บทที่ 90 หัวหน้าตระกูลเฉินกวงซิง
ผู้ที่เดินเข้ามาคนหนึ่งคือหวงยาวจุนส่วนอีกคนหนึ่งเป็นชายวัยประมาณ 40ปี
ชายวัยกลางคนผู้นั้นแต่งตัวดูดีมีภูมิฐาน เขามีหนวดเล็กน้อย ระหว่างคิ้วของเขามีรอยแผลเป็นแต่สามารถมองออกได้ว่าหากเขาอายุน้อยกว่านี้ไป 20 ปีก็คงเป็นชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่ง
ลู่เฉินไม่รู้จักชายวัยกลางคนผู้นี้ แต่คนอื่นๆที่นั่งอยู่ด้วยรู้จักเขาทุกคน
เขาก็คือผู้สืบทอดตระกูลเฉินคนปัจจุบันเฉินกวงซิง
บ้านตระกูลเฉินเป็น 1ใน4บ้านตระกูลใหญ่แห่งเมืองยวี่โจว หากมองจากหลายมุมแล้วพวกเขาแข็งแกร่งกว่าอีกสามตระกูลบ้างเล็กน้อย
ผู้คนทั้งหลายล้วนมองดูเฉินกวงซิงด้วยความตื่นเต้นแทบจะไม่กล้าหายใจ
ภายในใจพวกเขากำลังคิดเดาไปว่า
ท่านหัวหน้าตระกูลเฉินก็มาหาลู่เฉินอย่างนั้นหรือ?
“ดาไห่ เขาผู้นี้คือบุคคลที่ผมอยากจะแนะนำให้รู้จัก หัวหน้าตระกูลเฉินเฉินกวงซิง” หวงยาวจุนแนะนำเขาแก่หลินดาไห่
หลินดาไห่ตกใจมาก เขารีบเดินหน้าขึ้นไปทักทาย “สวัสดีครับท่านหัวหน้าตระกูล ยินดีต้อนรับครับ ท่านเดินทางมาในวันนี้ช่างเป็นเกียรติเหลือเกิน เชิญนั่งก่อนครับ เชิญนั่งก่อน”
“คุณหลินเกรงใจกันเกินไปแล้ว วันนี้ผมมาโดยไม่ได้นัดหมาย ต้องขออภัยด้วยหากเป็นการรบกวน” เฉินกวงซิงยิ้มออกมาแล้วพูดด้วยท่าทีของผู้มีบารมี
เขามีประสบการณ์มากมายมาหลายสิบปี อีกทั้งปัจจุบันยังเป็นผู้สืบทอดตระกูลเฉินโดยชอบธรรม การกระทำและท่าทางทุกอย่างของเฉินกวงซิงล้วนไม่เหมือนกับบุคคลทั่วไป
“ไม่รบกวนเลยครับไม่รบกวน ท่านหัวหน้าตระกูลเฉินให้เกียรติมาเยี่ยมด้วยตัวเอง ผมรู้สึกซาบซึ้งใจจนบอกไม่ถูกเลยทีเดียว”หลินดาไห่หัวเราะออกมาอย่างดีใจแล้วหันกลับไปมองหลินอี้เจีย
“อี้เจีย ไปชงชามาเร็วเข้า ชงชาหวงซานเหมาเฟิงที่เถ้าแก่เจิ้งเอามาฝากนะ” หลินดาไห่กำชับ
ถึงจะเห็นหลินดาไห่ต้อนรับเฉินกวงซิงอย่างอบอุ่นเช่นนั้น พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจหรือไม่พอใจ
เนื่องจากพวกเขาเองเมื่ออยู่ต่อหน้าเฉินกวงซิง ก็เป็นเพียงแค่เด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น
“ท่านเฉิน”
“ท่านเฉิน”
……
บรรดาพ่อค้าเพชรพลอยล้วนทยอยกันเข้ามาทักทายเฉินกวงซิง ภายในใจของพวกเขาสงสัยยิ่งนักว่าการที่เฉินกวงซิงเดินทางมาในวันนี้ก็เพื่อช่องทางการค้าขายอัญมณีเหมือนกันงั้นหรือ?
ในวันนั้นจั่วชิงเฉิงยื่นเสนอเงินจำนวน หนึ่งพันห้าร้อยล้านเพื่อซื้อสัญญาการช่องทางการนำเข้าอัญมณีจากมือลู่เฉิน แต่ก็ไม่สำเร็จ หากในวันนี้บ้านตระกูลเฉินก็ต้องการช่องทางนั้นเช่นกัน คิดว่าลู่เฉินคงจะสู้แรงกดนั้นไม่ได้
หากเป็นเช่นนั้นจริง ท้ายสุดแล้วช่องทางการนำเข้าอัญมณีก็จะตกอยู่ในมือของบ้านตระกูลเฉิน ดังนั้นพวกเขาจึงจะต้องให้ความเคารพบ้านตระกูลเฉินไว้ให้มาก
“แหม วันนี้ครึกครื้นจริงๆเลยนะครับ” เฉินกวงซิงมองเห็นพวกเขาที่นั่งอยู่ก่อนแล้วก็รู้สึกแปลกใจ แต่ว่าเขาก็เข้าใจอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้ช่องทางการนำเข้าอัญมณีอยู่ในมือของลู่เฉิน บรรดาเถ้าแก่เหล่านี้มาหาลู่เฉินถึงบ้านก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
“นั่นน่ะสิครับ วันนี้ที่ท่านเดินทางมานี่ก็เพราะเรื่องนั้นหรือเปล่า?” หลิวจุนจี้หัวเราะ เขาเองก็อยากรู้ว่าเฉินกวงซิงมาด้วยเหตุผลใด
เฉินกวงซิงมีความฉลาดหลักแหลม เขาจะเผยวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของตนออกมาได้อย่างไร จึงได้แต่หัวเราะแล้วพูดว่า “ผมหรือ?ก็แค่แวะมาเยี่ยมเยียนคุณหลินเท่านั้นแหละ แล้วก็ลองดูว่าวันนี้จะบังเอิญเจอกับคุณลู่หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้คุณลู่ได้สร้างชัยชนะและศักดิ์ศรีให้กับชาวยวี่โจว บ้านตระกูลเฉินนับว่าเป็นหนึ่งในตระกูลที่ยิ่งใหญ่แห่งยวี่โจว ก็ควรที่จะมาเยี่ยมเยียนและเลี้ยงข้าวสักมื้อ”
จากคำตอบเมื่อครู่ของเฉินกวงซิง พวกเขาเริ่มไม่แน่ใจถึงวัตถุประสงค์ที่แท้จริงแล้ว เพียงแต่พวกเขาเดาว่าครึ่งหนึ่งคงมาเพื่อสัญญานั้นแน่นอน
เพียงแต่ถ้าหากลู่เฉินนำช่องทางนั้นส่งต่อให้แก่บ้านตระกูลเฉินละก็คงแย่แน่ๆ
แต่ว่าลู่เฉินได้ชนะการประมูลอัญมณีกับผู้ปรมาจารย์ระดับ 3 ของประเทศ การที่นำของขวัญเล็กๆน้อยๆมามอบให้เขาก็ถือว่าเป็นความสมควร
เนื่องจากว่าผู้มีฝีมือเก่งกาจอย่างลู่เฉินนั้น ในอนาคตก็คงพอช่วยพวกเขาได้บ้าง อย่างน้อยก็ทำให้พวกเขาได้เงินเพิ่ม
“ท่านเฉินเชิญทางนี้ครับ หลิวจุนจี้ที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับลู่เฉินเอ่ยขึ้น เขารู้ดีว่าเฉินกวงซิงนั้นตั้งใจจะมาหาลู่เฉินแน่นอน จึงได้สละที่นั่งของเขาให้แก่เฉินกวงซิง
“ขอบคุณครับ” เฉินกวงซิงพยักหน้าและนั่งอย่างไม่เกรงใจ
หลังจากเขานั่งลงสายตาก็มองไปยังลู่เฉิน
ในขณะนี้ลู่เฉินเองก็กำลังมองเขาเช่นกัน
วันนี้เขาเข้าใจแล้วว่าที่พ่อตาเอ่ยว่าเป็นบุคคลมีชื่อเสียงก็คือหัวหน้าตระกูลเฉิน เฉินกวงซิงนี่เอง
เขาผู้นี้จึงจะเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงอย่างแท้จริง
แม้ตัวเขาเองที่ยังไม่สามารถหยั่งรากลึกลงไปในเมืองยวี่โจวได้ ก็ยังควรอ่อนน้อมต่อตระกูลเฉิน
“คุณลู่ดูดีกว่าในVDOมากเลยนะครับ วัยรุ่นนี่ดีจริงๆ” เมื่อสายตาทั้งสองคู่ประสานกัน เฉินกวงซิงจึงได้ยิ้มแล้วพูดออกมา
เฉินกวงซิงเองก็ได้เห็นลู่เฉินแข่งขันกับเจิ้งซีเหอในงานของสะสมโบราณ จึงได้เดินทางมาหาเขา
ทุกๆคนรวมทั้งบ้านตระกูลจั่วคิดว่าลู่เฉินเป็นเพียงคนมีเงินธรรมดาเท่านั้น
มีเพียงบ้านตระกูลเฉินที่ บังเอิญค้นพบตัวตนที่แท้จริงของลู่เฉินเข้า
“ลูกผู้ชายอายุ 40 จึงจะเป็นวัยที่กำลังเจริญรุ่งเรือง ท่านเฉินเกรงใจเกินไปแล้วครับ”ลูกเชิญยิ้มและพูดออกมาเบาๆ
ภายในใจเขากำลังคาดเดาว่าเฉินกวงซิงมาหาเขาด้วยเหตุผลใด
ในฐานะหัวหน้าตระกูลเฉินและเป็นผู้สืบทอดอันดับหนึ่ง กลับเดินทางมาหาเขาด้วยตัวเอง สามารถมองเห็นได้ชัดว่าเขาอาจจะมาขอร้องบางสิ่งบางอย่างที่ค่อนข้างใหญ่ หรือค้นพบความลับอะไร
เมื่อคิดได้ดังนั้นลู่เฉินก็ได้พยายามปกป้องตนเอง เขาระมัดระวังอย่างยิ่ง
เมื่อเห็นลู่เฉินและเฉินกวงซิงอยู่ในความเงียบ ทุกคนก็เริ่มสงสัยมากขึ้น
สมาชิกครอบครัวของจ่าวชุนเล่ยก็ลุกขึ้น สถานการณ์เช่นนี้จะให้พวกเขาซึ่งเป็นบรรดาชนชั้นล่างเผชิญหน้าต่อไปได้อย่างไร?
“คุณหลินครับ วันนี้ที่บ้านของคุณครึกครื้นจริงๆ เอาอย่างนี้เดี๋ยวผมจะมาเยี่ยมใหม่ในวันหลังแล้วกันนะ วันนี้ต้องขอตัวก่อน” จ่าวชุนเล่ยออกปากขอตัวกลับ
จากเดิมเพียงแค่พ่อค้าเพชรพลอยทั้งสิบเดินทางมา เขาก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ตอนนี้มีผู้ที่ยิ่งใหญ่มากกว่านั้นหลายเท่าเดินทางมา อีกทั้งพูดคุยกับลู่เฉินคล้ายเป็นคนรุ่นเดียวกัน พวกเขาจะอยู่ต่อไปได้อย่างไร!
จ่าวเสี่ยวเหรินเหลือบมองไปทางลู่เฉินก่อนเดินทางกลับ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
ลู่เฉินมีสิทธิ์อะไรมาแข็งแกร่งกว่าเขา?
มีสิทธิ์อะไรกัน!
เขาก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่มีจุดยืนอะไรในอาชีพ
“ได้ๆ ไว้วันหลังเจอกันนะครับ” หลินดาไห่เข้าใจในความรู้สึกของพวกเขาดี หากเขาเองต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ก็คงจะต้องเลือกทำแบบนั้นเช่นกัน อีกทั้งในวันนี้ตัวเขาเองก็ไม่มีเวลาไปดูแลพวกเขาด้วย
“พ่อครับ พ่อว่าไอ้ลู่เฉินนั่นมันเป็นใครกันแน่ ทำไมวันนี้มีแต่คนมาหามัน” เมื่อออกมาจากบ้านของหลินดาไห่ จ่าวเสี่ยวเหรินก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามผู้เป็นพ่อ วันนี้พวกเขาทั้งสามคนเดินทางมาเพื่อจะอวดแท้ๆ แต่กลับต้องขายหน้าเช่นนี้
“ก็นั่นน่ะสิคุณคะ ลองอธิบายให้พวกเราฟังหน่อยได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น” กูซินหยานเองก็เอ่ยถามด้วยความไม่พอใจ
ตอนแรกพ่อค้าอัญมณีทั้งสิบคนเดินทางมาเยี่ยมเยียนและมอบของขวัญ อีกทั้งต่อหน้าลู่เฉินพวกเขาเป็นเหมือนกับเด็กน้อยคนหนึ่ง หลังจากนั้นหัวหน้าตระกูลเฉิน ก็เดินทางมาเยี่ยมเขาด้วยตนเอง
หากบอกว่าลู่เฉินเป็นเพียงแค่คนธรรมดาทั่วไป ต่อให้ตายพวกเขาก็ไม่เชื่อ!
“แน่นอนว่าต้องเป็นคนใหญ่คนโตสิ!ยังต้องให้พูดอีกเหรอ?แล้วก็แกนะ ไม่ต้องคิดจะไปคว้าหลินี้เจียมาแล้ว บ้านตระกูลหลิน ไม่ใช่บ้านที่เราจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้อีก” จ่าวชุนเล่ยพูด
จ้าวเสี่ยวเหรินเองรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง แต่เขาก็รู้ดีว่าสิ่งที่พ่อพูดออกมานั้นเป็นเรื่องจริง หลินอี้เจียใช้กระเป๋าใบละตั้งหลายแสน หากพวกเขาคบกันจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อของขวัญให้เธอในแต่ละเทศกาล?
ขณะนี้ในบ้านของหลินดาไห่ เฉินกวงซิงมองไปยังทุกท่านที่นั่งอยู่แล้วพูดกับลู่เฉินว่า “ไม่ทราบว่าคุณลู่พอมีเวลาบ้างไหม ผมอยากจะเชิญคุณไปดื่มชาสักหน่อย”
ลู่เฉินยักคิ้วแล้วครุ่นคิดชั่วครู่ก่อนเอ่ยตอบไปว่า “สะดวกครับ ท่านเฉินให้เกียรติเชิญไปดื่มน้ำชา แน่นอนว่าเป็นโชคของผมยิ่งนักเชิญครับ”
ลู่เฉินพูดจบก็ลุกขึ้นยืน
เขารู้ดีว่าเฉินกวงซิงมีเรื่องบางอย่างต้องการพูดกับเขาตัวต่อตัว ในที่นี้มีผู้คนอยู่มากมายไม่สะดวกที่จะพูดนัก