ตอนที่ 17 เธอถูกหมาป่ากัด
เมื่อนาราไม่มีทางให้ถอย ข้างหลังมีต้นไม้ใหญ่ขวางร่างเล็กๆ ของเธอไว้
เมื่อเธอไม่ตอบสนอง หมาป่าก็เข้ามาอย่างรวดเร็ว นาราใช้กำลังทั้งหมดที่มีกอดต้นไม้เอาไว้ เธอกลัวจนขาไร้เรี่ยวแรง
แต่หมาป่าก็กระโดดขึ้นในอากาศ หันหลังกลับแล้วกระโดดขึ้นอีกครั้ง อุ้งเท้าคมพาดบนไหล่ของหญิงสาว
เสื้อบนไหล่ของนาราถูกฉีกออกทันที เลือดสีแดงไหลทะลัก
นารากลั้นความเจ็บปวดรุนแรง ถอยตามสัญชาตญาณและไปสะดุดเส้นเชือกอีกครั้ง
ยิ่งหมาป่าได้กลิ่นคาวเลือดก็ยิ่งตื่นเต้นยิ่งขึ้น โจมตีนาราอีกหลายครั้ง แม้ว่าเธอจะใช้พลังงานทั้งหมดของเธอเพื่อหลบหลีกมัน แต่หลังจากนั้นหลายต่อหลายครั้ง หมาป่าก็ยังคงตะปบลงมา
นาราหวาดกลัวหนัก ร่างกายบาดเจ็บหลายแห่งจนไม่มีเรี่ยวแรง ที่ที่ถูกหมาป่าตะปบเหมือนถูกเผาไหม้ เธอทรุดตัวลงตรงรากต้นไม้
เมื่อหมาป่าเข้ามาอีกครั้ง นาราก็หลับตาลงเงียบๆ เธอไม่มีพลังที่จะต่อสู้กับหมาป่าที่ดุร้ายอีกต่อไปแล้ว ตายเสียเถอะ ถ้าตายทุกอย่างก็จบ เธอเต็มใจ
“เพส!” ทันใดนั้นเสียงคำรามก็ดังขึ้น
หมาป่ากำลังจะเปิดเขี้ยวโถมใส่นารา
เมื่อได้ยินเสียงดังก็หันไป ชายในชุดดำยืนอยู่ข้างหลังท่ามกลางความมืด
หมาป่าเดินไปทันที คลอเคลียข้างกายเขา “กลับไป อย่าดุคน!”
นาราพยายามลืมตา เห็นเพียงเงาค่อยๆเดินมาหาเธอ ก้มลงอุ้มเธอขึ้นมา ศีรษะเธอเอียงซบ ตกอยู่ในอาการโคม่า
ไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ สัญญาณเตือนภัยดังขึ้นในชั้นใต้ดินของวิลล่า ลุงบีมรีบไปตรวจสอบทันที เห็นนาราเข้าไปในป่าหลังภูเขากับเพสที่ก้าวเข้าใส่
เขาตกใจมาก เร่งรีบไปบอกคณพศ
ลุงบีมยังไม่ทันจะพูดจบ ร่างบนรถเข็นก็หายไปแล้ว
ลุงบีมวิ่งออกไปพร้อมกับหน้ากาก
คณพศราวกับบินได้ หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็มาถึงสถานที่ที่นาราและเพสปะทะกัน ถ้าเขามาสายกว่านี้ ผู้หญิงคนนี้คงเป็นอาหารเย็นของเพสไปแล้ว
ผู้หญิงคนนี้ช่างกล้าจริงๆ ดีที่วิ่งมาถึงเร็ว แย่แน่ถ้าเขาไม่วางเชือกเอาไว้ ใครจะไปคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะวิ่งมาที่นี่
เขาอุ้มหญิงสาวที่เปื้อนเลือดกลับไปที่วิลล่า แล้วเรียกหมอประจำตระกูลมาทันที
เสื้อผ้าของนาราถูกหมาป่าตะปบจนเผยให้เห็นผิวที่บาดเจ็บ เลือดไหลหยดลง ใบหน้าซีดเซียวของเธอไม่มีสีเลือด รองเท้าเหลืออยู่ข้างเดียว
ในตอนนี้ลึกๆ แล้วคณพศยังมีอาการปวดใจ แต่จู่ๆ เขาก็ยิ้มเยาะเย้ย ผู้หญิงคนนี้เป็นผู้หญิงของวิษณุส์
ทำไมเขาถึงรักเธอ เขาบ้าไปแล้วเหรอ!
แต่เมื่อมองดูผ้าปูที่นอนที่มีคราบเลือดสีแดงย้อมช้าๆ ใบหน้าของเขาก็กลายเป็นสีดำเหมือนก้นหม้อ “รีบหยุดเลือดให้เธอ”
มือของหมอสั่นด้วยความกลัว รีบรักษาบาดแผลให้
หลังจากนั้นไม่นานหมอก็หันไปพูดกับคณพศ “คุณชายครับ คุณนายสามบาดเจ็บแค่ภายนอก เธออยู่ในอาการโคม่าเพราะความหวาดกลัว ผมได้รักษาบาดแผลให้แล้ว เมื่อได้รับการพักผ่อนสักเดี๋ยวก็จะฟื้นขึ้นมาเอง ผมฉีดยาแก้พิษให้เธอแล้วนะครับ เพราะถึงยังไงเพสก็เป็นสัตว์ป่า”
ชายหนุ่มมองหญิงสาวบนเตียงเงียบๆ ด้วยคิ้วขมวดแน่น
หลังจากที่หมอไป เขาก็นั่งรถเข็นเลื่อนออกจากห้อง
นาราตกใจและได้รับบาดเจ็บ ตกกลางคืนไข้ขึ้นสูง และคณพศบอกป้าอ้ายเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นาราหลังจากที่หมอไป
เวลาเที่ยงคืนเขายืนสูบบุหรี่ตรงหน้าต่างบานยาว มองออกไปข้างนอกตอนกลางคืนด้วยความรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย จากนั้นเขาก็หันไปเปิดประตูเข้าไปในห้องของนารา
ใบหน้าเล็กของหญิงสาวกลายเป็นสีแดงมากขึ้นภายใต้แสงไฟสลัวๆ จู่ๆเขาก็เห็นว่าผ้าห่มสั่น มองเห็นลางๆ ว่าตัวของหญิงสาวสั่นเทา
เธอเป็นอะไร ตอนนี้เป็นเดือนเมษายนมันไม่หนาวมาก
เขาเดินเข้าไปเงียบๆ เห็นใบหน้าของหญิงสาวเป็นสีแดงเหมือนไฟ ร่างกายสั่นเทาในผ้าห่ม
เขาเอื้อมมือไปแตะหน้าผากของเธอ มันร้อนจนน่ากลัว
เธอมีไข้
ตอนนี้นาราราวกับอยู่ในน้ำเย็น เธอรู้สึกว่ามีใครอยู่ข้างๆเธอ แต่มันเจ็บปวดบาดแผลไปหมด
“หนาวจัง…เจ็บมาก…คุณพ่อคะ” นารารู้สึกไม่ดีอย่างมาก คณพศเลิกผ้าห่มขึ้นทันที ต้องการพาเธอไปโรงพยาบาล
แต่เขาชะงักไป ทำไมเขาถึงรู้สึกประหม่ากับเธอ
เขาห่มผ้าห่มให้นาราอีกครั้งและกำลังจะแจ้งให้หมอประจำตระกูลทราบ แต่มือใหญ่กลับถูกจับแน่นด้วยมือเล็กที่ร้อนจัดเสียก่อน
“หนาว…”
หญิงสาวคว้ามือไว้เพราะจิตใต้สำนึกบอกว่าพ่อมาหา เพราะในโลกนี้ เมื่อเธอป่วยก็มีเพียงพ่อของเธอเท่านั้นที่อยู่ข้างๆ
เธอจับมือคณพศเอาไว้แน่น ร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลเข้าใกล้กับแขนของเขา
คณพศไม่ได้นั่งอยู่บนรถเข็น ย่อตัวลงข้างเตียง เมื่อร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลเข้าใกล้อ้อมแขนของเขา จิตใต้สำนึกสั่งให้โอบกอดหญิงสาวไว้โดยไม่รู้ตัว
“คุณพ่อคะ…หนาวจัง มันเจ็บมาก…” นาราเอื้อมมือไปคว้าเสื้อผ้าของเขาพลางพึมพำ
คณพศโอบกอดเธอเอาไว้และวางเธอลงให้อยู่ในผ้าห่ม เปิดเครื่องทำความร้อน แต่หญิงสาวคว้าแขนของเขาเหมือนหมีโคอาลาและตะโกนเสียงสั่น
เขาต้องล้มลงนอนกอดเธอ ร่างกายในอ้อมแขนนั้นร้อนจนน่ากลัว แต่หญิงสาวยังคงสั่นเทา
มุมปากของคณพศกลายเป็นเส้นตรง กอดหญิงสาวในอ้อมแขนเอาไว้โดยไม่รู้ตัว กลัวว่าจะไปสัมผัสถูกบาดแผลของเธอ ค่อยๆห่มผ้าห่มให้ การกระทำอ่อนโยนอย่างอธิบายไม่ได้ เขาขมวดคิ้ว นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเขา
แต่เพราะสัญญาณเตือนขึ้นในจิตสำนึกของเขา ว่านี่เป็นผู้หญิงของวิษณุส์
ซึ่งเขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้กับความพยายามที่จะปกป้อง ทุกครั้งที่เห็นแววตาที่ไร้เดียงสาของเธอ แต่ความสะอาดก็เป็นเรื่องที่ยากจะลืม
เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้หญิงคนนี้คือคุณหนูใหญ่ตระกูลวรชัยลภัสจริงๆ นี่เหรอพิมมี่ที่ถูกตามใจมาตั้งแต่เกิดคนนั้น!
คุณพ่องั้นเหรอ เธอเรียกเขาว่าคุณพ่อ เขาแก่ขนาดนั้นเลยหรือไง
หญิงสาวในอ้อมแขนได้รับความอบอุ่นก็ค่อยๆหลับไป คณพศก้มลงมองใบหน้าเล็กของหญิงสาว ใบหน้าเล็กมีสีแดงเป็นปื้นขนาดใหญ่ บนหน้าผากมีเส้นขนเล็กๆ
กลิ่นกายจางๆลอยเข้าไปในจมูกของเขา เป็นกลิ่นที่ดีมาก
หลังจากนั้นไม่นานนาราก็เริ่มเหงื่อออกจนเปียกชุ่มไปหมด
เขาปล่อยเธอโดยไม่รู้ตัว คิดจะให้ป้าอ้ายขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอ
แต่แล้วก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อไปเอาชุดนอน เขาเลิกผ้าห่มออกและถอดชุดนอนเปียกชุ่มของหญิงสาว
เขาคิดในใจว่าถึงแม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงของวิษณุส์ แต่ตอนนี้เธอป่วยอยู่ และตอนนี้เธอก็เป็นภรรยาของเขา
มันไม่เป็นไรหากเขาจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอ