บทที่115 มีความสุขเพราะคิดถึงคนน่ารัก
ถ้าไม่ใช่เพราะเธอต้องทำเรื่องที่สำคัญกว่า พิมมี่จะไม่ลังเลเลย ที่จะกระโจนใส่ไอ้เลวหน้าด้านนี่
ด่าอยู่ในใจวิษณุส์ นายนี่มันไร้ยางอายจริง ตัวเองไร้ความสามารถ ยังจะมีหน้าให้พิมมี่เธอไปเล่นกับเขาอีก ของไร้ค่าแบบนี้ พิมมี่ตาฝาดอยู่กับเขาไปในตอนแรกเอง!”
ถึงพิมมี่จะด่าอยู่ในใจไปนานแล้ว แต่บนใบหน้าเธอกลับยังคงที่ทางน้อยใจดังเดิม สองแขนข้างลำตัว กำกำปั้นแน่น ข่มความโกรธของตัวเองไว้
หลังจากนั้นน้ำตาก็ร่วงลง พูดพร้อมกับร้องไห้“วิษณุส์ จนถึงตอนนี้แล้วคุณยังไม่เชื่อฉันอีกเหรอ?คุณเคยพูด ว่าคนที่คุณรักที่สุดคือฉันไม่ใช่เหรอ?ที่จริงที่ฉันเข้าใกล้คณพศก็เพราะแค่อยากจะช่วย……”
“ช่วยฉัน?”จนถึงตอนนี้แล้ว พิมมี่ผู้หญิงคนนี้ยังคงเล่นละครต่อหน้าเขา
วิษณุส์เกิดความรำคาญอย่างมาก เขาขมวดคิ้วแล้วตัดบทเธอทันที
“เธอเลิกเล่นละครต่อหน้าฉันเถอะ เธอมันเป็นของอะไร ครั้งนี้วิษณุส์ดูออกหมดแล้ว!”
“เธอชอบไอ้พการคณพศนั่นใช่ไหม?เขาต้องการเธอไหม?ฉันจะบอกเธอให้นะ มึงสวมเขาให้กูไม่ได้ แต่กูก็ไม่ต้องการผู้หญิงกากีแบบมึงเหมือนกัน!”เขาตาแดงฉาน ยังไงเขาก็เชื่อผู้หญิงคนนี้ไม่ได้อีกแล้ว
วิษณุส์รู้ว่าต้องมีสักวัน พิมมี่จะต้องมาตามเรียกชื่อเขา
เพียงเขาคิดไม่ถึง ว่าวันนี้จะมาถึงไวขนาดนี้
ดูแล้วไอ้พิการคณพศนั่น แรงดึงดูดที่มีต่อพิมมี่ผู้หญิงคนนี้ ก็ไม่ได้มากมาย
นี่เพิ่งจะเดือนเดียว ผู้หญิงคนนี้ก็วิ่งกลับมาหาเขาแล้ว
คำพูดของวิษณุส์ยิ่งพูดยิ่งรุนแรง พิมมี่ถูกเขาทำให้โกรธอย่างไว
ดังนั้นเธอจึงไม่พูดอะไรทั้งนั้น ยืนอยู่ต่อตรงหน้าวิษณุส์
เปิดกระเป๋าตัวเอง หยิบมีดปอกผลไม้ออกมา
“เธอคิดจะทำอะไร?”คิดไม่ถึงว่าพิมมี่จะอยู่ๆควักมีดปอกผลไม้ออกมา
ยังนั่งอยู่บนโซฟาเมื่อครู่ วิษณุส์ที่กำลังด่าอยู่ก็เครียดทันที เขาไม่ได้กลัวว่าเธอจะฆ่าเขา แต่เขาไม่อยากให้ผู้หญิงคนนี้ตายที่อยู่คอนโดของเขา!
พิมมี่เห็นว่าวิษณุส์ตรึงเครียด ในใจก็ยิ้มเย็นชาขึ้น
แต่บนใบหน้ากลับทำท่าทางน่าสงสาร“ฉันรู้ว่าฉันพูดอะไร คุณก็ไม่มีทางเชื่อฉันหรอก ”
“แต่ฉันถูกบังคับจริงๆ ผู้หญิงเปราะบางอย่างฉัน ฉันจะทำอะไรได้?”
“ฉันอยู่กับคุณมาหลายปี ฉันจะไปชอบคณพศได้ยังไงกัน?”
“ฉันรู้ว่าฉันถูกบังให้ไปเอาใจคณพศ คุณจะต้องเกลียดฉัน แต่จนถึงวันนั้น ที่คุณอยู่ที่ตระกูลปัญญาพนต์……บ้าคลั่งแบบนั้น ”
“เป็นเพราะคุณอิจฉาใช่ไหม?วิษณุส์ ตอนนั้นฉันถึงได้รู้ว่าในใจของคุณนั้นยังมีฉันอยู่ ถ้าไม่อย่างนั้นคุณก็ไม่หึงหรอก คุณจะไม่โกรธเลย……”
“เสียดายที่ตอนนี้คุณไม่เชื่อฉันแล้ว ไม่เชื่อแล้วกับความรู้สึกที่ฉันมีต่อคุณ แต่ก็ไม่เป็นไรยังไงคุณก็ไม่สนใจความรู้สึกที่ฉันได้รับอยู่หรอก ”
“งั้นฉันก็จะหายไปจากโลกใบนี้ แบบนี้ถึงจะทำให้ทุกคนสมหวัง!”
พูดจบ พิมมี่ก็ทำท่าทางกระตุ้น หยิบมีดจ่อเข้าที่คอของตัวเอง เหลือบมองแล้วทำท่าทางเชือดคอ
เธอคิดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว วิษณุส์ไม่ใช่คนโง่ ไม่มีทางเชื่อเธอง่ายๆ
ถ้าเธอไม่งัดไม้ตาย ก็ไม่มีทางที่วิษณุส์จะหลงเชื่อ
“เธอบ้าไปแล้วหรือไง?”วิษณุส์ที่ตอนแรกเข้าใจว่าเธอประชดชันเขา คาดไม่ถึงว่าพิมมี่จะหยิบมีดออกมาฆ่าตัวตาย
เขาลากพิมมี่ออกทันทีที่ได้สติ จากนั้นมีดของพิมมี่ก็ร่วงลงแล้วเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของวิษณุส์
พิมมี่ที่รู้อยู่แล้วว่าวิษณุส์ไม่มีทางให้เธอตายลงต่อหน้าเขา
หลังถึงมือเธอก็แอบยิ้ม หลังจากนั้นก็ร้องไห้อย่างน่าสงสาร“;วิษณุส์ คุณห้ามฉันทำไม คุณปล่อยให้ฉันตายก็จบ ”
“ฉันถูกคนรังเกียจ ถูกคนบีบบังคับ ฉันอยู่ไปจะมีความหมายอะไร?คณพศรังเกียจฉัน แถมยังต้องการให้ฉันหย่า เขาแค่ต้องการใช้ฉันขายหน้าคุณ วิษณุส์คุณยังไม่เข้าใจอีกเหรอ?”
ยิ่งพูด พิมมี่ก็ยิ่งร้องไห้จนแทบขาดใจ
วิษณุส์ที่ยังอยู่ตรงหน้า จับเสื้อที่เธอสวมอยู่ดึงลง เผยส่วนอกที่ได้รับบาดเจ็บอกมาให้เห็น
รอยจ้ำสีแดง ประทับอยู่บนหน้าอกเธอ
“เขาเกือบเอาชีวิตฉันไปแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะฉันดวงแข็ง ฉันคงตายไปนานแล้ว ”
“ผู้ชายที่น่ากลัวราวกับปีศาจแบบนี้ ฉันจะยอมอยู่กับเขาได้ยังไง?แต่ในเมื่อขนาดคุณเองก็ยังไม่เชื่อฉัน ฉัน……”
สำหรับคำพูดของพิมมี่ในตอนแรกแล้ว วิษณุส์ไม่เชื่อแม้แต่นิด
แต่เมื่อเห็นทางของพิมมี่ที่ถือมีดอยู่ เมื่อรวมถึงเห็นรอยบาดเจ็บบนอก
วิษณุส์ถึงต้องจำใจสั่นคลอน ความคิดเชื่อมั่นของตัวเองเมื่อครู่
เขามองไปที่พิมมี่ที่อยู่ตรงหน้าเขาอีกครั้ง ท่าทางร้องไห้เสียใจ ในใจเริ่มมีความรู้สึกสงสาร สุดท้ายวิษณุส์ก็ใจอ่อน
กัดฟันพูด“คณพศพิการคนนี้ เขาทำเธอบาดเจ็บ ฉันเจ็บกว่าสิบเท่า แค้นนี้ต้องช่วยเธอชำระ!”
ไม่รู้ว่าวิษณุมั่นใจมากไป หรือว่าพิมมี่ที่แสดงออกมาได้อย่างดี
สองคนที่หักหน้ากันในตอนแรก ถึงได้ ถึงได้คืนดีกันอย่างแปลกประหลาดขนาดนั้น
ส่วนคณพศเมื่อพูดคุยกันผ่านวิดิโอ เมื่อเห็นฉากนี้ ก็รู้สึกประหลาดเหนือความคาดหมาย
ยชญ์พูดด้วยความตกใจ“พระเจ้า คณพศ คิดไม่ถึงเลยว่าจะตามอย่างที่นายพูดจริงๆ วิษณุส์กับพิมมี่อยู่ด้วยกันอีกแล้วจริงๆ!คนที่พวกเราส่งไปถ่ายได้ แถมเนื้อเรื่องยังแรงอีกด้วย ”
แต่สำหรับความตื่นตระหนกของยชญ์ เด่นภูมิเหลือกตามองบนแสดงให้เห็นถึงว่าดูถูก“พวกเขามันตะเภาเดียวกัน อยู่ด้วยกันก็ไม่แปลก ”
ตรัญที่เหมือนว่ากำลังอยู่ในความโกรธอยู่ ไม่มีคำพูดออกมาแม้แต่ประโยค เพียงแค่ฟังพวกเขาสามคนคุยกันอยู่เงียบๆ
กลับกันสำหรับเรื่องนี้ คณพศที่คาดเอาไว้ร่วงหน้าอยู่แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ก็ไม่ได้สนใจนัก
เพียงแค่มองพวกเขานิ่งๆ แล้วพูด“ไม่ต้องแปลกใจกับเรื่องพวกนี้หรอก พวกนายทำส่วนภารกิจให้เสร็จ ไม่นานก็จะมีละครสนุกๆให้ดู ”
พูดจบ คณพศก็ตัดสายวิดีโอ
วันนี้เขาไม่รีบ รอดูพิมมี่ผู้หญิงคนนั้น เรื่องสำคัญมาถึงแล้ว
“คุณยิ้มอะไรอยู่ มีเรื่องดีอะไรเหรอคะ?” นาราที่ถือถ้วยซุปโสมจากห้องครังมาให้คณพศ เห็นว่าคณพศนั่งอยู่ตรงนั้น ท่าทางยิ้มมีความสุข จึงถามเสียงนุ่มละมุน
เพราะคราวที่แล้ว ผ่านเหตุการณ์รุนแรงครั้งนั้นที่คฤหาสถ์
ความรู้สึกระหว่างเธอกับคณพศ จึงเหมือนกับผ่านเมฆสีดำไป
คิดถึงพิมมี่ที่ยังไม่ได้หย่า นาราเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าที่ตัวเองอยู่กับเขาแบบนี้นั้นถูกต้องหรือเปล่า
แต่เธอรู้เพียงแค่ว่าการอยู่กับคณพศ มันมีความสุขมาก เธอโตมาขนาดนี้ ไม่เคยสบายใจแบบนี้มาก่อน
เห็นนาราเดินมาถึงตรงหน้า คณพศ ก็จับนาราลากมานั่งลงบนขาทันที
หลังจากนั้นก็ยิ้มแล้วพูด“เพราะคิดถึงน่ารัก เลยมีความสุข ”
“คนน่ารัก?ใครกันคะ?”คณพศชินแล้วกับการกอดเธอ นาราเองก็ชินกับการที่ถูกคณพศกอดเอาไว้