“ ไม่มีใครรู้เรื่องนี้นอกจากเจ้าเมืองเลยรึ ?” จางหยูคิ้วขมวด
“ มี ” ลั่วเกาตอบกลับ
จางหยูตาเป็นประกายขึ้นมา “ ใครกัน ”
“ คนระดับสูงจากกองทัพเทียนลั่ว” ลั่วเกาพูดขึ้น “ เมื่อกองทัพเทียนลั่วเกือบวุ่นวายเพราะเรื่องนี้ เป็นธรรมดาที่พวกเขาน่าจะรู้”
จางหยูถามขึ้นมา “ แล้วมีทางไหนที่จะได้พบกับคนระดับสูงของกองทัพเทียนลั่ว ?”
ลั่วเกาส่ายหน้าและพูดขึ้น “ ข้าคิดทางอื่นไม่ได้นอกจากเข้าร่วมกับกองทัพเทียนลั่ว”
เข้าร่วมกองทัพ ?
ด้วยความแข็งแกร่งของจางหยูและคนอื่นๆแล้วมันง่ายดายอย่างมาก แต่เขาไม่สนใจจะทำงานให้จักรพรรดิซื่อเซียว
“ นอกจากพวกระดับสูงของกองทัพเทียนลั่วแล้วไม่มีคนอื่นอีกรึ ?” จางหยูถามขึ้นมา
“ บางทีเจ้าเมืองอาจจะรู้อะไรบ้าง” ลั่วเกามองไปที่จางหยู “ แต่ฐานะของเจ้าเมืองนั้นไม่ได้เป็นรองคนระดับสูงของกองทัพเลย การจะเข้าพบเจ้าเมืองนั้นยากยิ่งกว่าการเข้าร่วมกองทัพเสียอีก”
เมื่อพูดไปแล้วลั่วเกาก็ถอนหายใจออกมา “ ข้าแนะนำเจ้าว่าเจ้าควรจะยอมแพ้ซะ”
ทั้งโกลาหลซื่อเซียวนั้นมีอยู่ 10 เมือง เจ้าเมืองแต่ละคนต่างก็เป็นคนระดับสูงที่เป็นรองแค่แม่ทัพทั้งสามเท่านั้น
คนแบบนั้นหากมองทั้งทะเลโกลาหลแล้วก็ยังหายากอย่างมาก มันไม่ง่ายที่ใครจะเข้าพบได้
“ เจ้าเมืองไป่ซิงรึ ?” จางหยูคิด “ดูเหมือนว่าคงได้แต่ต้องเข้าพบกับเจ้าเมือง ”
เขามองไปที่ลั่วเกาแล้วถามขึ้นมา “ ข้าอยากรู้ว่าเมืองไป่ซิงอยู่ที่ไหน?”
ลั่วเกาแปลกใจนิดๆ “ เจ้าจะไปยังเมืองไป่ซิงรึ ?”
จางหยูไม่เชื่อว่ามันจะไม่มีทาง
ลั่วเกาคิด “ เมืองไป่ซิงอยู่ห่างจากหมู่บ้านนี้อย่างมาก หากเจ้าจะไปที่นั่นเดาว่าคงกินเวลาไม่น้อย…หากยอมจ่ายลูกปัดดั้งเดิม เจ้าก็ใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายของหมู่บ้านได้ เจ้าจะเดินทางจากที่นี่ไปยังหมู่บ้านที่ใกล้กับเมืองไป่ซิงที่สุดได้”
“ จักรพรรดิซื่อเซียวขัดสนลูกปัดดั้งเดิมรึไงกัน ?” จางหยูหมดคำพูด “ ทำไมการทำทุกอย่างต้องใช้ลูกปัดอยู่ตลอด ?”
“ สำหรับเราแล้วลูกปัดดั้งเดิมคือค่าเงินพื้นฐาน ไม่ว่าเจ้าจะไปที่ไหน เจ้าก็ไม่อาจจะหลีกหนีจากลูกปัดได้ แม้แต่ในเขตทุรกันดารที่ห่างไกลก็ยังเป็นเช่นนี้” ลั่วเกาพูดขึ้นมา
จางหยูถามขึ้นมา “ หากเราไม่มีลูกปัดล่ะ ?”
ลั่วเกาตอบกลับอย่างใจเย็น “ งั้นเจ้าก็ไม่อาจจะผ่านไปได้แม้แต่ประตูเมือง เพราะการจะเข้าไปในเมืองนั้นต้องจ่ายค่าเข้า ค่าธรรมเนียมไม่ได้สูงนักแค่คนละ 1 ลูกปัด”
“ จักรพรรดิซื่อเซียวนี่เป็นพ่อค้าสินะ” จางหยูอดไม่ได้ที่จะบ่นออกมา
ลั่วเกาขมวดคิ้วและพูดขึ้น “ จักรพรรดิซื่อเซียวคือหนึ่งในยอดฝีมือของทะเลโกลาหล เขาคอยดูแลผู้คนนับไม่ถ้วนไม่อาจจะดูหมิ่นได้ ข้าไม่อยากได้ยินอะไรแบบนี้อีก”
ลั่วเกาไม่ได้พูดถึงจักรพรรดิมากนักแต่ไม่อาจจะสงสัยในความภักดีที่เขามีให้ได้
“ ข้าขอโทษ ข้าแค่พูดเล่น” เมื่อเห็นว่าลั่วเกาไม่พอใจ จางหยูก็ขอโทษออกมาทันที
เมื่อได้ยินแบบนั้นลั่วเกาก็สีหน้าดีขึ้นเล็กน้อย “ เจ้าไม่อาจจะดูหมิ่นจักรพรรดิได้ ข้าอยากให้เจ้าจำไว้ว่าหากไม่มีเขา ก็ไม่มีโกลาหลซื่อเซียว เมื่อไม่มีโกลาหลแห่งนี้ งั้นเราทุกคนก็จะโดนกุยหลิงกำจัด”
จางหยูพยักหน้า เขาไม่คิดจะเถียงกับลั่วเกาต่อ “ ได้ ข้าจะจำไว้”
จากนั้นจางหยูก็พูดขึ้น “ ข้าไม่รบกวนแล้ว ข้าขอตัวก่อน เมื่อข้าสร้างลูกปัดเสร็จข้าจะกลับมาหาท่านอีก”
เขารู้สึกว่าลูกปัดนั้นสำคัญ เมื่อไม่มีมันก็คงอยู่ในทะเลโกลาหลได้ยาก
ตอนที่จางหยูบอกลานั้นก็มีสายลมพัดเข้ามาในหมู่บ้านเสี่ยวอัน พร้อมกับหลายร่างที่พุ่งลงงมาจากท้องฟ้า เข้ามาในอาณาเขตของลั่วเกา
“ ฮ่าฮ่า….ท่านลั่วเกา เราได้พบกันอีกแล้ว ” เสียงหัวเราะดังขึ้น
ลั่วเกาหันกลับไปมองและยิ้มออกมา “ กวน คิดไม่ถึงจริงๆ !”
คนจากสำนักคังเฉียงรวมถึงต้นไม้โกลาหลจำกวนและลูกน้องอีกสองคนได้ทันที
ใช่แล้ว ผู้ที่มาเยือนคนนี้คือกวน รวมถึงลูกน้องของเขาที่เดินทางไปยังโกลาหลหิน “ ข้าเห็นว่าทะเบียนของหมู่บ้านเสี่ยวอันมีการเคลื่อนไหว จึงพบว่ามีคนเข้ามาใหม่จำนวนมาก ข้าจึงมาที่นี่เพื่อดูด้วยตัวเอง ” กวนอธิบายเป้าหมายในการมาของเขาก่อนจะมองไปที่จางหยูและคนอื่นๆ เมื่อเห็นจางหยูและคนอื่นๆเขาก็ไม่ได้แปลกใจ “ เป็นพวกเจ้านี่เอง..”
“ พวกเจ้าเป็นราชากันเองไม่ใช่รึ ?” เขาพูดขึ้นด้วยความแปลกใจ
“ นั่นเจ้าพูดเองนะ เราคงไม่ยอมรับ ” จางหยูหัวเราะออกมา
อันที่จริงแล้วสัตว์อสูรและอาจารย์ทุกคนในตอนนั้นต่างก็เป็นกึ่งจ้าวโกลาหลกันแล้ว
“ กวน เจ้ารู้จักพวกเขารึ ?” ลั่วเกาสงสัย
“ ข้าเคยพบกับพวกนี้ในโกลาหลหิน” กวนพูดขึ้น “ ข้าคิดว่าพวกเขาเป็นแค่ราชา แต่ไม่คิดเลยว่าข้าประเมินพวกเขาต่ำเกินไป”
พูดไปแล้วกวนก็มองไปที่จางหยูและพวก “ พวกเจ้าคือคนที่เข้ามาในหมู่บ้านเสี่ยวอันในครั้งนี้รึ ?”
พระเจ้า มีมากถึงสองพันคน !
หากเขาไม่ได้เห็นกับตาก็คงไม่เชื่อ
“ ใช่ เราเอง” จางหยูพยักหน้า “ ไม่คิดเลยว่าเราจะได้พบกันอีกเร็วเช่นนี้ ”
“ มันแสดงให้เห็นว่าเราใกล้ชิดกัน” กวนหัวเราะออกมา “ พวกเจ้าจ่ายลูกปัดกันแล้วรึ ?”
จางหยูส่ายหน้า “ เรื่องนี้คงไว้ภายหลัง”
เมื่อได้ยินแบบนั้นกวนก็ไม่คิดจะกล่อม เขาบอกทุกคนไปมากพอแล้ว พูดอีกก็ไม่มีประโยชน์
“ พวกเจ้าก็มีความคิดของตัวเอง ข้าคงไม่พูดอะไรมาก” กวนพูดขึ้น “ เมื่อพวกเจ้ามายังหมู่บ้านเสี่ยวอัน ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะรักษาความสงบเอาไว้ หวังว่าสักวันพวกเจ้าจะก้าวหน้าและทำให้หมู่บ้านเสี่ยวอันภาคภูมิใจได้”
“ อาจจะ” จางหยูมายังหมู่บ้านเสี่ยวอัน แต่ไม่ได้รู้สึกว่าเขาเป็นคนของที่นี่ มันก็แค่ที่แรกที่เขามาถึงหลังจากที่เข้ามาในโกลาหลซื่อเซียว เขามาที่นี่เพื่อรับตรา เขาไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษ “ ใช่สิ ข้าเคยได้ยินเจ้าพูดว่าเจ้าเป็นสมาชิกของกองทัพเทียนลั่วสินะ ?”
กวนแสดงสีหน้าภูมิใจออกมา “ ใช่ ข้าคือหัวหน้าหน่วยย่อย 836 ของกองทัพเทียนลั่วที่ 3 แน่นอนกองทัพเทียนลั่วมี 3 กอง แต่ละกองจะมีหน่วยย่อยหนึ่งพันทีม รวมแล้วมีหน่วยย่อยสามพันทีม และข้าคือหนึ่งในหัวหน้าทีมนั้น”
แกมมาและเย่าหยางที่อยู่ด้านหลังก็พากันแสดงท่าทีภูมิใจออกมา
การเข้าร่วมกองทัพเทียนลั่วได้คือเกียรติของพวกเขา !
“ งั้นเจ้าก็พอมีฐานะอยู่บ้างสินะ ?” จางหยูตาเป็นประกายขึ้นมา
กวนยักคิ้ว “ เจ้าถามทำไมกัน ?”
จางหยูพูดขึ้น “ ข้าอยากพบกับคนระดับสูงของกองทัพเทียนลั่ว ไม่รู้ว่าเจ้าจะช่วยได้รึไม่”
“ พบคนระดับสูงรึ ?” กวนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ เจ้ารู้รึไม่ว่าแม้แต่คนในกองทัพเทียนลั่วก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้พบกับคนระดับสูง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแม่ทัพและรองแม่ทัพเลย คนระดับผู้บัญชาการจะเข้าพบได้ตามใจได้ที่ไหน? นี่ไม่ต้องพูดถึงว่าข้าไม่อาจจะช่วยเจ้าได้เลย ถึงข้าจะช่วยได้แต่เจ้ามีสิทธิ์อะไรที่จะไปพบกับพวกเขา ?”
กวนไม่รู้ว่าจะประเมินจางหยูยังไงดี
จางหยูอยากพบกับคนระดับสูงในกองทัพ คนมาใหม่พวกนี้กล้าคิดบ้าบิ่นจริงๆ !
“ หากเจ้าอยากพบกับคนระดับสูงในกองทัพจริงๆ งั้นเจ้าก็ต้องหาทางเข้าร่วมกองทัพ หากเจ้าเข้าร่วมกองทัพและสร้างผลงานได้ดีพอ บางทีเจ้าอาจจะมีโอกาสได้เข้าพบกับคนระดับสูง”
จางหยูส่ายหน้า “ เราไม่สนใจเข้าร่วมกองทัพเทียนลั่ว”
กวนหัวเราะออกมา “ ไม่สนใจรึ ? เจ้าหลงตัวเองเกินไปแล้ว ! กองทัพเทียนลั่วไม่ใช่ว่าหมาแมวที่ไหนจะเข้าได้ แม้ว่าเจ้าจะอยากเข้าร่วมแต่เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ !” ในฐานะสมาชิกของกองทัพเทียนลั่ว กวนนั้นโกรธเป็นอย่างมาก
“ ขออภัย ข้าไม่ได้คิดจะดูหมิ่นกองทัพเทียนลั่วแต่เราไม่สนใจจะเข้าร่วมจริงๆ” จางหยูอธิบายออกมา
“ พอแล้ว !” กวนโกรธนิดๆ “ เด็กน้อย เพื่อไว้หน้าหมู่บ้านเสี่ยวอัน ข้าจะไม่เอาเรื่องเจ้า แต่หากเจ้ายังดูถูกกองทัพเทียนลั่วอีก งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่สุภาพ !”
กองทัพเทียนลั่วไม่อาจจะเหยียดหยามได้ !
จางหยูไม่รู้ว่าจะหัวเราะรึร้องไห้ดี เขาไม่คิดจะเข้าร่วมกับกองทัพเทียนลั่วจริงๆ แต่เขาไม่อาจจะอธิบายอะไรได้
เมื่อเห็นว่าจางหยูเงียบ กวนก็ฮึดฮัดและพูดขึ้น “ สนใจหรือไม่สนใจ พวกเจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ นอกซะจากว่าเจ้าจะเอาชนะข้าได้ ไม่งั้นเจ้าก็ไม่มีสิทธิ์พูดแบบนี้”
“ มี ” ลั่วเกาตอบกลับ
จางหยูตาเป็นประกายขึ้นมา “ ใครกัน ”
“ คนระดับสูงจากกองทัพเทียนลั่ว” ลั่วเกาพูดขึ้น “ เมื่อกองทัพเทียนลั่วเกือบวุ่นวายเพราะเรื่องนี้ เป็นธรรมดาที่พวกเขาน่าจะรู้”
จางหยูถามขึ้นมา “ แล้วมีทางไหนที่จะได้พบกับคนระดับสูงของกองทัพเทียนลั่ว ?”
ลั่วเกาส่ายหน้าและพูดขึ้น “ ข้าคิดทางอื่นไม่ได้นอกจากเข้าร่วมกับกองทัพเทียนลั่ว”
เข้าร่วมกองทัพ ?
ด้วยความแข็งแกร่งของจางหยูและคนอื่นๆแล้วมันง่ายดายอย่างมาก แต่เขาไม่สนใจจะทำงานให้จักรพรรดิซื่อเซียว
“ นอกจากพวกระดับสูงของกองทัพเทียนลั่วแล้วไม่มีคนอื่นอีกรึ ?” จางหยูถามขึ้นมา
“ บางทีเจ้าเมืองอาจจะรู้อะไรบ้าง” ลั่วเกามองไปที่จางหยู “ แต่ฐานะของเจ้าเมืองนั้นไม่ได้เป็นรองคนระดับสูงของกองทัพเลย การจะเข้าพบเจ้าเมืองนั้นยากยิ่งกว่าการเข้าร่วมกองทัพเสียอีก”
เมื่อพูดไปแล้วลั่วเกาก็ถอนหายใจออกมา “ ข้าแนะนำเจ้าว่าเจ้าควรจะยอมแพ้ซะ”
ทั้งโกลาหลซื่อเซียวนั้นมีอยู่ 10 เมือง เจ้าเมืองแต่ละคนต่างก็เป็นคนระดับสูงที่เป็นรองแค่แม่ทัพทั้งสามเท่านั้น
คนแบบนั้นหากมองทั้งทะเลโกลาหลแล้วก็ยังหายากอย่างมาก มันไม่ง่ายที่ใครจะเข้าพบได้
“ เจ้าเมืองไป่ซิงรึ ?” จางหยูคิด “ดูเหมือนว่าคงได้แต่ต้องเข้าพบกับเจ้าเมือง ”
เขามองไปที่ลั่วเกาแล้วถามขึ้นมา “ ข้าอยากรู้ว่าเมืองไป่ซิงอยู่ที่ไหน?”
ลั่วเกาแปลกใจนิดๆ “ เจ้าจะไปยังเมืองไป่ซิงรึ ?”
จางหยูไม่เชื่อว่ามันจะไม่มีทาง
ลั่วเกาคิด “ เมืองไป่ซิงอยู่ห่างจากหมู่บ้านนี้อย่างมาก หากเจ้าจะไปที่นั่นเดาว่าคงกินเวลาไม่น้อย…หากยอมจ่ายลูกปัดดั้งเดิม เจ้าก็ใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายของหมู่บ้านได้ เจ้าจะเดินทางจากที่นี่ไปยังหมู่บ้านที่ใกล้กับเมืองไป่ซิงที่สุดได้”
“ จักรพรรดิซื่อเซียวขัดสนลูกปัดดั้งเดิมรึไงกัน ?” จางหยูหมดคำพูด “ ทำไมการทำทุกอย่างต้องใช้ลูกปัดอยู่ตลอด ?”
“ สำหรับเราแล้วลูกปัดดั้งเดิมคือค่าเงินพื้นฐาน ไม่ว่าเจ้าจะไปที่ไหน เจ้าก็ไม่อาจจะหลีกหนีจากลูกปัดได้ แม้แต่ในเขตทุรกันดารที่ห่างไกลก็ยังเป็นเช่นนี้” ลั่วเกาพูดขึ้นมา
จางหยูถามขึ้นมา “ หากเราไม่มีลูกปัดล่ะ ?”
ลั่วเกาตอบกลับอย่างใจเย็น “ งั้นเจ้าก็ไม่อาจจะผ่านไปได้แม้แต่ประตูเมือง เพราะการจะเข้าไปในเมืองนั้นต้องจ่ายค่าเข้า ค่าธรรมเนียมไม่ได้สูงนักแค่คนละ 1 ลูกปัด”
“ จักรพรรดิซื่อเซียวนี่เป็นพ่อค้าสินะ” จางหยูอดไม่ได้ที่จะบ่นออกมา
ลั่วเกาขมวดคิ้วและพูดขึ้น “ จักรพรรดิซื่อเซียวคือหนึ่งในยอดฝีมือของทะเลโกลาหล เขาคอยดูแลผู้คนนับไม่ถ้วนไม่อาจจะดูหมิ่นได้ ข้าไม่อยากได้ยินอะไรแบบนี้อีก”
ลั่วเกาไม่ได้พูดถึงจักรพรรดิมากนักแต่ไม่อาจจะสงสัยในความภักดีที่เขามีให้ได้
“ ข้าขอโทษ ข้าแค่พูดเล่น” เมื่อเห็นว่าลั่วเกาไม่พอใจ จางหยูก็ขอโทษออกมาทันที
เมื่อได้ยินแบบนั้นลั่วเกาก็สีหน้าดีขึ้นเล็กน้อย “ เจ้าไม่อาจจะดูหมิ่นจักรพรรดิได้ ข้าอยากให้เจ้าจำไว้ว่าหากไม่มีเขา ก็ไม่มีโกลาหลซื่อเซียว เมื่อไม่มีโกลาหลแห่งนี้ งั้นเราทุกคนก็จะโดนกุยหลิงกำจัด”
จางหยูพยักหน้า เขาไม่คิดจะเถียงกับลั่วเกาต่อ “ ได้ ข้าจะจำไว้”
จากนั้นจางหยูก็พูดขึ้น “ ข้าไม่รบกวนแล้ว ข้าขอตัวก่อน เมื่อข้าสร้างลูกปัดเสร็จข้าจะกลับมาหาท่านอีก”
เขารู้สึกว่าลูกปัดนั้นสำคัญ เมื่อไม่มีมันก็คงอยู่ในทะเลโกลาหลได้ยาก
ตอนที่จางหยูบอกลานั้นก็มีสายลมพัดเข้ามาในหมู่บ้านเสี่ยวอัน พร้อมกับหลายร่างที่พุ่งลงงมาจากท้องฟ้า เข้ามาในอาณาเขตของลั่วเกา
“ ฮ่าฮ่า….ท่านลั่วเกา เราได้พบกันอีกแล้ว ” เสียงหัวเราะดังขึ้น
ลั่วเกาหันกลับไปมองและยิ้มออกมา “ กวน คิดไม่ถึงจริงๆ !”
คนจากสำนักคังเฉียงรวมถึงต้นไม้โกลาหลจำกวนและลูกน้องอีกสองคนได้ทันที
ใช่แล้ว ผู้ที่มาเยือนคนนี้คือกวน รวมถึงลูกน้องของเขาที่เดินทางไปยังโกลาหลหิน “ ข้าเห็นว่าทะเบียนของหมู่บ้านเสี่ยวอันมีการเคลื่อนไหว จึงพบว่ามีคนเข้ามาใหม่จำนวนมาก ข้าจึงมาที่นี่เพื่อดูด้วยตัวเอง ” กวนอธิบายเป้าหมายในการมาของเขาก่อนจะมองไปที่จางหยูและคนอื่นๆ เมื่อเห็นจางหยูและคนอื่นๆเขาก็ไม่ได้แปลกใจ “ เป็นพวกเจ้านี่เอง..”
“ พวกเจ้าเป็นราชากันเองไม่ใช่รึ ?” เขาพูดขึ้นด้วยความแปลกใจ
“ นั่นเจ้าพูดเองนะ เราคงไม่ยอมรับ ” จางหยูหัวเราะออกมา
อันที่จริงแล้วสัตว์อสูรและอาจารย์ทุกคนในตอนนั้นต่างก็เป็นกึ่งจ้าวโกลาหลกันแล้ว
“ กวน เจ้ารู้จักพวกเขารึ ?” ลั่วเกาสงสัย
“ ข้าเคยพบกับพวกนี้ในโกลาหลหิน” กวนพูดขึ้น “ ข้าคิดว่าพวกเขาเป็นแค่ราชา แต่ไม่คิดเลยว่าข้าประเมินพวกเขาต่ำเกินไป”
พูดไปแล้วกวนก็มองไปที่จางหยูและพวก “ พวกเจ้าคือคนที่เข้ามาในหมู่บ้านเสี่ยวอันในครั้งนี้รึ ?”
พระเจ้า มีมากถึงสองพันคน !
หากเขาไม่ได้เห็นกับตาก็คงไม่เชื่อ
“ ใช่ เราเอง” จางหยูพยักหน้า “ ไม่คิดเลยว่าเราจะได้พบกันอีกเร็วเช่นนี้ ”
“ มันแสดงให้เห็นว่าเราใกล้ชิดกัน” กวนหัวเราะออกมา “ พวกเจ้าจ่ายลูกปัดกันแล้วรึ ?”
จางหยูส่ายหน้า “ เรื่องนี้คงไว้ภายหลัง”
เมื่อได้ยินแบบนั้นกวนก็ไม่คิดจะกล่อม เขาบอกทุกคนไปมากพอแล้ว พูดอีกก็ไม่มีประโยชน์
“ พวกเจ้าก็มีความคิดของตัวเอง ข้าคงไม่พูดอะไรมาก” กวนพูดขึ้น “ เมื่อพวกเจ้ามายังหมู่บ้านเสี่ยวอัน ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะรักษาความสงบเอาไว้ หวังว่าสักวันพวกเจ้าจะก้าวหน้าและทำให้หมู่บ้านเสี่ยวอันภาคภูมิใจได้”
“ อาจจะ” จางหยูมายังหมู่บ้านเสี่ยวอัน แต่ไม่ได้รู้สึกว่าเขาเป็นคนของที่นี่ มันก็แค่ที่แรกที่เขามาถึงหลังจากที่เข้ามาในโกลาหลซื่อเซียว เขามาที่นี่เพื่อรับตรา เขาไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษ “ ใช่สิ ข้าเคยได้ยินเจ้าพูดว่าเจ้าเป็นสมาชิกของกองทัพเทียนลั่วสินะ ?”
กวนแสดงสีหน้าภูมิใจออกมา “ ใช่ ข้าคือหัวหน้าหน่วยย่อย 836 ของกองทัพเทียนลั่วที่ 3 แน่นอนกองทัพเทียนลั่วมี 3 กอง แต่ละกองจะมีหน่วยย่อยหนึ่งพันทีม รวมแล้วมีหน่วยย่อยสามพันทีม และข้าคือหนึ่งในหัวหน้าทีมนั้น”
แกมมาและเย่าหยางที่อยู่ด้านหลังก็พากันแสดงท่าทีภูมิใจออกมา
การเข้าร่วมกองทัพเทียนลั่วได้คือเกียรติของพวกเขา !
“ งั้นเจ้าก็พอมีฐานะอยู่บ้างสินะ ?” จางหยูตาเป็นประกายขึ้นมา
กวนยักคิ้ว “ เจ้าถามทำไมกัน ?”
จางหยูพูดขึ้น “ ข้าอยากพบกับคนระดับสูงของกองทัพเทียนลั่ว ไม่รู้ว่าเจ้าจะช่วยได้รึไม่”
“ พบคนระดับสูงรึ ?” กวนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ เจ้ารู้รึไม่ว่าแม้แต่คนในกองทัพเทียนลั่วก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้พบกับคนระดับสูง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแม่ทัพและรองแม่ทัพเลย คนระดับผู้บัญชาการจะเข้าพบได้ตามใจได้ที่ไหน? นี่ไม่ต้องพูดถึงว่าข้าไม่อาจจะช่วยเจ้าได้เลย ถึงข้าจะช่วยได้แต่เจ้ามีสิทธิ์อะไรที่จะไปพบกับพวกเขา ?”
กวนไม่รู้ว่าจะประเมินจางหยูยังไงดี
จางหยูอยากพบกับคนระดับสูงในกองทัพ คนมาใหม่พวกนี้กล้าคิดบ้าบิ่นจริงๆ !
“ หากเจ้าอยากพบกับคนระดับสูงในกองทัพจริงๆ งั้นเจ้าก็ต้องหาทางเข้าร่วมกองทัพ หากเจ้าเข้าร่วมกองทัพและสร้างผลงานได้ดีพอ บางทีเจ้าอาจจะมีโอกาสได้เข้าพบกับคนระดับสูง”
จางหยูส่ายหน้า “ เราไม่สนใจเข้าร่วมกองทัพเทียนลั่ว”
กวนหัวเราะออกมา “ ไม่สนใจรึ ? เจ้าหลงตัวเองเกินไปแล้ว ! กองทัพเทียนลั่วไม่ใช่ว่าหมาแมวที่ไหนจะเข้าได้ แม้ว่าเจ้าจะอยากเข้าร่วมแต่เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ !” ในฐานะสมาชิกของกองทัพเทียนลั่ว กวนนั้นโกรธเป็นอย่างมาก
“ ขออภัย ข้าไม่ได้คิดจะดูหมิ่นกองทัพเทียนลั่วแต่เราไม่สนใจจะเข้าร่วมจริงๆ” จางหยูอธิบายออกมา
“ พอแล้ว !” กวนโกรธนิดๆ “ เด็กน้อย เพื่อไว้หน้าหมู่บ้านเสี่ยวอัน ข้าจะไม่เอาเรื่องเจ้า แต่หากเจ้ายังดูถูกกองทัพเทียนลั่วอีก งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่สุภาพ !”
กองทัพเทียนลั่วไม่อาจจะเหยียดหยามได้ !
จางหยูไม่รู้ว่าจะหัวเราะรึร้องไห้ดี เขาไม่คิดจะเข้าร่วมกับกองทัพเทียนลั่วจริงๆ แต่เขาไม่อาจจะอธิบายอะไรได้
เมื่อเห็นว่าจางหยูเงียบ กวนก็ฮึดฮัดและพูดขึ้น “ สนใจหรือไม่สนใจ พวกเจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ นอกซะจากว่าเจ้าจะเอาชนะข้าได้ ไม่งั้นเจ้าก็ไม่มีสิทธิ์พูดแบบนี้”