนยืนอยู่ริมหน้าต่าง เขาเดินไป แล้ว​ถามเสียงเรียบ “เธออยากจะพูดอะไร”

ซ่างกวนหยวนหันกลับมา ดวงตาที่เย็นชาของเธอมองหน้าเขา แล้วพูดว่า “ฉันต้องการ​แต่งงานกับเฟิงเฉิน”

น้ำเสียงของเธอเหมือนสิ่งที่เธอกำลังพูดไม่เกี่ยวข้องกับตัวเธอเองเลย

“จะแต่งงานอย่างนั้น​เหรอ​” ซ่างกวนเชียนอุทาน “เธอบ้าไปแล้วเหรอ”

“ฉันไม่ได้บ้า” ซ่างกวนหยวนหยวนดึงสายตา​กลับมา แล้ว​มองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง

ซ่างกวนเชียนยิ้มเยาะ “ถ้าเธอไม่ได้บ้า ทำไมถึงคิดที่จะแต่งงานกับผู้ชายที่แต่งงานแล้วกันล่ะ”

“เพราะคุณ​ย่า”

พอพูดถึงคุณ​ย่า ซ่างกวนเชียนก็นิ่งเงียบ​ไป​

ภายในห้องทำงานตกอยู่ในเงียบสงัด​

ซ่างกวนหยวนหลับตาลง ปกปิดความเศร้าในดวงตาของเธอ แล้วพูดเบาๆ “คุณย่าเป็นญาติที่ฉันเหลืออยู่​เพียงคนเดียวในโลกนี้ ท่านบอกว่าท่านอยากเห็นฉันแต่งงาน ฉันจะปล่อยให้ท่านผิดหวัง​ได้ยังไง”

ญาติเพียงคนเดียวอย่างนั้น​เหรอ​

ซ่างกวนเชียนยกยิ้มเย้ยหยัน​ตัวเอง แสดงว่าในใจของเธอเขาไม่ใช่ญาติของ​เธออีกต่อไปแล้ว​

เธอช่างไร้ความเมตตา​เหลือเกิน

“ดังนั้น เฟิงเฉินกับฉันจำเป็น​ต้องแต่งงานกัน” ซ่างกวนหยวนหันกลับมา แล้วสบตาเข้ากับแววตา​ปวดใจของ​เขาโดยไม่คาดคิด

หัวใจ เหมือนถูกอะไรบางอย่าง​ทิ่มแทง

เธอรีบหลบตา แล้วพูดเสียงเรียบ “เรื่องนี้จำเป็น​ต้อง​ขอให้​คุณจัดการ”

ซ่างกวนเชียนเงยหน้าขึ้น แล้วยักยิ้ม “หยวนหยวน ผมเป็นอะไรสำหรับ​เธอ”

น้ำเสียงทุ้มต่ำ เต็ม​ไปด้วยความอัดอั้น​

เหมือนกำลังต่อว่า

เกี่ยวกับคำถามของเขา ซ่างกวนหยวนทำเหมือนหูหนวกไม่ได้ยิน แล้ว​พูดพึมพำกับตัวเอง “ถ้าเมื่อก่อน​คุณ​ย่าไม่ยืนกราน พ่อแม่ของฉันคงไม่รับคุณ​มาเป็นลูกบุญธรรม ดังนั้นสิ่งที่คุณมีทุกวันนี้เป็นคุณ​ย่าที่ให้กับคุณ​”

พอได้ยินแบบนั้น ซ่างกวนเชียนก็หัวเราะออกมา หัวเราะเยาะเย้ยตัวเอง​ “คุณ​ต้องการให้ผมตอบแทนอย่างนั้น​เหรอ​”

“หรือว่าไม่ควรล่ะ” ซ่างกวนหยวนหันกลับ​มา​ แล้วมองหน้าเขาด้วยแววตาเย็น​ชา

เขาไม่ได้คิดว่ามันไม่ควร

แต่ว่า……

ซ่างกวนเชียนสูดหายใจเข้าลึก “ตกลง ผมจะจัดการให้”

พอได้คำตอบ​ที่พอใจ ซ่างกวนหยวนก็ไม่มีอะไรจะพูดกับเขาอีก เธอจึงเดินผ่านเขาไปที่ประตู

“หยวนหยวน!”ซ่างกวนเชียนตะโกนเรียกไว้กะทันหัน​

เธอหยุดเดิน แต่ไม่หันกลับมามอง

ซ่างกวนเชียนหันกลับไปมองเธอ ในแววตาแฝงไปด้วยความสงสาร “สิ่งที่แย่งเขามา สักวันหนึ่งก็ต้องคืนเขาไป”

แม้ว่าตอนนี้​จิ้นเฟิงเฉินจะความจำเสื่อม แต่​ในอนาคตเขาจะจำทุกอย่าง​ขึ้นมาได้ ถึงตอนนั้น เธอจะทำยังไง​

ซ่างกวนหยวนกำหมัดแน่น ใบหน้าเล็กๆ ของเธอปกคลุม​ไปด้วยความเยือกเย็นบางๆ ก่อนจะพูดอย่างเย็นชาออกมา “เรื่องของฉันคุณไม่ต้อง​มา​ยุ่ง” แล้วเธอก็เดินจากไป

เรื่อง​ของ​ฉันคุณ​ไม่ต้อง​มายุ่งอย่างนั้น​เหรอ​

 

ซ่างกวนเชียนหัวเราะเสียงต่ำ ในรอยยิ้ม​เต็มไปด้วยความขมขื่นและความประชดประชัน​ เขายิ้มอยู่ดีๆ น้ำตาก็ไหลออกมา

ทำไมเธอถึงไม่เข้าใจความรู้สึก​ของเขาบ้างเลย

เขาไม่อยากเห็นเธอทำผิดซ้ำแล้ว​ซ้ำอีก เขาไม่อยากเห็นเธอได้รับบาดเจ็บ​อีก

เขายกมือขึ้นเช็ดน้ำตา ก่อนจะหายใจเข้าลึกๆ ระงับความเศร้าโศกที่มีอยู่ในหัวใจ แล้วแสดงสีหน้าหนักแน่นขึ้นมา

ในเมื่อ​เธอยืนกรานที่จะทำตามที่ใจตัวเอง​ งั้นเขาก็จะเป็นคนร้ายคนนั้นเอง

เขาต้องหยุดเธอไม่ให้ทำเรื่องที่ผิดได้อีกต่อไป

……

โม่เหยียกับหานยู่นำยาที่พัฒนาขึ้นใหม่ กับของอีกอย่างเดินทางมาที่เมืองหลวง​

พอพบพวกเขา เจียงสื้อสื้อก็เดาคำพูด​ของ​พี่ชายของเธอออกทันที “วิธีเป็นคนที่คิดขึ้น​มา”

“คุณหญิง”

โม่เหยียกับหานยู่ทักทายด้วยความเคารพ

เจียงสื้อสื้อยิ้มบาง “ต้อง​รบกวนพวกคุณ​แล้ว​”

“ไม่รบกวน​ครับ” โม่เหยียเดินไปข้างหน้า แล้วยื่นยาที่พัฒนาขึ้นใหม่ออกไป “นี่คือยาตัวใหม่ครับ นอกจากการยับยั้งการแพร่กระจาย​ไวรัสได้แล้ว ยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกายของคุณด้วย”

“ยาไม่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้เลยเหรอ” จิ้นเฟิงเหราถามอย่างสงสัย

เพื่อยาตัวใหม่นี้ โม่เหยียกับหานยู่วิจัย​มาเป็นเวลานาน ไม่น่าจะมีผลลัพธ์​แค่นี้

หานยู่ยกยิ้ม “คุณชายรองครับ ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้ แต่มันต้องใช้เวลาอีกสักระยะครับ แต่พวกเราเองก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะสามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้หนึ่งร้อยเปอร์เซ็น​ต์”

“ไม่เป็นไรคะ แค่สามารถยับยั้ง​การ​แพร่กระจาย​ไวรัส​ได้ก็ดีแล้ว​” เจียงสื้อสื้อกลัวว่าพวกเขาจะโทษ​ตัวเอง​ จึงรีบพูดปลอบ

“คุณหญิงครับ ถ้าคุณรู้สึกผิดปกติ​หลังจากกินยา คุณต้องบอกผมกับหานยู่ทันทีเลยนะครับ” โม่เหยียพูดย้ำเตือน

เจียงสื้อสื้อพยักหน้า “ได้ค่ะ”

ในขณะนี้เอง ฟางยู่เชินที่นั่งเงียบมาตลอด​ก็พูดขึ้น​มา“ของที่บอกให้พวกคุณ​เอามาด้วย ได้เอามาไหม”

“เอามาแล้ว​ครับ”

หานยู่วางกล่องไว้บนโต๊ะ แล้วเปิดออก ข้างในมีหน้ากากหน้ากากซิลิโคน​วางอยู่

จิ้นเฟิงเหราขมวดคิ้ว “นี่คือ?”

“สื้อสื้อไม่ใช่​ว่า​ต้อง​เข้าไปในบ้านตระกูล​ซ่างกวนในฐานะคนรับใช้หรือไง หน้ากากนี้จะช่วยให้เธอเข้าไปในบ้านตระกูล​ซ่างกวนได้อย่างราบรื่น” ฟางยู่เชินพูดอธิบาย

เจียงสื้อสื้อรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “นี่ตั้งใจจะให้ฉันปลอมตัวเข้าไปเหรอคะ”

ถ้าเธอไม่ได้เห็นหน้ากากซิลิโคน​นี้ด้วยตาของเธอเอง เธอคงไม่เชื่อว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นได้จริงๆ

“อืม” ฟางยู่เชินพยักหน้า “ต้องปลอมตัว​เท่านั้น ถึงไม่ทำให้​ซ่างกวนหยวนเกิดความสงสัยได้”

หานยู่วางหน้ากากซิลิโคน​ไว้ในมือของเจียงสื้อสื้อ แล้วสอนวิธีใส่หน้ากากอย่างจริงจัง

จิ้นเฟิงเหราขมวดคิ้ว “พวกคุณแน่ใจเหรอว่ามันจะได้ผล”

ฟางยู่เชินตบไหล่เขา แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ โม่เหยียกับหานยู่เป็นคนของพี่ชายคุณ คุณยังไม่เชื่อพวกเขาอีกเหรอ”

“ผมต้องเชื่อพวกเขาแน่นอน​สิครับ ผมแค่กลัวว่าถ้าพี่สะใภ้ถูกจับได้ขึ้นมา​ จะเป็นอันตรายหรือเปล่า​” นี่คือเรื่องที่จิ้นเฟิงเหรากังวลมากที่สุด

“นายคิดว่าฉันจะให้สื้อสื้อเข้าไปคนเดียวหรือไง”

พอได้ยินแบบนี้ จิ้นเฟิงเหราก็หันกลับมา แล้วถามอย่างไม่แน่ใจ “ดังนั้น​คุณ…”

ฟางยู่เชินยกยิ้ม “คนที่เข้าไปเป็นคนรับใช้​ในบ้านตระกูล​ซ่างกวนในครั้งนี้ เป็นคนที่ฉันจัดเตรียม​ไว้​ทั้งหมด​ วางใจเถอะ สื้อสื้อจะต้อง​ไม่เป็นอะไร​แน่นอน​”

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท