บทที่109 นาราฉันจะทำให้เธอมีความสุขเชื่อฉันนะ
ประตูห้องที่เธอล็อคเอาไว้ ถูกเปิดออกในทันที
หลังจากนั้นก็มีเสียงขยับของรถวีลแชร์ เข้ามาในห้องของเธอ
ทันทีที่ได้ยินเสียงนี้ นาราก็คิดได้ทันที คณพศกลับมาแล้ว ดังนั้นเธอจึงลุกลี้ลุกลน รีบจัดเก็บอารมณ์ของตัวเอง
แต่เพราะตาของเธอแดง ท่าทางที่เพิ่งจะร้องไห้เสร็จของเธอ ไม่มีทางปกปิดได้
“นาราร้องไห้เหรอ?มันคุ้มกันไหม?”เมื่อคณพศกลับมา ก็ได้ยินคนรับใช้บอกเรียบร้อยแล้ว
บุรินทร์มาเพราะเรื่องของพิมมี่ วิ่งมาหานาราที่เจหงส์ พวกเขาทะเลาะกัน นาราถึงได้เสียใจแบบนี้
ก่อนที่นาราจะโทรหาเขานั้น เขาก็เดาออกแล้ว ว่าอาจจะเป็นเพราะเรื่องนี้
เราถึงเลือกที่จะรีบกลับมา เขาทนไม่ได้ที่นารา จะต้องมาร้องไห้เสียใจเพราะเรื่องน่าเบื่อแบบนี้
“คุณรู้แล้วเหรอ?”ได้ยินคณพศพูดแบบนี้ ตาแดงๆของนาราก็มองไปที่เขา
ตอนแรกนาราคิด่า จะไม่บอกเรื่องนี้กับคณพศ
ถึงยังไงเขาก็ไม่ทำร้ายตัวเอง เธอเองก็ไม่อยากให้เขาโกรธเพราะเรื่องของตระกูลวรชัยลภัส แต่สุดท้ายเขาก็รู้แล้ว เพราะเธอโทรหาถามถึงเรื่องของพิมมี่ เขาจึงรู้เรื่องนี้
เมื่อเธอคิดอย่างละเอียดแล้ว ที่นี่คือเจหงส์ ทุกคนรุ่นก่อนหลัง ต่างก็ต้องบอกคณพศ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็ปิดบังเขาไม่ได้
มองนาราที่ท่าทางอารมณ์เสียใจ
คณพศไม่เคยรู้สึกปวดใจแบบนี้มาก่อน ไถลรถวีลแชร์ตัวเองไปข้างๆเธอ
ยื่นมือนำนาราเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พูดเสียงอบอุ่น “รู้ทั้งรู้ว่าเขาลำเอียง ก็ไม่ต้องเอาพวกเขามาคิดใส่ใจ ฉันไม่ได้สั่งกำชับกับคนใช้ ว่าไม่ให้คนตระกูลวรชัยลภัสเข้ามาที่เจหงส์แล้วเหรอ?พวกเขายังให้บุรินทร์เข้ามาเจอเธออีก ฉันจะลงโทษพวกเขา ”
ถึงยังไงก็ทำให้ผู้หญิงของคณพศเสียใจ เรื่องแบบนี้ให้อภัยไม่ได้
อีกทั้งบุรินทร์ยิ่งเป็นพ่อของนารา เขาทำเรื่องไม่มีความเป็นธรรมแบบนี้ หรือไม่ละอายใจเลยหรือไง?
ได้ยินคณพศหมายความแบบนี้ ต้องการคิดบัญชีย้อนหลัง
นาราที่เมื่อกี้อารมณ์ไม่ดีอยู่ ทันใดนั้นก็เงยหน้าขึ้นมา มองไปที่คณพศอย่างจริงจัง พูด “คณพศคุณไม่ต้องทำโทษคนรับใช้นะคะ พวกเขาวิ่งมาบอกฉันก่อนแล้ว ฉันอยากเจอพ่อเอง ไม่เกี่ยวกับพวกเขา คุณต้องลงโทษพวกเขาเพราะเรื่องนี้ ”
บุรินทร์เข้ามาได้ เกี่ยวอะไรกันกับคนรับใช้?
ต่อให้แค่บุรินทร์โทรมาหาเธอ เธอก็จะออกไปเจอเขา
ยิ่งไปกว่านั้นคือบุรินทร์วิ่งมาที่เจหงส์ด้วยตัวเอง เธอไม่ไปเจอเขาไม่ได้
“มันเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเธอ แต่เธอดูคนอื่น พวกเขาสนใจเอเธอจะเสียใจแบบนี้เหรอ?”จนถึงตอนนี้แล้ว นารายังใจดีอยู่แบบนี้
คณพศก็อดไม่ได้ที่จะสงสาร จับเธอข้ามากอดเข้าแน่นๆ
ปากไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ในใจกลับคิด บุรินทร์นั้นไม่มีความเมตตาเลย จากเรื่องที่เขาทำวันนี้ ต่อไม่นี้ก็ไม่จำเป็นต้องอ่อนข้อกับเขาแล้ว
แต่นาราที่ถูกคณพศโอบไว้กลางอก ราวกับได้ยินเสียงใจของคณพศที่พูดอยู่
ก็อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมาอีก พูดอย่างตั้งใจ “ส่วนพ่อของฉัน คุณก็ไม่ต้องทำอะไรกับขาตกลงไหมคะ?เขารักพิมมี่มากฉันเข้าใจดีค่ะ พวกเขาไม่รักฉัน ต่อไปนี้ฉันเองก็จะไม่สนใจไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไร ”
“เพราะถึงยังไงเขาก็ให้กำเนิดแล้วก็เลี้ยงฉันมา ฉันไม่อยากให้เพราะความสัมพันธ์ของฉัน ทำให้เขาต้องเจอเรื่องอันตราย ”
อารมณ์ของคณพศ ถึงตอนนี้นาราก็ยังคงคาดเดาไม่ได้
ดังนั้นเธอจึงทำได้แค่ขอร้องอย่างระมัดระวัง และหวังว่าคณพศจะฟังคำขอของเธอ
“โง่จริงๆ ” ฟังที่นาราพูดคำนั้นแล้ว “พวกเขาไม่รักฉัน ”
คณพศใจแทบสลาย ยื่นมือออกไป จับคางเธอเชยขึ้นมา แล้วพูดน้ำเสียงอ่อนโยน “นารา ต่อให้ทั้งโลกนี้ไม่มีใครรักเธอ ฉันก็จะรักเธอ ฉันจะแต่งงานกับเธอ อยู่กับเธอจนแก่หัวหงอก ฉันไม่ใช่พวกเขา ฉันจะไม่มีวันทอดทิ้งเธอ ”
ในตอนแรกคณพศเข้าใจว่า โลกใบนี้อาจจะมีแค่ตัวเองคนเดียวบนโลก ที่ถูกทอดทิ้งและวางแผนร้ายจากคนใกล้ชิดตัวเอง
แต่จนเขาพบกับนารา ถึงได้รู้ว่าที่แท้แล้วโลกใบนี้ ยังมีคนที่น่าสงสารมากกว่าตัวเอง
ไม่แปลกที่ตั้งแต่นารามาอยู่ข้างกายเขา ไม่ว่าเขาจะรังแกเหยียดหยามเธอยังไง เธอก็ดูแลเขาอยู่ตลอดไม่ห่าง
นารารู้ถึงความเจ็บปวดของคนที่ถูกทอดทิ้ง ดังนั้นถึงได้ทำเรื่องแบบนี้ไม่ลงสินะ
“คุณพูดอะไร?” นาราที่ยังเสียใจอยู่ในตอนแรก คิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าคณพศพูดคำพวกนี้ออกมา
ตะลึงงันทันที ดวงตาคู่สีแดง มองที่คณพศอยู่อย่างนั้น แทบจะไม่กล้าเชื่อหูของตัวเอง
สองสามวันก่อน คณพศสารภาพกับเธอ บอกว่าชอบเธอ เธอรู้สึกว่าไม่อยากจะเชื่อ
ผลจากไม่กี่วันผ่านมานี้ คณพศก็บอกรักเธออีก นาราที่ฟังเขาพูดคำพวกนี้ออกมา ก็รู้สึกเพียงแค่ว่าลืมความเจ็บปวดที่เธอมีนั้นไปทันที
หัวใจเต้นแรง เขาบอกว่าเขาจะรักเธอ ตอนที่ทุกคนทอดทิ้งเธอไปนั้น เขาก็จะยังรักเธอ นี่คือสิ่งที่เขาพูด
คณพศเองก็พูดชัดเจนขนาดนี้แล้ว เห็นเด็กผู้หญิงท่าทางเบลอๆ
ทำให้คณพศอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ จับหัวเธอเข้ามาใกล้อย่างอ่อนโยน จูบเบาๆลงไปที่ปากสีชมพูของเธอ
“เด็กโง่จริง ฉันบอกว่าฉันรักเธอ ฉันบอกว่าเราสองคนแต่งงานกัน หลังจากนั้นก็จะอยู่ด้วยกันตลอดไป จะไม่มีวันทอดทิ้งเธอ ไม่มีวัน ”
ท่าทางของคณพศนั้นจริงจัง นารามองตาจของเขาอ่างจริงจัง สวยมากจริงๆ เหมือนดวงดาวเต็มท้องฟ้าในยามค่ำคืน……
เธอเห็นว่าที่จริงแล้ว เธอมองไม่เห็นสายตาที่หลบซ่อนและโกหกในดวงตาของเขา เป็นความจริง เขารักเธอ!
ดังนั้นน้ำตาของเธอจึงเอ่อล้นมาที่เบ้าตาอีกครั้ง
เธอกำเสื้อเขาแน่น“ขอบคุณนะคะ คณพศ ขอบคุณความรักของคุณ และก็ขอบคุณที่คุณให้บ้านฉัน ต่อให้คุณทิ้งฉัน ฉันก็จะไม่โทษคุณค่ะ!”
ทั้งชีวิตนี้ไม่เคยมีใครบอกกกับเธอว่าชาตินี้จะไม่มีวันทอดทิ้งเธอ
สถานะของเธอต่ำต้อย ไม่มีใครเห็นเธอในสายตา ดังนั้นคำพูดของคณพศ จึงยิงเข้าทะลุความรู้สึกที่ตัวเองถูกพ่อทอดทิ้งเข้ากลางใจของนาราทันที ทำให้เธอไร้หนทางตอบโต้กลับ
“นารา ฉันพูดจริงจังนะ ”เห็นนาราร้องไห้อีกแล้ว คณพศเจ็บปวดใจ จึงยื่นมือออกมาช่วยเธอเช็กน้ำตา พร้อมกับพูดประโยคนี้กับเธออย่างอ่อนโยน
“รอฉันจัดการเรื่องนี้เสร็จสับ ไม่เพียงแค่ฉันจะจัดฮานิมูนให้เธอ ติดหนี้แต่งงานเธอ ทุกอย่างที่ขอเธอแต่งงานฉันจะจัดให้เธอ นารา ฉันจะทำให้เธอมีความสุข เชื่อฉันนะ ”
แน่นอนว่าเขาเป็นห่วงนารา ไม่ว่าจะเป็นตายร้ายดียังไงเธอก็ไม่มีวันทิ้งเขา ผู้หญิงแบบนี้ เขาไม่มีวันหาเจออีก เธอจะเป็นหนึ่งเดียวของชีวิตเขา
คณพศกดเสียงต่ำ ให้สัญญาหนักแน่นคำต่อคำ ทำให้นาราร้องไห้น้ำมูกน้ำตาไหลด้วยความซึ้งใจ
เวลานี้ เธอขอบคุณพระเจ้า ที่ทำให้เธอเจอเขา เธอถึงขนาดขอบคุณพิมมี่ที่ให้เธอแต่งงานแทน