ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 1296ฉันจะรอคุณ​ค่ะ

บทที่ 1296ฉันจะรอคุณ​ค่ะ

ที่จริง​แล้ว​ความสมดุลในหัวใจของจิ้นเฟิงเฉินนั้นได้เอนเอียงไปทางเจียงสื้อสื้อนานแล้ว แต่ว่าในตอนนั้นเป็นซ่างกวนหยวนที่ช่วยชีวิต​เขาไว้

บุญคุณ​ในครั้งนั้นทำให้​เขาไม่กล้าที่จะทำร้ายเธอ

เจียงสื้อสื้อเห็นความลังเลในแววตาของเขา เธอยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่นเล็กน้อย “คุณไม่อยากทำให้​ซ่างกวนหยวนเสียใจ แต่คุณเคยคิดบ้างไหม ว่าคุณกำลังทำร้ายฉันกับลูกของเราอยู่”

จิ้นเฟิงเฉินกำหมัดแน่น “แต่ว่า… ผมจำพวกคุณไม่ได้เลย”

พอได้ยินแบบนี้ สีหน้า​ของ​เจียงสื้อสื้อก็เย็นชาขึ้น​มา​ทันที “แค่คำว่าคุณ​จำอะไรไม่ได้แล้วก็จบทุกอย่างได้เหรอคะ จิ้นเฟิงเฉิน คุณโหดร้ายเกินไปแล้ว​”

คำพูด​ของเธอที่ว่า “คุณโหดร้ายเกินไป” ทิ่มแทง​หัวใจของจิ้นเฟิงเฉินอย่างแรง

เขาอ้าปากขึ้นเล็กน้อย เหมือนต้องการจะพูดอะไร แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

เจียงสื้อสื้อสูดหายใจเข้าลึก “จิ้นเฟิงเฉิน เราผ่านอุปสรรค​อะไรด้วยกันมามากขนาดนั้น คุณ​จะลืมมันไปได้ยังไง​คะ?”

เจียงสื้อสื้อน้ำตาไหลริน เธอกัดริมฝีปากแน่นไม่ยอมปล่อยให้เสียงร้องไห้ของ​ตัวเอง​ดังออกมา

เธอร้องไห้ หัวใจของเขาเจ็บมาก ราวกับว่ามีใครกำลังใช้​มีดแทงเข้าที่หัวใจของเขา

“เฟิงเฉินคะ กลับมาหาฉันและลูกเถอะนะคะ” น้ำเสียงของเจียงสื้อสื้ออ่อนลง

“ขอโทษครับ” จิ้นเฟิงเฉินพูดสามคำนี้ออกมาอย่างยากลำบาก

ที่เขา​พูด​คำขอโทษนี้ เพราะเขาได้สัญญากับผู้หญิงอีกคนไว้แล้วเช่นกัน​

เขาไม่เคยมีความต้องการ​ที่จะฟื้นความทรงจำของตัวเองรุนแรงถึงขนาดนี้มาก่อน

เจียงสื้อสื้อหัวเราะออกมา แต่น้ำตากลับไหลแรงขึ้น เธอยกมือขึ้นเช็ดอย่างแรง “จิ้นเฟิงเฉิน คุณกล้ามาก”

จิ้นเฟิงเฉินกำลัง​พยายามข่มความรู้สึกอยากที่จะดึงเธอเข้ามากอด แล้ว​หลับตาลง “ผมขอโทษจริงๆ”

“ฉันบอกแล้ว ว่าฉันไม่ต้องการคำขอโทษ!” เจียงสื้อสื้อโมโห​ขึ้นมาทันที

“คุณบอกว่าฉันเป็นผู้หญิงที่คุณรักที่สุด จะไม่ยอมให้ฉันต้องรู้สึก​เสียใจแม้แต่​นิดเดียว​”

“ผม…”

จิ้นเฟิงเฉินตั้งใจจะพูด แต่กลับ​ถูก​เจียงสื้อสื้อขัดขึ้น​มา​ก่อน “ไม่ต้อง​มา​พูดว่าคุณ​ความจำเสื่อม ถ้าคุณเป็นลูกผู้ชายจริงๆ​ ก็ควรจะพูดแล้วทำให้ได้ตามที่พูด!”

พูดแล้วต้องทำตามที่พูดอย่างนั้น​เหรอ​

จิ้นเฟิงเฉินไม่รู้​ว่า​ควรจะหัวเราะหรือร้องไห้​ดี เขาก็อยากพูดแล้วต้องทำตามที่พูด แต่เขาจำไม่ได้จริงๆ

เจียงสื้อสื้อสูดน้ำมูก “ยังไงคุณก็ต้องรักษาสัญญา ห้ามแต่งงานกับซ่างกวนหยวนเด็ดขาด​”

“คุณเจียง…” จิ้นเฟิงเฉินทำอะไรไม่ถูก

“เรียกฉันว่าสื้อสื้อ” เจียงสื้อสื้อสั่ง

จิ้นเฟิงเฉินไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเปลี่ยนคำเรียก “สื้อสื้อ”

ในที่สุดก็ได้ยินเขาเรียกเธอแบบเดิมสักที น้ำตาของเจียงสื้อสื้อไหลออกมาอีกครั้ง

“อย่าร้องไห้เลยครับ” จิ้นเฟิงเฉินลุกขึ้น แล้ว​เดินไปหยิบทิชชู่สองสามแผ่น ก่อนจะเดินไปเช็ดน้ำตาของเธอ

“คุณยังห่วงฉันอยู่ ใช่ไหมคะ” เจียงสื้อสื้อจับมือเขาไว้

จิ้นเฟิงเฉินคิดจะดึงมือกลับ แต่เธอจับไว้แน่น เขาทำได้เพียงถอนหายใจออกมา แล้ว​ไม่พูดอะไร

“ฉันรู้ว่าคุณห่วงฉันอยู่ ดังนั้นคุณช่วยฟังเสียงหัวใจของคุณเองได้ไหมคะ” เจียงสื้อสื้อเอ่ยพูดอ้อนวอน

เสียงหัวใจของเขาอย่างนั้น​เหรอ​

จิ้นเฟิงเฉินหลับตาลง “ผมไม่ปฏิเสธว่าผมห่วงใยคุณกับลูกจริงๆ แต่ว่า… เพราะความจำเสื่อม ผม … ”

“คุณกำลังจะบอกว่า คุณไม่สามารถทำร้ายซ่างกวนหยวนได้ใช่ไหม​คะ​”

จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้ตอบคำถามของเธอโดยตรง แต่กลับพูดด้วยสีหน้า​จริงจัง “ฉันจะพยายามจำเรื่องราวในอดีตให้ได้โดยเร็ว​ที่สุด​”

พอได้ยินแบบนี้ เจียงสื้อสื้อก็ขมวดคิ้วขึ้น​ “คุณ​คิดว่าคุณ​จะ​จำได้เหรอคะ”

“แน่นอนครับ”

เจียงสื้อสื้อมองหน้าเขาสักพัก ก่อนที่จะถามด้วยสีหน้า​สงสัย “คุณเคยจำอะไรได้บ้างไหมคะ?”

“ไม่เลยครับ”

เขาตอบเร็วเกินไป เจียงสื้อสื้อรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไป จึงถามต่อ “ถ้าคุณไม่พูดความจริง อาการของฉันที่ดีขึ้น​บ้างแล้ว อาจจะโกรธ​จนเป็นลมไปอีกครั้งค่ะ”

เป็นลมอย่างนั้น​เหรอ​

จิ้นเฟิงเฉินนึกถึงฉากที่เห็นเธอเป็นลมในงานแต่งงาน สีหน้า​ของเขาก็เปลี่ยนไปทันที “อย่าโกรธนะครับ”

“ถ้าอย่างนั้น​คุณจะยอมพูดความจริงไหมคะ” เจียงสื้อสื้อจ้องมาที่เขาเขม็ง​

จิ้นเฟิงเฉินนิ่งเงียบไปสักพัก ก่อนจะพูดว่า “ตกลงครับ ผมจะพูด”

เจียงสื้อสื้อยกยิ้มออกมาทันที “ต้องแบบนี้สิคะ”

จิ้นเฟิงเฉินนิ่งคิดอยู่สักพัก​ “ตอนที่ผมเห็นคุณเป็นลมในงานแต่งงานเมื่อวานนี้ มีภาพเหตุการณ์​บางอย่างแวบเข้ามาในหัวของผม”

“ภาพเหตุการณ์​อะไรคะ” เจียงสื้อสื้อถาม

“เป็นภาพคุณ​ทั้งหมด​ครับ” จิ้นเฟิงเฉินตอบตามความจริง

เจียงสื้อสื้อรู้สึกดีใจมาก “เป็นภาพของฉันทั้งหมด​เหรอคะ”

จิ้อนเฟิงเฉินพยักหน้า “ใช่ครับ”

“งั้นคุณจำอะไรได้บ้างแล้วใช่ไหม​คะ” เจียงสื้อสื้อถามอย่างไม่มั่นใจ

หลังจากถาม เธอก็กำหมัดแน่น หัวใจเต้นแรง

“ไม่เลยครับ” จิ้นเฟิงเฉินส่ายหน้า​ “มันเป็นแค่ภาพเหตุการณ์​สั้นๆที่แวบเข้ามาในสมอง พอผมพยายามจำ ผมก็จำอะไรไม่ได้แล้ว”

“ทำไมถึงเป็นแบบนี้​คะ” เจียงสื้อสื้อพูดอย่างผิดหวัง​ “มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้นี่นา…”

ผู้ป่วยความจำเสื่อมถ้าได้รับแรงกระตุ้น ตามหลักแล้วน่าจะฟื้นฟูความจำได้ถึงจะถูก

ในละครเขาแสดงกันแบบนี้ไม่ใช่​หรือไง

หรือว่าเขาจะความจำเสื่อมเพราะฤทธิ์​ยา

จิ้นเฟิงเฉินยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “พูดตามตรงนะครับ ผมเองก็อยากฟื้นความทรงจำในอดีต​ แต่ทุกครั้งที่ผมพยายามคิดเกี่ยวกับเรื่องในอดีต ผมจะปวดหัวมาก”

“จะปวดหัวมากเหรอคะ” เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว

“อืม ก็เพราะปวดหัว​มาก​ ทำให้​ผมไม่มีวิธี​บังคับ​ให้​ตัวเองนึกเรื่อง​ในอดีต​”

ดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะฤทธิ์​ยาจริงๆด้วย

ในกรณีนี้ โม่เหยียกับหานยู่จะมีวิธีแก้ปัญหาหรือเปล่า​นะ

พอคิดได้แบบนี้ เจียงสื้อสื้อก็พูดขึ้น​มา​ “ฉันอาจมีวิธีรื้อฟื้นความจำของคุณได้ค่ะ”

“หืม?” จิ้นเฟิงเฉินตกตะลึง

เจียงสื้อสื้อยกยิ้ม “ฉันไม่เชื่อว่าซ่างกวนหยวนจะเก่งกาจ​ขนาดนั้น”

“ทำไมผมถึงไม่เข้าใจสิ่งที่คุณกำลังพูดเลยครับ” จิ้นเฟิงเฉินดูงงงวยมาก

เจียงสื้อสื้อกระโดดลงจากเตียง แล้ว​กุมมือเขาไว้แน่น ก่อนจะจ้องมองใบหน้าหล่อของเขานิ่ง “เฟิงเฉินคะ คุณต้องจำไว้ ว่าฉันเป็นภรรยาของคุณ แล้ว​เรายังมีลูกที่น่ารักด้วยกัน​ถึงสองคน”

ดวงตาของเธอเปร่งประกายเป็นพิเศษ

จิ้นเฟิงเฉินหลงเข้าไปในภวังค์​โดยไม่ทันได้ตั้งตัว​ ก่อนจะพยักหน้ารับ “ครับ”

ทันใดนั้น เจียงสื้อสื้อก็ปล่อยมือของเขา แล้ว​เอนกายเข้าไปในอ้อมแขนของเขา พร้อมกับกอดเอวของเขาแน่น ฝังศีรษะของเธอไว้ในอ้อมกอดของเขา ฟังเสียงหัวใจที่เต้นสม่ำเสมอของเขา ทำให้​เธอ​รู้สึก​สบายใจเป็นพิเศษ

จิ้นเฟิงเฉินยกมือขึ้น กำลังลังเลว่าจะกอดเธอดีไหม​

“เฟิงเฉินคะ ฉันรักคุณมากจริงๆ​นะคะ ดังนั้น​คุณ​ต้องรีบกลับมาหาฉันนะคะ”

พอได้ยินแบบนี้ จิ้นเฟิงเฉินก็ใจอ่อน แล้ว​อดที่จะกอดเธอไม่ได้

พวกเขากอดกันเงียบ ๆ สักพัก​ ก่อนที่เจียงสื้อสื้อจะผละออกจากอ้อมกอดของ​เขา แล้ว​เงยหน้าขึ้น มองเข้าไปในดวงตาสีดำสนิทของเขา มุมปากของเธอก็ค่อยๆยิ้มออกมาช้าๆ

“ลูกๆก็คิดถึงคุณมากเหมือนกัน​ ถ้าเป็นไปได้ คุณ​หาเวลาไปหาพวกเขาที่บ้านตระกูล​ฟางด้วยนะคะ”

“ได้เหรอครับ” จิ้นเฟิงเฉินถามไม่แน่ใจ

ความจริงแล้ว ตั้งแต่​วันนั้นที่เถียนเถียนร้องไห้เดินออกจากบ้านตระกูล​ซ่างกวน เขาก็ไม่ลืมเลย ในใจของ​เขารู้สึก​ผิดมาก

แม้ว่าเขาจะสูญเสียความทรงจำไป แต่ลูกอุตส่าห์​มาหาเขาถึงที่ เขาก็ควรจะกอดเธอบ้าง

เจียงสื้อสื้อพยักหน้า “ได้สิค่ะ”

จิ้นเฟิงเฉินยิ้ม “งั้นผมจะหาเวลาไปแน่นอน​ครับ”

“ฉันจะรอคุณค่ะ” เจียงสื้อสื้อยกมือขึ้นคอเขาไว้ เขย่ง​ปลายเท้าขึ้น แล้วจูบริมฝีปากของเขา

ดวงตาของจิ้นเฟิงเฉินหรี่ลง สัมผัสนุ่มนวลบนริมฝีปากของเขาทำให้หัวใจของเขาสั่นเครือ​

ริมฝีปาก​ของ​เธอแตะเพียงนิดเดียวก็ถอนตัว​ออกไปทันที

ในเวลานั้น​ เขาแทบอยากจะกอดเอวเธอไว้ แล้วจูบเธอแรงๆ

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท