ซ่างกวนหยวนค่อยๆ ใจเย็นลง ริมฝีปากสีแดงแย้มขึ้น “คุณน้าคะ คุณน้าก็อายุปูนนี้แล้ว ยังจะมาทำให้ฉันลำบากใจอีกทำไมคะ?”
“ฉันทำให้เธอลำบากใจอย่างนั้นเหรอ?” ซ่างหยิงนึกว่าตัวเองได้ยินผิด “จะบอกว่าเธอไม่ได้ทำผิดมาก่อนเหรอ?”
ซ่างกวนหยวนส่ายหน้า “ผิดเหรอคะ? ฉันไม่ผิดเลยสักนิด”
เธอหันข้างไปจับมือจิ้นเฟิงเฉิน
พอเห็นแบบนั้น เจียงสื้อสื้อก็กำมือแน่น กำจนข้อนิ้วซีดไปหมด
“ตอนนั้นสถานการณ์ของเฟิงเฉินนั้นอันตรายมาก ฉันเป็นคนที่ช่วยเขาไว้ ถ้าไม่มีฉัน ตอนนี้เขาก็ไม่มีทางได้มายืนอยู่ตรงหน้าพวกคุณแน่นอน”
ซ่างกวนหยวนพูดทุกคำออกมาอย่างชัดเจน สิ่งที่จะสื่อก็คือต้องการให้พวกเธอรู้สึกซาบซึ้งกับสิ่งที่เธอทำ
“นี่เธอกำลังดูถูกเฟิงเฉินอยู่ใช่มั้ย?” ซ่างหยิงถาม
ซ่างกวนหยวนขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจคำพูดของเธอ
แล้วซ่างหยิงก็พูดต่อว่า “ด้วยความสามารถของเฟิงเฉิน เขาสามารถเอาตัวรอดด้วยตัวเองได้ ไม่โดยไม่ต้องให้เธอช่วยอยู่แล้ว”
พอได้ยินแบบนั้น ซ่างกวนหยวนก็หัวเราะออกมา ราวกับได้ฟังเรื่องตลกอะไรเข้า หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข
เจียงสื้อสื้อหันมาสบตากับซ่างหยิง จากนั้นก็หันไปมองเธอด้วยความสงสัย
ผ่านไปไม่นาน ซ่างกวนหยวนก็หยุดหัวเราะ ยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาที่หัวเราะจนเล็ดออกมาจากทางหางตา
“พวกคุณนี่มันช่างไร้เดียงสาจริงๆ” ซ่างกวนหยวนพูด “พวกคุณคิดว่าเบอร์เกนนั้นรับมือง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?”
เบอร์เกนอย่างนั้นเหรอ?
พอจิ้นเฟิงเฉินได้ยินชื่อนั้น ความรู้สึกคุ้นเคยที่แปลกประหลาดก็แล่นเข้ามาในใจอีกครั้ง
“เบอร์เกนคือใครครับ?” เขาที่เงียบมาโดยตลอดจู่ๆ ก็ถามขึ้น
สายตาของเจียงสื้อสื้อเป็นประกาย แล้วชิงพูดก่อนซ่างกวนหยวนไปว่า “เขาคือศัตรูของคุณ เบอร์เกนจ้องที่จะจับฉันไปทำการทดลองมาโดยตลอด เพื่อที่จะช่วยฉัน คุณถึงได้ตกอยู่ในอันตราย คุณจำได้มั้ยคะ?”
เธอถามไปอย่างระมัดระวัง
จิ้นเฟิงเฉินส่ายหน้า “จำไม่ได้ครับ”
เจียงสื้อสื้อแสดงสีหน้าที่ผิดหวังออกมา เขาก็ยังจำอะไรไม่ได้อยู่ดี
ซ่างกวนหยวนนึกว่าจิ้นเฟิงเฉินนึกอะไรออกแล้ว พอได้ยินเขาบอกว่าจำไม่ได้ เธอก็รู้สึกโล่งอกทันที
จากนั้น เธอก็พูดไปว่า “เรายังต้องลองชุดแต่งงานกันอีก ไม่คุยกับพวกคุณน้าแล้ว”
เธอจูงมือจิ้นเฟิงเฉินจากไป
เมื่อมองดูแผ่นหลังของพวกเขา หัวใจของเจียงสื้อสื้อก็รู้สึกเหนื่อยล้า และน้ำตาได้เอ่อล้นออกมาทันที
เธอก้มหน้าลง หลับตา น้ำตาค่อยๆ ไหลรินออกมา
ทั้งๆ ที่เฟิงเฉินของเธอก็อยู่ตรงหน้าแล้วแท้ๆ แต่เธอก็ทำได้เพียงแค่ยืนมองเขาถูกผู้หญิงคนอื่นจูงมือจากไปเท่านั้น โดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย
พอเห็นเธอร้องไห้ ซ่างหยิงก็รู้สึกเป็นห่วงมาก ใช้มือตบๆ ที่หลังเธอเบาๆ แล้วพูดปลอบไปว่า “ไม่ต้องร้องนะ น้าสะใภ้เล็กจะหาทางช่วยเธอเอง”
ซ่างหยิงเรียกพนักงานมา แล้วกระซิบบางอย่างที่ข้างหูของพนักงานเบาๆ
แล้วพนักงานก็เบิ่งตาโตทันที มองเธอด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ “คุณหญิง คุณแน่ใจเหรอคะ?”
ซ่างหยิงทำหน้าเคร่งขรึม “ทำตามที่ฉันบอก”
พนักงานตอบว่า “ค่ะ” แล้วเดินดุ่มๆ ออกไป
“น้าสะใภ้เล็กคะ น้าคิดจะทำอะไรเหรอคะ?” เจียงสื้อสื้อถาม
ซ่างหยิงตบๆ ที่มือเธอ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เดี๋ยวเธอขึ้นไปที่ชั้นบน แล้วไปลองชุดเจ้าสาวนะ”
“หนู? ลองชุดเจ้าสาว?” เจียงสื้อสื้อไม่เข้าใจสิ่งที่เธอจะทำ “เรามาที่นี่ไม่ได้จะมาลองชุดเจ้าสาวสักหน่อยนะคะ……”
“ฉันรู้ เธอแค่ทำตามที่ฉันบอกก็พอนะ”
จากความผลักดันของซ่างหยิง สุดท้ายเจียงสื้อสื้อก็ขึ้นไปที่ชั้นบน เข้าไปในห้องวีไอพี
พอเข้าไปข้างใน ก็มีพนักงานเอาชุดเจ้าสาวมาให้เธอทันที “คุณเจียงคะ ชุดนี้เป็นชุดที่ดีไซเนอร์มือหนึ่งของเราออกแบบด้วยตนเองเลยนะคะ ทั้งประเทศมีเพียงชุดเดียวเท่านั้น”
“ขอบคุณค่ะ”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า
“ต้องการให้ฉันช่วยมั้ยคะ?” พนักงานถาม
“ไม่เป็นไรค่ะ” เจียงสื้อสื้อปฏิเสธด้วยรอยยิ้ม
“ถ้าคุณมีอะไรให้ช่วยก็เรียกฉันได้เลยนะคะ ฉันอยู่ข้างนอกนี่เองค่ะ”
“ได้ค่ะ”
หลังจากที่พนักงานออกไป เจียงสื้อสื้อก็มองไปยังชุดเจ้าสาวนั่น จากนั้นก็เหม่อลอยไปพักหนึ่ง
ชุดเจ้าสาวนั้นสวยมาก แต่สภาพจิตใจของเธอกลับแย่มาก
เมื่อใส่ชุดเจ้าสาวที่สวยงามนี้ แต่ถ้าไม่ได้ใส่ให้คนที่เรารักดู ต่อให้มันจะสวยแค่ไหนก็ไม่มีความหมายอยู่ดี
ถึงแม้ในใจจะคิดแบบนี้ แต่เธอก็ยังหยิบชุดเจ้าสาวขึ้นมา แล้วเดินเข้าห้องลองชุดไป
……
ซ่างกวนหยวนจูงมือจิ้นเฟิงเฉินมาถึงโซนเสื้อผ้าผู้ชาย เลือกๆ ชุดสูท สุดท้ายก็เลือกให้จิ้นเฟิงเฉินชุดหนึ่ง
“ไปลองใส่ดูค่ะ”
จิ้นเฟิงเฉินมองเธอทีหนึ่ง แล้วพยักหน้า “ครับ”
พอเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องลองชุด หัวใจที่เป็นกังวลของซ่างกวนหยวนถึงได้สงบลงสักที
เขากลัวจริงๆ ว่าพอเห็นหน้าเจียงสื้อสื้อแล้วเขาจะจำอะไรขึ้นมาได้จริงๆ แต่ดูแล้วตอนนี้ เขาจะนึกอะไรขึ้นมาไม่ได้เลย
เธอต้องมั่นใจในยาของตัวเองสิ
ใช่ ต้องมั่นใจในยาของตัวเอง!
พอคิดได้แบบนั้น เธอก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก
ในตอนนั้นเอง พนักงานคนหนึ่งก็ได้เดินเข้ามา แล้วพูดกับเธอด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มว่า “คุณซ่างกวนคะ ทางนั้นมีชุดเจ้าสาวแบบอื่นอีกนะคะ คุณอยากไปลองดูหน่อยมั้ยคะ?”
“ไม่ดีกว่า ชุดนี้โอเคแล้ว” ซ่างกวนหยวนไม่อยากเลือกไปเลือกมา เธอแค่อยากเลือกชุดแรกที่ต้องตาเท่านั้น
แต่พนักงานก็ไม่ได้ยอมแพ้เพราะเหตุผลนี้ แล้วได้พูดต่อว่า “คุณซ่างกวนคะ ชีวิตนี้เราแต่งงานแค่ครั้งเดียว คุณไม่อยากใส่ให้มันสวยๆ แล้วแต่งงานกับคนที่คุณรักเหรอคะ?”
ซ่างกวนหยวนขมวดคิ้ว “นี่คุณจะบอกว่าตอนนี้ฉันไม่สวยใช่มั้ย?”
“ไม่ใช่อยู่แล้วค่ะ” พนักงานรีบปฏิเสธ “ฉันหมายความว่าคุณสามารถสวยได้กว่านี้ค่ะ”
ซ่างกวนหยวนคิดๆ ดู รู้สึกว่าสิ่งที่พนักงานพูดก็มีเหตุผลมาก จึงได้พยักหน้าไป “ได้ งั้นให้ฉันดูแบบอื่นหน่อยซิ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ตามฉันมาทางนี้ค่ะ” ตอนที่พนักงานหันหลังไป แววตาก็เป็นประกายขึ้นมาแวบหนึ่ง
หลังจากที่จิ้นเฟิงเฉินเปลี่ยนชุดเสร็จ แล้วออกมาจากห้องลองชุด พนักงานที่อยู่ข้างๆ ต่างมองจนอึ้งไปเลย
ใบหน้าของชายหนุ่มนั้นคมสันมีมิติไหล่กว้างเอวคอด ขาที่เรียวยาวก็ถูกห่อหุ้มด้วยกางเกงอย่างสมบูรณ์ เรียวยาวและน่าหลงไหล
พนักงานอุทานออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ “คุณคะ คุณดูดีมากเลยค่ะ”
จิ้นเฟิงเฉินยิ้มออกมาเล็กน้อย “ขอบคุณครับ”
เขามองไปรอบๆ แล้วถามขึ้นมาว่า “แล้วเธอล่ะครับ?”
“คุณซ่างกวนไปลองชุดเจ้าสาว เชิญตามฉันมาทางนี้ค่ะ”
พนักงานพาจิ้นเฟิงเฉินขึ้นไปชั้นบน มาถึงที่ห้องวีไอพี “คุณซ่างกวนอยู่ในนี้ค่ะ”
จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้าเบาๆ แล้วเปิดประตูเข้าไป
พอได้ยินเสียงเปิดประตู เจียงสื้อสื้อที่อยู่หลังผ้าม่านก็ได้ตะโกนออกไปว่า “เข้ามาช่วยฉันรูดซิปหน่อยได้มั้ยคะ?”
เป็นเสียงที่คุ้นเคยมาก
จิ้นเฟิงเฉินค่อยๆ เดินไปทางห้องลองชุดทีละก้าวอย่างไม่รู้ตัว
ยื่นมือไปดึง แล้วแผ่นหลังอันขาวนวลก็ได้ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาทันที
เขายืนอึ้งอยู่กับที่
“ช่วยฉันรูดซิปหน่อยค่ะ”
เจียงสื้อสื้อหันหน้ามา ตอนที่เห็นหน้าจิ้นเฟิงเฉิน เธออึ้งไปครู่หนึ่ง ทั้งตกใจทั้งดีใจ “คุณมาได้ยังไงคะ?”
เมื่อได้ยินเสียงของเธอจิ้นเฟิงเฉินถึงตั้งสติได้ เขารีบหันหลังไป หัวใจเต้นเร็วขึ้นมาอย่างน่าประหลาด น้ำเสียงทุ้มลึกลงไป “ผม……ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่าเกิดอะไรขึ้น?”
เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว จากนั้นก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
น่าจะเป็นแผนที่น้าสะใภ้เล็กวางไว้ละมั้ง
ถกกระโปรงขึ้น แล้วค่อยๆ เดินไปตรงหน้าเขา ดวงตาที่เป็นประกายจ้องตรงไปที่เขา
ใบหูของเขาแดงก่ำ น่าจะเป็นเพราะได้เห็นแผ่นหลังที่เผยออกมาของเธอเมื่อกี้แน่เลย
เขาที่ความจำเสื่อมไปแล้ว ทำไมถึงได้เหมือนเด็กผู้ชายที่ใสซื่อแบบนี้นะ?
เธออดไม่ได้ที่จะขำออกมา
จิ้นเฟิงเฉินจ้องมองไปที่เธอ โดยไม่อยากละสายตา
ชุดเจ้าสาวสีขาว ทำให้ผิวพรรณของเธอดูขาวยิ่งกว่าเดิม ผมที่รวบขึ้นอย่างลวกๆ เส้นผมบางส่วนที่ซุกซนห้อยต่องแต่งอยู่ข้างแก้ม ทั้งน่ารัก ทั้งเย้ายวนใจ