เจียงสื้อสื้อตื่นมาตอนเช้า พอเปิดประตูออก ก็เห็นป้าเฉินที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าประตู
ตอนที่ป้าเฉินเห็นหน้าเธอ ก็ทำหน้าไม่ค่อยถูกเท่าไหร่ “ซูหยุน ฉัน……”
“ป้าเฉิน มีอะไรมั้ยค่ะ?”
เจียงสื้อสื้อยังคงทำตัวเหมือนเดิม เหมือนเมื่อคืนไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย
“ไม่มีอะไร”
มันทำให้ป้าเฉินยิ่งทำตัวไม่ถูกเข้าไปอีก เธอยิ้มออกมาอย่างเขินๆ ทีหนึ่ง “คะ……คุณหนูบอกว่าตั้งแต่วันนี้ให้เธอไปช่วยงานที่สวนหลังบ้านน่ะ”
“สวนหลังบ้านเหรอคะ?” เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว
“ใช่ สวนหลังบ้าน คุณหนูบอกให้เธอช่วยดูแลดอกมั้ยในโรงเรือน”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า “ได้ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว”
พอเห็นป้าเฉินเดินจากไป เจียงสื้อสื้อก็เบ้ปาก พร้อมกับสีหน้าที่รู้สึกรำคาญ
ซ่างกวนหยวนเกลียดขี้หน้าเธอมากขนาดไหนเนี่ย ถึงขั้นสั่งให้เธอไปทำงานที่สวนหลังบ้านแบบนี้
ถ้าเป็นแบบนี้ เธอก็ได้เจอเฟิงเฉินยากขึ้นกว่าเดิมอีกนะสิ
พอคิดถึงตรงนี้ เจียงสื้อสื้อก็ห่อไหล่ลงด้วยความท้อใจ แล้วถอนหายใจออกมายาวๆ
หวังว่าจะได้กลับไปช่วยงานที่ห้องครัวเร็วๆ นะ
พอได้รู้ว่าเจียงสื้อสื้อถูกสั่งให้ไปอยู่ที่หลังบ้าน ซ่างกวนเชียนก็รู้สึกแปลกใจมาก
“ทำไมถึงสั่งให้เธอไปทำงานที่สวนหลังบ้านล่ะ?” เขาถามพ่อบ้านด้วยความสงสัย
“คุณหนูเป็นคนสั่งครับ”
ซ่างกวนเชียนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะดี “นี่หยวนหยวนเป็นอะไรกันแน่ ถึงได้กลั่นแกล้งคนที่มาใหม่ได้หนักขนาดนี้?”
“คุณชายครับ ผมมีเรื่องที่อยากพูดแต่ไม่รู้ว่าจะพูดได้รึเปล่า?” พ่อบ้านรู้สึกลังเล
ซ่างกวนเชียนยิ้ม “ลุงจาง ลุงอยากพูดอะไรก็พูดก็พูดมาได้เลย”
พ่อบ้านคิดๆ จึงได้พูดเสนอไปว่า “คุณชายครับ ในเมื่อคุณหนูไม่ชอบซูหยุนขนาดนั้น ผมว่าเอาเงินซูหยุนสักก้อนแล้วบอกให้เธอจากไปดีจะกว่า”
พอได้ยินแบบนั้น ซ่างกวนเชียน ก็ขมวดคิ้ว “ลุงจางครับ ลุงคิดว่าการทำแบบนี้มันถูกต้องเหรอครับ?”
“ผมรู้ว่าการทำแบบนี้มันไม่ยุติธรรมกับตัวซูหยุน แต่……คุณชายลองคิดดูสิครับ ขอแค่ซูหยุนจากไป ในบ้านก็จะกลับมาสงบอีกครั้ง ไม่ใช่เหรอครับ?”
ซ่างกวนเชียนทำเสียงฮึดฮัด “แสดงว่าถ้าต่อไปหยวนหยวนไม่ชอบใครก็ต้องไล่ออกทุกคนเลยใช่มั้ย?”
“คือ……” พ่อบ้านพูดอะไรไม่ออกทันที
“ลุงจาง ในเมื่อเราจ้างเธอมา เราก็ต้องทำตามสัญญาที่เซ็นไว้ นอกจากอีกฝ่ายจะทำผิดจริงๆ ไม่อย่างนั้นก็ห้ามไล่คนออกอย่างตามใจชอบเด็ดขาด”
ซ่างกวนเชียนจ้องมองพ่อบ้านด้วยสีหน้าที่จริงจัง
“คุณชาย ผมขอโทษครับ ผมแค่สับสนไปชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น”
“ไม่เป็นไร” ซ่างกวนเชียนตบๆ ที่ไหล่ของเขา “ต่อไปอย่ามีความคิดแบบนี้อีกล่ะ”
พ่อบ้านก้มหน้าลงด้วยความสุภาพ “ครับ”
“ผมขอไปดูที่สวนหลังบ้านหน่อย”
ซ่างกวนหยวนหมุนตัวแล้วเดินไปยังสวนหลังบ้าน
ในขณะเดียวกัน ซ่างกวนหยวนก็ลงมาจากชั้นบนพอดี พอเห็นแบบนั้น จึงได้ถามไปว่า “นั่นเขาจะไปไหน?”
“คุณชายจะไปดูที่สวนหลังบ้านครับ”
สวนหลังบ้านเหรอ?
ซ่างกวนหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย นี่เขาจะไปดูสวนหลังบ้านหรือจะไปหาซูหยุนกันแน่นะ?
การได้อยู่ที่สวนหลังบ้าน นอกจากเรื่องที่ได้เจอเฟิงเฉินยากแล้ว อย่างอื่นก็ดีมาก
เจียงสื้อสื้อถอนรดน้ำดอกไม้ไป ถอนหายใจไป
ถึงดอกไม้จะสวย แต่เธอก็ไม่มีอารมณ์ที่จะชื่นชมพวกมัน ในใจเอาแต่คิดว่าต้องทำยังไงถึงจะได้เจอเฟิงเฉิน
“ซูหยุน”
จู่ๆ เสียงที่คุ้นเคยก็ดังเข้ามาในหู
เธอหันไปมอง แล้วก็พบว่าเป็นซ่างกวนเชียน เธอรีบวางบัวรดน้ำลง จากนั้นก็รีบเดินเข้าไปหาเขา
“คุณมาได้ยังไงคะ?” เจียงสื้อสื้อถามด้วยความสงสัย
ซ่างกวนเชียนมองไปรอบๆ พอเห็นว่าไม่มีใครอยู่ ถึงได้พูดออกไปว่า “ฉันแค่มาดู คุณอยู่ที่นี่เป็นยังไงบ้างครับ?”
เจียงสื้อสื้อยักไหล่ “นอกจากไม่ได้เจอเขา เรื่องอื่นก็ราบรื่นดี”
พอได้ยินแบบนั้น ซ่างกวนเชียนก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “มันก็จริง การที่ได้มาอยู่ข้างหลัง ทั้งเดือนยังอาจจะไม่ได้เจอหน้าเขาเลย”
“ดังนั้น……คุณหาทางช่วยฉันหน่อยนะคะ” เจียงสื้อสื้อยักคิ้วให้เขา
“ผมเองก็อยากช่วย แต่ตอนนี้ไม่ได้”
“ทำไมล่ะคะ?” เจียงสื้อสื้อสีหน้าเศร้าสร้อยลงไปทันที แล้วมองเขาด้วยสายตาที่ไม่พอใจ
“ถ้าผมช่วยคุณตอนนี้ มันจะทำให้หยวนหยวนสงสัยหนักยิ่งกว่าเดิมไม่ใช่เหรอครับ?”
“อันนี้ฉันรู้ แต่จะให้ฉันอยู่แต่ที่สวนหลังบ้านแบบนี้ไปตลอดก็คงไม่ได้ ถูกมั้ยล่ะคะ?” เจียงสื้อสื้อถอนหายใจออกมา “การที่ฉันมาที่บ้านตระกูลซ่างกวน ไม่ได้มาเพื่อดูแลดอกไม้พวกนี้ แต่ฉันมาเพื่อเฟิงเฉินต่างหาก”
เธอเริ่มใส่อารมณ์แล้ว ซ่างกวนเชียนจึงรีบพูดปลอบไปว่า “ผมรู้ครับ แต่เราจะใจร้อนไม่ได้ คุณไม่ใช่ไม่รู้สักหน่อยว่านิสัยของเวยเวยนั้นเป็นยังไง”
“ก็ได้ แล้วคุณคิดว่าควรทำยังไงดีคะ?” เจียงสื้อสื้อถาม
ซ่างกวนหยวนครุ่นคิด แล้วพูดไปว่า “คุณอยู่ที่นี่ไปก่อน อีกไม่กี่วันผมจะหาเหตุผลให้คุณกลับเข้าไปช่วยในครัวเองครับ”
เจียงสื้อสื้ออดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา แล้วพูดเยาะเย้ยตัวเองว่า “คนที่ไม่รู้คงคิดว่าฉันมาเป็นสายลับอยู่ที่นี่แน่เลย”
“ยังไงก็ตาม คุณก็อยู่ตรงนี้อย่างใจเย็นไปก่อน เดี๋ยวผมจะหาทางช่วยคุณเองครับ”
พูดจบ ซ่างกวนเชียนก็หันหลังแล้วเดินจากไปเลย
มองดูเขาเดินออกจากโรงเรือนไปแล้ว เจียงสื้อสื้อก็ได้ทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ ยอมรับชะตากรรมแล้ว
ในเมื่อเข้ามาแล้ว ก็ต้องอยู่อย่างสบายใจให้ได้
พอซ่างกวนเชียนเดินออกจากโรงเรือน ก็เห็นซ่างกวนหยวนที่ยืนอยู่ข้างนอกทันที เท้าของเขาหลุดลงอย่างกะทันหัน
“พี่ใหญ่ ไม่นึกเลยว่าพี่จะเป็นห่วงคนใช้คนหนึ่งได้ขนาดนี้?” ซ่างกวนหยวนพูดประชด
ซ่างกวนเชียนเดินมาข้างหน้า ยิ้มออกมาเล็กน้อย “ตื่นมาแล้วทำไมไม่ไปกินข้าวเช้าก่อนล่ะ?”
“ถ้าฉันไปกินข้าวเช้าก่อน ก็คงไม่ได้เห็นภาพที่น่าสนใจนี่แล้วสิคะ” รอยยิ้มที่ประชดของเธอชัดเจนยิ่งกว่าเดิม
ซ่างกวนเชียนหันมองกลับไปที่โรงเรือน แล้วพูดด้วยความใจเย็นว่า “ฉันแค่เข้ามาดูว่าเธออยู่ได้รึเปล่า และไม่ได้มีเจตนาอื่นเลย”
“จริงเหรอคะ? ทำไมฉันถึงรู้สึกว่ามันไม่น่าเชื่อถือเลยล่ะ?”
“ถ้าเธอไม่เชื่อ ฉันก็ช่วยไม่ได้ ยังไงในสายตาของเธอ ไม่ว่าฉันจะทำอะไร เธอก็รู้สึกว่ามีอะไรแอบแฝงอยู่แล้ว”
ในตอนนี้ ซ่างกวนเชียนไม่อยากอธิบายต่อแล้ว
ซ่างกวนหยวนพยักหน้า “ใช่ ไม่ว่าพี่จะทำอะไรก็มีบางอย่างแอบแฝงจริงๆ ยกตัวอย่างเช่น เริ่มแรกที่พี่มอบหมายให้เธอมารับผิดชอบดูแลเฟิงเฉิน พี่ก็แค่อยากใช้เธอมาเข้าใกล้เฟิงเฉินไม่ใช่เหรอคะ?”
สายตาของซ่างกวนเชียนกระตุกเล็กน้อย ริมฝีปากเม้มจนกลายเป็นเส้นตรง และไม่ได้ตอบอะไร
“แวบแรกที่ฉันเห็นเธอ ฉันก็รู้สึกไม่ชอบเธอแล้ว ดูแล้วตอนนี้สัญชาตญาณของฉันมันจะถูกจริงๆ”
ถ้าวันนั้นเธอไม่ได้บังเอิญมาเจอพ่อบ้านที่พาคนใช้ใหม่เข้ามา เธอก็คงไม่รู้ว่าซ่างกวนเชียนตั้งใจส่งคนมาจับตาดูเฟิงเฉินเอาไว้
ซ่างกวนเชียนยิ้มออกมา “นี่หยวนหยวน ฉันเป็นพี่ใหญ่ของเธอนะ ถึงแม้เราจะไม่ใช่สายเลือดเดียวกันก็ตาม แต่สำหรับฉันแล้วไม่ว่าจะทำเรื่องอะไร ผลประโยชน์ของเธอก็ต้องมาก่อน และฉันไม่เคยคิดที่จะทำร้ายเธอเลย”
“แล้วซูหยุนนั่นมันเรื่องอะไรเหรอคะ?” ซ่างกวนหยวนถลึงตาใส่เขาอย่างไม่พอใจ
“เธอ……” ซ่างกวนหยวนชะงักไปพักหนึ่ง “ซูหยุนก็เป็นแค่คนใช้คนหนึ่งเท่านั้น เธอไม่ต้องหมั่นไส้ซูหยุนมากนักก็ได้”
ซ่างกวนหยวนหรี่ตาลง “ฉันไม่ได้หมั่นไส้เธอ ฉันแค่รู้สึกไม่ชอบเธอเท่านั้น!”
“เพราะอะไร? เธอช่วยให้เหตุผลฉันหน่อยได้มั้ย”
ไม่มีใครที่จะไม่ชอบหรือเกลียดคนคนหนึ่งโดยไม่มีสาเหตุหรอก
สายตาของซ่างกวนหยวนมองทะลุไปยังเจียงสื้อสื้อที่อยู่ในโรงเรือน หยวนหยวนเปิดปาก “เป็นเพราะเจียงสื้อสื้อ”
พอได้ยินคำว่า “เจียงสื้อสื้อ” นัยน์ตาของซ่างกวนเชียนก็หดเล็กลงทันที หรือว่าเธอรู้ความจริงแล้ว?
“เพราะว่าตาของเธอมันเหมือนกับของเจียงสื้อสื้อ”
คำพูดต่อมาของซ่างกวนหยวนทำให้หัวใจที่ตื่นเต้นของซ่างกวนเชียนเมื่อกี้กลับไปสงบอีกครั้ง เขาแอบโล่งอกในใจแล้ว ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “สรุปคือ เธอแค่ไม่ชอบเจียงสื้อสื้อ แต่ไม่ได้ไม่ชอบซูหยุน”
“ประมาณนั้น” ซ่างกวนหยวนจ้องเขม็งมาที่เขา “อย่าให้ฉันรู้นะว่าระหว่างพี่กับเธอมีอะไรปิดบังอยู่ ไม่อย่างนั้นแม้แต่พี่ฉันก็จะไม่ปรานี”
พูดจบ หันหลังแล้วเดินจากไป
คำเตือนในคำพูดของเธอ ทำให้ซ่างกวนเชียนต้องยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มที่มีแต่ความขมขื่น
ที่แท้ในสายตาของเธอ เขาอยู่แค่ระดับเดียวกับคนใช้เท่านั้น