บทที่ 181: ลากออกไปให้พวกแกเลย
บอดี้การ์ดฉกรรจ์ในชุดดำออกมายืนกันเป็นแถวตามคำสั่ง ยกตัวพิมมี่ขึ้นทั้งซ้ายทั้งขวา ทำให้พิมมี่กรีดร้องออกมาทันที “คณพศ นี่แกจะทำอะไร จะพาฉันไปที่ไหน?”
คณพศไม่ได้พูดอะไร เขาขี้เกียจแม้แต่จะเหลียวมองพิมมี่
แต่ตรัญกลับมองผู้หญิงที่หวาดระแวงจนหน้าขาวซีดด้วยสายตาเหยียดหยาม “ทำอะไรงั้นหรือ ในใจแกเองน่าจะรู้ดีกว่าใครๆ แกฆ่านาราและลูก ครั้งนี้แกมาถึงทางตันแล้วหละ แกเลวเกินไปจนหน้าไม่อายแล้วสินะ”
พิมมี่กลัวจนตัวสั่น ปล่อยโฮขึ้นมาอย่างไม่ยอมแพ้ “ฉันไม่ได้ฆ่านารา คณพศ แกจะมากักตัวฉันไม่ได้นะ”
“เปี๊ยะ!”
มือถือของนาราถูกโยนไปตรงใต้เท้าพิมมี่ ในนั้นกำลังฉายคลิปกิจกรรมดุเดือดระหว่างพิมมี่กับผู้ชายที่โดนเปลี่ยนหน้าเป็นคณพศ
พิมมี่กลัวจนกลืนน้ำลายลงคอไปหลายที รู้ตัวว่าคณพศรู้เรื่องเรื่องที่ตัวเองปลอมแปลงคลิปแล้ว
อีนารา…ได้ข่าวว่ากระโดดทะเลตายไปแล้ว แต่ยังไม่ยอมอยู่นิ่ง ไม่น่าถึงได้ตายศพไม่สวย
“ฉันจะให้แกตายอย่างเข้าใจแจ่มแจ้งนะพิมมี่ ฉันเคยบอกแล้วว่าอย่ามายุ่งกับนารา แต่แกก็ยังทำ ฉันจะให้แกไปตายเป็นเพื่อนนารา!” คณพศโบกมือ
“พาตัวไป!”
พิมมี่ด่าทออยู่ในใจไม่หยุด สีหน้าขาวซีดจนเหมือนกระดาษ เธอโห่ร้องขึ้นมา “คณพศ เรื่องนี้ฉันไม่ได้ทำจริงๆ ! แกฟังฉันนะ ฉัน…โดนอาชัญบังคับต่างหากหละ!”
“แกยังกล้าเถียงอีกหรอ! แกตั้งใจทำเรื่องชั้นต่ำแบบนี้ ก็เพื่อจะทำให้นาราโมโห นี่ยังไม่ยอมรับอีก! พิมมี่ แกนี่เลวสุดๆ ไปเลยนะ” ตรัญเบ้ปากอย่างไม่แยแส ไม่คิดว่าทั้งที่ตอนนี้หลักฐานครบแล้ว แต่ผู้หญิงตรงหน้ายังกล้าโกหกอยู่อีก
พิมมี่กล้ายอมรับที่ไหน เธอรู้ว่าคณพศมีนิสัยโหดเหี้ยมแค่ไหน ถ้าเขารู้ว่าตัวเองทำเรื่องต่ำๆ ทำให้ความบริสุทธิ์เขาต้องแปดเปื้อน ทำเอานาราจนลูกต้องตาย เขาคงไม่ปล่อยเธอไปแน่ๆ
เรื่องมาถึงตอนนี้แล้ว เขาคงต้องโยนเรื่องทั้งหมดให้อาชัญแล้วหละ คนไม่รักตัวเอง ฟ้าดินประหัตประหาร
พิมมี่ยิ่งคิดแบบนี้ในใจ เสียงโห่ร้องยิ่งดังขึ้นกว่าเดิม “คณพศ แกต้องเชื่อฉันนะ เรื่องนี้ฉันไม่ได้เป็นคนทำจริงๆ ฉันโดนอาชัญบังคับ ถ้าเขาไม่ได้ข่มขู่ฉันละก็ ต่อให้ตีฉันจนตายฉันก็คงไม่ส่งคลิปแบบนี้ให้น้องสาวตัวเองหรอกนะ”
คณพศไม่อยากได้ยินคำพูดของผู้หญิงคนนี้แม้แต่คำเดียว เขาโบกมือเรียกบอดี้การ์ดที่อยู่กับที่ “ลากออกไป!”
“คณพศ แกทำอย่างงี้กับฉันไม่ได้!” พิมมี่กลัวจนคำพูดลนลานไปหมด เธอรู้ว่าถ้าตัวเองโดนลากออกไป คงจะไม่มีเรื่องดีๆ แน่นอน
ประสาทสัมผัสการดมที่ว่องไวของเธอ เหมือนจะได้กลิ่นคาวเลือดที่ลอยคละคลุ้งอยู่กลางอากาศแล้ว
ได้ข่าวว่าเหมือนคณพศจะเลี้ยงหมาป่าไว้ตัวหนึ่ง
หรือว่าที่ชั้นใต้ดินนั้นจะเป็นหมาป่าที่คณพศเลี้ยงไว้!
เธอโหวกเหวกโวยวาย “คณพศ ฉันเป็นพี่สาวนารานะ แกทำอย่างงี้กับฉัน แกยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า?”
พิมมี่กำจุดอ่อนของคณพศไว้เต็มหมัด ไม่เชื่อว่าคณพศจะไม่ลังเลใดๆ เมื่อได้ยินชื่อของอีนารา
เสียดายที่พิมมี่ประเดิมผิดไปแล้ว…
คณพศมองพิมมี่ด้วยสายตาเย็นยะเยือก “แกไม่สมควรที่จะเป็นพี่สาวของนารา ฉันคิดว่าเธอคงจะดูฉันลงโทษแกอยู่บนฟ้าแล้วจะรู้สึกสบายใจมากขึ้น!”
พูดจบสายตาจ่อไปทางท้องฟ้านอกหน้าต่าง นัยน์ตาเรียบนิ่งราวกับมหาสมทุร
สีหน้าพิมมี่ซีดขาวทันที กลัวจนเสียงสั่นคลอน เธอรู้ดีว่าคณพศพูดจริงทำจริงเสมอ
“คุณคณพศ ได้โปรด! เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฉันจริงๆ ฉันโดนอาชัญบังคับ เออใช่ มีณัจยาอีกด้วย พวกเขาทั้งสองสุมหัวร่วมคิดแล้วบังคับให้ฉันทำ ฉันเป็นผู้รับเคราะห์เหมือนกันนะ! ขอร้องอย่าฆ่าฉันเลย ปล่อยฉันไปเถอะนะ”
เสียงอ้อนวอนของพิมมี่ดังก้องทั่วคฤหาสน์ไปหมด แหลมคมและแสบหู คณพศทำเสียงอย่าไม่แยแส “ทุกคนที่อยากทำร้ายนาราล้วนต้องชดใช้ทั้งสิ้น แกไม่ต้องห่วงหรอกนะ พวกมันไม่มีใครรอดได้ส่วนแก ฉันคงไม่ฆ่าแกหรอก” เขาเผยรอยยิ้มยะเยือกที่มุมปาก “ฉันจะให้แกสัมผัสความทรมานอย่างช้าๆ”
“ถ้าไม่ฆ่าฉันก็ปล่อยฉันไปเถอะ คณพศ ได้โปรดเถอะนะ!” พิมมี่อ้อนวอนก่อนที่จะเผชิญกับเรื่องโหดร้าย
และแล้ว สิ่งที่คณพศพูดทำให้เธอตกดิ่งลงเหวอย่างสำเร็จ
“ฉันจะปล่อยแกไปได้ไง? แกคงจะได้เปรียบเกินไป ถ้าแกหน้าไม่อายแบบนี้ กล้าเปิดเผยคลิปพวกนี้ให้คนอื่นดู งั้นฉันจะมอบแกให้กับลูกน้องของฉัน แล้วพาแกไปคาสิโนใต้ดินแม็กซิโก ที่นั่นมีคนเล่นขั้นสูงกว่าแกอีกเยอะ”
คำพูดของคณพศแฝงไปด้วยความกระหายเลือดอย่างโหดเหี้ยม ทำให้พิมมี่สั่นคลอนไปทั้งตัว ส่ายหัวสุดแรง “ไม่ แกทำแบบนี้ได้ยังไง นี่เป็นเรื่องผิดกฎหมาย! ฉันไม่เอา! คณพศ แกอย่าทำแบบนี้กับฉันเลยนะ ขอร้อง!”
“ตอนที่คิดจะทำเรื่องเลวๆ ก็น่าจะเตรียมพร้อมในการยอมรับกับผลที่จะเกิดขึ้นแล้วสิ” คณพศเหลือบมองพิมมี่ครั้งสุดท้าย สั่งตรัญด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ลากเธอออกไปแล้วทำตามที่ฉันบอก”
ตรัญได้ยินแล้วส่งสัญญาณมือให้พวกบอดี้การ์ดในชุดดำให้พวกเขาลากพิมมี่ออกไป
พิมมี่ยอมไปซะที่ไหน อย่างน้อยเธอก็เป็นลูกคุณหนูที่คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด ถ้าโดนพวกชายชุดดำหน้าตาโหดเหี้ยมปู้ยี่ปู้ยำหละก็ฆ่าเธอทิ้งเสียยังสะใจกว่า
“คณพศ แกไม่ใช่คน แกเป็นสัตว์เดรัจฉาน! ฉันจะสาปแช่งแก ขอแช่งให้แกไม่มีวันได้อยู่กับนารา อีนั่นตกทะเลตายไปนานแล้ว! ฮ่าๆๆๆ พวกแกไม่มีทางได้อยู่ด้วยกันแน่นอน!”
คำพูดของเธอทำให้คณพศโมโหได้สำเร็จ คณพศที่สีหน้าเข้มขรึมบอกให้บอดี้การ์ดเสื้อดำหยุดก่อน แล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงเย็นชา “อุดปากหล่อนไว้แล้วให้พวกเอาไปเลย! อย่าลืมถ่ายคลิปส่งไปให้อาชัญหละ”
“ครับ คุณคณพศ!” ชายชุดกำหัวเราะดังลั่น รีบปลดเนคไทออกแล้วยัดเข้าปากพิมมี่แล้วพาเธอไปทั้งหมด 4 คน
พิมมี่เบิกตาไร้วิญญาณกว้างแล้วโดนบอดี้การ์ดลากลงไปชั้นใต้ดิน
พิมมี่ไม่อยากได้รับความอัปยศอดสูเช่นนี้ คิดว่าถ้าจะใช้ชีวิตต่อไปแบบนี้ ตายๆ ไปเลยคงจะดีกว่า
ชายชุดดำปลดเสื้อผ้าเธอออกในพริบตา….เสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้นจากชั้นใต้ดินคฤหาสน์อย่างไม่หยุดหย่อน
พิมมี่มองดูผู้ชายร่างกายกำยำทั้ง 4 คน เธอหลับตาลงด้วยความสิ้นหวัง
จริงๆ แล้วความตายไม่ได้เป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด การมีชีวิตอยู่ต่างหาก เป็นการทรมานอย่างแท้จริง
ภายในคฤหาสน์ หลังจากพิมมี่โดนลากออกไปแล้ว คณพศเพิ่งจะหันไปมองตรัญ “รีบดำเนินการเข้าซื้อกิจการบริษัทSX เดี๋ยวนี้”
ตรัญมองไปทางคณพศด้วยความสงสัย “บริษัทSX? คุณมั่นใจเหรอ”
“มั่นใจสิ คนที่สุมรู้ร่วมคิดวางแผนฆ่านารา ไม่มีใครรอดไปได้แน่!”
คณพศแลดูน่ากัลวราวกับยมทูตในชั้นนรก “เข้าซื้อหุ้นบริษัทSXโดยเร็ว ถึงเวลาต้องเคลียร์กับพวกเขาแล้วหละ”
“ครับ” ตรัญได้ยินคำสั่งแล้วรีบไปจัดการ ทุกอย่างที่คณพศเอ่ยปาก เขาจะไปทำทุกเรื่องด้วยภาวะกำลังที่ตัวเองมี อีกอย่าง แค่จัดการบริษัทSX เล็กๆ ถือเป็นเรื่องจิ๊บๆ มาก
การทำงานของตรัญเด็ดขาดรวดเร็วมาโดยตลอด ไม่เกินสองวัน หุ้นของบริษัทSX ส่วนใหญ่อยู่ในกำมือของคณพศแล้ว