ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 1438 มีเงาของซ่างกวนหยวน

บทที่ 1438 มีเงาของซ่างกวนหยวน

จิ้นเฟิงเหรากลับมาที่บ้าน ก็ตรงดิ่งไปที่ห้องหนังสือ

จิ้นเฟิงเฉินทำงานอยู่ที่ห้องหนังสือ เห็นเขามา ก็ปิดเอกสารในมือ เอ่ยถามว่า “เสร็จแล้วเหรอ”

“อืม เสร็จแล้ว” จิ้นเฟิงเหราเดินมาข้างๆโซฟาแล้วนั่งลง

“เป็นยังไงบ้าง”

จิ้นเฟิงเหรานิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง “เป็นผู้หญิงที่แปลกประหลาดคนหนึ่ง”

“แปลกประหลาดเหรอ” จิ้นเฟิงเฉินแปลกใจเล็กน้อย

“พูดให้ถูกต้องมากกว่านี้ น่าจะเป็นผู้หญิงที่ไม่จริงใจคนหนึ่ง” จิ้นเฟิงเหราลุกขึ้น เดินมาตรงหน้าเขา พูดต่อว่า “แม้ปากเธอจะบอกว่าอยากทำงานร่วมกับจิ้นกรุ๊ป แต่ผมสัมผัสถึงความจริงใจของเธอไม่ได้เลย”

จิ้นเฟิงเฉินนิ่งเงียบไปชั่วครู่ “……งั้นเธอพูดว่าอะไร”

“เธอบอกว่าเธอสนใจโครงการปัญญาประดิษฐ์อันนี้ อยากร่วมมือกับจิ้นกรุ๊ป และอัตราการทำกำไรให้จิ้นกรุ๊ปสูงมาก คำนวณแล้ว JRไม่ได้กำไรเลย”

พูดมาถึงตรงนี้ จิ้นเฟิงเหราขมวดคิ้ว “อย่างนั้นเธอมาร่วมมือกับพวกเราเพื่ออะไร”

โครงการที่ไม่ได้กำไรเลย ไม่จำเป็นต้องร่วมมือกันจริงๆ

“นี่คือเงื่อนไขที่เธอให้จิ้นกรุ๊ปเหรอ” จิ้นเฟิงเฉินถาม

“อืม นอกจากนี้แล้ว เธอยังบอกด้วยว่าขอแค่ได้ร่วมมือกัน ทุกเรื่องพวกเราจิ้นกรุ๊ปเป็นคนตัดสินใจ ไม่จำเป็นต้องสนใจความเห็นของJR”

ได้ยินดังนั้น จิ้นเฟิงเฉินยิ้ม ในรอยยิ้มแฝงด้วยความสงสัยใคร่รู้ “นี่เธอคิดจะขายJRเหรอ”

“เธอเสนอเงื่อนไขดีมากเกินไป กลับทำให้คนรู้สึกแปลกๆ” จิ้นเฟิงเหราพูดความรู้สึกตนเองออกมา

สำหรับหลี่ซีผู้หญิงคนนั้น เขาชอบไม่ลงจริงๆ

“ยิ่งเป็นเงื่อนไขที่น่าสนใจมาก ก็ยิ่งมีปัญหามาก” จิ้นเฟิงเฉินพูด “ฉันจำเป็นต้องสงสัยว่าแผนการที่แท้จริงของJRคืออะไรถึงอยากจะทำงานร่วมกับจิ้นกรุ๊ป”

“พี่ ต้องการให้ผมส่งคนไปสืบดูมั้ย”

“สืบ จำเป็นต้องสืบให้กระจ่าง” จิ้นเฟิงเฉินหรี่ตาแฝงให้เห็นอันตรายออกมา “ฉันจะดูสิว่าJRมีแผนร้ายอะไร”

“พี่ พี่วางใจเถอะผมจะสืบให้กระจ่างแน่” จิ้นเฟิงเหรารับประกัน

……

จิ้นเฟิงเฉินทำงานเสร็จก็กลับไปที่ห้อง พบว่าเจียงสื้อสื้อยังไม่นอน

“ทำไมยังดูโทรศัพท์มือถืออยู่อีก”

เจียงสื้อสื้อรีบปิดโทรศัพท์มือถือ “กำลังอ่านข่าวค่ะ เลยลืมดูเวลา”

“ข่าวอะไรน่าดูขนาดนี้เลย”

“ก็คือ……” เจียงสื้อสื้อเปิดโทรศัพท์มือถือขึ้นมาใหม่ เอาโทรศัพท์ยกขึ้นมาตรงหน้าเขา “คือข่าวหลี่ซี”

จิ้นเฟิงเฉินพอมองเห็น ว่าเป็นหลี่ซีจริงๆ คิ้วเรียวของเขาขมวดขึ้นโดยไม่รู้ตัว “ดูหล่อนทำไม”

“ก็อยากรู้นี่” เจียงสื้อสื้อก้มหน้า เลื่อนโทรศัพท์ไปพลางพูดพลางว่า “ฉันได้ข่าวว่าเธออยากจะร่วมงานกับจิ้นกรุ๊ป ก็เลยอยากรู้ว่าเธอเป็นคนยังไง

แล้วอีกอย่างฉันได้ข่าวว่า คืนวันนี้เธอนัดคุณไปทานข้าวด้วย”

ตอนที่พูดประโยคนี้ เจียงสื้อสื้อเงยหน้ามามองเขา ในดวงตาไม่ได้มีความไม่พอใจ ในทางกลับกันมีรอยยิ้มเล็กน้อย

“คุณอยากจะบอกอะไร” จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้ว

“ฉันรู้สึกว่า……” เจียงสื้อสื้อแกล้งทำเป็นลากเสียงยาวๆ ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “เธอพุ่งเป้ามาที่คุณ!”

จิ้นเฟิงเฉินอึ้ง จากนั้นก็ตั้งตัวได้ ยิ้มออกมา “คุณกำลังคิดฟุ้งซ่านอีกแล้วนะ”

“ฉันคิดฟุ้งซ่านที่ไหนกัน” เจียงสื้อสื้อกุมมือของเขาไว้ “สามีฉันทั้งหล่อทั้งเก่ง ก็ต้องถูกคนอื่นหมายตาไว้แล้วแน่เลย”

“นี่คุณหึงเหรอ” จิ้นเฟิงเฉินถาม

เจียงสื้อสื้อส่ายหน้า “ไม่ได้หึง ก็แค่ไม่อยากให้มีผู้หญิงที่เหมือนกับซ่างกวนหยวนแบบนั้นเพิ่มขึ้นมาอีก”

จะว่าไปแล้ว พอเกิดเรื่องขึ้นมา ก็จะหวาดระแวงว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้อีกขึ้นไปอีกนาน

เพราะว่าหลี่ซีคนนี้กับซ่างกวนหยวนคล้ายกัน คือต่างก็เกิดในชาติตระกูลที่ดี หน้าตาสะสวย เธอกลัวว่าจะเกิดเรื่องซ้ำรอยเดิมอีกครั้ง

“ซ่างกวนหยวนตายไปแล้ว” จิ้นเฟิงเฉินพูดเบาๆ “อีกอย่างผมก็ให้เฟิงเหราไปสืบข้อมูลของหลี่ซีให้กระจ่างแล้ว”

เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว “ไม่รู้ว่าฉันคิดไปเองหรือเปล่านะคะ ฉันเห็นเงาของซ่างกวนหยวนบนตัวของหลี่ซีจริงๆ”

“คุณนี่ก็ ชอบคิดฟุ้งซ่าน” จิ้นเฟิงเฉินนั่งลง ยกมือขึ้นมาลูบที่แก้มเธอเบาๆ พูดด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “ต่อให้หลี่ซีจะเป็นซ่างกวนหยวนอีกคนหนึ่งจริงๆ ผมก็จะทำลายความคิดของเธอเสีย ไม่มีทางปล่อยให้เธอมาทำร้ายคุณกับลูกได้แม้แต่ปลายเล็บ”

เจียงสื้อสื้อเม้มปากยิ้ม “อืม หวังว่าฉันจะแค่คิดฟุ้งซ่านไปเอง”

อาจจะเป็นเพราะตอนเย็นเธออ่านบทความที่เปรียบเทียบหลี่ซีกับซ่างกวนหยวนมากไป จึงเกิดความรู้สึกคิดไปเองแบบนั้น

“เอาล่ะ ไม่ต้องคิดแล้ว รีบนอนเถอะ”

จิ้นเฟิงเฉินก้มหน้าประทับรอยจูบเบาๆบนหน้าผากเธอ “ราตรีสวัสดิ์”

“ราตรีสวัสดิ์ค่ะ”

เจียงสื้อสื้อนอนลงอย่างเชื่อฟัง จิ้นเฟิงเฉินช่วยเธอดึงผ้าห่มห่มให้เรียบร้อย มองเธออย่างอ่อนโยน “นอนเถอะ”

“อืม”

เจียงสื้อสื้อหลับตาลง ไม่นานก็หลับแล้ว

จิ้นเฟิงเฉินจึงได้ลุกขึ้นมา เขามองเจียงสื้อสื้อที่นอนหลับสนิทอย่างเงียบๆ ดวงตาค่อยๆหรี่ลง

ความจริงแล้วไม่เพียงแค่เจียงสื้อสื้อที่คิดไปเอง เขาก็เป็น

เขาเองก็มองเห็นเงาของซ่างกวนหยวนบนตัวของหลี่ซี

ถ้าไม่ใช่ว่าซ่างกวนหยวนได้ตายไปแล้ว และยังเผาไปแล้วด้วย เขาก็คิดว่าหลี่ซีก็คือซ่างกวนหยวนจริงๆ

แต่ว่า ก็ยังประมาทไม่ได้

ไม่ว่าจะเป็นJR หรือหลี่ซีก็ช่าง เขาจะต้องสืบแผนการของพวกเขาให้กระจ่าง

……

วันต่อมา เจียงสื้อสื้อตื่นขึ้นมา จิ้นเฟิงเฉินก็ไม่อยู่แล้ว

เธอล้างหน้าแปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อผ้าลงมาชั้นล่าง

เถียนเถียนกำลังกินอาหารเช้า พอเห็นเธอ ก็รีบกระโดดลงมาจากเก้าอี้เด็กทันที วิ่งมาทางเธอ

“หม่ามี๊ วันนี้ไปส่งหนูที่โรงเรียนอนุบาลมั้ยคะ” เถียนเถียนแหงนหน้าเล็กๆ ถามด้วยเสียงเล็กเสียงน้อยแบบเด็กๆ

เจียงสื้อสื้อยิ้มพลางบีบจมูกเธอ “ไปส่งจ้ะ”

“ดีจังเลย” เถียนเถียนปรบมืออย่างดีใจ

ทานอาหารเช้าเสร็จ เจียงสื้อสื้อก็ไปส่งเถียนเถียนที่โรงเรียนอนุบาล

เพราะเรื่องที่เถียนเถียนถูกลักพาตัวไปก่อนหน้านี้ จิ้นเฟิงเฉินและเจียงสื้อสื้อมีความคิดที่จะเปลี่ยนโรงเรียนอนุบาลให้ลูก

แต่เถียนเถียนไม่ยอม

“หนูชอบคุณครู แล้วก็ชอบเด็กๆคนอื่น ไม่อยากย้ายโรงเรียน”

ภายใต้ความจำใจ จิ้นเฟิงเฉินและเจียงสื้อสื้อจึงได้แต่ส่งคนไปแอบคุ้มครองเถียนเถียน

หลังจากมาถึงโรงเรียนอนุบาลแล้ว เจียงสื้อสื้อก็ส่งเถียนเถียนถึงมือคุณครู “วันนี้ลำบากพวกคุณด้วยนะคะ”

คุณครูของเถียนเถียนเองก็คิดว่าพวกเขาคงจะให้เถียนเถียนย้ายโรงเรียน แต่คิดไม่ถึงเลยว่านี่จะทำให้เธอแปลกใจมาก แต่ก็โล่งใจ

ตระกูลจิ้นเป็นตระกูลแบบไหน ถ้าเอาความผิดโยนให้โรงเรียนอนุบาลในเรื่องนั้น เธอและคุณครูคนอื่นคงต้องไปหางานทำใหม่แล้ว

พวกเขาไม่ได้ทำ แสดงถึงความใจกว้างของพวกเขา

เธอเองก็ซาบซึ้งใจ ดังนั้นก็เลยยิ่งเอาใจใส่ ดีกับเถียนเถียนมากกว่าเมื่อก่อน

ครั้งนี้ได้ยินเจียงสื้อสื้อพูดว่า “ลำบาก” สองคำนี้ ก็ตื่นตกใจไปชั่วครู่ รีบส่ายหน้า “ไม่ลำบากเลยแม้แต่นิดเดียวค่ะ นี่เป็นสิ่งที่ฉันควรทำอยู่แล้วค่ะ”

เจียงสื้อสื้อยิ้ม “เข้าไปเถอะค่ะ ตอนบ่ายจะมีคนขับรถมารับเถียนเถียนนะคะ”

“คุณวางใจเถอะค่ะ ฉันจะดูแลเถียนเถียนอย่างดีแน่นอน”

พูดจบ คุณครูก็จูงมือเถียนเถียนหมุนตัวเดินเข้าไปข้างใน

เจียงสื้อสื้อยืนอยู่ที่เดิม มองดูพวกเธอค่อยเดินห่างไกลออกไปเรื่อย จนกระทั่งมองไม่เห็นจึงหมุนตัว เดินไปที่รถ ขับรถมุ่งหน้าไปที่จิ้นกรุ๊ป

ตอนที่เธอมาถึง จิ้นเฟิงเฉินยังประชุมช่วงเช้าอยู่ เธอค่อยๆผลักประตูห้องประชุม ยืนอยู่ตรงประตูก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศตึงเครียด้านใน

เธอนับถือพนักงานใต้บังคับบัญชาของเฟิงเฉินมาก ที่รับแรงกดดันได้ดีขนาดนี้ ภายใต้ออร่าที่ที่แข็งแกร่งของเฟิงเฉิน ยังสามารถรายงานการทำงานได้อย่างมีระบบ

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท