ตอนที่231นาราเธอจะตีหรือไม่ตี
ในเมื่อจะชกต่อยกัน ทำไมไม่ไปหาเขา
หรือเขาจะต่อยเอง?
ระหว่างที่ลังเลอยู่ คณพศและเคลลี่ลั่วได้ต่อยกันจนล้มลง
ชุดสูทที่รีดอย่างเรียบ ตอนนี้ยับไปหมดแล้ว จะเหลือรูปร่างหน้าตาที่ดีอีกมั้ย?
ยชญ์ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยิ้มและปากตะโกนไม่หยุดว่า:“เจ้านาย ต่อยมันเลย
ให้มันรู้ถึงความร้ายกาจของคนจีนบาง”
แต่แล้ว ยชญ์ได้ดีใจเร็วเกินไป
ต้องรู้ว่าเคลลี่ลั่วไม่ใช่คนที่แรงน้อยนะ
หลายปีที่ผ่านมา เขาได้เรียนวิชาป้องกันตัว
เขาไม่เห็นคณพศอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ
แต่ ความจริงแล้ว คณพศก็เป็นคนที่จัดการได้ยาก
ไม่นานต่อมา ทั้งคู่ก็บาดเจ็บ ถ้าไม่ใช่ตาบวม ก็ปากแตก
หน้าตาดูไม่ได้เลย
ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เสื้อผ้าที่พวกเขาใส่
ตอนนี้ได้ยับจนกลายเป็นเหมือนผ้าขี้ริ้วแล้ว
ถึงจะสภาพแบบนี้ แต่ทั้งสองต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน
และทั้งคู่ต่อยกันจนกลิ้งล้มลงไปที่พื้น
นายหักฝ่ามือฉัน ฉันดึงนิ้วของนาย
ลูกน้องของทั้งคู่เองที่ดูอยู่ไม่ได้รับคำสั่ง ไม่รู้จะทำอย่างไร
จึงทำได้แค่เพียงดูทั้งสองคนต่อยกัน!
นาราที่เดินออกมาจากปราสาท ก็ได้เห็นภาพนี้เป็นภาพแรก
นาราคิดไม่ถึงว่า คนสองคนที่ปกติยืนอยู่เหนือคนอื่น
ตอนนี้ได้กลายเป็นเด็กประถมที่เมื่อเลิกเรียนแล้วต้องตีกัน
“พวกนายหยุดตีกันได้แล้ว พี่ลั่ว หยุดต่อยกับเขาได้แล้ว”
นาราที่กำลังพูดอยู่นั้น พยายามที่จะก้มลงไปเพื่อที่จะแยกทั้งสองออกจากกัน
คณพศและเคลลี่ลั่วกลัวจะต่อยไปโดนนารา พวกเขาเลยหยุดหมัดเท้าของตนเอง
ทั้งคู่ได้ลุกขึ้นมาต่างคนต่างใช้สายตามองเขม่นไปที่อีกฝ่าย
นารามองไปที่ตาอันช้ำเขียวของเคลลี่ลั่วและจมูกที่บวมช้ำของคณพศ
นารารู้สึกขำและโกรธ
วันนี้เป็นวันมงคลและเป็นวันหมั้นของเธอและเคลลี่ลั่ว
แต่ใครจะรู้ว่าคณพศจะมาวุ่นวายในงานนี้
“พวกนายทำไมทำตัวปัญญาอ่อนแบบนี้ ไม่อายคนที่ยืนมองบางหรอ?”
นาราคว่ำหน้าลง และก็ด่าทั้งสองคนที่มีฐานะทางสังคมที่สูง
ไม่เข้าใจการกระทำของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง
คณพศเห็นนาราที่เดินออกมาหน้าเธอดูไม่สดใสเลย
คณพศได้โอบนาราและกอดเธอไว้อย่างแน่น ไม่ยอมให้เธอไปไหนอีก
ได้พูดเบาๆว่า:“นารา กลับไปกับฉันได้มั้ย? ฉันจะไม่ยอมให้เธอหมั้นกับคนเลวอย่างเคลลี่ลั่วอย่างเด็ดขาด
เธอเป็นของฉันคนเดียว ไม่มีใครจะแย่งเธอไปจากฉันได้!”
เคลลี่ลั่วไม่คิดว่าคณพศจะดึงนาราไป
เคลลี่ลั่วได้ยื่นแขนเพื่อที่จะดึงนารากลับมา แต่คณพศบิดตัวหลบทัน
แต่เคลลี่ลั่วไม่ยอมได้พยายามที่จะดึกนารากลับมา
เคลลี่ลั่วชี้หน้าคณพศและด่าว่า:“คณพศไอ้คนน่ารังเกียจ รีบคืนหวานให้กับฉัน!”
แต่คณพศไม่ได้สนใจเขา ได้แต่จ้องมองนาราที่อยู่ในโอบกอดของตัวเอง
“นารา เพื่อเธอฉันทำได้ทุกอย่าง ถ้าเธอไม่กลับไปกับฉัน
ฉันจะใช้ปืนใหญ่ทั้งหมดนี้ยิงไปที่ปราสาทของเคลลี่ลั่วให้ราบเป็นหน้ากลอง”
นาราที่ได้ยินคำพูดที่ข่มขู่เธอ ในใจของเธอก็ได้ยิ่งเกลียดคณพศเป็นเท้าตัว
นอกจากการที่จะชอบข่มขู่แล้ว! ยังเป็นคนเลวอีกด้วย
นาราอยากที่จะดิ้นออกมาจากอ้อมกอดของคณพศ
แต่ไม่ว่าเขาจะใช้แรงมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถดิ้นออกจากอ้อมกอดที่เหมือนดันตรวนของพณพศได้
นาราได้พูดอย่างเบื่อและโกรธว่า:”คณพศ เราคุยกันรู้เรื่องแล้ว เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว
นายตื่นสักทีได้มั้ย อย่ามาวุ่นวายกับชีวิตฉันอีกได้มั้ย?”
“อยากให้ฉันปล่อยเธอไปหรอ นารา ไม่มีทาง! เธอไม่สนใจฉันเลยหรอ
แล้วทำไมตอนทีฉันเป็นไข้ เธอถึงตั้งใจมาเยี่ยมฉันละ?
นาราเธอยังรู้สึกกับฉัน!
คำพูดของคณพศที่อ่อนโยน ทำให้นาราไม่รู้จะตอบอย่างไงเลย
เคลลี่ลั่วที่อยู่อีกฝั่งได้โกรธจนปอดจะระเบิดแล้ว
วันนี้เป็นวันมงคลและวันหมั้นของเขา แต่ทุกอย่างได้ถูกคณพศที่มาก่อความวุ่นวายทำลายหมดแล้ว!
เคลลี่ลั่วได้พุ่งไปที่คณพศและนารา โดยที่คณพศไม่ทันตั้งตัว
เคลลี่ลั่วคิดจะช่วยนาราออกมาจากมือของคณพศ
แต่ยังไม่ถึงตัวคณพศ ยชญ์ก็ได้มาขวางไว้ก่อน
ยชญ์ได้บีบดึงนิ้วตัวเองจนเกินเสียง และทำท่าทำทางเอ้อระเหยแล้วมองไปที่เคลลี่ลั่ว
คำพูดของยชญ์ที่มีการเตือนแฝงอยู่ด้วย “ฉันว่าคนอังกฤษ ไม่สินะ ดยุคเคลลี่ลั่ว
ฉันคิดว่านายคงไม่อยากที่จะให้เรื่องที่ไม่ดีเกินขึ้น
แล้วทำให้เป็นข่าวใหญ่โตจนราชินีต้องเชิญไปพบหรอกใช่มั้ย?”
เคลลี่ลั่วมองไปที่ยชญ์อย่างเยือกเย็น และถามว่า“นายเป็นใคร?
สุนัขรับใช้ของคณพศหรอ?”
ยกญ์คิดไม่ถึงเลยว่าเคลลี่ลั่วที่ส่วนมากอยู่ในอังกฤษนั้น จะรู้จักคำสแลงในภาษาจีนด้วย
เขาได้ยั่วเย้าตัวเองว่า”เออ ฉันไม่ได้เกิดปีหมา ฉันเกิดปีไก่ ฉันคงเป็นได้แค่ ไก่รับใช้ของเขา ไม่มีบุญวาสนาที่จะเป็นหมารับใช้ของเขาหรอก”
พูดจบยชญ์ก็ได้เปิดปากหัวเราะออกมาจนน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด
เคลลี่ลั่วมองไปที่ยชญ์ด้วยความรู้สึกแปลกใจ
คนบ้าเขาก็ชอบอยู่กับกลุ่มคนบ้า คนที่อยู่ตรงหน้านี้บ้าเหมือนกับคณพศไม่มีผิด
เคลลี่ลั่วที่มองยชญ์ที่หัวเราะไม่หยุด เคลลี่ลั่วก็ได้ทนไม่ไหวและบอกว่า
“ฉันไม่สนใจว่านายเป็น หมารับใช้หรือไก่รับใช้ แต่ที่นี่เป็นถิ่นของฉัน
นายมาอวดดีในถิ่นของฉัน นี้นายไม่เคยเห็นหัวของฉันเลยใช่มั้ย?
คิดว่าฉันเป็นคนที่ใครจะรังแกก็ได้อย่างนั้นหรอ?”
ยชญ์ก็ได้หยุดหัวเราะ เปลียนเป็นใบหน้าที่สุภาพ
“ไม่ใช่ไม่ใช่ ดยุคเคลลี่ลั่ว ลูกผู้ชายนั้นเขาไม่แย่งของคนอื่นไปหรอก
นายใช้กำลังยึดภรรยาของคณพศไป ถ้าเป็นพี่ชายฉันเขาจะเจรจากับนายดีๆ
เพราะเขาเป็นคนที่สุภาพ แต่ถ้าเป็นฉันละก็ ปราสาทนายคงโดนปืนใหญ่ยิงไปนานแล้ว”
เคลลี่ลั่วเกือบจะสำลักคำพูดของยกญ์ ฉันไม่ได้หูฝาดใช่มั้ย?
เมื่อกี้เขาบอกว่าคณพศเป็นคนสุภาพหรอ?
เฮ้ย!
นี้เป็นการเหยียดหยามคำว่าสุภาพเป็นอย่างมากเลย!
ปกติชายหนุ่มอย่างคณพศเป็นคนที่หยิ่งผยอง
ตอนนี้ยังจะใช้ปืนใหญ่ยิงปราสาทของฉัน ฮึฮึ เสือที่ไม่คำราม ทุกคนคิดว่าเขาเป็นแมวที่ป่วยหรอ!
เคลลี่ลั่วได้โบกมือไปด้านหลังและบอกว่า
“ถ้าเพื่อนคนนี้ที่มาจากประเทศจีน ไม่ชอบพวกเรา พวกนายก็ต้องแสดงฝีมือออกมาหน่อยสิใช่มั้ย?”
“ได้!”
กลุ่มคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเคลลี่ลั้วได้ขันรับ
พวกเขาได้วางปืนสไนเปอร์ในมือลง และถอดชิ้นส่วนแล้วประกอบเป็นปืนครก
อือ ใช้ปืนครกสู้กับปืนใหญ่ เหมือนกับเอาเกลือมาจิ้มเกลือ
ถ้าทั้งสองฝ่ายเกิดเปิดฉากสงครามขึ้น จะต้องเกิดอานุภาพมหสาร!
ยชญ์เป็นคนฉลาด รู้ว่าวันนี้กำลังเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้
ยชญ์ได้หันกลับไปมองที่คณพศ หัวหน้า แค่คำพูดเดียว จะสู้กับเขามั้ย
คณพศไม่เห็นทุกอย่างนี้อยู่ในสายตา
คณพศมองไปที่นารา แล้วพูดอย่างนุ่มนวลว่า:“นารา จะสู้หรือไม่สู้?