ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 1294 ผลลัพธ์​ไม่เลว​

บทที่ 1294 ผลลัพธ์​ไม่เลว​

ฟางเสว่มั่นเป็นห่วงเจียงสื้อสื้อ จึงเอ่ยปาก​อยู่​เฝ้าเธอ

แต่กลับ​ถูกปฏิเสธ

“แม่คะ หนู​ไม่เป็นไรแล้ว อีกอย่างยังมีน้าสะใภ้​เล็กอยู่ด้วย แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ”

“ใช่ครับ พี่สาม พี่สุขภาพไม่ดี ถ้าอยู่ที่นี่ต่อพวกเรายังต้อง​ดูพี่ด้วย” ซ่างหยิงไม่ใช่​ว่า​ไม่​อยาก​ดูแลเธอ แต่ที่พูดแบบนี้ ก็เพื่อให้เธอกลับไปพักผ่อน​

“นั่นสินะ…” ฟางเสว่มั่นนิ่งคิดอย่างจริงจัง สุดท้าย​ก็เลือกที่จะกลับไป

ก่อนจากไป เธอพูดย้ำเตือนซ่างหยิง “หยิงหยิง ถ้าเกิดอะไรขึ้น​อย่าลืมบอกพี่ด้วย ห้ามปิดบัง​พี่อีก”

ซ่างหยิงยิ้มอย่างอ่อนใจ “ได้ค่ะ ฉันจะบอกพี่แน่นอน​”

ฟางเสว่มั่นได้ยิน​แบบนี้ถึงได้วางใจยอมกลับไป

“ดูสิแม่ของหลานเป็นห่วงหลานมากแค่ไหน ต่อไปนี้ห้ามทำอะไรหุนหันพลันแล่นอีก เข้าใจไหม?” ซ่างหยิงมองเจียงสื้อสื้อที่นั่งอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าเคร่งเครียด​

เจียงสื้อสื้อพยักหน้า “หนู​เข้าใจแล้วค่ะ”

“หลานพักผ่อนก่อนเถอะ คืนนี้น้าจะอยู่เฝ้าหลานเอง” ซ่างหยิงพูด

“ขอบคุณค่ะน้าสะใภ้​เล็ก”

“ไม่เป็นไรจ้ะ” ซ่างหยิงเดินเข้าไปเพื่อช่วยเธอห่มผ้าห่ม แล้วลูบศีรษะของเธอ ก่อนจะจ้องมองด้วยสายตาอ่อนโยน “ขอแค่หลานสุขภาพ​แข็งแรง​ เป็นเรื่องที่สำคัญกว่าสิ่งอื่นใด”

ในคืนนี้ ถือได้ว่าเจียงสื้อสื้อนอนหลับนอนหลับได้สงบ

ตอนที่​เธอตื่นขึ้นในวันต่อมา ซ่างหยิงตื่นก่อนแล้ว พอหันไปเห็นเธอตื่นแล้ว จึงส่งยิ้มให้”ตื่นแล้วเหรอจ้ะ”

“อรุณสวัสดิ์ค่ะน้าสะใภ้​เล็ก”

แสงแดดยามเช้าส่องเข้ามาในห้องพักคนไข้​ ทุกอย่างในห้องสว่างขึ้น แม้แต่​อารมณ์ก็ดีขึ้นหลายส่วน

“น้าจะกลับบ้านไปทำโจ๊ก แล้วทำกับข้าว​อีกสองอย่าง เอามาให้หลานกิน” ซ่างหยิงกลัวว่าเธอจะไม่ชอบอาหารในโรงอาหารของโรงพยาบาล เธอจึงตัดสินใจกลับบ้านไปทำอาหารมาเอง

“ไม่ต้องลำบากแบบนี้ก็ได้ค่ะ หนู​กินอะไรก็ได้” เจียงสื้อสื้อไม่อยากให้เธอไปไปกลับๆโรงพยาบาล​ มันเหนื่อยเกินไป

“ไม่ลำบากจ้ะ น้าจะรีบกลับมาให้เร็วที่สุด”

หลังจากที่ซ่างหยิงออกไป เจียงสื้อสื้อก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำแปรงฟัน ล้างหน้า แล้วเดินไปนั่งที่ข้างเตียงช้าๆ

เธอมองท้องฟ้าสีครามด้านนอกหน้าต่าง ก่อนที่มุมปากของเธอจะค่อยๆยกยิ้ม อากาศวันนี้ดีมาก

ถ้าเหิงเฉินอยู่ด้วย เขาคงจะพาเธอและลูกๆ ออกไปเที่ยวนอกบ้านแล้ว

พอเธอคิดถึงตรงนี้ หัวใจของเธอก็ถูกปกคลุมไปด้วยหม่นหมอง​ทันที

เมื่อไหร่เฟิงเฉินของเธอจะกลับมาหาเธอสักที

……

หลังจากที่เหลียงซินเวยส่งอานอานไปที่โรงเรียนแล้ว เธอก็เรียกรถไปที่โรงพยาบาล

เมื่อคืนนี้ เธอได้ยินจากฟางยู่เชินว่าพี่สื้อสื้อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล จึงถามอย่างร้อนใจว่าเกิดอะไรขึ้น

ยู่เชินเล่าเรื่องที่พวกเขาเข้าไปทำลายงานแต่งงานของซ่างกวนหยวนให้เธอฟังแล้ว เธอโกรธ​จนแทบบ้า

“พี่สื้อสื้อใจร้อนจนไร้สติ​ คุณก็ไร้สติ​ด้วยเหรอคะ คุณน่าจะ​ห้ามเธอ ถ้าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ​ พวกคุณจะทำยังไง​”

พอพูดถึงตรงนี้ เธอถึงได้สังเกตเห็นความผิดปกติออกมาได้ จึงเปลี่ยนคำพูด “ไม่ใช่สิ เกิดเรื่อง​ขึ้นแล้วจริงๆ พี่สื้อสื้อเข้าโรงพยาบาลแล้วจริงๆ พวกคุณทำอะไรไม่คิดเลยจริงๆ”

“ไม่เป็นไร คุณไม่ต้องเป็นห่วง​ อีกอย่างผลลัพธ์ก็ค่อนข้างดี งานแต่งงานถูกเลื่อนออกไปแล้ว​ สื้อสื้อจะได้สบายใจขึ้นมาบ้าง​”

ถึงจะพูดแบบนี้ แต่เหลียงซินเวยยังคงคิดว่าพวกเขาทำเรื่องที่เสี่ยงอันตราย​เกินไปจริงๆ

หลังจากมาถึงโรงพยาบาล แล้ว​ถามพยาบาล เหลียงซินเวยก็ตรงไปที่ห้องพัก​คนไข้​ที่เจียงสื้อสื้อพักอยู่ทันที

ก่อนจะมา เธอเคยคิดไว้แล้ว​ว่าซ่างหยิงอาจอยู่ที่นั่นด้วย แต่พอเธอเดินเข้าไป เธอก็ยังชะงัก​ไป​ตอนที่เห็นซ่างหยิง

ตอนที่​เห็นเธอ เจียงสื้อสื้อเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “เวยเวย”

ส่วนซ่างหยิงเองก็ขมวดคิ้วขึ้น​ ไม่ได้มีสีหน้า​ใจดีเหมือนเมื่อก่อนตอนที่เห็นเธอ แต่กลับตึงเครียด​มาก

เหลียงซินเวยจับสายกระเป๋าแน่นขึ้น เธอเดินเข้าไปหา แล้วกล่าวทักทายอย่างสุภาพ “สวัสดี​ค่ะ​คุณ​น้า”

ซ่างหยิงพยักหน้าให้ด้วยสีหน้า​นิ่งเฉย​

สามารถรู้สึกได้ถึงความอึดอัด​ใจของเธอ เจียงสื้อสื้อจึงเหลือบมองซ่างหยิง ก่อนจะยิ้มแล้วถามออกมา”ทำไมเธอถึงมาที่นี่ล่ะ?”

เหลียงซินเวยเหลือบมอง ไปทางซ่างหยิง และตอบเบาๆ “ยู่เชินบอกฉันค่ะ”

เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว แล้วบ่นออกมาเบาๆ”พี่ชาย​นี่ปากมากจริงๆ”

เหลียงซินเวยนึกว่าเธอจะกล่าวโทษฟางยู่เชินจริงๆ จึงรีบพูดอธิบายอย่างรวดเร็ว “ไม่ใช่​นะคะ เขาบังเอิญหลุดปาก​พูดออกมา ฉันก็เลยบังคับ​ถามเขา”

พอเห็นท่าทางกระวนกระวายใจของเธอ เจียงสื้อสื้อก็หัวเราะออกมาพร้อมกับส่งเสียง “อุ๊บส์​”ออกมา “เวยเวย นี่เธอกำลังปกป้องพี่ชาย​ของพี่อยู่ใช่ไหม”

ในเวลานี้เอง เหลียงสซินเวยถึงได้สติ​กลับมา แล้วพูดอย่างเขินอาย “พี่สื้อสื้อ พี่ไม่ต้อง​แกล้ง​ฉันสิคะ”

“พี่ไม่ได้แกล้ง​นะ แค่เห็นพวกเธอมีความสัมพันธ์ที่ดีกัน ก็ดีใจกับพวกเธอมากแล้ว”

พอพูดออกมาแบบนี้ เธอก็มองไปที่ซ่างหยิง “จริงไหมคะ น้าสะใภ้​เล็ก”

“หืม?” ซ่างหยิงชะงัก​ พอได้สติ​กลับมา เธอก็มองเข้าไปในดวงตาที่ยิ้มแย้มของเจียงสื้อสื้อ แล้วกระแอมออกมาอย่างอึดอัด​ใจ​ “พวกหลานคุยกันไปเถอะ น้าออกไปเดินเล่นสักหน่อย​”

พอพูดจบ เธอก็ลุกเดินออกไป

ตอนที่เดินผ่านเหลียงซินเวย เธอก็ไม่มองอีกฝ่ายแม้แต่น้อย​

รอยยิ้มบนใบหน้าของเหลียงซินเวยค่อย ๆ จางหายไป สีหน้า​ของเธอหม่นหมอง​ลง

เจียงสื้อสื้อมองอยู่ตลอด เธอจึงถอนหายใจออกมาเบา ๆ ดูเหมือนว่าน้าสะใภ้​เล็กของเธอยังไม่สามารถยอมรับเวยเวยได้

“เวยเวย ไม่ต้องคิดมากนะ น้าสะใภ้​เล็กไม่ได้คิดไม่ดี” เจียงสื้อสื้อยังคงพูดแทนซ่างหยิง

เหลียงซินเวยยกยิ้มเล็กน้อย “ไม่เป็นไรค่ะ”

“มานั่งนี่สิ” เจียงสื้อสื้อชี้ไปที่เก้าอี้ข้างเตียง

เหลียงซินเวยเดินไปนั่งลง แล้วถามด้วยความห่วงใย​ “พี่สื้อสื้อ เป็นยังไงบ้างคะ?”

“ที่จริง​ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว แต่พี่ชาย​เขาไม่วางใจ ก็เลยขอให้ฉันอยู่ดูอาการในโรงพยาบาลอีกสองสามวัน” เจียงสื้อสื้อหมดหนทางจริงๆ​”พวกเขากังวลมากเกินไป”

“ยู่เชินเขาก็หวังดีกับพี่”

พอได้ยินแบบนี้ เจียงสื้อสื้อก็หัวเราะแล้วพูดแซว “ดูสิดูสิ ช่วยแก้ตัว​แทนพี่ชาย​ของ​พี่อีกแล้ว​”

“พี่สื้อสื้อคะ พี่ล้อฉันอีกแล้ว” แก้มของเหลียงซินเวยแดงก่ำอย่างผิดธรรมชาติ

“ทำไมถึงขี้อายแบบนี้” เจียงสื้อสื้อตลกขึ้นมา

เหลียงซินเวยรู้สึกว่าถ้าเธอยังคงหัวเราะเยาะตัวเองแบบนี้ต่อไป เธอคงจะลืมจุดประสงค์​การมาของเธอ

ดังนั้น เธอจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง “พี่สื้อสื้อคะ คราวนี้พี่ทำเรื่องที่เสี่ยงอันตราย​เกินไปจริงๆค่ะ โชคดีที่พี่ไม่เป็นอะไรมาก ไม่อย่างนั้น​ เถียนเถียนกับเสี่ยวเป่าจะทำยังไง​คะ?”

รอยยิ้มบนใบหน้าของเจียงสื้อสื้อจางลงเล็กน้อย พอพูดถึง​เรื่อง​นี้ “แต่ถ้าไม่เสี่ยงแบบนี้​ สามีของพี่ก็จะแต่งงานไปกับผู้หญิงคนอื่นนะ”

“ฉันเข้าใจความรู้สึกของพี่นะคะ แต่เราใช้วิธีอื่นได้นี่คะ” เหลียงซินเวยพูด

“ไม่มีวิธี​อื่น มันเป็นวิธี​สุดท้าย​แล้ว​” เจียงสื้อสื้อถอนหายใจออกมาอย่างแรง “เธอคิดว่าพี่อยากทำอย่างนั้นเหรอ พี่เองก็ถูกบังคับเหมือนกัน​”

เหลียงซินเวยยตระหนักได้ทันทีว่าเธอกำลังคิดอะไรง่ายจนเกินไป จึงรีบพูดขึ้นมา “ขอโทษค่ะ พี่สื้อสื้อ ฉันไม่รู้ว่าสถานการณ์​จะเป็นแบบนี้”

“ไม่เป็นไรจ้ะ” เจียงสื้อสื้อยกยิ้ม “แม้ว่ามันจะเสี่ยงอันตราย​ แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่เลว”

“งานแต่งงานถูกเลื่อนออกไป ดีจริง​ๆเลยค่ะ”

ทั้งสองยิ้มให้กัน

เจียงสื้อสื้อสูดหายใจเข้าลึก “ขอแค่งานแต่งงานถูกเลื่อนออกไป พี่ก็ยังมีโอกาส

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท