บรรยากาศตึงเครียดเล็กน้อย
มือเหลียงซินเวยที่กำหมัดแน่น จู่ๆก็คลายออก สะบัดมือของฟางยู่เชินออกอย่างแรง “คุณฟาง ขอโทษด้วยนะคะ ฉันช่วยคุณไม่ได้”
พูดจบ เธอเดินไปข้างๆเย่เฉินหยุน เงยหน้ามองเขา มุมปากยกโค้ง “ความสัมพันธ์ของฉันกับเฉินหยุนมั่นคง ดังนั้นต้องขอโทษด้วย เรื่องนี้ฉันช่วยคุณไม่ได้ค่ะ”
เย่เฉินหยุนขมวดคิ้ว ในดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัย นี่เธอกำลังจะทำอะไร
“เวยเวย” ฟางยู่เชินยื่นมืออยากจะดึงเธอไว้ แต่กลับถูกเธอหลบหลีก
เธอหันหน้าไป ในดวงตามีแต่ความเย็นชา พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่แยแสว่า “คุณฟางคะ ฉันเข้าใจว่าคุณอยากจะต่อต้านการหมั้นหมายที่พ่อแม่คุณจัดการให้ แต่ฉันหวังว่าคุณควรจะใช้วิธีที่ดีกว่านี้ ที่ไม่ใช่การหลอกลวง
ในเมื่อพอคุณโกหกเรื่องหนึ่ง ก็ต้องใช้เรื่องโกหกอีกนับไม่ถ้วนเพื่อให้มันสมบูรณ์”
ฟางยู่เชินยิ้ม ยิ้มอย่างจนปัญญา “เวยเวย คุณรู้มั้ยว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่”
เหลียงซินเวยไม่เข้าใจเขา หันไปมองเย่เฉินหยุนพูดว่า ”เฉินหยุน พวกเราไปเถอะ”
เธอลากเย่เฉินหยุนเดินจากไป
ฟางเถิงเป็นฝ่ายตั้งตัวได้ก่อน ถามอย่างสงสัยว่า “ยู่เชิน นี่มันเรื่องอะไรกันแน่”
“คุณลุงฟางคะ นี่คุณลุงยังมองไม่ออกหรือคะ ยู่เชินไม่อยากแต่งงานกับหนู ก็เลยหาผู้หญิงมาคนหนึ่งเพื่อมาหลอกพวกเรา” มุมปากเย่เสี่ยวอี้ยกขึ้นแฝงด้วยความดูถูกเหยียดหยาม
ถือว่าเหลียงซินเวยรู้หลักไหวตัวทัน ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้ไม่จบง่ายๆจริงๆ
ตอนนี้ก็ดูว่าฟางยู่เชินจะจบเรื่องพวกนี้อย่างไร
ฟางยู่เชินหัวเราะออกมา ใบหน้าเยาะหยัน “ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามเรื่องแต่งงาน ผมไม่มีทางยอมรับเด็ดขาด”
ทิ้งท้ายด้วยประโยคนี้แล้ว เขาก็หมุนตัวเดินจากไป
เย่เสี่ยวอี้คิดจะตามไป แต่กลับถูกแม่เย่รั้งตัวไว้ “เอาละ คนเขาก็พูดชัดว่าไม่ชอบลูก ลูกจะยังตามเขาไปทำไมอีก ขายหน้ามั้ย”
ตอนที่พูดประโยคนี้ แม่เย่เหลือบมองฟางเถิงอย่างมีเลศนัย ในคำพูดมีความดูถูกเหยียดหยามแฝงอยู่ชัดเจน
เรื่องนี้ลูกชายตัวเองทำไม่ถูก
คนที่เป็นฝ่ายผิดอย่างก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ พูดว่า “เหล่าเย่ พวกคุณอย่าโกรธเลยนะ ผมจะกลับไปสั่งสอนไอ้ลูกคนนี้สักรอบ”
“ฮึ! ฉันว่าพวกเราคงไม่อาจเอื้อม”
แม่เย่ลากเย่เสี่ยวอี้ไป “พวกเราไปกันเถอะ”
มองเห็นพวกเธอเดินไป ฟางเถิงถอนหายใจอย่างแรง พูดกับพ่อเย่อย่างหมดหนทางว่า “เหล่าเย่ ขอโทษด้วยจริงๆ ที่วันนี้ทำให้พวกคุณเสียความรู้สึก”
พ่อเย่ก้าวมาตบไหล่เขา ให้กำลังใจว่า “ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจยู่เชิน เด็กหนุ่มคนนี้ค่อนข้างมีความคิดเป็นของตัวเอง พวกเราที่เป็นพ่อเป็นแม่จะไปบีบบังคับเขาได้ยังไง ใช่มั้ย”
“งั้นเรื่องแต่งงานล่ะ”
“ก็เอาตามที่พวกเราคุยกันแล้วกัน ฉันเชื่อว่าเสี่ยวอี้ของพวกเราสามารถเปลี่ยนใจยู่เชินได้” พ่อเย่มีความมั่นใจในลูกสาวของตนเองมาก
ฟางเถิงยิ้ม “งั้นก็ดี ทั้งหมดก็ทำตามที่พวกเราได้ปรึกษาหารือกันไว้เรียบร้อยเลยนะ”
……
เหลียงซินเวยลากเย่เฉินหยุนเดินออกจากโรงแรม จนกระทั่งเดินมาเกือบถึงข้างถนนจึงได้หยุดเดิน
เธอมองรถที่วิ่งไปวิ่งมาบนท้องถนน มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มขมขื่น
เย่เฉินหยุนถอนหายใจเบาๆ “เวยเวย เธอทำให้ตัวเองเจ็บปวดแบบนี้ไปเพื่ออะไร”
เหลียงซินเวยยิ้ม หันมามองเขา “คุณคิดว่าฉันทำไม่ถูกเหรอคะ”
“ก็ไม่ใช่ว่าไม่ถูก ก็แค่……”
เธอทำแบบนี้เท่ากับทำร้ายฟางยู่เชินอย่างไม่ต้องสงสัย เขาที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ข้างๆคนหนึ่งก็สามารถมองออกได้อย่างชัดเจนว่า ฟางยู่เชินชอบเธอ
เหลียงซินเวยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “ฉันกับเขาสองคนอยู่กันคนละโลก เขาต้องการภรรยาที่สามารถช่วยเหลือเขาในด้านธุรกิจได้ แต่ฉันทำไมได้”
หากต้องให้ตนเองตกอยู่ในความสัมพันธ์ที่ไม่มีข้อสรุปแบบนี้ สู้พยายามตัดใจไปตั้งแต่แรกดีกว่า
เย่เฉินหยุนขมวดคิ้ว “คุณคิดว่าเขาต้องการเหรอ”
“เขาไม่ต้องการเหรอ” เหลียงซินเวยย้อนถาม เธอมองไปที่ถนนอีกครั้ง เม้มปาก “แม้ว่าเขาจะไม่ต้องการ แต่พ่อแม่เขาต้องการนี่”
“ถ้าเป็นผม ผมไม่ต้องการภรรยาที่จะมาช่วยเหลือผมในทางธุรกิจ แต่ผมต้องการคนรักที่รักผมด้วยความจริงใจสักคน”
เย่เฉินหยุนเอามือวางบนบ่าเธอ ถอนหายใจพูดว่า “จำไว้ตลอดว่าอย่าประเมินการตัดสินใจของผู้ชายต่ำเกินไป”
เหลียงซินเวยหันไปมองเขา คิ้วเรียวขมวดมุ่น ไม่เข้าใจความหมายของเขา เย่เฉินหยุนยิ้มบางๆ “เขามาแล้ว คุณพูดกับเขาเองเถอะ”
พูดจบ เขาก็หันหน้าไป แสดงความหมายให้เธอมองไปข้างหลัง
เหลียงซินเวยหันหน้าไป ก็มองเห็นฟางยู่เชินที่ยืนอยู่ไม่ไกล เขาหันหลังให้แสง มองเห็นไม่ชัดว่าตอนนี้เขามีสีหน้าอย่างไร
“พูดคุยกับเขาดีๆล่ะ” เย่เฉินหยุนตบที่ไหล่เธอ ก้าวขาเดินไปทางโรงแรม
เหลียงซินเวยยืนอยู่กับที่ สองมือที่ห้อยอยู่ข้างลำตัวค่อยๆกำแน่นขึ้น
ฟางยู่เชินค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ทีละก้าวๆ นัยน์ตาดำขลับราวน้ำหมึกจ้องเธอเขม็ง
“ทำไมคุณทำแบบนั้น” เขาขยับริมฝีปากบาง ถามว่า
เหลียงซินเวยกัดริมฝีปาก ไม่พูดอะไร
ฟางยู่เชินฉีกยิ้มอย่างสมเพชตัวเอง “คุณชอบเย่เฉินหยุนจริงเหรอ”
เหลียงซินเวยบีบมือแน่น ฝืนยิ้มออกมา แกล้งท่าทางเหมือนสบายดีมาก พูดว่า “ใช่ ฉันชอบเขามาก”
ฟางยู่เชินมองเธออย่างเงียบๆ ไม่พูดไม่จา
รอบๆตัวเงียบสงบลง มีเพียงเสียงรถที่ดังมาจากถนน
นานพักใหญ่ ฟางยู่เชินจึงค่อยๆพูดว่า “คุณกำลังโกหก”
เหลียงซินเวยยิ้มอ่อนๆ “คุณมองออกจากตรงไหนว่าฉันกำลังโกหก พี่ฟาง บางทีคุณน่าจะรับความคิดเห็นของพ่อแม่คุณไปพิจารณา แต่งงานกับเย่เสี่ยวอี้จะมีผลดีช่วยเหลือคุณได้”
“นี่คุณกำลังเกลี้ยกล่อมให้ผมแต่งงานกับคนที่ผมไม่รักเหรอ” ฟางยู่เชินถามด้วยเสียงเคร่งขรึม
ขนตาเหลียงซินเวยห้อยลง หลบเลี่ยงนัยน์ตาลึกล้ำของเขา พูดว่า “ความรู้สึกเป็นสิ่งที่สามารถค่อยๆบ่มเพาะได้ ไม่แน่คุณอาจจะชอบคุณหนูเย่”
“ไม่มีทาง!” น้ำเสียงของฟางยู่เชินมั่นใจอย่างมาก
ไม่ว่าเขาจะชอบหรือไม่ชอบเธอ ความจริงแล้วไม่เกี่ยวอะไรกับเธอเลย
เธอคลี่ยิ้มมุมปาก พูดเบาๆว่า “พี่ฟาง ฉันเหนื่อยแล้ว ฉันอยากกลับบ้านพักผ่อน”
พูดจบ เธอก็หมุนตัวเตรียมจะเดินจากไป
ฟางยู่เชินรีบยื่นมือมาจับข้อมือเธอไว้ น้ำเสียงร้อนรนเล็กน้อย “คุณดูไม่ออกเลยเหรอว่าผมรู้สึกยังไง”
เหลียงซินเวยหลับตา มุมปากโค้งขึ้น “พี่ฟาง พวกเราไม่เหมาะสมกัน”
เธอออกแรงสะบัดมือเขาออก เดินก้าวยาวๆไปที่ถนน โบกมือเรียกแท็กซี่หนึ่งคัน
ฟางยู่เชินได้แต่ยืนอยู่ที่เดิม มองเธอขึ้นรถจากไป
พอเข้ามานั่งในรถ ก็แจ้งชื่อสถานที่ เหลียงซินเวยหันไปมองวิวข้างทางนอกหน้าต่างรถ น้ำตาค่อยๆไหลลงมาจากหางตา
ขอโทษนะคะ พี่ฟาง
เธอไม่อยากฟางยู่เชินต้องมาทะเลาะกับพ่อตัวเองเพราะเธอ
เขาชอบเธอ เธอก็ดีใจมากแล้ว แต่ความสัมพันธ์นี้เธอไม่กล้าที่จะคาดหวัง
คิดมาถึงตรงนี้ น้ำตาก็ยิ่งไหลพราก
คนขับรถอดหันไปมองเธอไม่ได้ ถามอย่างเป็นห่วงว่า “คุณผู้หญิง ทะเลาะกับแฟนเหรอครับ”
พอเหลียงซินเวยได้ยิน รีบเช็ดน้ำตา ฝืนยิ้มออกมา “ไม่ใช่ค่ะ”
คนขับรถมองเธออีก “ไม่เป็นไรครับ ทะเลาะกับแฟนไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไร อีกอย่างยิ่งทะเลาะกันความสัมพันธ์ก็ยิ่งดีขึ้นนะครับ”
เหลียงซินเวยยิ้ม ไม่ได้พูดอะไร หันไปมองนอกหน้าต่างอีก
เสียงคนขับกำลังเล่าเรื่องเขาและภรรยาของเขาดังอยู่ข้างหู เธอก็ค่อยๆ ยิ้มที่มุมปาก
บางที เธอควรจะมีความรักแล้วจริงๆ