ตอนที่ 1 จมดิ่งในทะเล
โลกของฉันพังทลาย ชีวิตที่เกิดใหม่ คุณก็ยังคงเป็นภรรยาหนึ่งเดียวของผม–คณพศ
เดือนมิถุนายนของเมืองธิตกล เพราะติดทะเลอากาศจึงไม่ได้ร้อนมากเท่าที่คิด
อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ทำให้ผู้คนยังคงมีความกลัดกลุ้มไม่น้อย ลมทะเลที่พัดผ่านก็ไม่ได้มีความหนาวเย็นแต่อย่างใดเลย
ยามเย็นนารานั่งอยู่บนระเบียงชั้นสองของห้องหนังสือ ลูบท้องไปมาเบาๆ
ลูกรัก อีก20วัน ลูกก็จะได้ออกมาสู่โลกภายนอกแล้ว แม่จะมอบความรักให้ลูกอย่างหมดหัวใจเลย
ในชีวิตเธอ อาจมีเพียงลูกน้อยคนนี้ที่เป็นความอบอุ่นหนึ่งเดียวที่เธอมีบนโลกใบนี้ เธอหลับตาแล้วค่อยๆปล่อยความคิดล่องลอยไป
“ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ…” โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะหนังสือได้ดังขึ้น เธอค่อยๆลืมตาขึ้น มองไปที่โทรศัพท์
แล้วค่อยๆพยุงตัวเองขึ้น หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเห็นคลิปวีดีโอที่ส่งจาก “พิมมี่่”
พี่สาวคนนี้อีกแล้ว ไม่ใช่ข้อความก็เป็นคลิปวีดีโอ เธอชินไปแล้วล่ะ
เธอค่อยๆพยุงท้อง แล้วเปิดคลิปวีดีโอ
ในคลิปเป็นชายหญิงโป๊เปลือยคู่หนึ่งกอดกันอยู่บนเตียง จุมพิตกันอย่างดูดดื่ม แล้วกลิ้งไปมา……
“พศ เบาหน่อยสิ” เสียงออดอ้อนเขินอายของฝ่ายหญิง
ความยาวคลิปประมาณ3นาที ทั้งคู่กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างดุเดือด
ในคลิปนอกจากเสียงร้องของฝ่ายหญิงที่ร้องออกมาเป็นพักๆแล้ว ก็มีเพียงเสียงลมหายใจของฝ่ายชาย 。
วีดีโอนี้ได้บอกนาราว่าสามีของเธอกับพี่สาวของเธอกำลังทำกิจกรรมบนเตียง เหอะๆๆ เธอหัวเราะพร้อมน้ำตาที่ไหลรินลงมา
เธอค่อยๆหันกลับ สองมือพยุงท้องที่กลมโตไว้อย่างเบาๆ ตัวเธอสั่นไปทั้งตัว ไม่มีเรี่ยวแรง พอกำลังจะก้าวเดินก็สะดุดพรมหนาบนพื้นฟาดล้มลมไปอย่างแรง เจ็บท้องอย่างทรมาน เจ็บจนจะหายใจไม่ออก เธออยากลุกขึ้น แต่น้ำตาที่ไหลรินกลับทำให้ดวงตาพร่ามัวไปหมด
เธออดทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกขึ้นอีกครั้ง กลับรู้สึกขาร้อนวูบ ความรู้สึกที่แสนเจ็บปวดกับหัวใจที่โรยรา ทำให้เธอไม่ทันได้ส่งเสียงร้องก็หมดสติลงไป
ประตูห้องนอนได้เปิดออก คนใช้เห็นร่างผู้หญิงบนพื้น แล้วร้องลั่นเสียงดัง “คุณนายสาม คุณนายสามเป็นอะไรไปครับ”
ความรู้สึกสุดท้ายของนาราคือได้ยินเสียงลุงบีมคนดูแลบ้านได้ตะโกนเสียงดังว่า “คุณนายสามจะคลอดแล้ว รีบโทรหาคุณชายเร็วเข้า”
จากนั้นเสียงรถพยาบาลดังขึ้นข้างหูของนาราอย่างไม่ขาดสาย
เธอลืมตาอีกครั้ง แวดล้อมที่เต็มไปด้วยสีขาวได้บอกกับเธอว่า ตอนนี้เธอกำลังอยู่ที่โรงพยาบาล
ลูก?
เธอค่อยๆหันตัวแล้วอยากลุกขึ้นนึ่ง แต่เห็นพยาบาลกำลังหยอดน้ำเกลือให้อยู่
พยาบาลเห็นเธอตื่นแล้วยิ้มพร้อมพูดว่า “คุณนายสาม คุณตื่นแล้ว”
นาราอ้าปากอยากพูด แต่รู้สึกว่าคอแห้งไม่มีเสียง
พยาบาลรีบเทน้ำที่อยู่บนหัวเตียง ป้อนให้เธอดื่ม “คุณนายสามอยากพูดอะไรคะ”
“ลูกฉัน…” คอของนาราเหมือนอัดเต็มไปด้วยสำลี
“……” พยาบาลสกัดคำพูดอีกครั้ง แล้วช่วยนาราใส่สายน้ำเกลือเรียบร้อย
พยาบาลกำลังหันหลังจะเดินออกจากห้องคนไข้ นารารีบคว้าแขนของเธอไว้ พูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งว่า “ลูกฉันล่ะ อุ้มลูกมาให้ฉันสิ”
“คุณนายสามคะ…เด็ก…เด็กเสียแล้วค่ะ”พยาบาลก้มหน้าลง
“คุณพูดว่าอะไรนะ” นาราได้ยินพยาบาลพูดแล้วเหมือนเอาน้ำเย็นราดตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ขอโทษค่ะคุณนายสาม เด็กคลอดก่อนกำหนดแล้วขาดอ๊อกซิเจน ทำให้เด็กออกมาก็ไม่หายใจแล้วค่ะ” เวลานี้พยาบาลก็ร้องไห้ออกมา
นาราจับแขนพยาบาลไว้อย่างแน่น “ไม่ เป็นไปไม่ได้ เขาไม่ทางตาย เขาดิ้นอยู่ในท้องฉันอย่างสนุกสนานทุกวัน เขาจะตายได้ยังไง รีบไปอุ้มเขามาให้ฉันสิ”
นาราดึงเข็มสายน้ำเกลือออกอย่างแรง ไม่ทันได้ใส่รองเท้าก็วิ่งออกไป
พยาบาลเห็นเลือดที่หยดจากมือเธอหยดแล้วหยดเล่า รีบคว้าเธอไว้ “คุณนายสาม เด็กเสียแล้วจริงๆค่ะ คุณรีบนอนลงเร็ว เลือดคุณไหลแล้ว”
“หลบไป”
นาราใช้แรงที่มีทั้งหมดผลักพยาบาลออก วิ่งออกไปห้องทารกอย่างโซซัดโซเซ เห็นหมอเดินออกมา
แล้วรีบคว้าหมอไว้ “ลูกฉันล่ะหมอ ลูกฉันอยู่ไหน”
คุณหมอเห็นนารา อึ้งไปสักพัก “ขอโทษด้วยค่ะ คุณนายสาม ตอนนั้นคุณเป็นลมหมดสติลงไป เด็กขาดอ๊อกซิเจนช่วยไว้ไม่ทันค่ะ ตอนนี้คุณเพิ่งคลอดลูกได้ไม่ถึงอาทิตย์ ควรพักผ่อนเยอะๆนะคะ ส่วนลูกมีอีกได้นะคะ”
นาราฟังหมอพูดจบ ค่อยไปปล่อยมือลง เด็กขาดอ๊อกซิเจนช่วยไว้ไม่ทัน
ลูก ขนาดลูกยังทิ้งแม่ไปเลยเหรอ
แม่ขอโทษลูก แม่ไม่ควรเป็นลม น้ำตาไหลอาบแก้มที่ซีดเซียวของเธอ
“คุณนายสาม คุณนายสาม ทำไมไม่ใส่รองเท้าล่ะครับ เดี๋ยวไม่สบายได้นะครับ” ลุงบีมผู้จัดการบ้านรีบนำรองเท้ามาสวมให้เธอ
เขาเพิ่งกลับไปได้เพียงครู่เดียว คุณนายสามก็ตื่นแล้ว เขารีบโทรหาคุณชาย
ในขณะที่ลุงบีมกำลังโทรศัพทร์ เธอเดินไปที่บันได แล้วเดินลงไป
เธอยืนเสาต้นใหญ่หน้าโรงพยาบาลแล้วมองขึ้นฟ้า ลูกรัก ลูกรอแม่อยู่บนฟ้าใช่มั้ย แม่ไปอยู่เป็นเพื่อนลูกนะ
เวลานี้ “เอี๊ยด” รถคันนึงได้จอดหน้าโรงพยาบาล คณพศรีบลงจากรถโดยไม่ทันได้ปิดประตู แล้วรีบวิ่งตรงไปที่ลิฟต์
นาราเดินออกมาจากข้างเสา ค่อยๆเดินไปที่รถ ขึ้นไปนั่งที่นั่งคนขับแล้วปิดประตู เห็นกุญแจที่เสียบอยู่ เธอยิ้ม ยิ้มอย่างหมดหวัง
เธอค่อยๆสตาร์ทรถ กลับรถออกจากโรงพยาบาลไป
คณพศเดินออกจากลิฟต์แล้วตรงเข้าคนไข้ เห็นเพียงเตียงคนไข้ที่ว่างเปล่า เธอหายไปไหนแล้ว
เวลานี้ ลุงบีมรีบวิ่งเข้าไปอย่างลุกลี้ลุกลน “คุณชาย คุณนายสามหายไปแล้ว”
“หายไปแล้ว ไหนเมื่อกี๊บอกว่าฟื้นแล้วไม่ใช่เหรอ” คณพศรู้สึกถึงหัวใจที่เต้นแรง ตายิ่งกระตุกแรงกว่าอีก
เขาเดินไปที่ระเบียงอย่างวุ่นวายใจ เห็นรถที่ตัวเองเพิ่งขับมากำลังถูกขับออกจากโรงพยาบาล เขาตกตะลึงเหมือนจะหยุดหายใจในทันทีทันใด
“นารา” เขาแย่งกุญแจจากมือลุงบีม แล้วโดดจากระเบียงชั้นสามลงไป เหล่าพยาบาลชั้นสองเห็นสไปเดอร์แมนโดดผ่านไป ต่างพากันตกตะลึงกันหมด
รถที่ขับซิ่งบนท้องถนนของนารา ข้างหลังมีรถตามมาอย่างติดๆ ในใจคณพศร้อนเหมือนกำลังถูกแผดเผา เห็นรถคันข้างหน้ายิ่งขับยิ่งเร็ว หัวเขาเหมือนจะระเบิดเต็มที
เขาลดกระจกลงตะโกนออกไปอย่างเสียงดัง “นารา รีบจอดรถ มันอันตราย คุณฟังผมพูดก่อน” ถึงแม้ว่าเสียงของเขาจะตะโกนดังลั่นเพียงใด นาราก็ไม่ได้ยินอะไรเลย
รถได้ขับขึ้นทางด่วน ออกจากเมืองเมืองธิตกล มุ่งไปยังสะพานสูงที่อยู่ใกล้ทะเล
เวลานี้อกคณพศอกจะแตกสลาย เขาอยากแซงรถเธอ อยากขวางเธอไว้ แต่รถเธอขับเร็วจนน่าตกใจ ถึงแม้จะขับแซงไปขวางไว้ได้ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีการบาดเจ็บเกิดขึ้น
เขาทำได้เพียงคอยตะโกน “ที่รัก ขอร้องล่ะ หยุดรถเถอะ”
นาราไม่ได้ยินเสียงตะโกนข้างหลังเลย เธอเห็นเพียงแค่ลูกของเธอรอเธออยู่บนฟ้า
รถของเธอขับผ่านเส้นขอบฟ้าแล้วมุ่งขึ้นทางด่วนเลย
เห็นฉากกั้นบนสะพานแล้ว เธอหัวเราะ แบบนี้อาจจะดีที่สุดก็เป็นได้ เธอได้อยู่กับลูกพร้อมหน้ากันแล้ว โลกนี้ช่างโหดร้ายเหลือเกิน เธออยากหนีไปให้พ้น
ฉากกั้นยิ่งใกล้เธอเข้ามาทุกที รถดุจธนู อยู่กลางสะพาน เธอค่อยๆหลับตาลง ยิ้มที่มุมปากอย่างสวยหวาน แล้วพุ่งตรงไปข้างหน้า……