บทที่229 ที่นี่คืออังกฤษ
ไม่รู้ว่ายัยคนไม่รู้หัวนอนปลายเท้าที่เอายาเสน่ห์อะไรให้พี่ลั่วดื่ม ถึงกับหมั้นกับผู้หญิงชั้นต่ำแบบนี้ พอกันที
อลิซทั้งโกรธทั้งเกลียด เธอเอาแต่ถลึงตามองนารา ในใจก็อ้อนวอนไม่หยุด ใครก็ได้ มาทำลายงานนี่สักที! คืนพี่ลั่วกลับมาให้เธอ!
ตระกูลโลเวลล์มีทั้งหมดสี่คน แต่อาจกล่าวได้ว่าคนที่อวยพรให้กับนาราและลั่วด้วยใจจริงนั้น มีเพียงเจสซี เฮนรี่เท่านั้น
เจสซีมองนาราที่สวยสะดุดตาตรงหน้าก่อนอวยพรอย่างจริงใจ
เขาโค้งลงเล็กน้อย จูบลงที่มือของนารา ” ขออวยพรให้คุณกับลั่วมีความสุขนะครับ ”
” ขอบใจ รีบเอามือนั่นของนายออกไปได้แล้ว ”
นารายังไม่ทันได้เอ่ยขอบคุณเจสซี เคลลี่ลั่วก็บ่นขึ้นมาอย่างไม่พอใจ เขาไม่พอใจอย่างมากที่เจสซีจูบเจ้าสาวของเขาโดยไม่ได้รับอนุญาต
อืม หลังจากนนี้คงจะต้องยกเลิกไอ้ธรรมเนียมการจูบมือกับหอมแก้มไปให้หมด
เจสซี เฮนรี่ที่เห็นอาการหงุดหงิดของเคลลี่ลั่วก็ หัวเราะขำๆ เขาแค่ทักทายตามปกติเองนะ ไอ้ขี้หึง นี่มันบ้าอำนาจไปแล้วรึไง?
ขณะที่เขากำลังเตรียมจะล้อเลียนเคลลี่ลั่วสักคำสองคำ ก็เห็นโลลิต้าวิ่งเข้ามาอย่างตื่นตระหนก
” นายท่าน แย่แล้วค่ะ ปราสาทของเรา ปราสาทถูกคนล้อมไว้แล้วค่ะ ”
โลลิต้าดูตระหนกตกใจอย่างมาก ลืมแม้แต่การปรับน้ำเสียง เรียกให้แขกที่มาร่วมงานหมั้นต่างหันมามอง
เคลลี่ลั่วขมวดคิ้ว นึกไม่ถึงเลยจริงๆว่าจะมีคนมาปั่นป่วนงานหมั้นของเขาแบบนี้ ไม่รักชีวิตแล้วรึไง?
แต่ไม่นานเขาก็นึกขึ้นได้ นอกจากคณพศแล้วจะไปมีไอ้บ้าคนไหนทำเรื่องแบบนี้ได้อีก!
ได้ ในเมื่อมาแล้ว เขาก็อยากจะดูเหมือนกันว่าคณพศเจ้าคนประสาทกลับนั่นคิดจะทำอะไร!
” ตื่นตูมอะไรกันนัก? ฉันจะออกไปดู ” เคลลี่ลั่วเหลือบมองโลลิต้าเล็กน้อยก่อนก้าวเท้าไปยังประตู
” แต่ แต่ว่าท่านดยุค มีรถถังปืนใหญ่นอกปราสาทเรานะคะ ” โลลิต้าเตือนด้วยความเป็นห่วง ต้องเข้าใจว่าปืนใหญ่น่ะไม่ใช่ของเล่น หากจุดไฟแล้ว ได้ระเบิดปราสาทปลิวแน่ๆ
สถานที่ที่เคลลี่ลั่วเลือกมาจัดพิธีหมั้นนั้นคือโบสถ์ส่วนตัวทางด้านตะวันออกของปราสาท ภายนอกล้อมด้วยกำแพงหนาของปราสาท แต่เดิมก็เพื่อป้องกันนาราจากการคุกคามของคนนอก
ไม่นึกว่าคณพศจะบ้าถึงขนาดนี้ ถึงกับเอาปืนใหญ่มา
นัยน์ตาของเคลลี่ลั่วหดลง ทั้งหมดนี่ มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่กัน?
หากพูดถึงรถถังปืนใหญ่ ก็เป็นอาวุธที่รู้จักกันในอังกฤษ ด้วยน้ำหนัก15ตันและความยาว6.7เมตร ในรถนั้นต้องมีสี่คน ประกอบด้วยผู้บัญชาการ พลปืน พลบรรจุ และพลขับเคลื่อน จึงจะทำงานประสานกันเพื่อไม่ให้ไม่พลาด
แต่ว่า อาวุธสงครามที่มีพลังการทำลายล้างสูงแบบนี้ คณพศจะเอามันมาได้อย่างไร้ซู่มเสียงได้ยังไงกัน?
เคลลี่ลั่วเต็มไปด้วยความสงสัย อนากจะเดินออกไปดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น
แน่นอนว่านาราที่อยู่ข้างๆ เองก็ได้ยินคำพูดของโลลิต้า แม้เธอจะไม่รู้ว่ารถถังปืนใหญ่คืออะไร แต่ดูจากคิ้วที่ขมวดเป็นปมของเคลลี่ลั่วแล้วมันจะต้องเป็นสิ่งที่ไม่ดีอย่างแน่นอน
นารคิดเหมือนกันกับเคลลี่ลั่ว คนที่จะก่อสงครามใหญ่กับเคลลี่ลั่วได้ขนาดนี้ น่ากลัวว่าคงมีแค่คนบ้าอย่างคณพศแล้วล่ะ
เพียงแต่ ที่นี่ไม่ใช่เมืองธิตกลที่จะอยู่ในกำมอของเขา ที่นี่คืออังกฤษ เขาทำมันได้ยังไง?
แม้ว่านาราจะงุนงงมาก แต่เมื่อเห็นเคลลี่ลั่วที่กำลังจะออกไปประจันหน้ากับการต่อสู้ เธอรั้งแขนของเขาเอาไว้
เคลลี่ลั่วชะงักฝีเท้า เมื่อหน้าสีหน้าเป็นกังวลของนาราก็ยิ้มด้วยท่าทีสบายๆ ” ไม่ต้องกังวลนะ นี่เป็นถิ่นของฉัน ไม่เป็นไร ”
” แต่ว่า พี่ลั่ว ถ้าหากว่าคณพศใช้รถถังปืนใหญ่นั่นจริงๆ ล่ะ? ” ความกังวลของนาราไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย รู้บ้างสิว่าที่อยู่นอกปราสาทนั่นมันปืนใหญ่นะ!
” ไม่ต้องกลัว ที่นี่คืออังกฤษ ฉันมั่นใจว่าเขาคงไม่กล้าซี้ซั้วหรอก เธออยู่ที่นี่ ไม่นานฉันก็กลับมาแล้ว ” เคลลี่ลั่วว่าจบก็ก้าวออกไป
เหล่าบรรดาแขกเหรื่อที่เห็นสถานการณ์นี้ก็ต่างลุกขึ้นตามไป แต่พวกเขาก็ยังไม่กล้าเข้าไปใกล้มากนัก โดยตามหลังเคลลี่ลั่วอยู่อย่างห่างๆ อยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ยังไงตอนนี้ก็เป็นยุคแห่งสันติ พวกเขาไม่ได้เห็นอาวุธสงครามมานานมากแล้ว
นอกจากนี้พวกเขายังอยากจะเห็น วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันหมั้นของดยุคเคลลี่ ไอ้คนที่มันเอารถถังปืนใหญ่มาจ่อนี่เป็นพระเจ้าใหญ่มาจากไหนกันแน่?
เทียบกับนาราที่แสดงออกอย่างเป็นกังวล อลิซที่ริษยาเธออยู่ตลอดเวลานั้นก็ยิ่งโมโหขึ้นไปอีก
หล่อนเดินเข้าไปข้างๆ นาราด้วยความหงุดหงิด ในขณะที่เธอไม่ได้ตั้งตัว หล่อนก็ผลักเธออย่างแรงพร้อมด่าด้วยคำภาษาไทย “ -ีด*กทอง”
นาราที่กำลังเป็นห่วงสถานการณ์ข้างนอกปราสาทจึงไม่ทันระวังอลิซที่เข้ามา เธอถูกผลักอย่างแรงจนเซไปก่อนเหยียบกะโปรงตัวเองและกำลังจะล้มลงบนพื้น
ขณะที่นารากังวลว่าตัวเธอคงจะต้องขายหน้าต่อหน้าแขกอยู่นั้น เจสซีที่ยืนอยู่ข้างอลิซก็เข้าช่วยเธอไว้ทัน จึงทำให้หลีกเลี่ยงสถานการณ์น่าอับอายไปได้
“ ขอบคุณค่ะ ”นาราปรับสมดุลของร่างกาย เอ่ยขอบคุณเจสซีด้วยใบหน้าซีดเผือด
เจสซีพยักหน้าเล็กน้อยอย่างสง่างาม “ ไม่เป็นไรครับ เราครอบครัวเดียวกัน “
พูดจบเจสซีก็ตวัดสายตามองอลิซก่อนดุเสียงเบา ” ที่คนเยอะแยะ เธอลืมสมองไว้บ้านรึไง? กำลังอะไรอยู่? ”
” พี่! ตกลงพี่อยู่ข้างใครกันแน่? ฉันเป็นน้องสาวแท้ๆ ของพี่ไม่ใช่รึไง? ! ” อลิซกระทืบเท้าด้วยความโมโห ไม่อยากจะเชื่อว่าพี่ชายจะดุเธอเพื่อผู้หญิงชั้นต่ำนั่น
เจสซี เฮนรี่ส่ายหน้าอย่างไม่พอใจ ” วันนี้เป็นวันมงคลของนารากับลั่ว เธออย่าทำตัวเป็นแมลงเม่านักสิ ถ้าหากเกิดอะไรไม่ดีขึ้นมาพ่อกับแม่ก็ปกป้องเธอไม่ได้ ยังไงเคลลี่ลั่วก็ไม่ใช่คนที่เราจะไปยั่วได้ ”
หลังจากบอกถึงความสัมพันธ์ที่ร้ายแรงพวกนั้นกับอลิซแล้ว เจสซีก็หันมาพูดกับนาราเบาๆ ” น้องสาวของผมคนนี้เธอนิสัยเอาแต่ใจ และค่อนข้างทะนงตัว หวังว่าคุณจะไม่ติดใจเอาโทษอะไรกับเธอนะครับ ”
นาราส่ายหน้าอย่างไม่ใส่ใจอะไร ” ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่ได้ติดใจอะไร ”
ตอนนี้ความคิดของนาราทั้งหมดพุ่งความสนใจไปที่เคลลี่ลั่วและคณพศ เธอไม่สนใจการยั่วยุของอลิซเลยแม้แต่น้อย
ทัศนคติที่ใจกว้างของนาราทำให้เจสซีรู้สึกชื่นชมเธอมากขึ้น เขาเหลือบมองน้องสาวของตัวเอง รู้สึกว่าช่องว่างระหว่างคนเรานี่มันช่างใหญ่เหลือเกิน
อลิซที่ถูกพี่ชายของตัวเองดุโกรธจนหน้าแดง เธอกระทืบเท้าอย่างแรง เอ่ยคำต่อว่าก่อนวิ่งไป ” นารา ฉันเกลียดเธอ! ”
สีหน้าของเจสซีเต็มไปด้วยความอึดอัดใจกับอลิซ เขาถูมือไปมาอย่างจนใจ ” ดูเข้าสิ เธอนี่มันไม่รู้เรื่องเลยจริงเชียว ต้อง… ”
” ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันไม่ได้ใส่ใจ จริงๆ นะคะ ” นาราพูดอย่างใจกว้างก่อนเดินออกไปนอกปราสาท เธอต้องออกไปดู ถ้าคณพศกับลั่วสู้กันขึ้นมาจริงๆ เธอจะทำยังไงดี