บทที่ 188: ตั้งชื่อว่ามิรา
ตอนแรกกษาปณ์คิดว่าตัวเองอุ้มเด็กมาให้ ก็จะสามารถกระตุ้นให้คณพศลุกขึ้นยืนได้ แต่ไม่คาดฝันเลยว่าสิ่งที่ได้กลับมาคือความคับแค้นที่เขามีต่อตัวเอง
เขาฟื้นความจำตัวเองได้แล้ว!
เขาอดน้ำตาไว้ไม่ได้ ยืนยังยืนไม่มั่นคง “ได้! คณพศ ลูกทำได้ดี! ปู่แก่แล้วทำอะไรผิดพลาดไป ต้องรับผิดชอบได้ แต่แกพาตัวเล็กมาให้ปู่ดูเป็นครั้งเป็นคราวบ้างได้ไหม ปู่ใจหายจริงๆ เลย”
“ขอโทษครับ ผมจะเลี้ยงลูกโตดีๆ ไม่มีใครมีสิทธิ์เยี่ยมเขาได้!” สีหน้าเย็นชาของคณพศทำให้กษาปณ์ก้มหน้าลงอย่างเศร้าสร้อย
พูดจบ สั่งลุงบีมที่ยืนอยู่ข้างๆ ตั้งแต่แรก “ลุงบีม ส่งคุณปู่ลงไปแล้ว หลังจากนี้เป็นต้นไป ห้ามใครก็ตามมาเยี่ยมคุณชายน้อย”
ถ้าเขาไม่ชอบนารา จะมาเยี่ยมเด็กอีกทำไม!
ลุงบีมไม่กล้าพูดอะไรมาก ประคองกษาปณ์เดินไปข้างล่าง “เถ้าแก่เราลงไปกันเถอะครับ”
กษาปณ์ใบหน้าที่มีแต่ริ้วรอยเต็มไปด้วยความเสียใจ นี่แหละหลานที่เขาบ่มเพาะมาอย่างดี เด็ดขาดเฉียบคม เลือดเย็นใจดำ!
แต่ถ้าเขาลุกขึ้นมาได้ นำพาบริษัทตระกูลปัญญาพนต์เดินหน้าต่อไป เขาไม่มาก็ได้!
“ดี! ดีมาก!” กษาปณ์พูดขึ้นและส่ายหัวเบาๆ มีลุงบีมประคองค่อยๆ เดินลงไปข้างล่าง
แผ่นหลังเขาเบาะบาง ฝีเท้าไม่มั่นคง ราวกับแก่ไปอีก 10 ปีภายในวันเดียว
คณพศเพิกเฉยกับการเดินจากไปของกษาปณ์ เขาก้มหน้าลงมองดูเจ้าตัวเล็กในอ้อมกอด รู้สึกว่าหัวใจทั้งดวงแทบจะละลายไปหมดแล้ว
ยอดรักของเขา ลูกชายของเขาและนารา!
เขามองเจ้าตัวเล็กแล้วยื่นมือไปสัมผัสหน้านุ่มนิ่มน้อยๆ ของเขา
เจ้าตัวเล็กมองไปทางเขาอย่างไม่กระพริบตา
หัวใจของเขาพองโตไปหมดแล้ว…
“ลุงบีม ป้าป้าย! รีบหาแม่นมกับพยาบาลเด็กทารก นอกจากนั้นไปซื้อทุกอย่างที่ตัวเล็กใช้มาให้หมด!”
ลุงบีมกับป้าอ้ายรีบตอบรับทันที เกาะฟ้าเฮขึ้นทั้งเกาะ คุณชายฟื้นความจำได้แล้ว และ ‘ฟื้น’ ขึ้นมาอีกครั้ง
แถมยังมีคุณชายน้อยอีกด้วย พระเจ้า เจ้าหนูน่ารักขนาดนี้เป็นลูกชายของคุณชายและคุณนารา!
คณพศอุ้มเด็กไว้ ไม่กล้าพริบตาแม้แต่ครั้งเดียว เขากลัวว่าทุกอย่างจะเป็นฝัน
เขากอดตัวเล็กไว้ร้อยไห้ด้วยความปติ นารา ลูกชายไม่ได้ตายนะ!
นี่เป็นสุดที่รักของพวกเรา คุณเห็นจากฟ้าไหม?
เขาเงยหน้าดูท้องฟ้า น้ำตาเอ่อนองขึ้นมา…
“เรียกหนูว่าอะไรดีนะ” คณพศเอียงหัวคิดไปคิดมา “ชื่อมิราแลเวกัน มิรา ปัญญาพนต์”
มิรานั่งอยู่ระหว่างขาคณพศอย่างไร้เดียงสา ไม่มีคำแนะนำใดๆ สำหรับชื่อใหม่ของตัวเอง
รู้แค่กัดแทะนิ้วอย่างแรง และมองไปทางคณพศ
เหมือนกำลังประท้วงอยู่ว่า: หนูหิวแล้ว!
คณพศเอื้อมมือจับหัวเล็กๆ ของมิรา มุมปากคณพศเสยขึ้น ความรู้สึกตื้นขึ้นถึงปลายจมูก
นี่เป็นเลือดเนื้อระหว่างเขาและภรรยา แต่ภรรยาเขาไม่สามารถเจอได้อีกต่อไป
น้ำตาหนดหนึ่งตกลงบนมือเล็กๆ ของมิรา เขาเหมือนสัมผัสอะไรบางอย่างเย็นๆ ตื่นเต้นอย่างมาก รีบเอาเข้าปาก จากนั้นขมวดคิ้วขึ้นมาด้วยสีหน้ารังเกียจ
คณพศพรางยิ้มขึ้นเพราะสีหน้าตลกของมิราน้อย สายตาที่มองไปยังลูกเต็มไปด้วยความหลงไหล “หนู นั่นเป็นน้ำตาของพ่อ กินไม่ได้นะลูก”
พูดไปด้วยเขาอุ้มมิราขึ้น ชี้ไปทางมหาสมุทรกว้างใหญ่นอกหน้าต่าง “เห็นไหมลูก นี่คือทะเล แม่หนูชอบดูคลื่นที่สุดเลย แม่บอกว่าในคลื่นพวกนั้นมีเรื่องราวซ่อนอยู่มากมาย เมื่อก่อนพ่อไม่เชื่อนะ แต่ตอนนี้พ่อเชื่อแล้ว”
มิราน้อยตั้งใจฟังอย่างไร้เดียงสา อ้อๆ แอ้ๆ บ้าง เงาของสองพ่อลูกลากยาวอยู่บนพื้น
ลุงบีมไปส่งกษาปณ์ แล้วจะแวะซื้อของให้เจ้าตัวเล็กด้วย ตลอดทางเขาออกตัวแทนคณพศ กลัวว่ากษาปณ์จะเสียใจ
แต่ไม่ได้พูดอะไรเลย คณพศเป็นหลานที่เขาเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก ต่อให้เขาจะทำตัวยังไงกับตัวเอง เขาก็โทษคณพศไม่ได้อยู่ดี
หลังส่งกษาปณ์เรียบร้อยแล้ว ลุงบีมไม่รอช้า รีบไปซื้อของทุกอย่างของเด็กน้อยแล้วรีบกลับคฤหาสน์ทันที
รอลุงบีมวางของที่ซื้อกลับมาเรียบแล้ว ตอนจะขึ้นไปด้านบน ป้าอ้ายยืนแอบปาดน้ำตาอยู่หน้าประตูห้องสมุดของคุณชายแล้ว
เห็นลุงบีมมา ป้าอ้ายรีบชูมือขึ้น “ซู่ว คุณชายเล่นกับคุณชายน้อยอยู่ พวกเราอย่าเพิ่งเข้าไปดีกว่า”
ลุงบีมเห็นตาป้าอ้ายแดงๆ จู่ๆ ตัวเองก็รู้สึกตื้นตันเหมือนกัน
หลังจากคุณชายฟื้นขึ้นมาจากการตกทะเลครั้งนั้น กลายเป็นเหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่างไปเลยทั้งคน
และวันนี้คุณชายน้อยหล่นลงมาจากฟ้า เขาได้เห็นความเป็นคนอีกครั้งในหน้าคุณชายสักที
“อื้มๆ” ลุงบีมพยักหน้า “พวกเราอย่างเพิ่งเข้าไปรบกวนสองพ่อลูก”
พูดจบ ลุงบีมแอบเบี่ยงหน้า รอจังหวะป้าอ้ายไม่เห็นแอบปาดน้ำตาออก
ภายในบ้าน คณพศอุ้มมิราน้อยมองไปยังทะเลนอกหน้าตา ตัวเล็กไม่งอแงเลยสักนิด มองไปนานมาก เนื่องจากไม่ได้กินอะไรเลย เบ้ปากมองคณพศแล้วถึงค่อยๆ หลับไป
คณพศรู้ว่าลุงบีมกับป้าอ้ายคอยอยู่นอกประตู แต่กลัวว่าจะปลุกมิราที่หลับอยู่ จึงพูดขึ้นเบาๆ “ป้าอ้าย ลุงบีม ทีหลังต้องดูแลมิราดีๆ นะครับ”
ป้าอ้ายกับลุงบีมที่อยู่ข้างนอกรีบเดินเข้ามาทันที ยั้งแรงในการเดิน ค่อยๆ มายืนตรงหน้าคณพศ
ป้าอ้ายเอื้อมมือไปรับเด็ก ตั้งมือรับไปสองครั้ง คณพศถึงจะเอาเจ้าตัวเล็กในอ้อมกอดให้เธอไป
แต่คณพศยังคงห่วงอยู่ “เบาๆ หน่อย อย่าทำเขาตื่นหละ”
ป้าอ้ายพยักหน้า “ไม่ต้องห่วงหรอกคุณชาย ป้าดูแลคุณชายจนโต ไม่มีปัญหาอะไรหรอก”
“อื้ม” คณพศพยักหน้า “ต้องดูแลให้ดีกว่าผมอีกนะ เพราะว่าเขาไม่มีแม่…”
คณพศรู้สึกหนักใจยังไม่รู้
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับคุณชาย” ลุงบีมรีบยื่นอกรับประกัน “ยังมีลุงอยู่!”
คณพศถึงจะหายห่วงไปหน่อย เห็นทั้งสองคนจะไป เขารีบเหลือบมองยอดรักอีกที
“เขาชื่อมิรา จำไว้นะครับ”
เบ้าตาป้าอ้ายแดงขึ้นมาทันที ถ้าคุณผู้หญิงรู้ว่าคุณผู้ชายยังนึกถึงเธอทุกวินาทีแบบนี้ คงจะสู่คติแล้วสิเนอะ
“จำไว้ ดูแลเขาดีๆ” คณพศเสริมอีกครั้ง สีหน้าแลดูมั่งคงขึ้นอีกครั้ง “ส่วนผม ทุรักทุเรมานาน ถึงเวลาเคลียร์บัญชีกับอาชัญแล้วหละ!”
ลุงบีมกับป้าอ้ายอุ้มเด็กเดินออกมาจากห้องสมุดด้วยความภาคภูมิใจ คุณชายของเขากลับมาแล้ว! ครั้งนี้ ใครก็ตามที่เคยคิดไม่ดีกับคุณชายต้องไม่รอดสักคนแน่!
*
หลายวันที่ผ่านมา เมืองธิตกลทั้งเมืองกำลังดุเดือด สื่อมวลชนต่างพกเลนส์กล้องทั้งสั้นทั้งยาว ล้อมรอบบริษัทตระกูลปัญญาพนต์จนจราจรติดขัดไปหมด พวกเขาล้วนอยากนำเสนอข่าวมือหนึ่งกันทั้งสิ้น
เหตุผลในนั้นไม่ใช่อื่นใด ล้วนเป็นเรื่องที่ก่อนหน้านั้นกษาปณ์ให้อาชัญดำรงตำแหน่งประธานชั่วคราว
ครึ่งปีที่แล้ว ข่าวใหญ่ที่สุดของบริษัทตระกูลปัญญาพนต์ คงจะเป็นเรื่องที่ภรรยาประธานบริษัทตระกูลปัญญาพนต์หายตัวในทะเล
หลังจากนั้นได้ข่าวว่าประธานคณพศที่รักเดียวใจเดียวกระโดดน้ำตามไปด้วย ซึ่งทำให้ทั้งสองขาหักอีกครั้ง จึงถอดตำแหน่งประธานไปชั่วคราวเพราะอาการเจ็บ
ประโยคที่ว่า “รักแผ่นดิน ยิ่งรักหญิงงาม” เกรงว่าไม่มีใครทำให้เห็นภาพได้มากไปกว่าประธานคณพศแล้ว
เวลาผ่านไป คณพศที่กลับสู่การเป็นหนุ่มโสด กลายเป็นไอดอลของทุกคนทันที
เด็กสุดคือสาวๆ ที่เพิ่งจะรู้เรื่องรู้ราว แก่สุดถึงขั้นมนุษย์ป้าผมขาวทั้งหัว ต่างยกประธานคณพศให้เป็นสุดหล่อของประเทศชาติ