บทที่ 85 ลู่เฉิน นายยังมีอีกกี่เรื่องที่ยังปิดบังฉันไว้อยู่กันแน่
“พี่เขย หลังจากนั้นวังซิงก็ไม่ได้ให้ใครมาหาพี่เหรอ?” หลินอี้เจียจ้องมองลู่เฉินอย่างสนใจ พอเห็นว่าลู่เฉินกลับมาอย่างปลอดภัยไม่มีส่วนใดสึกหรอ ก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อ
ตอนนั้นพวกเธอทั้งสองต่างก็กลัวว่าบอดี้การ์ดของวังซิงจะมายุ่งวุ่นวาย ก็เลยรีบแจ้นออกมาในทันที คิดไม่ถึงว่าลู่เฉินจะกลับมาในสภาพที่ยังอยู่ดีได้
“เขากล้าเหรอ ถ้าเขายังมาวอแวกับฉันอีก ฉันจะทำให้เขาไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มกับวังเหวินเสวี่ยพี่ชายเขาที่โรงพยาบาลซะ” ลู่เฉินยิ้มพูดเสียงราบเรียบ
“อะไรนะ แกยังไปต่อยวังเหวินเสวี่ยบ้านวังด้วย?” วังเสวี่ยมองลู่เฉินอย่างช็อคๆ
วังซิงเป็นคนยังไงเธอไม่แน่ใจ แต่สำหรับวังเหวินเสวี่ยเธอกลับเข้าใจดี
เพราะเธอเคยไปคุยเรื่องธุรกิจมาก่อน
“ใช่ครับ เขากล้าที่จะมีความคิดไปชกอี้จุน ผมก็กล้าชกเขาเหมือนกัน” ลู่เฉินกล่าว
“แก…แกไปเร็วๆเลย ต่อไปก็ไม่ต้องมาบ้านสกุลหลินของพวกเรานะ บ้านฉันไม่มีลูกเขยอย่างแก!” วังเสวี่ยหน้าซีดขาว ก่อนหน้านี้ได้ยินมาว่าลู่เฉินชกวังซิงไปสองหมัด เธอไม่อยากจะนึกเลยว่าบ้านสกุลวังจะมาคิดบัญชียังไง
แล้วตอนนี้ลู่เฉินก็ยังประเคนหมัดให้ลูกชายคนโตของสกุลวังจนนอนโรงพยาบาลอีก สกุลวังจะไม่เอาเรื่อง มองผ่านไปได้เหรอ?
ลู่เฉินชะงักไป หลังจากนั้นคิดแล้วก็เข้าใจ
ดูจากอำนาจของสกุลวังแล้ว การที่วังเสวี่ยหวาดกลัวก็มีเหตุผลอยู่
เขาพูดเสียงกลั้วหัวเราะ “แม่ แม่ไม่ต้องกังวลแล้ว มีผมอยู่ บ้านวังไม่มีโอกาสมาสร้างความวุ่นวายให้แม่แน่นอน”
“ฉันบอกให้แกไสหัวไป ไม่ได้ยินเหรอ?” วังเสวี่ยชี้ไปที่ประตูบ้านพลางพูดอย่างโกรธจัด
รอยยิ้มบนใบหน้าของลู่เฉินค่อยๆแข็งค้าง เขาถอนหายใจออกมาหนักๆ อุ้มฉีฉีแล้วหมุนตัวจากไป
“วางฉีฉีลง อี้จุน แกเองก็ไม่ต้องกลับไปกับเขาแล้ว” วังเสวี่ยพูดเสียงเข้ม
“แม่ แม่เองก็พอได้แล้ว หนูกับลู่เฉินเป็นสามีภรรยากัน หนูไม่กลับไปกับเขาแล้วจะให้กลับกับใคร? แล้วก็ถ้าแม่ยังทำแข็งตึงกับลู่เฉินอย่างนี้อีก ต่อไปหนูก็จะไม่กลับมาแล้ว!” หลินอี้จุนพูดอย่างฉุนๆ
ลู่เฉินหันกลับมามองหลินอี้จุน ในใจส่วนที่อ่อนไหวที่สุดก็รู้สึกได้รับการสัมผัสถึง
“แม่ หนูจะกลับบ้านแล้ว” มองเห็นคุณยายโกรธ ฉีฉีก็ร้องไห้จ้า
“ฉีฉีเด็กดี แม่จะพาหนูกลับบ้านนะ” หลินอี้จุนเก็บความรู้สึกโมโหไว้ในใจ เอาฉีฉีจากอ้อมอกของลู่เฉินมาอุ้มไว้เอง
“อี้จุน เธอเชื่อฉัน คนบ้านวังถึงมีสิบคนก็ไม่อยู่ในสายตาฉัน ฉันบอกว่าพวกเขาไม่กล้ามาหาเริ่ง พวกเขาก็ไม่มีทางมา พวกเรากลับบ้านกันเถอะ” ลู่เฉินเอื้อมมือไปโอบไหล่ของหลินอี้จุน สามคนตรงไปที่ประตูบ้านเดินออกไป
ทั้งสามคนเดินออกจากลิฟต์ไปจนถึงด้านข้างรถ กำลังจะขึ้นรถก็มองเห็นหลินดาไห่วิ่งหืดหอบเข้ามา
“พ่อ พ่อมาทำอะไรน่ะ?” หลินอี้จุนถาม
“อี้จุน แม่แกก็โกรธไปอย่างนั้นแหละ แกอย่าเก็บมาใส่ใจเลย” หลินดาไห่ถอนหายใจ หมุนตัวไปทางลู่เฉิน
“ลู่เฉิน เอาบัญชีแกให้ฉัน ฉันจะโอนเงินไปให้ยี่สิบล้าน พาอี้จุนออกจากยวี่โจวไปค้างคืนเถอะ ต่อไปก็ไม่ต้องกลับมาแล้ว ถ้าอยู่ข้างนอกแล้วเงินยี่สิบล้าน ใช้หมดก็โทรหาฉันอีก ฉันจะโอนยี่สิบล้านที่เหลือไปให้ พวกแกวางใจได้ เงินนี่แม้แต่เศษเดียวฉันก็ไม่ให้แม่แก” หลินดาไห่พูดอย่างจริงใจ
“พ่อ!” หลินอี้จุนคัดจมูก น้ำตาพลันไหลพรากออกมา ฉีฉีเห็นอย่างนั้นก็เลยร้องไห้ตาม
ลู่เฉินมองหลินดาไห่ ในใจปรากฏความรู้สึกซาบซึ้งอย่างไม่สามารถอธิบายได้
นี่ถึงจะเป็นพ่อตาของเขาล่ะ!
และเพราะมีหลินดาไห่อยู่ ทุกครั้งที่เขามาที่นี่ก็เลยรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นสายหนึ่ง
“พ่อ เงินนี่พ่อเก็บเอาไว้ใช้นะ ก่อนหน้านี้ลู่เฉินถูกล็อตเตอรี่หนึ่งร้อยล้าน พวกเรามีเงิน” หลินอี้จุนพูดอย่างตื้นตัน
“หา? ก่อนหน้านี้คนที่ได้หนึ่งร้อยล้านคือแกเองเหรอ?” หลินดาไห่ชะงักไป ในใจคิดว่านั่นสิแปลกใจที่ทำไมลู่เฉินเอาแต่ไม่ยอมแบ่งเงินสี่สิบล้านของเขาเลย ที่แท้เพราะเขามีหนึ่งร้อยล้านอยู่กับตัวแล้วนี่เอง
“พ่อ พ่อวางใจเถอะ บ้านวังไม่มีทางกล้ามาหาเรื่องแน่นอน ตอนนี้บ้านวังมีเรื่องใหญ่ พวกเขาไม่มีเวลาและไม่มีกะจิตกะใจจะมาสนใจหรอก ถ้าไม่เชื่อลองรอดูไหมครับ อีกไม่กี่วันนี้จะต้องมีข่าวไม่ดีของบ้านวังออกมาแน่นอน” ลู่เฉินพูดปลอบ
“บ้านวังมีเรื่องอะไรเหรอ?” หลินดาไห่พูดถามอย่างอยากรู้
หลินอี้จุนเองก็มองลู่เฉินอย่างใคร่รู้
“พวกเขาไปหาเรื่องคนที่ไม่ควรหาเรื่อง อีกไม่นานบ้านวังก็จะล้มละลายแล้ว” ลู่เฉินยิ้มบางพูดตอบ
“เป็นวังเหว่ยหรือว่าจั่วซือเฉิง ที่บอกนาย?” หลินอี้จุนรู้ว่าลู่เฉินเป็นคนที่มีคนรู้จักกว้างขวาง ดังนั้นข่าวนี้ก็คงไม่ใช่ข่าวปลอม
เพียงแค่บ้านวังถูกคนโจมตี นั่นแน่นอนว่าพวกเขาไม่มีเวลาแล้วก็มีจิตใจจะมาหาเรื่องพวกเธอแล้ว
“วังเหว่ย” ลู่เฉินโกหก
“หรือว่าเทคโนโลยีอี้ฉีต้องการปะทะกับบ้านวังแล้ว?” หลินจี้จุนเบิกตาโต ในยวี่โจว นอกจากสี่ตระกูลใหญ่แล้วยังมีเพียงแค่เทคโนโลยีอี้ฉีที่มีความสามารถต่อกรกับบ้านวังได้
“ถือว่าใช่แหละ แต่ว่าข่าวนี้พ่อกับเธอรู้ก็พอแล้ว อย่าพูดต่อออกไป” ลู่เฉินยิ้มขื่น พูดกำชับ
หลินอี้จุนพยักหน้า หลินดาไห่เองก็ปล่อยลมหายใจออกมา
บ้านวังหาเรื่องเทคโนโลยีอี้ฉี จบเห่แล้วแน่นอน งั้นพวกเขายังมีอะไรจะต้องกังวลอีกล่ะ รอดูบ้านวังเล่นให้จบก็พอแล้ว
“โอเค เวลาก็เริ่มดึกแล้ว พวกแกกลับกันก่อนเถอะ” หลินดาไห่พูด
“อ้อ ใช่แล้ว พ่อ เรื่องนี้ห้ามพูดกับแม่แล้วก็น้องนะ หลีกเลี่ยงที่ถ้าพวกเขาสองคนเอาไปพูดต่อเรื่อยๆแล้วไม่รู้” หลินอี้จุนพูดกำชับก่อนขึ้นรถ
“อืม ฉันรู้ว่าอะไรเป็นอะไร” หลินดาไห่พยักหน้าแล้วหมุนตัวกลับขึ้นอาคาร
“คุณโอนเงินให้พวกเขาไปแล้วใช่ไหม?” เห็นหลินดาไห่กลับมา วังเสวี่ยถามหน้าบูด
เธอรู้อยู่แล้วว่าที่หลินดาไห่รีบไล่ตามออกไปเพื่อต้องการโอนเงินให้ลู่เฉินแน่นอน แต่สุดท้ายเธอก็ยังยินยอมให้หลินดาไห่ไล่ตามไป
“ลู่เฉินเค้าก่อนหน้านี้ถูกรางวัลหนึ่งร้อยล้าน ยังจะสนใจยี่สิบล้านนี่อีกเหรอ?” หลินดาไห่พูดอย่างไม่สบอารมณ์
“อะไรนะ? ก่อนหน้านี้เขาถูกรางวัลหนึ่งร้อยล้าน?” วังเสวี่ยตกใจ อย่าว่าแต่หนึ่งร้อยล้านเลย เพียงแค่สิบล้านเธอก็ไม่เคยเห็น
“พ่อ พ่อพูดเล่นหรือพูดจริงเนี่ย พี่เขยถูกรางวัลหนึ่งร้อยล้านจริงๆเหรอ?” หลินอี้เจียเองก็มองหลินดาไห่อย่างตกใจ
“ฮึ ไม่เชื่อก็โทรถามพี่สาวแกดู” หลินดาไห่พูดเสียงฮึม
“ฮึ เจ้าหนุ่มนั้นได้หนึ่งร้อยล้าน แต่กลับไม่ให้พวกเราเพื่อแสดงความกตัญญูสักนิด ไม่มีน้ำใจเลยแม้แต่น้อยจริงๆ แล้วยัยลูกสาวนั่น วันนี้ไหงกลับมาโมโหฉันเพราะลู่เฉิน อี้จุนกลับลืมไปแล้ว ในตอนนั้นแม่เป็นคนเช็ดน้ำมูกน้ำตาดูแลให้เติบโต!” วังเสวี่ยกล่าว ภายในใจรู้สึกอารมณ์เสียมาก
หลินดาไห่กรอกตาขึ้น ในใจพูดว่าคุณก็ไม่ลองคิดดูดีๆว่าทำไมลูกสาวถึงโมโหใส่
“ไม่ได้ วันหลังฉันจะต้องไปหาพวกเขาให้พวกเขาเอาเงินให้ฉันเป็นค่าเลี้ยงดูพ่อแม่สักหน่อย ไม่อย่างนั้นฉันจะอยู่บ้านพวกเขาไม่กลับมาแล้ว” วังเสวี่ยพูดอย่างฉุนโกรธ
หลินดาไห่หมดคำจะบรรยาย เดินตรงเข้าห้องของตัวเองไป
ประกายตาหลินอี้เจียกลับแวววาว รู้สึกว่าความคิดแม่ใช้ได้
หลังกลับถึงบ้าน กล่อมฉีฉีจนเข้านอนแล้ว หลินอี้จุนก็ฉุดดึงลู่เฉินที่ต้องการจะไปอาบน้ำ
“ลู่เฉิน นายบอกกับฉันมาตามตรง นายยังมีอีกกี่เรื่องที่ยังปิดบังฉันไว้อยู่กันแน่?”
ลู่เฉินรู้จักคนใหญ่ๆโตๆเรื่องนี้ไม่ต้องพูดถึงแล้ว แล้วเขายังรู้จักวัตถุโบราณ คืนนี้เขายังช่วยพ่อของเธอทำเงินได้สี่สิบล้านอย่างสบายๆ เธอไม่สงสัยก็ไม่ได้แล้ว
และการกระทำทั้งหลายของลู่เฉินในช่วงนี้อีก ก็ยิ่งทำให้เธอมองไม่ออกแล้ว