ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 1433 เจียงสื้อสื้อ ฉันกลับมาแล้ว

บทที่ 1433 เจียงสื้อสื้อ ฉันกลับมาแล้ว

เถียนเถียนตื่นขึ้นมา พอเห็นเจียงสื้อสื้อ ก็ร้อง”ว้าก” ส่งเสียงร้องไห้ออกมาเลย

เจียงสื้อสื้อเอาเธอเข้ามาในอ้อมกอดอย่างสงสาร พูดปลอบอย่างอ่อนโยนว่า “ไม่ต้องกลัวนะลูก แด๊ดดี้หม่ามี๊อยู่ที่นี่แล้ว ไม่มีใครทำร้ายลูกได้

เถียนเถียนร้องไห้นานมากกว่าจะหยุด ร้องจนดวงตาทั้งสองข้างบวม

เพื่อปลอบประโลมความรู้สึกเธอ เจียงสื้อสื้อให้จิ้นเฟิงเฉินซื้อลูกกวาดที่เธอชอบกินมาให้โดยเฉพาะ

ฉวยจังหวะที่เธอกินลูกกวาดอย่างสงบเงียบนั้น จิ้นเฟิงเฉินก็ลองถามเธอว่า “เถียนเถียน ลูกบอกแด๊ดดี้ได้มั้ยว่าใครพาตัวลูกไป”

เถียนเถียนเอียงคอ ย้อนคิดไปถึงเหตุการณ์ในตอนนั้น

“หนูวิ่งไล่ตามลูกบอลออกไปนอกโรงเรียนอนุบาล จากนั้นก็มีคุณอาช่วยหนูเก็บลูกบอลไว้……”

ได้ยินมาถึงตรงนี้ เจียงสื้อสื้อกับจิ้นเฟิงเฉินก็สบตากัน ที่แท้ความจริงแล้วเรื่องราวก็ไม่ธรรมดา

“จากนั้นล่ะ” เจียงสื้อสื้อถามเบาๆ

“จากนั้นเขาก็เอาลูกบอลให้หนู แล้วยังให้อมยิ้มหนูอันหนึ่งด้วย แต่หนูไม่ได้หยิบ”

“ทำได้ดีมากจริงๆลูก” เจียงสื้อสื้อลูบศีรษะเล็กๆของเธอ ถามว่า “แล้วยังไง”

“แล้วหนูก็จำไม่ได้แล้วค่ะ”

“งั้นลูกจำหน้าคุณอาคนนั้นได้มั้ยว่าหน้าตาแบบไหน” จิ้นเฟิงเฉินเอ่ยถาม

เถียนเถียนส่ายหน้า “จำไม่ได้แล้วค่ะ”

ไม่ว่าเธอจะจำได้หรือไม่ การหายตัวไปของเธอต้องมีความเกี่ยวพันกับผู้ชายคนนั้นอย่างแน่นอน

จิ้นเฟิงเฉินนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปพูดกับเจียงสื้อสื้อว่า “คุณอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนเถียนเถียน ผมจะกลับไปที่บริษัทสักรอบ”

“ค่ะ”

เจียงสื้อสื้อรู้ว่าเขารีบร้อนกลับไปที่บริษัทด้วยเรื่องอะไร ดังนั้นจึงไม่ได้พูดอะไรมาก

……

พอจิ้นเฟิงเฉินกลับมาที่บริษัท ก็เรียกจิ้นเฟิงเหราและกู้เนี่ยนมาที่ห้องทำงานของตนเอง

“สืบได้ความอะไรมั้ย” จิ้นเฟิงเฉินมองไปยังจิ้นเฟิงเหรา แล้วจึงเอ่ยถาม

จิ้นเฟิงเหราส่ายหน้า “ตอนนี้ยังไม่มีครับ หลายวันมานี้พวกของซ่างกวนเชียนไม่ได้อะไรผิดปกติ”

“แล้วนายล่ะ” จิ้นเฟิงเฉินเลื่อนสายตามามองที่กู้เนี่ยน

กู้เนี่ยนก้มหน้า ตอบตามความจริงว่า “ทางฝ่ายตำรวจนั้นยังสืบไม่ได้ว่าใครเป็นคนเอาตัวเถียนเถียนไป”

“อะไรก็ยังสืบไม่ได้” คิ้วคู่สวยของจิ้นเฟิงเฉินขมวดแน่น

ความรู้สึกที่หาต้นสายปลายเหตุไม่ได้แบบนี้ทำให้เราไม่พอใจจริง

“พี่ ถ้าเรื่องนี้เป็นฝีมือพวกของซ่างกวนเชียนจริง ไม่มีทางที่จะไม่เหลือร่องรอยอะไรเลย” จิ้นเฟิงเหรารู้สึกว่าเรื่องนี้มีอะไรชอบมาพากล

“ถ้าไม่ใช่ฝีมือของพวกเขาล่ะ” จิ้นเฟิงเฉินย้อนถาม

“ไม่ใช่พวกเขา จะเป็นใคร” ตอนนี้จิ้นเฟิงเหราก็คิดไม่ออกว่าจะยังมีใครคิดจะเป็นศัตรูกับตระกูลจิ้นอีก

ใช่แล้ว ถ้าไม่ใช่พวกซ่างกวนเชียน ยังจะมีใครอีก

แววตาจิ้นเฟิงเฉินยิ่งลึกล้ำขึ้น มีความคิดบางอย่างที่ไม่แน่ใจนักผุดขึ้นในหัวสมอง

“หรือว่ายังมีผู้มีอำนาจคนไหนที่พวกเราไม่รู้อีก”

“ไม่น่าจะเป็นไปได้!” จิ้นเฟิงเหราไม่กล้าจะเชื่อ “จะมีชีวิตที่สงบสุขบ้างสักวันไม่ได้เลยหรือ”

ช่วงหลายวันมานี้ต่อสู้ชิงไหวชิงพริบกับพวกของซ่างกวนเชียนนั้นมาตลอด เขาก็เหนื่อยทั้งกายและใจแล้วจริงๆ เขาเหนื่อยล้าอ่อนเพลียจริงๆไม่อยากให้มีศัตรูใหม่ปรากฏตัวขึ้นมาอีกจริงๆ

จิ้นเฟิงเฉินยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้ ออกคำสั่งว่า “กู้เนี่ยน รีบไปสืบเดี๋ยวนี้ ต้องสืบเรื่องนี้ให้กระจ่างชัด”

“ครับ!”

กู้เนี่ยนรับคำสั่งแล้วรีบออกไปทันที

“พี่ พี่คิดว่ามีผู้มีอำนาจอื่นตั้งตัวเป็นศัตรูกับตระกูลจิ้นจริงๆเหรอครับ” จิ้นเฟิงเหรายังคิดว่าพี่เขาอาจจะคิดมากไป

ความจริงแล้วเรื่องนี่ก็เป็นฝีมือของพวกซ่างกวนเชียน

“เพื่อสื้อสื้อกับลูก ฉันต้องระมัดระวังตัว” จิ้นเฟิงเฉินเงยหน้ามามองเขาแวบหนึ่ง พูดต่อไปว่า “แน่นอน ฉันก็หวังว่าฉันจะคิดมากไป”

“พี่ต้องคิดมากไปแน่นอน” จิ้นเฟิงเหราพูดด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจ

“หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น”

จิ้นเฟิงเฉินยิ้ม ไม่ได้พูดอะไรอีก

……

ประเทศสิงคโปร์

“เจียงสื้อสื้อมีปฏิกิริยายังไงบ้าง”

เมื่อรู้ข่าวว่าเถียนเถียนลูกสาวของเจียงสื้อสื้อถูกยาสลบ หลี่ซีก็ซักถามเจี่ยงฉือด้วยท่าทางยินดีมาก

ผ่านไปนานขนาดนี้ ในที่สุดก็เห็นสีหน้าสดใสมีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้างของเธอ

“อยากรู้เหรอ” เจี่ยงฉือจงใจแกล้งทำเป็นเล่นตัว

“แน่นอนว่าฉันอยากรู้” หลี่ซีคิดใคร่ครวญ “เธอเจ็บปวดจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ ใช่มั้ย ร้องไห้อย่างหนักเลยหรือเปล่า”

พอคิดว่าเจียงสื้อสื้อทรมาน เธอก็รู้สึกมีความสุขมาก

ปฏิกิริยาทางจิตใจวิปริตอย่างสิ้นเชิง

“คุณเดาถูกแล้ว เธอร้องไห้หนักมา จนเป็นลมไปเลย” เจี่ยงฉือบอกสภาพของเจียงสื้อสื้อกับเธออย่างละเอียด

หลังจากได้ฟัง หลี่ซีก็รู้สึกสบายกายสบายใจ หัวเราะเสียงดัง “เจียงสื้อสื้อนะเจียงสื้อสื้อ นี่มันแต่เริ่มต้น ต่อไปเธอยังต้องทรมานอีกมาก”

“ในเมื่อมีความสุขแล้ว จะให้ผมจูบหน่อยได้มั้ย” เจี่ยงฉือโอบเอวเธอ ก้มหน้าจะจูบที่ริมฝีปากเธอ

“เดี๋ยวก่อน” หลี่ซียกมือขึ้นมาขวางริมฝีปากเขา”ฉันมีเรื่องสำคัญมากจะพูดกับคุณ”

“เดี๋ยวค่อยพูด”

เจี่ยงฉือเอามือเธอออก จะจูบลงไป

หลี่ซีหมุนตัวทันที ออกไปจากอ้อมกอดเขา จ้องเขาด้วยสีหน้าไม่พอใจ “ฉันเคยบอกแล้วว่า เรื่องที่ฉันไม่ยินยอมก็อย่าบังคับฉัน”

เมื่อไม่ได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการ ในใจเจี่ยงฉือก็รู้สึกไม่สบายขึ้นมาเล็กน้อย เขาลูบจมูกอย่างอึดอัด ถามว่า “งั้นคุณก็พูดมา”

“ฉันเตรียมจะกลับประเทศแล้ว”

เจี่ยงฉือเลิกคิ้ว ความจริงแล้วก็ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย เขารู้แต่แรกแล้วว่าเธอจะต้องกลับประเทศสักวัน

เพราะเธอเกลียดเจียงสื้อสื้อขนาดนั้น จะต้องมากำจัดอีกฝ่ายด้วยมือตัวเองแน่นอน

แต่ว่า เขาก็ต้องพูดเรื่องบางอย่างก่อน

“กลับประเทศได้ แต่คุณจำเป็นต้องรับปากผม เวลามีปัญหาอย่าวู่วาม ต้องใจเย็น มีอะไรต้องปรึกษาผม ผมช่วยคุณแน่นอน”

ริมฝีปากแดงของซ่างกวนหยวนโค้งงอขึ้น “คุณวางใจเถอะ ตอนนี้ที่พึ่งพาได้ ก็มีแต่คุณคนเดียว”

คำพูดนี้ใช้ได้ผลกับเจี่ยงฉืออย่างมาก เขาลืมความไม่พอใจที่ถูกเธอปฏิเสธเมื่อครู่ไปทันที พูดว่า “อย่างนั้นก็ดี ตอนนี้ผมจะเตรียมจัดการเรื่องที่คุณจะกลับประเทศให้”

“ขอบคุณค่ะ”

นัยน์ตาเจี่ยงฉือฉายแสงสว่างวาบ ยื่นมือไปเอาตัวเธอเข้ามาในอ้อมกอดอย่างรวดเร็ว โดยที่เธอยังไม่ทันได้ตั้งตัว จูบบนริมฝีปากเธอ

ครั้งนี้ ซ่างกวนหยวนไม่ได้ปฏิเสธ ปล่อยให้เขาตักตวงจากตนเองอย่างบ้าคลั่ง

นี่คือสิ่งที่เธอตอบแทนเขาที่ให้ความช่วยเหลือตนเอง

……

เจี่ยงฉือดำเนินการอย่างรวดเร็วมาก สองวันต่อมาก็จัดการเรื่องที่หลี่ซีจะกลับประเทศเรียบร้อย

“จำไว้ว่า คุณไม่ใช่ซ่างกวนหยวนอีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าเจอใครในตระกูลซ่างกวนก็ต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้จัก จะเผยพิรุธออกมาไม่ได้ รู้มั้ย”

สิ่งที่เจี่ยงฉือกำชับ ทำให้หลี่ซีรู้สึกน่าขันมาก

“คุณเคยบอกว่า ซ่างกวนหยวนตายไปแล้ว ฉันคือหลี่ซี!” หลี่ซีพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ความรู้สึก

เจี่ยงฉือยิ้ม “ถูกต้อง คุณคือหลี่ซี เป็นลูกสาวบุญธรรมของท่านประธานบริษัท JR จำกัด”

สถานภาพนี้ทำให้หลี่ซีมีความแปลกประหลาดใจเล็กน้อย

“JRกรุ๊ปเหรอ”

คือJRกรุ๊ปที่เธอรู้จักนั้นหรือเปล่า

เจี่ยงฉือมองความคิดเธอออก “ก็คือJRที่คุณรู้จักนั่นแหละ”

หลี่ซีหรี่ตามอง จ้องเจี่ยงฉือเขม็ง “คุณยังมีความลับที่ฉันไม่รู้อีกมากแค่ไหน”

“ต่อไปคุณก็จะค่อยๆรู้เอง”

สามารถทำให้เธอกลับประเทศโดยใช้สถานะลูกสาวบุญธรรมของท่านประธานJRกรุ๊ปได้ เจี่ยงฉือไม่ธรรมดาจริงๆ

หลี่ซีรู้สึกว่าตนเองโชคดีที่มีความช่วยเหลือจากเจี่ยงฉือ ไม่เช่นนั้นตอนนี้เธอน่าจะยังอยู่ในคุก ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้ออกมา

“ผมเอาข่าวที่คุณจะกลับประเทศส่งให้กับสำนักข่าวแต่ละแห่งภายในประเทศแล้ว พอคุณกลับไปก็จะเป็นที่จับตามองของทุกคน ชอบการจัดการของผมมั้ย”

หลี่ซีพยักหน้า “ฉันชอบมาก”

จากนั้น เธอก็ยิ้มอย่างเยือกเย็น ดวงตาเต็มไปด้วยความเย็นชา

เจียงสื้อสื้อ ฉันกลับมาแล้ว

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท