บทที่51 ให้คณพศเห็น
หญิงสาวยืนขึ้นพลางยิ้มอย่างฝืนๆ “คุณชายสาม ฉันพิมมี่ภรรยาของคุณไงคะ” เธอดื่มจนค่อนข้างเมาเพราะนี่เป็นวิธีเดียวเท่านั้นที่ช่วยทำให้เธอมีความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย มุมปากคณพศเหยียดยิ้มทันทีที่ได้ยินหญิงสาวบอกว่าตัวเองคือพิมมี่ “เธอมาทำไม”
“ฉัน…ฉันอยากมาเจอคุณ ขอโทษนะคะคุณชายสาม ฉันไม่ควรให้นาราผู้หญิงเลวๆคนนั้นมาแทนที่ฉัน ฉัน…ไม่ควรหลอกคุณ ขอโทษนะคะ ฉันอยากจะ…”
“เธออยากทำอะไร” เธอยังพูดไม่ทันจบประโยคดีก็ถูกน้ำเสียงเย็นชาแทรกขึ้นมา “อยากเปลี่ยนตัวกลับมางั้นสิ” ตอนนี้หญิงสาวนั่งลงบนพื้นตามเดิมพร้อมใช้มือเกาะแกะบนท่อนขาแกร่ง เขาออกแรงบีบข้อมือเธออย่างแรง
“เธอไม่รังเกียจที่ฉันพิการ?” อีกฝ่ายมองเธออย่างเย็นชา
“ไม่คะ…ไม่รังเกียจเลย ฉันเป็นภรรยาคุณ ไม่รังเกียจเลย ขอโทษนะคะ” พิมมี่ข่มความเจ็บที่ข้อมือเอาไว้ เธอกำลังจะลุกขึ้นแต่อีกฝ่ายกลับสะบัดมือออกอย่างแรง
“แต่ฉันรังเกียจ! พิมมี่คุณนี่ไร้เดียงสาจริงๆ คิดว่าตัวเองต้องการอะไรก็ได้รึไง จะบอกให้นะที่เธอไม่ได้ไปอยู่ที่เกาะฟ้ามันถูกต้องแล้ว ถ้าเปลี่ยนมาเป็นเธอล่ะก็เธอคงตายทั้งเป็น พรุ่งนี้เตรียมเอกสารการหย่ามาด้วย”
คณพศหยิบผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋าเสื้อออกมาเช็ดมือแล้วทิ้งลงพื้น จากนั้นจึงบังคับวีลแชร์ให้หันหลังแล้วเคลื่อนออกไป
“ไม่นะ ฉันไม่หย่า คณพศในเมื่อคุณแย่งตำแหน่งผู้อำนวยการมาได้แล้ว คุณก็ต้องแต่งงานกับฉัน เพราะคุณผู้หญิงตัวจริงของผู้อำนวยการคือฉัน!” พิมมี่มึนไปหมดเธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองพูดอะไรออกไปบ้าง
อีกฝ่ายไม่สนใจเธอแม้แต่น้อย เขาขึ้นรถพร้อมกับเสกข์ที่จัดการปิดประตูให้ จากนั้นรถก็ค่อยๆเคลื่อนออกไปจากปู่ชิงคลับ
แต่หน้าประตูปู่ชิงคลับกลับมีผู้ชายคนหนึ่งปรากฏตัวอยู่ เป็นวิษณุส์ที่เพิ่งเดินลงมาจากชั้นบน เขารออยู่ข้างบนหลายชั่วโมงแล้วแต่กลับไม่เจอคณพศ
เขาขบฟันแน่น ได้! คณพศ ในเมื่อแกไม่มีน้ำใจก็อย่ามาหาว่าฉันเลวก็แล้วกัน!
ในตอนที่เขากำลังเดินลงมาก็เห็นภาพที่พิมมี่กำลังฟุบหน้าบนพื้นขอโทษคณพศพร้อมพูดว่าไม่รังเกียจ
เลือดในกายเขากลับมาพลุ่งพล่านอีกครั้ง พิมมี่ผู้หญิงเลวคนนี้กำลังเสนอตัวให้คณพศอยู่สินะ
ผู้หญิงที่เขารักและจริงใจด้วยมาตลอดหลายปีนี้ที่แท้ก็เลวแบบนี้นี่เอง เขาที่ไม่ได้นั่งตำแหน่งผู้อำนวยการจึงไม่มีสิทธิได้แต่งงานกับเธอ
เขามองผู้หญิงที่กำลังอ้อนวอนบนพื้นราวกับสุนัขอย่างโกรธจัด โกรธจนหัวแทบระเบิด
หลังจากที่คณพศกลับไป เขาจึงเดินเข้าไปหาหญิงสาว “เพี้ยะ” พร้อมกับฝ่ามือที่ฟาดลงบนแก้มของเธอ
พิมมี่ยังไม่ได้ตอบสนองอะไร แต่ความเจ็บแสบบริเวณใบหน้าทำให้เธอต้องเงยหน้าขึ้น จึงพบกับใบหน้าน่ากลัวของวิษณุส์
“วิษณุส์ คุณตบฉันทำไม”
เธอจับแก้มตัวเองที่ตอนนี้ชาไปหมด ผู้ชายคนนี้รักเธอยิ่งกว่าอะไร แต่ตอนนี้กลับตบเธอ!
“ทำไม? อยากจับคณพศจนทนไม่ไหวแล้วรึไง พิมมี่ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเลวขนาดนี้ พอหมอนั่นได้ขึ้นเป็นผู้อำนวยการไม่ทันไรเธอก็รีบจับมันทันทีเลยนะ แต่อย่าลืมสิว่าเธอเป็นผู้หญิงของฉัน เธอคิดว่ามันจะยอมกลับมาแต่งงานกับเธออีกงั้นเหรอ เลิกฝันได้แล้ว หย่ากับมันซะแล้วอย่าคิดที่จะสวมเขาให้ฉัน!”
เขาเอ่ยจบพร้อมกับกระชากหญิงสาวไปยังลานจอดรถทันที
“ปล่อยนะ!…วิษณุส์ไอ้คนเลว!” พิมมี่ทั้งโดนตบแล้วยังโดนกระชากอีก ข้อมือของเธอเจ็บไปหมด
เธอไม่เคยเกลียดวิษณุส์ขนาดนี้มาก่อน อยู่ๆอีกฝ่ายก็ตบเธอ! มีสิทธิอะไรมาตบเธอกัน!
วิษณุส์ไม่สนใจท่าทีขัดขืนของหญิงสาว เขาเปิดประตูรถแล้วยัดเธอเข้าไปพร้อมจัดการล็อกประตูรถทันที
เขาสตาร์ทรถเตรียมขับกลับบ้าน พิมมี่ที่นั่งอยู่ข้างหลังจับไหล่เขาเอาไว้ “ปล่อยฉันลงไปเดี๋ยวนี้ฉันไม่นั่งรถคุณ วิษณุส์ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะเป็นไอ้หน้าตัวเมียที่ชอบตีผู้หญิง ฉันมองคุณผิดไปจริงๆ!”
“หึหึ…” วิษณุส์หัวเราะเสียงเย็น “เพิ่งรู้ตอนนี้มันก็สายไปแล้ว! อยู่นิ่งๆซะ ฉันไม่สนหรอกนะว่าอยู่บนรถ เรามาถ่ายคลิปให้คณพศมันดูซักหน่อยดีไหมว่าเวลาอยู่ใต้ร่างฉันเธอมันร่านแค่ไหน”
พิมมี่ถลึงตามองอีกฝ่าย ที่ผ่านมาเธอไม่เคยเห็นผู้ชายคนนี้หยาบคายแบบนี้มาก่อน
จริงๆแล้ววิษณุส์ชอบพิมมี่อย่างจริงใจ แต่ครั้งนี้เขารู้แล้วว่าที่พิมมี่ทำดีกับเขาก็เพียงเพราะต้องการเป็นภรรยาของผู้อำนวยการเท่านั้น
และในตอนนี้คณพศก็ได้ตำแหน่งนั้นไปแล้ว หญิงสาวจึงทิ้งเขาแล้วไปจับคณพศ ผู้หญิงที่กรีดหัวใจเขาอย่างง่ายดายแบบนี้ เขายังควรจะทำดีกับเธอแบบที่ผ่านมาได้อีกงั้นเหรอ
เมื่อมาถึงคฤหาสน์ของวิษณุส์ เขาก็กระชากพิมมี่ออกมาจากรถแล้วลากเข้าไปในห้องทันที
พิมมี่ขัดขืนสุดแรงแต่ก็ไม่เป็นผล บวกกับอาการมึนหัวจากการดื่มเหล้าจึงทำให้เธอไร้เรี่ยวแรง
วิษณุส์โยนเธอลงบนโซฟา
พิมมี่หน้าเหยเก เธอเพิ่งยันตัวลุกขึ้นนั่งได้ไม่ทันไรคางเธอก็ถูกมือใหญ่บีบอย่างแรง วิษณุส์ประกบจูบลงมาทันทีโดยที่เธอไม่มีโอกาสได้ตั้งตัวแม้แต่น้อย
พิมมี่ถูกลงโทษจนถึงกลางดึกถึงได้กลับตระกูลวรชัยลภัส เธอเปิดประตูเข้าไปแล้วล้มลงบนพื้นห้องรับแขก
คณพศกลับถึงคฤหาสน์ก็เป็นเวลาเกือบห้าทุ่มแล้ว ลุงบีมช่วยพยุงให้เขานั่งลงบนวีลแชร์ แต่เขาลุกขึ้นยืนแล้วก้าวยาวๆเข้าไปในคฤหาสน์ทันที
ห้องนอนชั้นสอง บนเตียงมีนาราที่นอนหันข้างหลับอยู่ ในมือยังคงถือหนังสือเอาไว้ คงจะอ่านจนหลับไปสินะ
คณพศหยิบหนังสือในมือเธอออก และพบว่ามันคือหนังสือที่เขาเคยใช้เรียนนั่นเอง
ผู้หญิงคนนี้อยากเรียนมาก จนขนาดที่ว่าเวลานอนยังกอดหนังสือเอาไว้
คณพศหยิบชุดนอนแล้วเข้าไปอาบน้ำ นึกถึงสภาพเมามายของพิมมี่เมื่อตอนหัวค่ำที่ปู่ชิงคลับแล้วเขาก็รู้สึกสมเพช
เขาสวมชุดนอนเดินออกมาจากห้องน้ำ ค่อยๆสอดตัวเข้าไปในผ้าห่ม มือข้างหนึ่งสอดเข้าไปใต้ร่างบอบบางของหญิงสาว เขาหลับตาลงแล้วสูดดมกลิ่นหอมหวานบนตัวเธอ
ความเหนื่อยล้าที่มีตลอดทั้งวันค่อยๆหายไป เขายืนยันอีกครั้ง เขาต้องการหมั้นกับผู้หญิงคนนี้
ยังไงซะเขาก็ต้องขอบคุณพิมมี่ที่ส่งผู้หญิงคนนี้ให้มาอยู่ข้างกายเขา ถ้าไม่ใช่เธอเขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะใช้ชีวิตอย่างไร และต้องทรมานไปอีกนานแค่ไหน
รุ่งเช้า นาราลืมตาขึ้นและพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในอ้อมกอดอบอุ่น เมื่อเงยหน้าขึ้นเธอก็พบกับใบหน้าหล่อเหลา ในใจก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทันที
เธอพิศมองคิ้ว ตา จมูก ปากของอีกฝ่ายอย่างละเอียด ราวกับกำลังสลักใบหน้าของผู้ชายตรงหน้าลงไปในใจ
เธอค่อยๆผละออกจากอ้อมกอดอีกคน หยิบพู่กันข้างๆขึ้นมาแล้วบรรจงวาดรูปลงบนกระดาษ
รูปภาพใบหน้าตอนหลับของคณพศปรากฏตรงหน้า เธอยิ้มออกมาเล็กน้อย
ชายหนุ่มลืมตาขึ้น มองหญิงสาวที่ยิ้มกับภาพวาดตรงหน้า
“ให้ผมดูบ้างสิ” ความจริงเขาตื่นตั้งนานแล้วแต่ไม่อยากรบกวนหญิงสาวที่กำลังวาดรูปเขาอยู่
นาราส่งภาพวาดให้อีกคนอย่างอายๆ คณพศตาเป็นประกาย “คุณภรรยาวาดได้เหมือนมาก”
เขาเงยหน้าขึ้นมองรอยยิ้มที่เหมือนกับลูกแมวกำลังแอบกินปลาของเธอ “นี่ผมหล่อขนาดนี้เลยเหรอ ไม่น่าล่ะคุณภรรยาถึงได้ชอบมองตาไม่กระพริบทุกครั้งเลย”
“……”
เธอมองตาไม่กระพริบตอนไหนกัน ผู้ชายคนนี้หลงตัวเองจริงๆเลย
แต่เธอก็ยิ้มตอบ “ฉันวาดเหมือนจริงๆเหรอคะ” เธอถามอย่างไม่มั่นใจ
“อืม เหมือนมาก” เขาจูงมือเธอแล้วโอบเธอไว้ในอ้อมแขน “ผมเป็นนายแบบให้แล้ว คุณภรรยาก็ต้องมีรางวัลให้สามีบ้างสิ”
นาราหน้าแดง อยู่ๆก็แทนตัวเองว่าสามี ผู้ชายคนนี้หน้าไม่อายจริงๆ
ไม่รอให้นาราอนุญาต เขาก็ประกบจูบอันอ่อนโยนลงบนกลีบปากเธอทันที