จิ้นเฟิงเฉินกอดทั้งน้อยทั้งสองเอาไว้ เขากอดไว้แน่นเหมือนกับกลัวว่าพวกเขาจะหายไปอย่างนั้น
เมื่อเห็นอย่างนั้น เจียงสื้อสื้อก็เบือนหน้าหนีแล้วปาดน้ำตาอย่างเงียบ ๆ
ผ่านไปสักครู่ เจียงสื้อสื้อก้าวไปข้างหน้าดึงเด็กสองคนออกจากกัน เกลี้ยกล่อมเบาๆว่า”วันนี้แด๊ดดี้อยู่กับเราทั้งวันแล้ว เขาเองก็ต้องกลับไปพักผ่อน และจะมาหาพวกเราอีกวันอื่นนะจ้ะ”
“แด๊ดดี้ แด๊ดดี้ต้องรักษาสัญญานะ หนูกับพี่จะรอแด๊ดดี้อยู่ที่บ้านน้าสะใภ้เล็กนะคะ” เถียนเถียนพูดเสียงเจื้อยแจ้ว
จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า “ได้เลย”
เจียงสื้อสื้อเงยหน้ามองไปทางเขา ปลายจมูกปวดตื้อขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ เธอหายใจเข้าลึก ๆ กลั้นน้ำตาเอาไว้แล้วฝืนยิ้มออกมา “ฉันกับลูกจะรอนายอยู่เสมอ”
จิ้นเฟิงเฉินมองเธอ เมื่อคิดว่าต้องแยกจากกับพวกเขา ในใจก็รู้สึกอาวรณ์อย่างมาก
“กลับไประวังด้วย”
“โอเค” เจียงสื้อสื้อจูงมือลูกแล้วเตรียมจะหันเดินไปที่รถที่จอดอยู่ข้างถนน ทันใดนั้นก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ เธอหยุดฝีเท้าอย่างรวดเร็วแล้วพูดขึ้น “จริงสิ ถ้านายกลับไปแล้ว ต้องระวังตัวด้วยนะ”
“มีอะไรรึเปล่า?” จิ้นเฟิงเฉินถามอย่างไม่เข้าใจ
“นายเสียความทรงจำไม่ใช่เหรอ? ฉันสงสัยว่าเป็นฝีมือคน นอกจากนี้หล่อนก็น่าจะรู้ว่าฉันกับนายมีการติดต่อกัน ดังนั้นฉันเลยเป็นห่วงว่าหล่อนจะ….”
เจียงสื้อสื้อไม่กล้าพูดออกมา นี่คือเรื่องที่เธอกลัวที่สุด
แม้ว่าเธอจะไม่พูดหมด แต่จิ้นเฟิงเฉินก็เข้าใจความหมายของเธอ “เธอกลัวว่าหล่อนจะทำไม่ดีกับฉันงั้นเหรอ?”
เจียงสื้อสื้อพยักหน้า
จิ้นเฟิงเฉินยิ้มให้เธออย่างปลอบขวัญ “วางใจเถอะ เธอไม่กล้าทำอะไรกับฉันหรอก”
ด้วยซ่างกวนหยวนที่กำลังวิตกกังวลในตอนนี้ จะไปกล้าทำอะไรเขาได้ยังไง?
“ไม่” เจียงสื้อสื้อส่ายหน้า “ยังไงนายก็ต้องระวังตัวเอาไว้”
เธอคิดครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ “ถ้าหล่อนให้นายกินอะไรแปลก ๆ นายห้ามกินเด็ดขาด เข้าใจไหม?”
จิ้นเฟิงเฉินยิ้ม “โอเค ฉันเข้าใจแล้ว”
“จะกินไม่ได้เด็ดขาดเลยนะ!” เจียงสื้อสื้อยังย้ำเตือนอีกครั้งอย่างไม่วางใจ
“อื้ม ไม่กินแน่นอน”
เมื่อได้รับคำยืนยันจากเขา เจียงสื้อสื้อจึงพาลูก ๆ จากไปอย่างสบายใจ
เมื่อมองดูรถที่แล่นไกลออกไปจนลับสายตา จิ้นเฟิงเฉินถึงได้ก้าวเท้าเดินไปริมถนน แล้วโบกรถแท็กซี่
……
ซ่างกวนหยวนนั่งอยู่ในห้องรับแขก ใบหน้าที่แต่งอย่างปราณีตดูมืดมนอย่างน่ากลัว
พ่อบ้านและคนรับใช้ต่างก็ไม่กล้าส่งเสียงดัง จะทำอะไรก็พยายามไม่ให้เกิดเสียงดัง
เธอเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาแขวนผนัง ใกล้จะหกโมงเย็นแล้ว
แต่จิ้นเฟิงเฉินก็ยังไม่กลับมา
มุมปากของซ่างกวนหยวนยกยิ้มเย็น นี่เพิ่งกลับมาไม่นานเท่าไหร่ เขาก็เปลี่ยนไปเสียแล้ว
เขาไม่เคยกล้าพูดคำพูดรุนแรงขนาดนั้นกับเธอมาก่อน
แต่วันนี้ เขาพูดออกมาแล้ว
และเธอเองก็รู้แน่ชัดแล้วว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะเจียงสื้อสื้อ
ถ้าไม่ใช่เพราะเจียงสื้อสื้อปรากฎตัวขึ้น เขาก็เป็นสามีของเธอไปนานแล้ว
แค่นึกถึงงานแต่งที่ถูกทำลาย ความแค้นเคืองต่อเจียงสื้อสื้อของซ่างกวนหยวนยิ่งเพิ่มมากขึ้น
แต่ยิ่งเป็นแบบนี้ เธอก็ยิ่งให้เจียงสื้อสื้อสมปราถนาไม่ได้
จิ้นเฟิงเฉิน ชีวิตนี้เขาจะต้องอยู่ข้างกายเธอเท่านั้น
นัยน์ตาของซ่างกวนหยวนเปล่งประกายเหี้ยมโหด
พ่อบ้านกัดฟันเดินเข้ามาแล้วเอ่ยเสียงเบา “คุณหนู คุณชายเฟิงเฉินกลับมาแล้วครับ”
ได้ยินดังนั้น ซ่างกวนหยวนก็หันไปมองที่ทางเข้า ก็เห็นร่างสูงที่คุ้นเคยเดินเข้ามา
เธอลุกขึ้นแล้วรีบเดินเข้าไปทันที
“นายไปไหนมา?”
เมื่อคำถามเข้ามาปะทะใส่หน้าเต็ม ๆ จิ้นเฟิงเฉินก็หยุดฝีเท้าแล้วขมวดคิ้ว สีหน้าค่อนข้างไม่พอใจอย่างชัดเจน “ฉันไม่ใช่เด็กเล็ก ๆ ที่จะไปไหนก็ต้องรายงานเธอหมด”
พูดจบเขาก็สาวเท้าเดินผ่านเธอไป
“จิ้นเฟิงเฉิน!” ซ่างกวนหยวนไล่ตามไปขวางทางเขา แล้วเงยหน้าจ้องเขาอย่างไม่พอใจ “ฉันกำลังเป็นห่วงนายนะ กังวลว่าจะเกิดเรื่องอะไรกับนายข้างนอก แล้วนายมาใช้ท่าทีแบบนั้นกับฉันได้ยังไง?”
จิ้นเฟิงเฉินหัวเราะเย้ยหยันอย่างเย็นชา “เป็นห่วงฉัน? ฉันว่าเธอคงกลัวฉันไปเจอใครล่ะสิ”
“ฉัน….” ซ่างกวนหยวนคิดจะแก้ต่างแต่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไง สุดท้ายจึงได้แต่ยอมแพ้ “ช่างเถอะ ฉันไม่อยากทะเลาะกับนาย”
เธอไม่คิดว่าเพราะเจียงสื้อสื้อคนเดียว จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาสองคนแย่ลง
ถ้าอย่างนั้น ก็เป็นไปตามที่เจียงสื้อสื้อต้องการแล้วไม่ใช่เหรอ
“ถ้าไม่มีธุระอะไร ฉันจะขึ้นไปพักผ่อนแล้ว” น้ำเสียงของจิ้นเฟิงเฉินนั้นค่อนข้างเย็นชา
ซ่างกวนหยวนดึงมือของเขาไว้ “เฟิงเฉิน นายอย่าเป็นแบบนี้ได้ไหม? ระหว่างเราก็ดีกันอยู่ไม่ใช่เหรอ?”
น้ำเสียงของเธอเจือความวิงวอน
จิ้นเฟิงเฉินเอียงหน้ามองเธอ ริมฝีปากบางเผยอขึ้น “ฉันไม่เคยเปลี่ยน เธอต่างหากที่คิดมากไปเองว่าฉันเปลี่ยนไป”
เมื่อพูดประโยคนั้นจบ เขาดึงมือเธอออกแล้วเดินขึ้นไปชั้นบนอย่างรวดเร็ว
ซ่างกวนหยวนยืนอยู่ตรงนั้นพักหนึ่ง ก่อนจะโพล่งหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น
เขาไม่ได้เปลี่ยนงั้นเหรอ?
เปลี่ยนไปแล้วชัด ๆ
เขาเป็นของเธอ!
แววตาของซ่างกวนหยวนดุร้ายขึ้นมา เธอหมุนตัวไปยังห้องครัว
……
จิ้นเฟิงเฉินที่กลับไปถึงห้อง พริบตาที่ปิดประตู สีหน้าเหนื่อยล้าก็ปรากฏออกมาและหัวเราะเยาะตัวเอง
ก่อนหน้านี้มันเกิดอะไรขึ้นกับเขา ทำไมถึงรู้สึกว่าซ่างกวนหยวนอ่อนโยนไปได้?
ความต้องการครอบครองของเธอช่างน่าขยะแขยงจริง ๆ!
เขาไม่เคยอยากจะฟื้นความทรงจำอย่างรีบเร่งขนาดนี้มาก่อน เขาอยากหนีไปจากตระกูลซ่างกวนที่น่าอึดอัดนี้ อยากจะกลับไปอยู่ข้าง ๆ สื้อสื้อกับลูก
แต่ทว่า มันก็น่าจะใกล้แล้วล่ะ
ก๊อกก๊อก!
จู่ ๆ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
จิ้นเฟิงเฉินเก็บอารมณ์ความรู้สึกทั้งหมดอย่างรวดเร็ว แล้วเดินไปเปิดประตู
เป็นซ่างกวนหยวน
เธอมองเขาอย่างอ่อนโยนแล้วถามด้วยรอยยิ้ม “นายกินข้าวมารึยัง?”
“ยัง”
“ฉันเคี่ยวซุปไว้แล้ว ฉันตักขึ้นมาให้นายดื่มดีไหม?”
จิ้นเฟิงเฉินนึกถึงคำกำชับของเจียงสื้อสื้อขึ้นมา จึงเอ่ยปฏิเสธ “ฉันไม่หิว”
“ไม่ได้นะ ไม่หิวก็ต้องกินสักนิด ไม่อย่างนั้นท้องไส้จะรับไม่ไหวเอานะ”
“ก็ได้ ฉันจะอาบน้ำก่อน รอซุปเย็นแล้วค่อยกิน”
เขาไม่ได้ปฏิเสธ ซ่างกวนหยวนพลันยิ้มเบิกบานออกมา “โอเค ฉันลงไปตักซุปนะ”
จิ้นเฟิงเฉินกลับมาที่ห้อง เขาขมวดคิ้วแล้วเดินไปที่ห้องน้ำ
เมื่อเขาชำระร่างกายเสร็จและออกมาจากห้องน้ำก็ได้กลิ่นยาจีนอบอวลในอากาศทันที
เหม็นไปหน่อย
เขาเห็นซุปสีดำถ้วยหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง
นี่คงจะเป็นซุปที่ซ่างกวนหยวนเคี่ยว
เขาเดินเข้าไปหยิบขึ้นมาแล้วหมุนตัวเข้าไปในห้องน้ำ เทซุปในถ้วยลงในชักโครก เหลือไว้เพียงเล็กน้อย
เมื่อกดปุ่มล้างน้ำ ซุปยาก็ถูกชะล้างไป
เขาเดินออกไป พอดีกับที่ซ่างกวนหยวนเดินเข้ามา
“ดื่มซุปรึยัง?” เธอถาม
จิ้นเฟิงเฉินเอาถ้วยให้เธอดู “ยังเหลืออีกหน่อย”
“งั้นก็รีบดื่มให้หมด” ซ่างกวนหยวนเร่งเร้า
“ได้สิ” นัยน์ตาของจิ้นเฟิงเฉินวาบประกายผ่านไปอย่างรวดเร็ว เขาแหงนหน้าดื่มซุปที่เหลืออยู่เล็กน้อยนั้น
รสขมปร่าแผ่ซ่านขึ้นมาจากปลายลิ้น
เขาขมวดคิ้วแน่น นี่มันซุปที่ไหนกัน ยาจีนชัด ๆ
เมื่อเห็นเขาดื่มจนหมด แววตาของซ่างกวนหยวนวูบไหว มุมปากยกขึ้นด้วยความลำพองใจในชัยชนะอย่างไม่รู้ตัว
“นายรีบพักผ่อนนะ” ซ่างกวนหยวนหยิบถ้วยในมือของเขาไป
“คราวหน้าเธออย่าใส่ยามากขนาดนั้นนะ ฉันไม่ชอบ” จิ้นเฟิงเฉินเอ่ย
“โอเค ทีหลังจะไม่ใส่” ซ่างกวนหยวนรับคำด้วยรอยยิ้ม “พักผ่อนเถอะ ฉันไปแล้วนะ”
เมื่อเห็นเธอออกไป สีหน้าของจิ้นเฟิงเฉินก็มืดทะมึนลงทันที
ดูเหมือนว่าที่สื้อสื้อกังวลจะไม่ได้ผิดพลาดซะแล้ว หล่อนให้เขากินของแปลก ๆ ตามที่คาดไว้
แถมยัง ร้อนอกร้อนใจขนาดนั้น