บทที่ 189: 5 ปีต่อมา
กระแสคณพศถาโถมไปทุกทิศ รวมถึงนิตยสารที่มีรูปเขาถูกขายจนหมดเกลี้ยง
ในขณะที่ชีวิตของทุกคนเริ่มจะสงบมาสักพัก ข่าวที่ช็อคโลกถูกปล่อยออกมาจากข่าวของผู้รู้วงในอีกแล้ว
ได้ข่าวว่า ลูกชายของประธานคณพศที่คลอดก่อนกำหนดไม่ได้เสียชีวิต…
ได้ข่าวว่าโดนเถ้าแก่ของบริษัทตระกูลปัญญาพนต์แอบซ่อนเอาไว้ต่างหาก…
ได้ข่าวว่าเพราะลูกชาย คณพศถึงเดินออกมาจากความเจ็บปวดที่เสียภรรยาไป นำความเจ็บปวดกลายเป็นพลัง ลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง รับตำแหน่งประธานไว้ มุ่งมั่นว่าจะนำพาบริษัทตระกูลปัญญาพนต์ก้าวสู่ระดับใหม่
แน่นอนว่าพวกนี้ล้วนเป็นข่าวลือที่ส่งต่อกันปากต่อปาก ไม่สามารถรับประกันความจริงแท้ของมันเลย
แต่เมื่อการประชุมหุ้นส่วนใหม่ของบริษัทตระกูลปัญญาพนต์แล้ว สิ่งที่ประกาศให้โลกรู้เป็นข่าวที่สะเทือนไปทั้งเมือง: ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ถอนอำนาจในการบริหารบริษัทตระกูลปัญญาพนต์ของอาชัญ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมอบให้ประธานคณพศในการพิจารณาทั้งสิ้น
คนที่ได้ข่าวนี้ก่อน แน่นอนว่าเป็นสื่อมวลชนต่างๆ ที่ได้รับข่าวสารอย่างว่องไว พวกเขารีบมาเฝ้ารออยู่ที่หน้าประตูบริษัทตระกูลปัญญาพนต์ ต่างอยากได้ข่าวมือหนึ่งกันหมด
เวลาผ่านพ้นไปภายใต้การรอคอยของพวกสื่อมวลชน ในที่สุด รถของคณพศค่อยๆ จอดนิ่งเสกข์เปิดประตูรถออก คณพศในชุดสูทสีดำ ขาวเรียวยาวนั้นก้าวเดินเข้าไปในอาคารบริษัทตระกูลปัญญาพนต์
สายตาเขามุ่งมั่นราวกับเปลวไฟ แต่กลับมองไปด้านหน้าด้วยความเย็นชา ราวกับไม่เห็นนักข่าวข้างๆ เลย ทำให้นักข่าวเหล่านั้นไม่กล้าแม้แต่จะก้าวขึ้นมา
แต่สื่อมวลชนที่หวังแย่งชิงข้อมูลข่าวสารในจังหวะแรกไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ถาโถมเข้าไปทันที กลัวว่าจะพลาดโอกาสนั้นไป เลนส์เล็กใหญ่สั้นยาวล้อมรอบคณพศจนเต็มพื้นที่ไปหมด
ในจังหวะนี้พวกเขาไม่กลัวหัวจะหลุดแล้ว
“ประธานคณพศ ได้ข่าวว่าครั้งนี้คุณกลับมาเอาตำแหน่ง CEO บริษัทตระกูลปัญญาพนต์คืนใช่มั้ยคะ”
“ประธานคณพศครับ ไม่ทราบว่าคุณมีความเห็นอย่างไรกับการที่ตัวเองพ้นตำแหน่งก่อนหน้านั้นแล้วกลับมามีอำนาจอีกครั้งครับ?”
“ได้ข่าวว่าภรรยาและลูกชายประธานยังมีชีวิตอยู่ ให้พวกเราดูหน้าตัวเล็กหน่อยได้ไหมคะ?”
“ประธานคณพศคะ ขอให้คุณพูดคร่าวๆ เกี่ยวกับทางเดินในอนาคตของบริษัทตระกูลปัญญาพนต์หน่อยค่ะ จะเดินต่อไปอย่างไร มีนโยบายอะไรบ้างคะ”
คณพศหันหลังมาด้วยความเย่อหยิ่ง เมินอุปกรณ์ขนาดต่างๆ ที่พวกนักข่าวยื่นเข้ามา เปิดริมฝีปากบางเฉียบแล้วพูดขึ้นอย่างเย็นชา “ประธานบริษัทตระกูลปัญญาพนต์ไม่เคยมีการเปลี่ยนเปลง เป็นผมมาโดยตลอด อีกอย่างถ้ามีใครเอาข่าวมั่วที่ไหนมาเผยแพร่ ต้องเตรียมตัวยอมรับผลที่จะเกิดขึ้นให้ได้นะครับ”
พูดจบ คณพศก้าวขาเดินเข้าไปในบริษัทตระกูลปัญญาพนต์
มองดูแผ่นหลังเย็นยะเยือกและยโสของเขา แทนที่จะโหวกเหวกโวยวาย สื่อมวลชนในพื้นที่กลับมองหน้ากันเฉยๆ รีบเก็บของแล้วออกไปจากบริษัทตระกูลปัญญาพนต์ทันที
ตระกูลปัญญาพนต์มีอำนาจเหนือฟ้าในเมืองธิตกล ถ้าจะฆ่าใครสักคนถือว่าง่ายแสนง่าย ไม่มีใครอยากจะเอาตัวเองไปขวางอยู่หน้ากระบอกปืนหรอก
เดิมที่กระแสที่กระตุ้นต่อมเผือกของทุกคน กลับนิ่งสงบไปโดยเร็ว
ไม่มีสื่อมวลชนที่ไหนจงใจชักจูง คนในเมืองธิตกลต่างค่อยๆ ลืมเลือนข่าวซุบซิบคนใหญ่คนโตพวกนี้ไป ยังคงวิ่งหาเช้ากินค่ำอยู่ทุกวันเหมือนเดิม
แต่ที่ปล่อยวางไม่ได้เลย คือคนที่เคยเป็นประธานชั่วคราวแล้วโดนคณพศไล่ออกไปอย่างอาชัญ
ผู้หญิงของตัวเองหายไป อำนาจที่ตัวเองให้ความสำคัญที่สุดหายไปในพริบตา
ความเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ ไม่ให้อาชัญคับแค้นใจได้อย่างไร
เขาไม่คิดเลยว่า คณพศที่ไม่มีกระจิตกระใจนั้นอยู่ดีๆ จะปล่อยไพ่ใบสุดท้ายออกมา ค้นเรื่องที่เขาใช้เงินกองทุนสาธารณะบริษัทตระกูลปัญญาพนต์ออกมาจนได้ ใช้แรงไม่มากก็ไล่เขาออกไปได้
ภายในพริบตา จากประธานชั่วคราวที่แต่งองค์ทรงเครื่อง กลายเป็นคนทุกใครเห็นใครกลัว
อาชัญไม่ยอมแพ้ เขาขับรถไปคฤหาสน์ที่กษาปณ์อยู่ หวังว่าปู่จะช่วยตัวเองได้ในสุดท้าย
และแล้ว เมื่ออาชัญขับรถมาถึงที่ คนที่ต้อนรับเขากลับเป็นผู้จัดการส่วนตัวคนสนิทของปู่ “คุณอาชัญครับ เถ้าแก่สั่งไว้แล้วว่าถ้าคุณมาเมื่อไหร่ ต้องกันเอาไว้ครับ”
อาชัญโมโหมาก แต่เขารู้ว่านิสัยของปู่ดื้อรั้นยิ่งกว่าคณพศอีก เขาถึงจากไปด้วยความคับแค้นใจ
คณพศแกรอก่อน สักวันหนึ่ง ฉันจะแก้แค้นทุกอย่างที่แกเอาไปจากฉันหมื่นล้านเท่า!
อาชัญด่าทอในใจไม่หยุด เขาไม่มีวิธีรับมือกับสถานการณ์ของตัวเอง ณ ตอนนี้เลย
คณพศมีหลักฐานที่ตัวเองแอบใช้เงินกองกลาง เมื่อเขาทำอะไรสักอย่างก็จะโดนรวบตัวทันที
ได้! คณพศ เจอกันแน่!
กษาปณ์ยืนอยู่ริมหน้าต่างบานใหญ่ มองอาชัญขับรถจากไปอย่างเจ็บใจ
สำหรับหลานทั้งสองคนที่เขาเลี้ยงเองกับมือ อย่าหาว่าเขาลำเอียงเลย แต่อาชัญไม่เอาไหนจริงๆ ถ้ามอบให้บริษัทตระกูลปัญญาพนต์เขา ไม่นานก็จะล้มละลายไปอย่างสิ้นเชิง
หลายวันก่อนตอนที่คณพศเอาหลักฐานการโกงของอาชัญมา ในฐานะปู่ ทำได้แค่ให้คณพศเก็บเรื่องนี้เอาไว้ก่อน
เพราะยังไงก็เป็นหลานของตัวเอง ต่อให้เขาจะไม่เอาไหนยังไง ก็ฆ่าไม่เหลือซากไม่ได้อยู่ดี
สำหรับทางเดินต่อไปของอาชัญจะไปในทิศทางใด ก็คงต้องให้เวลาตัดสินแล้วหละ
หวังว่าหลังจากบทเรียนครั้งนี้ เขาจะรู้เรื่องมากขึ้น ถ้าไม่อย่างงั้น สร้างเรื่องอะไรขึ้นมาอีก ต่อให้เป็นเขาก็รับประกันปกป้องเขาไว้ไม่ได้แล้ว
กษาปณ์คิดมาถึงนี่ เดินออกไปจากหน้าต่างอย่างไร้เรี่ยวแรง ค่อยๆ นั่งลงบนเก้าอี้โยก
เขาแก่แล้ว ไม่มีความกระตือรือร้นฝ่าฟันอีกต่อไป ทุกวันนี้คิดแต่อยากเลี้ยงหลานให้สบายใจเป็นพอ
แต่คนใจดำอย่างคณพศ หลังจากเขาพาเด็กไปส่งแล้ว ก็ไม่ให้เขาได้เห็นหน้าเหลนอีกเลยจริงๆ
ได้ข่าวว่า คณพศตั้งชื่อลูกว่า มิรา เหอะๆ มิราเอ้ย
ถ้าผู้หญิงอย่างนาราไม่โดดน้ำตาย เผลอๆ เกมกระดานนี้จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
“เฮ้อ” กษาปณ์ถอนหายใจเบาๆ ซุกหน้าตัวเองที่เริ่มจะชราไว้ในเก้าอี้โยก จริงๆ แล้ว เขาอาจจะผิดไปแล้วก็ได้
*****
5 ปีถัดมา….
ณ แฮมป์ตันคอร์ทพาเลซ ลอนดอนสหราชอาณาจักร
พระราชวังแฮมป์ตันที่สร้างขึ้นจากอิฐแดงได้ชื่อว่าเป็น พระราชวังแวร์ซายของอังกฤษ เป็นตัวอย่างราชวังค์สมัยใหม่ของอังกฤษ
ความเป็นเอกลักษณ์ของเสน่ห์ประวัติศาสตร์พระราชวังและสไตล์ศิลปะจัดสวน ทำให้กลายเป็นจุดเที่ยวชมสถานการณ์ศิลปวัฒนธรรมที่ห้ามพลาด เป็นสวรรค์ของเหล่าศิลปิน
ณ เวลานี้ ศิลปินมือฉมังจากทั่วโลกมารวมตัวกันในที่เดียว กำลังใช้ความสามารถสุดแรงเพื่อคว้ามงของวงการออกแบบอยู่
หลังจากการแข่งขันอย่างดุเดือดแล้ว ในที่สุดเกมแข่งขันมาถึงช่วงเวลาที่เร้าใจที่สุด ผู้คว้ารางวัลกำลังจะเปิดเผย
สื่อมวลชนต่างเตรียมมือเตรียมใจไว้ตั้งนานแล้ว เขียนข่าวในใจร่างแล้วร่างอีก ต่างแย่งชิงกระจายข่าวผู้ได้รับรางวัลออกไปในจังหวะแรก
พิธีกรขึ้นเวลาอย่างสง่างาม ใช้สำเนียงลอนดอนเข้มข้นประกาศผลการแข่งขันออกมาอย่างเสียงดัง “สวัสดีคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายผู้มีเกียรติทุกท่าน ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณศิลปินทุกท่านที่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ ผมเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับหน้าที่ประกาศผู้ชนะ นั่นก็คือ ผู้ที่มาจากแดนตะวันออกแสนลึกลับและโบราณ – คุณนารา จากประเทศไทย”
