พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ – บทที่ 7-8 ทำไมพูดความจริงไม่มีใครเชื่อ

บทที่ 7-8 ทำไมพูดความจริงไม่มีใครเชื่อ

บทที่ 7 ทำไมพูดความจริงไม่มีใครเชื่อ

“เธอหมายถึงหูหง?” หวังเสวี่ยถาม

หลินอี้เจียพยักหน้าคล้ายกับไม่แน่ใจ

“น่าจะไม่ใช่เขานะ ดูจากเมื่อวานผู้จัดการหวังก็ไม่ได้ใส่ใจหูหงสักเท่าไหร่” หวังเสวี่ยส่ายหน้า

“แล้วจะเป็นใครกัน? กล้าออกตัวแทนพวกเราต่อหน้าเศรษฐีลู่ ก็หมายความว่าตัวตนของเขาต้องไม่ธรรมดาแน่ เราไม่เคยรู้จักคนสูงส่งแบบนี้มาก่อนนี่นา” หลินอี้เจียก็งงงวยเช่นกัน

สองแม่ลูกคาดเดาไปต่างๆ นานา แต่ทั้งสองไม่แม้แต่จะคิดว่าจะเป็นลู่เฉินที่ช่วยพวกเธอ

สำหรับพวกเธอแล้วลู่เฉินนั่นเป็นเพียงขยะที่ไร้ประโยชน์ แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเศรษฐีลู่

ถ้าทั้งสองจะมีความข้องเกี่ยวก็แค่บังเอิญแซ่เดียวกันเท่านั้น

“ช่างมันเถอะ เซ็นต์สัญญาให้ได้ก่อนค่อยว่ากัน ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วลองถามผู้จัดการหวังดูว่าเขาเป็นใครมาจากไหน” หวังเสวี่ยพูด

ลู่เฉินเพิ่งกลับมาจากกินข้าวเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของสองแม่ลูก ก็รู้ได้ว่าคนจากจวินเยวี่ยโทรหาพวกเธอเรียบร้อยแล้ว

“ดูแลฉีฉีให้ดี พวกเราจะเดินทางไปจวินเยวี่ยจัดการเรื่องเซ็นต์สัญญา” หวังเสวี่ยพูดด้วยอารมณ์แจ่มใส น้ำเสียงของเธอก็ดีขึ้นกว่าเดิมมาก

ลู่เฉินพยักหน้า สองคนแม่ลูกกำลังจะจากไปทันใดนั้นโทรศัพท์ของหลินอี้เจียก็ดังขึ้น หลังโทรเสร็จเรียบร้อยเธอพูดขึ้นว่า “แม่คะ รออีกเดี๋ยว หูหงมาเยี่ยมฉีฉี ตอนนี้ถึงโรงพยาบาลแล้ว”

สักครู่หูหงก็เดินเข้ามาพร้อมกับกระเช้าผลไม้ เป็นแก้วมังกรนำเข้า เด็กๆ น่าจะชอบกิน

สายตาที่หูหงมองมาทางลู่เฉินวันนี้ต่างไปจากเดิม ไม่เหมือนเมื่อวานที่เต็มไปด้วยความดูถูก

ก็ไม่แปลก เมื่อวานที่จวินเยวี่ยพวกเขานั้นพ่ายแพ้ แต่เลขาส่วนตัวของเศรษฐีลู่ได้ปฏิบัติต่อลู่เฉินอย่างนอบน้อม เขาคิดเหมือนกับสองแม่ลูกคู่นั้น คาดว่าตัวตนที่แท้จริงของลู่เฉินน่าจะไม่ธรรมดา

แต่หูหงไม่ได้พูดอะไรออกมา ลู่เฉินก็เช่นกัน

เขารู้ดีว่าหูหงไม่ได้ตั้งใจมาเยี่ยมลูกสาวของตน จึงไม่มีความจำเป็นต้องกล่าวขอบคุณ

“ใช่แล้วหูหง คุณให้คุณพ่อออกหน้าแทนเราเหรอ ผู้จัดการหวังจากกลุ่มแกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ยเพิ่งโทรหาแม่ฉัน ให้พวกเราเดินทางไปคุยเรื่องเซ็นต์สัญญา พวกเขาจะผลิตภัณฑ์ยาจากบริษัทของแม่ฉันล่ะ” หลินอี้เจียถาม ณ เวลานี้เธอคิดว่ามีเพียงหูหงเท่านั้นที่สามารถช่วยแม่ของเธอได้

“หา? “หูหงตกใจเล็กน้อย ในใจคิดว่าพ่อของตนจะเอาอะไรไปออกหน้าแทนได้ ถึงแม้เขาจะกล้าไปขอร้องพ่อให้ออกหน้าแทน คาดว่าพ่อคงไม่สนใจเขาอยู่ดี

“แม่บอกแล้ว เมื่อวานไม่เห็นผู้จัดการหวังมีท่าทีเกรงใจหูหงเลย น่าจะเป็นคนอื่นออกตัวช่วยพวกเรา” หวังเสวี่ยพูดขึ้นหลังเห็นท่าทางของหูหง

หลินอี้เจียเองก็พยักหน้า เธอมองไปที่หูหงด้วยสายตาผิดหวังเล็กน้อย

“คุณป้าเสวี่ยครับ ผู้จัดการหวังโทรมาเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?คุณพ่อผมจัดการได้รวดเร็วเหมือนกันนะครับ ผมเพิ่งจะเรียนเรื่องนี้กับท่านไปเมื่อเช้านี้เอง ให้ท่านช่วยออกหน้าให้ ท่านบอกว่าวันนี้จะหาเวลาว่างไปพบผู้จัดการหวัง ผมยังคิดว่าท่านแค่พูดปัดๆ ไปเสียอีก” หูหงตอบไปหลังครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่

อย่างไรเสียเขาก็ไม่กลัวที่จะถูกเปิดเผย แม้ในอนาคตจะโดนจับได้ เขาก็คงได้หลินอี้เจียไปครองแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องใส่ใจอีกต่อไป

ที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือ เขาสงสัยว่าทางกลุ่มแกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ยน่าจะดูรายละเอียดความร่วมมือเรียบร้อยแล้ว วันนี้ถึงได้ติดต่อมา ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ยิ่งไม่มีเรื่องต้องกังวล

ตรงกับจังหวะที่หลินอี้เจียสงสัยว่าเป็นเขา เมื่อถึงเวลาเขาจะได้ทั้งหลินอี้เจียและผลงาน โอกาสดีๆ แบบนี้จะปล่อยให้หลุดไปได้ยังไง

“คุณให้คุณพ่อช่วยออกหน้าให้จริงๆ ด้วย ขอบคุณมากเลยนะคะ!” หลินอี้เจียมองมาทางหูหงด้วยความซาบซึ้ง เธอคิดอยู่แล้วว่านอกจากหูหง จะมีใครยื่นมือมาช่วยพวกเธอสองแม่ลูกได้อีก

“หูหง ป้าขอบใจมากนะลูก” หวังเสวี่ยเองก็ตื้นตันใจและคิดไม่ถึงว่าจะเป็นหูหงจริงๆ

ลู่เฉินมองไปที่หูหงด้วยความประหลาดใจ เขาไม่คาดคิดว่าเจ้านี่จะไร้ยางอายถึงขนาดนี้

“คุณแน่ใจว่าคุณเป็นคนให้พ่อออกหน้าช่วยแม่ผม?” ลู่เฉินพูดกับหูหงแบบกึ่งยิ้ม

หูหงมีท่าทีตกใจ ดวงตาของเขาก็ลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย

“ถ้าไม่ใช่หูหงจะเป็นคุณงั้นเหรอ? คิดว่ามีความสามารถพอไหม?” หลินอี้เจียจ้องไปที่ลู่เฉิน ด้วยสีหน้าไม่พอใจ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความดูถูก

“ไม่ต้องไปสนใจเขาหรอกลูก เราไปจัดการเรื่องเซ็นต์สัญญากันดีกว่า” หวังเสวี่ยเองก็มองลู่เฉินด้วยท่าทางดูถูกจากนั้นพาหลินอี้เจียและหูหงออกไป

ลู่เฉินหัวเราะแล้วส่ายหัว เขาขี้เกียจจะไปใส่ใจเรื่องของหูหง เพราะมันไม่มีประโยชน์แม้แต่นิดเดียวสำหรับเขา

“คุณพ่อคะ ทำไมคุณน้ากับคุณยายถึงดุคุณพ่อจัง?” ฉีฉีถามลู่เฉินด้วยความสงสัย

ลู่เฉินยิ้ม เขาไม่รู้จะตอบอย่างไรดี

เขาไม่สามารถตอบไปว่าเพราะสองคนนั้นคิดว่าเขาไร้ประโยชน์ ต่อหน้าลูกสาวเขาต้องทำตัวเป็นฮีโร่เสมอ

ในวันต่อมาลู่จงได้หาไขกระดูกที่ตรงกับฉีฉีพบ และทางโรงพยาบาลได้ลงมือผ่าตัดแก่ฉีฉีทันที

การผ่าตัดผ่านไปด้วยดี ฉีฉีฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว หลินอี้จุนมีความสุขมากจนลืมถามถึงค่ารักษาพยาบาลอีกทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายที่ลู่เฉินย้ายฉีฉีมาห้องวีไอพีด้วย

ฉีฉีออกจากโรงพยาบาลมาสองวันนี้หลินอี้จุนใช้เวลาอยู่กับลูกสาวของเธออย่างคุ้มค่า

“ตอนนี้ฉีฉีก็สามขวบแล้วนะ เราส่งลูกไปโรงเรียนดีไหม คุณวางแผนไว้ว่ายังไง?” หลินอี้จุนถามลู่เฉินขึ้นหลังจากปิดไฟนอน

“วางแผนอะไรนะ?” ลู่เฉินกำลังคิดถึงเรื่องอื่นอยู่ ไม่ทันได้ฟังคำพูดของหลินอี้จุนเมื่อสักครู่

“ติดหนี้สินเยอะขนาดนี้ คุณไม่คิดวิธีหาเงินมาใช้หนี้บ้างเหรอ?” หลินอี้จุนขมวดคิ้วถาม

“ผมติดหนี้ตู้เฟยแค่ห้าหมื่น สองสามวันนี้หาเวลาไปคืนเขาก็เรียบร้อย” ลู่เฉินพูด

“ลู่เฉิน คุณหมายถึงค่ารักษาช่วงหลังของฉีฉีอีกตั้งหลายแสน จะให้ฉันทำงานมาใช้หนี้เองทั้งหมดใช่ไหม?” หลินอี้จุนมองไปทางลู่เฉินที่อิงหมอนสูบบุหรี่อยู่ด้วยใบหน้าเยือกเย็น

เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าลู่เฉินจะเป็นอย่างนี้ นี่คือผู้ชายที่เธอเลือกมาร่วมชีวิตด้วยในตอนนั้นเหรอ?

“คุณเป็นอะไรไป ผมไม่ได้พูดเลยว่าจะให้คุณมารับผิดชอบตรงนี้ ค่ารักษาหลังๆนั้นเป็นเงินของผมเอง แค่ว่าตอนนี้ผมติดตู้เฟยอยู่ห้าหมื่นเท่านั้น” ลู่เฉินขำ

“เงินของคุณ? คุณรู้ไหมว่าค่าใช้จ่ายช่วงหลังๆนั้นอย่างน้อยต้องมีห้าแสน คุณคิดว่าฉันโง่หรือไง?” หลินอี้จุนพูดด้วยความโมโห

“ที่รักครับ ผมคงต้องบอกความจริงต่อคุณเสียที ที่จริงแล้วผมเป็นทายาทเศรษฐี……”

ลู่เฉินทิ้งก้นบุหรี่แล้วหันมากอดหลินอี้จุน เตรียมตัวบอกถึงตัวตนที่แท้จริงของเขาต่อภรรยา เขาต้องการชดเชยที่ทำให้หลินอี้จุนต้องทนลำบากมากับเขาตลอดหลายปีนี้

“ไปให้พ้น อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ !” เขาคาดไม่ถึงว่าหลินอี้จุนจะผลักเขาด้วยความโกรธแบบนี้

“ลู่เฉิน คุณทำให้ฉันผิดหวังมากจริงๆ นี่คุณไม่อยากทำงานถึงขนาดหาเหตุผลบ้าๆ แบบนี้มาอ้างเลยเหรอ คุณยังเป็นผู้ชายหรือเปล่า?ฉันขอพูดไว้ตรงนี้เลยนะ คุณจะทำงานหรือไม่ จากนี้ไม่เกี่ยวกับฉันอีก ถ้าหากมีใครมาตามทวงหนี้ ฉันจะขอหย่ากับคุณทันที”

หลินอี้จุนพูดแล้วดึงผ้าห่มออกลุกไปจากเตียง เธอโกรธมากจริงๆ ตอนนั้นตัดสินใจแต่งงานกับเขาเพราะความรัก แม้ว่าลู่เฉินจะไม่ประสบผลสำเร็จด้านธุรกิจ แม้ช่วงที่ลูกสาวคนเดียวของเธอจะนอนป่วยอยู่โรงพยาบาล อาจทำให้เธอรู้สึกท้อบ้างในบางครา แต่เธอก็เพียงแค่บ่นกับลู่เฉินเท่านั้น

แต่ในตอนนี้ลู่เฉินใช้ข้ออ้างไร้สาระนี่โกหกเธอเพื่อจะได้ไม่ต้องออกไปทำงานหาเงิน มันทำให้เธอผิดหวังมากจริงๆ

“คุณจะทำอะไรน่ะ?” ลู่เฉินถาม

“แยกห้องนอน!” หลินอี้จุนตอบแล้วเดินจากไป

เมื่อเห็นหลินอี้จุนกระแทกประตูเดินออกไป ลู่เฉินไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

ทำไมทุกครั้งที่เขาพูดความจริงถึงไม่เคยมีคนเชื่อเลย?

พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์

พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์

Status: Ongoing

บทนํา ประสบการณ์ชีวิตซุปเปอร์ริชรุ่นที่สองที่ไม่อยากกลับไปรับมรดกทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่อนิจจาภรรยาของเขาดันคิดว่าเขาไม่มีเงิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท