บทที่ 202 ผู้รํ่ารวยที่สุดเหนียวด้าซาน
เมื่อได้ยินนํ้าเสียงของชายหัวล้าน ทุกคนล้วนตะลึงทันที
ใครใจกว้างเช่นนี้?
กระเป๋าใบละแสนหนึ่งคิดจะให้ก็ให้เลยเหรอ?
ขณะที่เสี่ยวจี้และหวังว่านเห็นชายหัวล้านสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที
เหนียวด้าซาน!
เป็นเหนียวด้าซานผู้รํ่ารวยที่สุดของเมืองฉีเจียงนี่เอง
เขามีความสัมพันธ์อะไรกับหลินอี้จุนล่ะ ทำไมถึงจะซื้อกระเป๋าใบละหนึ่งแสนให้หลินอี้จุนล่ะ?
“คุณเป็นใคร?กระเป๋าที่คุณจะให้นั้นฉันไม่ต้องการ”หลินอี้จุนเงยหน้ามองไปที่เหนียวด้าซาน ไม่รู้จัก แน่นอนเป็นไปไม่ได้ที่จะรับของที่เขาให้ไว้
เหนียวด้าซานมองไปดูที่ลู่เฉิน พบว่าลู่เฉินไม่ได้แสดงอะไรออกมา จึงโล่งใจลงได้
เขายังนึกว่าเมื่อกี้ที่ตนเองเข้ามาช่วยหลินอี้จุนจะทำให้ลู่เฉินไม่พอใจ
หลู้จองเป็นผู้มีพระคุณต่อเขาอย่างยิ่ง ส่วนลู่เฉินเป็นลูกเจ้านายของหลู้จอง ต่อหน้าลู่เฉินเขาก็เป็นเพียงแค่มดตัวเล็กๆเอง
ก่อนหน้านี้หลังจากเหนียวด้าซานส่งลู่เฉินกลับไปเสร็จแล้วก็เตรียมตัวมาเดินดูที่ห้าง แต่ไม่ถึงว่าครอบครัวของลู่เฉินก็อยู่ด้วย
ตามจริงเขาก็ได้ฟังมาตั้งนานแล้ว หวังว่านอวดต่อหน้าหลินอี้จุนตลอด ถ้าไม่ใช่ว่าลู่เฉินก็อยู่ด้วย เขาอยากจะมาตบหน้าหวังว่านตั้งนานแล้ว
“ประธานเหนียว คุณมาทำอะไรครับ”เสี่ยวจี้ถามอย่างระมัดระวัง
เหนียวด้าซานไม่ไว้หน้าเสี่ยวจี้แม้แต่นิด ไม่มองเขาสักตา เดินไปต่อหน้าหลินอี้จุนโดยตรง พูดอย่างเคารพว่า”คุณหนูหลินครับ สิ่งของทั้งหมดในห้างนี้ ขอให้คุณชื่นชอบ ไม่ว่าเป็นอะไรล้วนสามารถเอาไปได้ฟรี”
สีหน้าของเสี่ยวจี้เก้อเขินเล็กน้อย ส่วนหวังว่านก็หน้าซีดเช่นกัน
เหนียวด้าซานหมายความว่ายังไงล่ะ อยู่ดีๆเขาจะซื้อของให้หลินอี้จุนไปเพื่อ?
“คุณเป็นใคร?ทำไมฉันต้องรับของที่คุณให้มาล่ะ?”หลินอี้จุนยิ้มออกมา เธอไม่รู้จักเหนียวด้าซานเลย เธอรู้สึกว่าไอ้เจ้านี่มันช่างตลกหรือเกิน อยู่ดีๆก็มาให้ของแก่เธอฟรีๆ บ้าไปหรือเปล่า?
“อ๋อ ฉันชื่อเหนียวด้าซาน เมื่อก่อนทำงานอยู่ที่กลุ่มแกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ย……”เหนียวด้าซานพูดอย่างลึกลับ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะบอกชื่อลู่เฉินออกมาตรงๆ
แต่เขาพูดแบบนี้ หลินอี้จุนก็เข้าใจขึ้นมาทันที
ตั้งแต่ลู่เฉินเพิ่งซื้อบริษัทตงเจียมา พวกเธอก็รู้แล้วว่ากลุ่มแกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ยเป็นของลู่เฉิน แต่สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจก็คือ เหนียวด้าซานก็เป็นคนของลู่เฉินด้วย
ตกลงอำนาจของลู่เฉินใหญ่ขนาดไหนล่ะ
“อ๋อ ฉันรู้แล้ว นั้นคุณไปทำงานคุณก่อนเลย ฉันอยากได้อะไรก็จะเอาไป”หลินอี้จุนก็พูดอย่างไม่เกรงใจ
“โอเค นั้นฉันไม่รบกวนพวกคุณแล้วนะ”เหนียวด้าซานพยักหน้า มองไปที่ลู่เฉินตาหนึ่ง เมื่อเห็นว่าลู่เฉินพยักหน้าใส่เขา ก็รู้ว่าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว
ขณะที่เขาเพิ่งคิดจะถอยออกไป ก็ได้เห็นวังเสวี่ยพูดขึ้นมาว่า”เอ๊ะ คุณก็คือผู้รํ่ารวยที่สุดเหนียวด้าซานหรอคะ ก่อนหน้านี้หลานสาวของฉันคนนี้บอกว่าแฟนของเธอเป็นเพื่อนกับคุณ ยังจะแนะนำคุณให้พวกเรารู้จักด้วย คาดไม่ถึงว่าจะมาเจอคุณที่นี่”
ระหว่างที่พูดวังเสวี่ยก็มองไปที่หวังว่านด้วยสีหน้าที่เยาะเย้ย
ก่อนหน้านี้หวังว่านอวดรวยมาตลอด เธอก็รู้สึกว่าหวังว่านคงอวดจนเกินไป และเรื่องไปตามอย่างที่คิดด้วย เมื่อกี้เสี่ยวจี้ทักทายเหนียวด้าซาน แต่เหนียวด้าซานไม่ได้มองเขาแม้แต่ตาเดียวเลย
“เป็นคุณหญิงวังนี่เอง ถ้าคุณอยากจะรู้จักฉันไม่ต้องผ่านการแนะนำของคนอื่นหรอก ฉันเองก็รู้จักคุณอยู่แล้ว ส่วนแฟนของหลานสาวคุณนั้น เขายังไม่มีสิทธิ์เป็นเพื่อนกับฉัน ในเมืองฉีเจียงฉันไม่มีเพื่อนแม้แต่คนเดียวเลย”เหนียวด้าซานพูดด้วยความหยิ่งผยอง
เวลานี้เสี่ยวจี้ก้มหน้าลง ในใจมีความรู้สึกราวกับกินขี้ลงไป ถ้าหากไม่ใช่ว่าหวังว่านพูดตอแหล ตอนนี้เขาคงไม่กลัวจนเช่นนี้แล้ว
คนใหญ่คนโตอย่างเหนียวด้าซาน จะเป็นเพื่อนของพวกเขาได้ยังไงล่ะ?
“อ๊ะ เป็นไปได้ยังไงล่ะ ก่อนหน้านี้พวกเขาได้พูดอย่างมั่นใจมากนะ”วังเสวี่ยแกล้งทำเป็นว่าประหลาดใจ
พอเห็นท่าทางการแสดงออกของวังเสวี่ย เหนียวด้าซานก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
เขามองไปดูหวังว่านและเสี่ยวจี้ด้วยสายตาที่ราบเรียบ จากนั้นพูดอย่างเย็นชาว่า”เดี๋ยวฉันจะให้คนไปตรวจค้นข้อมูลของไอ้เสี่ยวจี้คนนี้ ดูว่าเขามีสิทธิ์อะไรกล้ามาเป็นเพื่อนของฉัน”
ร่างกายของเสี่ยวจี้เริ่มสั่นขึ้นมา คาดไม่ถึงว่าคำพูดที่หวังว่านนำมาอวดนั้น ไปขัดใจเหนียวด้าซานจริงด้วย
“ท่าน ทาานประธานเหนียวครับ ขอประทานโทษครับ ผมก็คือเสี่ยวจี้นี่เองครับ ก่อนหน้านี้เพื่อนของฉันตอแหลพูดว่าเป็นเพื่อนของคุณนั้น ขอให้คุณยกโทษให้เธอด้วยครับ ส่วนผมเป็นแฟนของเธอ ไม่ได้ห้ามเธอไว้ ผมก็มีผิดครับ เชิญประธานเหนียวลงโทษผมคนเดียวครับ!”เสี่ยวจี้พูดด้วยความหวาดกลัว ถ้าหากไม่ใช่เป็นเพราะว่าเขาช่วยหวังว่าคนจริงๆ นั้นเขาคงหักล้างเธอไปแล้ว
หวังว่านใจสั่นขึ้นมา บริษัทของเสี่ยวจี้เพิ่งจะเริ่มต้นเอง ถ้าหากถูกเหนียวด่าซานเล่นงาน นั้นเขาคงไม่มีความสามารถไปต่อต้านกับเขาด้วยซ้ำ ต้องถูกเขาทำจนล้มละลายแน่ๆเลย
แต่ในใจเธอก็รู้สึกไม่เต็มใจเป็นอย่างยิ่ง ถ้าเกิดว่ากล่าวคำขอโทษออกมา นั้นเธอจะขายหน้าหรือเกินไม่ใช่หรือ
“เสี่ยวจี้ คุณสามารถมีความกล้าหาญหน่อยได้ไหมวะ?ถูกคนเขาพูดเช่นนี้ก็ขวัญหนีดีฝ่อไปเสียก่อน ฉันดูถูกคุณจริงๆ”หวังว่านพูดด้วยความโกรธ
“โอเค คุณดูถูกฉัน นั้นคุณเป็นเพื่อนของประธานเหนียว คุณมาให้คำอธิบายแก่ประธานเหนียวสิ?”เสี่ยวจี้ก็โมโหจริงๆ คาดไม่ถึงว่าหวังว่านจะดื้อขนาดนี้ ทันใดนั้นเขาก็ไม่อยากจะช่วยเธอแล้ว
เมื่อเห็นว่าสายตาที่เย็นชาของเหนียวด้าซานมองมา หวังว่านกลัวจนร่างกายสั่นไม่หยุด จึงยอมแพ้ทันที
“ท่าน ท่านประธานเหนียวคะ ขอโทษค่ะ เป็นความผิดของฉันนี่เองค่ะ ฉันไม่ควรไปโกหกว่าเป็นเพื่อนของคุณแ ทีหลังฉันจะไม่กล้าทำอีกแล้วค่ะ!”
หวังว่านก็จะแต่งกับเสี่ยวจี้แล้ว พอถึงเวลานั้นตระกูลวังของเธอก็จะเจริญรุ่งเรืองขึ้นในเมืองฉีเจียง เธอก็ไม่โง่ ถ้าหากเหนียวด้านซานไปทำจนบริษัทของเสี่ยวจี้ล้มละลาย นั้นในที่สุดเธอคงต้องเหลือแต่ร้องไห้อย่างเดียว
แต่ในใจของเธอเกลียดครอบครัวของวังเสวี่นจนเข้ากระดูกดำ
นับป่านนี้สีหน้าของเสี่ยวฟานแย่มาก เธอคาดไม่ถึงว่าวังเสวี่ยจะโหดเหี้ยขนาดนี้ มาเปิดเผยลูกสาวของเธอต่อหน้าเหนียวด้าซาน นี่คือจะทำจนลูกสาวลูกเขยของเธอต้องซวยใช่ไหม?
“ที่จริงแล้วโกหกนี่หว่า ฉันยังนึกว่าเขาเป็นเพื่อนของคุณจริงด้วย เมื่อกี้ฉันยังรู้สึกตกใจเลย”วังเสวี่ยยิ้มอย่างมีความสุขมากกว่าเดิม
“คนอย่างพวกมันสองคนมีสิทธิ์มาเป็นเพื่อนของฉันได้ยังไงหล่ะ?’เหนียวด้าซานพูดอย่างเย็นชา หันไปมองหวังว่านที่กำลังกล่าวขอโทษอยู่”แกนี่ใจกล้าหรือเกินนะ รู้ว่าการที่ใช้ชื่อของฉันมาหลอกลวงคนอื่นมีผลอะไรตามมาหรือเปล่าวะ?”
ใจของหวังว่านสั่นขึ้นมา กว่าจะรู้สึกถึงความหวาดกลัว เธอรีบดึงแขนของเสี่ยวจี้ไว้ เพราะตอนนี้มีแค่เสี้ยวจี้ที่สามารถช่วยเธอได้แล้ว
“ประธานเหนียวครับ ขอโทษจริงๆครับ เธอไม่รู้เรื่องรู้ราว คุณเห็นแก่หน้าผมหน่อยยกโทษให้เธอได้ไหมครับ พอกลับไปฉันผมสั่งสอนเธอให้ดีครับ”เสี่ยวจี้กล่าวคำขอโทษอย่างระมัดระวัง
“แกเป็นใครวะ มีสิทธิ์อะไรที่ให้ฉันมาเห็นแก่หน้าแก?หน้าของแกใหญ่มากหรือไง?”เหนียวด้าซานกลับหัวเราะออกมา ท่ามกลางของเสียงหัวเราะเต็มไปด้วยความฆาตกรรม
หวังว่านและเสี่ยวจี้กลัวจนหน้าซีด เกือบจะคุกเข่าลงมาโดยตรง
“แค่ก!”
พอดีในเวลานี้ ลู่เฉินไอออกมาเสียงหนึ่ง
เหนียวด้าซานมองไปที่ลู่เฉิน ลู่เฉิน ส่งสายตาสะกิดเขา เขาเลยรู้ว่าลู่เฉินไม่อยากไปสนใจกับพวกเขา เลยเอ่ยเสียง’เฮ่อ’ใส่เสี่ยวจี้สองคน จากนั้นก็จากไปแล้ว
จนกว่าเหนียวด้าซานลงตึกแล้วหายตัวไป เสี่ยวจี้และหวังว่านถึงโล่งใจได้
หวังว่านมองไปที่วังเสวี่ยและหลินอี้จุน ภายในสายตาเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมและเกลียดชัง
“พวกคุณไปก่อน ฉันกลับไปหยิบของหน่อยนึง”เดิมทีทุกคนล้วนเดินออกมาจากร้านแบรนด์LVแล้ว แต่ลู่เฉินเหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ เลยสะบัดหน้าเดินกลับไปทางร้าน