ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 1444 คิดถึงฉันบ้างหรือเปล่า?

บทที่ 1444 คิดถึงฉันบ้างหรือเปล่า?

หนึ่งสัปดาห์ที่ได้ใช้ชีวิตพักผ่อนตามสบายอยู่ที่เมืองหลวง เจียงสื้อสื้อก็พาลูกกลับบ้านไป

หลังจากที่ไปส่งลูกกลับบ้านไปแล้ว เธอก็ได้มุ่งตรงไปยังจิ้นกรุ๊ป

ตอนที่กู้เนี่ยนเห็นเธอ ก็ประหลาดใจอย่างมาก”คุณหญิง คุณกลับมาแล้ว”

เจียงสื้อสื้อยิ้มแล้วพยักหน้าออกมา”อืม กลับมาแล้ว”

“คุณชายอยู่ที่ห้องทำงานครับ” กู้เนี่ยนรีบพูดออกมาทันที

“โอเค”

เจียงสื้อสื้อตรงเข้าไปเปิดประตูห้องทำงานประธานบริษัท

จิ้นเฟิงเฉินกำลังก้มหน้าอ่านเอกสารอย่างตั้งอกตั้งใจ ใบหน้าเย็นชาเหมือนเคย

ได้ยินเสียงการเปิดประตู เขานึกว่าจะเป็นกู้เนี่ยน ก็ได้ถามออกไปโดยที่ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมา”มีธุระ?”

เจียงสื้อสื้อยิ้มพลางก้าวเท้าเดินเข้าไป มือทั้งสองข้างเท้าอยู่บนขอบโต๊ะทำงาน โน้มตัวลงไป พลางเอ่ยออกไปว่า”มี”

เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมาข้างๆใบหู จิ้นเฟิงเฉินก็ได้เงยหน้าขึ้นมาทันที และก็ได้มองเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มคู่นั้นที่มองเข้ามาพอดี

“ฉันกลับมาแล้ว” เจียงสื้อสื้อเหยียดตัวตรง มือทั้งสองข้างไขว้ไปด้านหลัง บนใบหน้าเล็กสวยเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

มุมปากของจิ้นเฟิงเฉินค่อยๆแสยะขึ้นมาช้าๆ แม้แต่หางคิ้วเองก็ยังแต้มไปด้วยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย”ยินดีต้อนรับกลับบ้าน”

เจียงสื้อสื้อเลิกคิ้วออกมา”คิดถึงฉันบ้างหรือเปล่า?”

“อยากรู้คำตอบเหรอ?” จิ้นเฟิงเฉินไม่ตอบแต่ก็ได้เอ่ยถามออกมา

เจียงสื้อสื้อพยักหน้าออกมา”แน่นอนว่าจะต้องอยากรู้อยู่แล้ว”

“งั้นก็เข้ามา”

ภายใต้การส่งสัญญาณมาของจิ้นเฟิงเฉิน เจียงสื้อสื้อก็ได้เดินอ้อมโต๊ะทำงานไป เดินมายังข้างๆตัวเขา

บนเอวถูกรัดแน่นเข้ามา เธอก็ได้ร้องตกใจออกมาเบาๆ ทั้งร่างได้มานั่งอยู่บนขาของเขา

กลิ่นอายหอมเยือกเย็นจากตัวของเขาได้หอบหุ้มร่างเธอเอาไว้ทันที

ความคิดถึงที่สะสมมาตลอดหนึ่งอาทิตย์ในตอนนี้ได้พลุ่งพล่านออกมาทั้งหมด เจียงสื้อสื้อยื่นมือไปเกี่ยวหัวไหล่ของเขาเอาไว้ด้วยความที่ยากจะครองร่างของตัวเองเอาไว้ได้ ก้มหน้าลงไป ท่ามกลางสายตาที่ประหลาดใจของเขา ก็ได้จูบลงบนริมฝีปากของเขา

บนริมฝีปากนุ่ม แววตาของจิ้นเฟิงเฉินได้ดำมืดลงหลายส่วน เก็บมือที่โอบเอวของเธอเอาไว้ เพิ่มความลึกซึ้งของจูบนี้ไปมากขึ้น

ตลอดหนึ่งสัปดาห์มานี้ ความคิดถึงที่มีต่อกันต่างก็ได้สอดแทรกเข้าไปในจูบนี้อย่างเอ้อระเหยไม่มีที่สิ้นสุด

จูบเสร็จแล้ว จิ้นเฟิงเฉินก็ได้ผละออกจากริมฝีปากของเธอไปอย่างอาลัยอาวรณ์

หน้าผากของทั้งสองคนได้กดเข้าหากัน ดวงตาทั้งสี่ได้สบเข้าหากัน

ลึกซึ้งประหนึ่งบ่อน้ำลึกแห่งหนึ่ง แสงสว่างวาววับ

รอให้หัวใจที่สั่นออกมาไม่หยุดค่อยๆสงบลงไปช้าๆ เจียงสื้อสื้อถึงได้เอ่ยปากพูดออกมา”ฉันคิดถึงคุณมากจริงๆ”

เสียงอ่อนนุ่มได้ประดับไปด้วยการออดอ้อน

มุมปากของจิ้นเฟิงเฉินฉีกยิ้มออกมาจางๆ”ผมเองก็คิดถึงคุณเหมือนกัน”

เจียงสื้อสื้อกัดริมฝีปากล่างไปเบาๆ สายตาล็อกเป้าไปที่ใบหน้าหล่อของเขาเอาไว้”จริงเหรอ?”

“จริงๆ”

ได้รับคำตอบที่นึกได้อยู่แล้ว เจียงสื้อสื้อจิกไปลงบนริมฝีปากบนของเขาไปเบาๆ จากนั้นก็กระโดดลงจากขาเขาไป มือทั้งสองข้างไขว้ไปข้างหลัง ยิ้มพลางเอ่ยออกมา”ฉันไปทำงานก่อน ตอนเย็นฉันจะเลี้ยงอาหารมื้อใหญ่คุณเอง”

เธอเลิกคิ้วไปให้เขา แล้วผันร่างเดินออกไป

จนกระทั่งประตูห้องได้ปิดลง จิ้นเฟิงเฉินถึงจะถอนสายตากลับไป ยิ้มออกไปด้วยความรู้สึกที่ทั้งหลงใหลและทั้งจนใจ

……

เลิกงานตอนเย็น เจียงสื้อสื้อพาจิ้นเฟิงเฉินมาที่ร้านอาหารไทยที่เปิดใหม่ในใจกลางเมืองร้านหนึ่ง

พวกเขาเลือกนั่งลงตรงที่นั่งริมหน้าต่าง

“อยากกินอะไรก็สั่งได้ตามสบาย วันนี้ฉันเลี้ยงเอง” เจียงสื้อสื้อเอาเมนูอาหารดันออกไปตรงหน้าจิ้นเฟิงเฉิน แสดงท่าทางที่ดูใจกว้าง

จิ้นเฟิงเฉินหลุดยิ้มออกมาอย่างไม่ตั้งใจ”ทำไมจู่ๆถึงได้คิดจะอยากเลี้ยงข้าวผมขึ้นมา?”

“เลี้ยงข้าวยังต้องการเหตุผลกันอีกเหรอ?” เจียงสื้อสื้อไม่ตอบแต่ได้ย้อนถามกลับไป

จิ้นเฟิงเฉินเลิกคิ้วออกมา”จริงๆก็ไม่ได้ต้องการหรอก”

มือทั้งสองข้างของเจียงสื้อสื้อวางซ้อนกันอยู่บนโต๊ะ ใบหน้ายิ้มออกมา”เพราะว่าฉัน…อารมณ์ดีไง ก็เลยอยากเลี้ยงข้าวคุณ”

“หวังว่าคุณจะอารมณ์ดีอย่างนี้ไปทุกวัน” จิ้นเฟิงเฉินยิ้มให้กับเธอ ก้มหน้าดูเมนูอาหาร

ในจุดที่อยู่ติดริมของร้านอาหาร หลี่ซีกับเจี่ยงฉือได้นั่งกันอยู่

ตอนที่เจียงสื้อสื้อกับจิ้นเฟิงเฉินเดินเข้าร้านอาหารไป พวกเขาก็เห็นเข้า

ผ่านไปหลายวันมองเห็นจิ้นเฟิงเฉินอีกที ความรู้สึกสับสนผุดขึ้นมาในใจของหลี่ซี สายตาของเธอขยับไปตามจิ้นเฟิงเฉิน

นั่นเป็นผู้ชายที่เธอเคยรักอย่างลึกซึ้ง

ในดวงตาเผยความรู้สึกเจ็บปวดออกมาอย่างไม่รู้ตัว

เจี่ยงฉือมองเห็นแล้ว สายตาก็ได้จมลงทันที พลางเอ่ยถามออกมา”ซีซี คุณทำอะไรอยู่น่ะ?”

หลี่ซีถูกเสียงของเขาดึงสติกลับมา จึงรีบยับยั้งอารมณ์เอาไว้ทันที เอ่ยถามออกมาด้วยความเรียบเย็น”ไม่มีอะไร”

เธอก้มหน้าลง กินของที่อยู่ในจานต่อ แต่มันก็ไม่มีรสชาติอะไรเลย ยากที่จะกลืนมันลงไป

เธอจึงวางตะเกียบลงไปทันที แล้วหยิบทิชชูเปียกที่อยู่ข้างๆขึ้นมาเช็ดปาก”กินไม่ลงแล้ว จ่ายบิลกันเถอะ”

เจี่ยงฉือมองตรงเข้าไปที่เธอสักพักหนึ่ง แล้วจึงจะเอ่ยถามออกไป”คุณยังแคร์จิ้นเฟิงเฉินอยู่”

นี่เป็นประโยคบอกเล่า ไม่ใช่ประโยคคำถาม

สายตาของหลี่ซีส่องประกายออกมาเล็กน้อย ยิ้มเยาะหยันออกมา”คุณคิดมากไปแล้ว”

“ไม่” เจี่ยงฉือส่ายหน้าออกมา”ผมไม่ได้คิดมากไป แต่ได้มองออกจากสีหน้าของคุณ”

หลี่ซีอดไม่ได้ที่จะโกรธขึ้นมาเล็กน้อย”เจี่ยงฉือ คุณขี้ระแวงขนาดนั้นเลยเหรอ? คุณไม่เชื่อใจในตัวฉันสักนิดเลยเหรอ?”

“แน่นอนว่าผมเชื่อใจคุณอยู่แล้ว” เจี่ยงฉือสูดหายใจเข้าไปลึกๆ”ผมเพียงแค่หวังว่าจิ้นเฟิงเฉินในตอนนี้สำหรับคุณแล้ว จะเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าคนหนึ่ง ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีความรู้สึกหวั่นไหวใดๆเพราะเขาอีก”

“ฉันเกลียดเขา คุณจะให้ฉันข่มกลั้นความรู้สึกของตัวเองได้ยังไง?” หลี่ซีย้อนถามกลับไปอย่างไม่ปิดบัง

เจี่ยงฉือหันหน้าไปมองจิ้นเฟิงเฉินที่หันหลังให้กับพวกเขา ดวงตาหรี่ลง ในดวงตาแสดงความโหดเหี้ยมออกมา”ถ้าคุณอยากแก้แค้น ก็คิดเสียว่าเขาเป็นคนแปลกหน้าคนหนึ่ง ไม่อย่างนั้นก็จะส่งผลไปถึงคำตัดสินของคุณ”

หลี่ซียกน้ำผลไม้ที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาดื่มไปอึกใหญ่ พลางเอ่ยออกไปอย่างเย็นชา”ฉันรู้แล้ว”

เจี่ยงฉือในตอนนี้จึงได้เผยรอยยิ้มพึงพอใจออกมา”จำเอาไว้ อยากจะคิดการใหญ่ ก็ต้องควบคุมหัวใจของคุณเอาไว้ให้ดี”

“เจี่ยงฉือ มันถึงคิวให้คุณมาสั่งสอนฉันเมื่อไหร่กัน?” หลี่ซีโกรธขึ้นมา

“ผมไม่ได้สั่งสอนคุณ ผมหวังดีกับคุณ” เจี่ยงฉือจับมือของเธอเอาไว้ นิ้วหัวแม่มือลูบไล้ไปที่บนหลังมือของเธอไปเบาๆ”ผมรู้ว่าคุณเกลียดจิ้นเฟิงเฉิน แต่มีเกลียดก็มีรักอยู่ด้วย ไม่สู้เห็นเขาเป็นศัตรูที่แท้จริงคนหนึ่งไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ”

หลี่ซีดึงมือของตัวเองกลับไป หลับตาสงบอารมณ์ลง ลืมตาออกมา ในดวงตาไม่มีความวูบไหวออกมาเลยแม้แต่น้อย”ฉันรู้ว่าควรจะทำยังไง”

เจี่ยงฉือยิ้มออกมา”งั้นก็ดี เพราะถึงยังไงผ่านไปอีกไม่กี่วันคุณก็จะได้เจอหน้ากับเขาอีกครั้ง ผมหวังว่าในตอนนั้นคุณจะสามารถเหมือนกับตอนนี้ได้ สงบนิ่งไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร”

“อีกไม่กี่วัน?” หัวคิ้วของหลี่ซีย่นออกมา”คุณมีแผนอะไร?”

เขามีแผนอยู่แล้วนึกไม่ถึงว่าจะไม่ปรึกษากับเธอเลย?

“ไม่ใช่แผน แต่เป็นการเตรียมการ” มุมปากของเจี่ยงฉือแสยะขึ้นมา”อีกเดี๋ยวผมจะจัดงานเลี้ยงที่ยิ่งใหญ่ให้กับคุณ ถึงตอนนั้นแล้วคนที่มีชื่อเสียงในทุกแวดวงต่างก็จะมากันที่งาน”

หลี่ซียิ้มออกมา”ที่แท้คุณยังมีการเตรียมการนี้อยู่ด้วย ฉันชอบ”

“คุณชอบมันก็ดี” เจี่ยงฉือกุมมือเธอเอาไว้ จ้องมองเธอไปด้วยความรู้สึกลึกซึ้ง”ผมยินดีทำทุกอย่างเพื่อคุณ”

จิ้นเฟิงเฉินมักจะรู้สึกว่าข้างหลังมีใครกำลังจ้องมองตัวเองอยู่ แต่พอหันหน้าไปมอง ทุกคนที่เข้ามาในสายตาก็เป็นลูกค้าทั่วๆไปของร้านอาหารทั้งนั้น ไม่มีใครที่น่าสงสัยอะไรเลย

เขาย่นคิ้วออกมา หรือว่าเขาจะคิดไปเองงั้นเหรอ?

“เป็นอะไรไปหรือเปล่า?” เจียงสื้อสื้อสังเกตเห็นว่าสีหน้าของเขาผิดออกไปอยู่บ้าง จึงเอ่ยถามออกไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใย

จิ้นเฟิงเฉินยิ้มออกมาเล็กน้อย”ไม่เป็นไร”

เจียงสื้อสื้อเองก็ไม่ได้ถามอะไรมากมายออกมาด้วยเหมือนกัน”รอให้กินข้าวเสร็จแล้ว พวกเราก็กลับบ้านกัน เสี่ยวเป่ากับเถียนเถียนก็คิดถึงคุณมากเหมือนกัน”

จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้าออกมา”ครับ”

พวกเขากินข้าวเสร็จแล้ว มันก็เกือบจะเก้าโมงไปแล้ว แต่ตอนที่ถึงบ้านแล้ว เสี่ยวเป่ากับเถียนเถียนต่างก็ยังไม่นอน

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท