บทที่ 31 ตกล่องปล่องชิ้น
เขาโบกมือไล่ “ไปเถอะ ตามใจแก” จากนั้นหันกลับด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยว
“ขอบคุณครับคุณปู่” คณพศหันหลังกลับแล้วเดินจากไป
คณพศเปิดประตูห้องนอน ยังคงเห็นหญิงสาวนั่งรอเขาอยู่ข้างๆ เตียง พอเห็นเขาเข้ามาก็รีบลุกขึ้นโดยฉับพลัน
“ทำไมยังไม่นอนอีก?” คณพศมองใบหน้าของหญิงสาวที่ดูเหนื่อยล้า พร้อมพูดด้วยเสียงเบาๆ
“ฉันกำลังรอคุณกลับมา” นาราตอบ พูดจบก็รู้สึกว่าตัวเองพูดผิด แต่เธอหมายความว่ารอเขากลับมาเพื่อปรนนิบัติรับใช้ ไม่ได้มีเจตนาอื่นใดเลย
ชายหนุ่มได้ยินคำพูดของเธอ ก็หัวเราะเสียงต่ำๆ “รอฉันกลับมานอนด้วยใช่ไหม?”
เธอมองเขาด้วยรอยยิ้ม สายตาทั้งคู่จับจ้องซึ่งกันและกัน ตกอยู่ในภวังค์ชั่วขณะ
เธอรีบก้มศีรษะลงทันที แต่ในใจกลับเต้นไม่เป็นจังหวะ “คุณคณพศ ฉันเตรียมน้ำให้คุณแล้วนะคะ คุณไปอาบน้ำเถอะ” เขาไม่พูดถึงเรื่องนั้น นาราเองก็ไม่เอ่ยปากถามอะไร เธอทั้งผลักทั้งดันจนเขาเข้าไปในห้องอาบน้ำ แล้วหันหลังกลับจะเดินออกไป แต่แล้วก็ถูกข้อมือของชายหนุ่มจับไว้ “มาอาบด้วยกัน ถ้าเธอไม่ช่วยฉัน แล้วฉันจะอาบยังไง”
“…….” ใบหน้าของนาราแดงก่ำ ตอนอยู่บนเกาะ เขาไม่ได้อาบน้ำเองหรือไง ทำไมวันนี้ ณ ที่นี้ เขาถึงอยากให้เธอช่วยอาบน้ำให้นะ แถมยังบอกให้อาบน้ำด้วยกันอีก
“ไม่….คุณอาบเองเถอะ”
“อาบด้วยกันเถอะ แม่บ้านที่อยู่ข้างนอกเขาเห็นหมดแล้ว ถ้าเธอไม่ดูแลฉันให้ดี คุณปู่จะยิ่งโกรธให้นะ หรือว่าเธออยากหายตัวออกไปจากเมืองธิตกลหรือไง?” เขาค่อยๆ ปล่อยมือจากเธอ
นาราตกใจมาก เธอจับมือเขาแทน “คุณคณพศ ทั้งหมดไม่ใช่ความผิดของพ่อฉัน ได้โปรดอย่าตำหนิท่าน เป็นเพราะแม่และพิมมี่ต่างหากที่บังคับให้ฉันทำแบบนี้” “ในเมื่อคุณรู้แล้วว่าฉันไม่ใช่ตัวจริง ไม่เหมาะที่จะเป็นภรรยาของคุณ ฉันจะเป็นแม่บ้านให้ก็ได้นะ คอยดูแลความเป็นอยู่ของคุณ แต่ขอร้องล่ะอย่าถือโทษโกรธพ่อฉันเลย”
เธอจับมือชายหนุ่มไว้แน่น อ้อนวอนขอร้องด้วยความรู้สึกร้อนรน
ชายหนุ่มกลับมองเธอด้วยความรู้สึกเย็นชา “ในเมื่อไม่อยากให้ฉันโกรธพ่อของเธอ งั้นเธอก็จงเชื่อฟังฉันแต่โดยดี ไปช่วยฉันอาบน้ำ” อันที่จริงแล้วเขาไม่ได้คิดจะให้เธอเป็นคนรับใช้ ส่วนพ่อของเธอ…
นารากัดริมฝีปาก ยื่นมือออกมาค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อของเขาทีละเม็ด ชายหนุ่มลอบสังเกตเห็นมือสั่นระริกของเธอ จึงดึงร่างของเธอจนเป็นเหตุให้เธอต้องนั่งอยู่บนตักของเขา เมื่อเขาเห็นว่านาราไม่ได้มีท่าทีปฏิเสธ ดวงตาอันดำขลับพร้อมริมฝีปากอันเร่าร้อนจึงประทับลงบนริมฝีปากสีชมพูระเรื่อของเธอ เธอไม่เคยมีประสบการณ์ในเรื่องการจูบมาก่อน เธอจึงดึงทึ้งเสื้อของเขา แต่ชายหนุ่มกลับกอดเธอไว้แทน จนร่างทั้งสองตกลงในอ่างน้ำจนน้ำกระเซ็นยกใหญ่
น้ำในอ่างกระเด็นออกมาอีกครั้ง พร้อมกับเสียงร้องตกใจของนารา เธอรีบเอามือปิดปาก แต่แม่บ้านที่อยู่ด้านนอกก็ยังคงได้ยินเสียงร้องของเธอ จึงรีบลงไปที่ชั้น 2 เพื่อรายงานสิ่งที่ได้ยิน
กษาปณ์ซึ่งอยู่ในห้องนอนชั้น 2 มีสีหน้าคร่ำเครียดเมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด คิดทบทวนในใจ หรือว่าหลานชายทั้ง 3 คนจะรักผู้หญิงคนเดียวกัน เขาถอนหายใจ
บนห้องอาบน้ำชั้น 3 คณพศฟังเสียงร้องของหญิงสาว ก็เกิดรอยยิ้มที่มุมปาก “ฉันยังไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย เธอกลับร้องซะเสียงดังขนาดนี้ อยากให้คนข้างนอกรู้หรือไงว่าเรามีอะไรกัน”
นาราอายจนไม่กล้าเงยหน้ามอง
“คุณคณพศ ฉันไม่ชินกับการช่วยคุณอาบน้ำ คุณอาบน้ำเองให้เสร็จแล้วค่อยคุยกันได้ไหม?”
“ร่างเธอฉันเองก็เคยเห็นมาแล้ว”
“อ้า! คุณเห็นตั้งแต่เมื่อไร”
“ก็ตอนที่เธอไม่สบายตัวร้อนจี๋ เสื้อผ้าเธอฉันก็เป็นคนเปลี่ยนเองกับมือ ทำไมลืมง่ายจัง”
เขาฟังเสียงด้านนอกซึ่งตอนนี้เงียบไปแล้ว ก็เผยยิ้มที่มุมปาก เธอสมควรตายจริงๆ ไม่รู้ถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นจริงๆ หรือไง เขาคือคนที่ช่วยชีวิตเธอไว้ ถ้าคืนนี้เขาไม่ได้ตกล่องปล่องชิ้นกับเธอ คุณปู่คงไม่ปล่อยให้เธออยู่รอดจนถึงพรุ่งนี้เช้าเป็นแน่
เขารู้วิธีจัดการของคุณปู่ดี แต่ถ้าคืนนี้เขาไม่ได้ทำให้เธอคนนี้เป็นผู้หญิงของเขา เกรงว่าพรุ่งนี้คุณปู่คงจะไล่เธอออกไปแน่ๆ หรือไม่ก็ถูกโยนทิ้งที่ทุ่งหญ้าแอฟริกาเป็นแน่
นี่ถือเป็นระเบิดร้ายแรงของตระกูลวรชัยลภัส จากนั้นคุณปู่ต้องบังคับให้พิมมี่แต่งงานไปอยู่เกาะแน่
นาราเห็นสายที่เดี๋ยวร้อนแรงเดี๋ยวเย็นชา ก็นึกถึงคำพูดเมื่อกี้ของเขา ตอนที่เธอไม่สบายแล้วเขาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอ
“คุณคณพศ….ฉันจะหยิบผ้าขนหนูให้ คุณอยากมองอะไรก็ตามใจ ไหนๆ ก็เคยเห็นแล้วนี่” เธอลุกขึ้นจากอ่างน้ำ หยิบผ้าขนหนูมาช่วยเช็ดด้านหลังของคณพศ เธอละสายตาจากเขา แต่ทว่าชายหนุ่มกลับจับมือเธอไว้ ดึงร่างของหญิงสาวเบาๆ ทำให้เธอต้องนั่งลงบนตักของเขาอีกครั้ง