“นี่เธอกำลังไล่ฉัน?” จิ้นเฟิงเฉินยิ้มแล้วมองเธอ
เจียงสื้อสื้อลุกขึ้น แล้วก็ปัดฝุ่นที่ก้น พูด “ฉันมีเรื่องต้องยุ่งค่ะ ไม่มีเวลาคุยเป็นเพื่อนคุณ”
ซ่างกวนหยวนจะกลับมาแล้ว ถ้าเกิดหล่อนเห็นว่าเฟิงเฉินอยู่กับเธอที่นี่ ต้องไล่เธอออกไปแน่
เดิมทีก็แค่อยากจะอาศัยโอกาสนี้อยู่กับเฟิงเฉินเป็นการส่วนตัว ดูว่าสามารถที่จะทำให้เขานึกถึงเรื่องในอดีตได้ไหม
ถ้าเกิดเธอโดนไล่ออกจากบ้านตระกูลซ่างกวนเพราะเรื่องนี้ งั้นก็เสียแรงเปล่าแน่ๆ
ยิ่งคิดในใจก็ยิ่งกลัว
เจียงสื้อสื้อก็ได้ลงมือ ได้ผลักจิ้นเฟิงเฉินออกจากบ้านดอกไม้
“คุณรีบขึ้นไปเถอะ ไว้ค่อยหาเวลาคุยกันทีหลัง”
คนที่เรียกเขามาเป็นเธอ คนที่จะให้เขารีบขึ้นไปก็เป็นเธอ
คิดจะเรียกก็เรียกคิดจะไล่ก็ไล่?
เห็นว่าเขายังยืนมองตนด้วยความสงสัยไม่ขยับ เจียงสื้อสื้อก็ได้พูดด้วยน้ำเสียงร้อนใจ “คุณรีบขึ้นไปเถอะค่ะ!”
เวลานี้ เธอได้ลืมไปแล้วว่าตัวเองเป็นแค่คนใช้ ท่าทางไม่ดีเล็กน้อย
แต่ว่าจิ้นเฟิงเฉินไม่ได้รู้สึกโมโห ถึงขั้นรู้สึกว่าได้มาความคุ้นเคยอย่างประหลาดถาโถมเข้ามา
—— “เฟิงเฉิน ฉันไม่อนุญาตให้คุณดูเอกสารแล้ว รีบไปนอนกับฉันเดี๋ยวนี้นะคะ”
ข้างหูอยู่ๆ ก็ได้มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น
เป็นน้ำเสียงที่โมโหแท้ๆ แต่กลับมีการออดอ้อนปนมาเล็กน้อย
คิ้วของจิ้นเฟิงเฉินขมวดแน่น สีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย นี่เป็นใคร?
สีหน้าของเขาไม่ดี เจียงสื้อสื้อก็ได้รีบถามไปด้วยความเป็นห่วงว่า “คุณเป็นอะไรไปเหรอ?”
จิ้นเฟิงเฉินดึงสติกลับมา ก็ได้เจอกับสายตาที่เป็นห่วงของเธอ ส่ายหน้า “ผมไม่เป็นไร”
“ไม่เป็นไรจริงเหรอคะ?” เจียงสื้อสื้อไม่วางใจ
“อืม” จิ้นเฟิงเฉินยิ้ม “ผมขึ้นไปก่อนนะ”
มองแผ่นหลังที่ได้เดินจากไปของเขา เจียงสื้อสื้อก็ได้ขมวดคิ้ว มักรู้สึกว่าเหมือนเขามีตรงไหนไม่ปกติไป?
คงไม่เป็นเพราะว่าไม่สบายอีกแล้วนะ?
พอคิดว่าอาจเป็นเพราะร่างกายของเขาไม่แข็งแรง เจียงสื้อสื้อก็โมโห โกรธแค้นซ่างกวนหยวน
จิ้นเฟิงเฉินเป็นคนที่ร่างกายแข็งแรงมาตลอด แต่ว่าตั้งแต่หายตัวไป ไม่รู้ว่าซ่างกวนหยวนทำอะไรกับเขาไปบ้าง ทำให้ร่างกายของเขาแย่ลง
รอให้เขาฟื้นความจำมาแล้ว เธอต้องบำรุงร่างกายให้เขาอย่างดี
แต่ว่า……เมื่อไหร่เขาจะฟื้นความทรงจำล่ะ?
พอคิดถึงตรงนี้ เจียงสื้อสื้อก็หงุดหงิดขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
เธอได้มองไปที่ชั้นสอง สายตาก็ได้ส่องประกายความแน่วแน่ออกมา ไม่ว่ายังไง ก็ได้ทำทุกอย่างเพื่อให้เฟิงเฉินฟื้นความจำให้ได้!
……
ฟางยู่เชินกลับไปถึงบริษัท ก็ได้เดินเข้าห้องทำงาน สายภายในของผู้ช่วยก็ได้โทรเข้ามา
“ประธานครับ รองประธานมาหาคุณครับ”
ฟางยู่เชินขมวดคิ้ว ฟางอี้หมิงมาหาเขาทำไม?
“ให้เขาเข้ามา”
ฟางอี้หมิงก็ได้ผลักประตูเข้ามา ก็ได้เห็นฟางยู่เชินนั่งอยู่ที่เก้าอี้ทำงานให้ห้อง สายตาก็ได้ส่องความอิจฉาริษยามาเล็กน้อย
ถ้าไม่เป็นเพราะว่าคุณท่านลำเอียง ที่นั่งตรงนั้นควรที่จะเป็นของเขา!
“มีธุระอะไรไหม?” ฟางยู่เชินเงยหน้า สายตาได้มองเขาเรียบๆ
ฟางอี้หมิงก็ได้เดินไป “สองวันนี้บริษัทยาในต่างประเทศได้มาติดต่อฉัน บอกว่าอยากจะมาร่วมงานกับพวกเรา ฉันมาปรึกษาเรื่องนี้กับนาย”
“ร่วมงาน?” มุมปากของฟางยู่เชินก็ได้ยิ้มประชดสักพัก “คราวนี้ทำไมนายรู้ที่จะมาปรึกษาฉันแล้วล่ะ?”
ฟางอี้หมิงไม่โง่ ก็ต้องฟังคำพูดประชดของเขาออกแน่นอน ถึงแม้สีหน้าได้เปลี่ยนไปไม่ดีเล็กน้อย แต่ก็ยังพูดว่า “ก่อนหน้าฉันเองที่ไม่ดี หวังว่านายไม่ต้องเก็บไปใส่ใจ”
ไม่ให้เขาเก็บไปใส่ใจ?
นี่คืออยากให้เขานั้นคิดว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน?
คราวก่อนก็เป็นเพราะว่าเขาได้แอบเซ็นสัญญาร่วมงานกับSAกรุ๊ป ทำให้บริษัทขาดทุนไปแล้วเท่าไหร่ ชาตินี้เขาไม่มีทางลืมแน่
แต่ว่าฟางยู่เชินไม่อยากที่จะคุยเรื่องนี้ ก็ได้ถาม “บริษัทไหนในต่างประเทศ?”
“A&Zกรุ๊ป”
พอได้ยินชื่อบริษัทนี้ ฟางยู่เชินก็ได้ประหลาดใจมากๆ “A&Z? นายกำลังล้อเล่นเหรอ?”
“ฉันไม่ได้ล้อเล่น คนที่รับผิดชอบของพวกเขามาติดต่อฉันจริง และก็ได้พูดออกมาอย่างชัดเจนแล้วว่าอยากจะร่วมงานกับพวกเรา”
ฟางยู่เชินคิดไปสักพัก ถามออกไปว่า “พวกเขาอยากจะร่วมงานด้านไหน? ยา? หรือว่าด้านอื่น?”
“A&Zกรุ๊ปหมายที่จะมาขยายธุรกิจในประเทศเรา ต้องการพันธมิตร ให้พวกเขานั้นสามารถที่จะเปิดตลาดในประเทศอย่างรวดเร็ว”
ฟางยู่เชินเลิกคิ้ว “ความหมายก็คืออยากที่จะเลุงฟางซื่อกรุ๊ปเป็นกระดานปูทาง?”
ได้ยินแบบนั้น ฟางอี้หมิงก็ได้ขมวดคิ้ว “ทำไมนายถึงคิดแบบนั้น? ไม่แน่อยากจะวินวินทั้งคู่ล่ะ?”
“วินวินทั้งคู่?” ฟางยู่เชินก็ได้หลุดขำออกมา “เท่าที่ฉันดูนะ ฟางซื่อกรุ๊ปเป็นกระดานปูทาง พอตลาดของA&Zได้มั่งคงในประเทศแล้ว ก็ต้องรีบเขี่ยฟางซื่อกรุ๊ปแน่นอน”
ฟางอี้หมิงไม่คิดแบบนั้น “บริษัทต่างประเทศที่ต้องการมีตลาดที่มั่นคงในประเทศ ต้องใช้เวลาไม่น้อย และฟางซื่อกรุ๊ปของพวกเรามีชื่อเสียงในประเทศนานแล้ว พวกเขากล้าที่จะใช้แล้วทิ้งเหรอ?”
“ทำไมไม่กล้า?” ฟางยู่เชินลุกขึ้น เดินไปตรงหน้าหน้าต่างสไตล์ฝรั่งเศส ก็ได้ก้มมองถนนที่อยู่ข้างล่าง หัวเราะเบาๆ “ตลาดในประเทศมีแค่นี้ พวกเราก็ไม่ใช่ว่าไม่มีความสามารถ ทำไมต้องแบ่งเค้กให้คนอื่นล่ะ?”
ฟางอี้หมิงคิดไม่ถึงจุดนี้
เขาก็ได้เงียบไป
ฟางยู่เชินหันไป มองเขาด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “การร่วมงานนี้ฉันไม่ตกลง นายสามารถที่จะปฏิเสธไปเลย”
ฟางอี้หมิงยังคิดที่จะอาศัยการร่วมงานนี้พลิกสถานการณ์ เปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของเขาในสายตาพวกผู้บริหาร
“ยู่เชิน นายลองคิดดูดีๆ A&Z เป็นบริษัทที่ใหญ่ พวกเขาไม่มีทางที่จะทำอะไรที่เป็นการทำให้ฟางซื่อกรุ๊ปเสียผลประโยชน์แน่ นายต้องเชื่อฉัน เชื่อคนที่จะร่วมงาน”
ฟางยู่เชินมองเขาเงียบๆ สักพัก พูดไปตรงๆ ว่า “ฉันไม่เชื่อใจนาย”
ฟางอี้หมิงคิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดออกมาตรงๆ แบบนี้ ก็ได้อึ้งไปสักพัก ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร
“ยังมีเรื่องอื่นไหม?” ฟางยู่เชินถาม
“ไม่มีแล้ว”
ฟางอี้หมิงได้ขยับปาก อยากที่จะกล่อมเขาเรื่องร่วมงาน แต่ว่าคำพูดได้มาถึงที่ปากก็ได้กลืนกลับเข้าไป
ถ้าเกิดการร่วมงานนี้มีคนอื่นมาพูด ไม่แน่ฟางยู่เชินอาจจะพิจารณา
ฟางอี้หมิงเข้าใจดีว่าฟางยู่เชินได้จงใจที่จะขัดเขา แต่ก็ทำอะไรเขาไม่ได้
ใครให้เขาเป็นประธานบริษัทล่ะ?
“ยู่เชิน นายต้องเสียใจทีหลังแน่”
พูดประโยคนี้จบ ฟางอี้หมิงก็ได้หันหลังเดินออกไป
มองประตูที่ถูกปิดลง ฟางยู่เชินก็ได้ขำออกมา เขาเสียใจทีหลัง?
ไม่ว่าใครก็สามารถที่จะเสียใจทีหลัง แต่ว่าเขาไม่มีทางที่จะเสียใจทีหลัง
การที่A&Zได้พูดว่าจะร่วมงานกับฟางซื่อกรุ๊ปนั้น ต้องไม่เพียงแค่ที่จะเข้ามามีตลาดในประเทศแน่ เพื่อความปลอดภัย เขาไม่สามารถที่จะไปเสี่ยงได้
ต่อให้การร่วมงานสามารถที่จะวินวินทั้งคู่ได้ แต่ต้องไปสืบมาให้ละเอียดก่อนถึงจะถูก
กลับไปถึงห้องทำงานของตัวเอง ฟางอี้หมิงก็ได้โมโหจนปัดของที่อยู่บนโต๊ะลงพื้นทั้งหมด
สองมือเขาได้เท้าเอว สีหน้าได้เคร่งเครียดจนน่ากลัว
“ฟางยู่เชิน!” เขาก็ได้กัดฟันแล้วก็บีบสามคำนี้ออกมา
กว่าจะมีโอกาสที่จะทำให้เขาพลิกตัวแบบนี้ได้ กลับถูกฟางยู่เชินกดลงไป
ฟางยู่เชินไม่เห็นด้วย เขาก็ไปหาวิธีอื่น
ไม่ว่ายังไง เขาก็ต้องร่วมงานกับA&Zให้ได้!