ตอนที่ 253 ลั่วฉันไปแล้วนะ
ไลลามองชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยความดำมืด เธอค่อยๆ ลดมือลง ในใจตื่นตระหนกอย่างมาก
เพราะไม่ได้กินข้าวมาทั้งวัน บวกกับอารมณ์ที่ไม่ดีนัก สองตาของเธอจึงมืดดับลงและหมดสติไปอีกครั้ง
เคลลี่ลั่วรับร่างเด็กสาวเอาไว้ก่อนอุ้มขึ้นมาในท่าอุ้มเจ้าหญิงแล้วเดินออกจากห้อง
เขาอุ้มเธอเข้ามาในห้องนอนของเขาแล้วค่อยๆ วางเธอลงบนเตียง จ้องมองใบหน้าซีดเซียวของเธออย่างเงียบๆ ภายในใจก็เกิดความเจ็บปวดขึ้น
เขาเป็นอะไรไป ถึงกับพาลใส่เด็กสาวคนหนึ่งจนเป็นลมไปอีกรอบ
เขาเรียกหมอมาเพื่อให้สารอาหารกับไลลา
คนรับใช้เอ่ยขึ้น “ นายท่าน คุณหนูนารากลับมาแล้วค่ะ! “
เคลลี่ลั่วกำมือ เขายืนขึ้นทันที เดินออกจากห้องนอนแล้วล็อคประตูไว้
ห้องรับแขกของปราสาท นาราในชุดเดรสยาวสีม่วงยืนอยู่ด้านหน้า แผ่นหลังของเธอเพรียวบางสวยงาม
เคลลี่ลั่วเดินเข้าไปช้าๆ จนระยะห่างเหลือเพียงก้าวเท้าก้าวเดียว “ หวาน….. ”
นาราหันกลับมา มองเคลลี่ลั่วที่มีชีวิตชีวา กระปรี้กระเปร่า แววตาของเธอก็ล่อกแล่กเล็กน้อย
เธอเดินเข้าไปพูดด้วยความรู้สึกผิด “ พี่ลั่ว ฉันขอโทษ ฉันมาวันนี้เพื่อบอกพี่ ฉันจะไปอยู่ที่ฝรั่งเศสกับคณพศสักพักหนึ่ง เพราะว่าห้าปีนี้ มิราเขาไม่มีแม่ ฉันไม่อยากเสียเขาไปอีก……. “
นารามองสีหน้าของเคลลี่ลั่วที่เปลี่ยนไปจนดูไม่ได้ในชั่วขณะนั้น เธอไม่กล้าพูดอะไรอีก
ไม่ได้เจอเคลลี่ลั่วมาครึ่งวัน เธอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย “ ลั่ว ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีนักหรอก บุญคุณของพี่ฉันคงตอบแทนให้ไม่ได้ ขอแสดงความนับถือจากใจจริง!
เธอโค้งให้เขาอย่างเคารพ แต่กลับถูกชายหนุ่มฉุดขึ้นมา แววตาแดงฉานมองเธอ “ หวาน ฉันรู้อยู่นานแล้วว่ามันจะต้องมีวันนี้ นึกไม่ถึงว่ามันจะมาเร็วขนาดนี้! “
นาราได้ยินคำพูดของเขาก็น้ำตาไหลพราก “ ลั่ว ฉันขอโทษ ”
ฝ่ามือใหญ่ของเขายกขึ้นเช็ดน้ำตาของเธอ ยิ้มอย่างเศร้าสร้อย “ อย่าร้องเลย หวาน ไปเถอะ ไปหาความสุขของเธอ ฉันขออวยพรให้! “
นารากลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ได้เลย เคลลี่ลั่วจนปัญญาจะเช็ดมันหมด ได้แต่ยิ้มพลางส่ายหัว “ โตขนาดนี้แล้วยังจะร้องไห้ขี้มูกโป่งอยู่อีก ไม่ร้องสิ! “
เขากอดเธอไว้ในอ้อมแขนอย่างนุ่มนวลก่อนหลับตาลง : หวาน สาวน้อยของฉัน ไปเถอะ ไปหาความสุขของเธอ พี่ลั่วขออวยพรให้!
นาราร้องไห้จนพอแล้วจึงเงยหน้าขึ้น “ พี่ลั่วฉันต้องไปแล้ว ระวังตัวด้วย ลืมฉันไปเถอะนะ!“
“ ฉันลืมเธอไม่ได้หรอก หวาน กลับไปแล้วดูแลมิราดีๆ นะ รอผ่านไปสักพักตอนที่เธอกลับมา ที่นี่ก็คือบ้านของเธอ “
ขณะนารากำลังจะพูดอะไร ประตูห้องรับแขกก็ถูกผลักออก มิราเดินเข้ามา
“ หม่ามี๊ พวกเราต้องขึ้นเครื่องบินแล้วนะครับ! “
เคลลี่ลั่วเห็นลูกกลมใสวาบวับราวกับอัญมณี ดวงตาคู่นั้น นี่คือลูกที่หวานสูญเสียไปห้าปี ดวงตานั้นเหมือนกับนาราไม่มีผิด
“ หวาน นี่ลูกของเธอเหรอ? โตมาน่ารักน่าชังจริงๆ “ เคลลี่ลั่วชื่นชมอย่างจริงใจ หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความอิจฉา
เขาหันไปมองมิรา อยากจะเก็บพวกเขาเอาไว้ แต่ทั้งหมดนี้ก็ทำให้ไอ้ระยำคณพศนั่นถูกทำลาย เขาไม่พอใจ!
นาราจูงมือมิราก่อนหันกลับมามองลั่ว “ ลั่วฉันไปแล้วนะ “
“ ฉันไปส่งที่สนามบินนะ!”เคลลี่ลั่วยืนกรานจะไปส่ง นาราก็เพียงแค่ให้เขาไปสนามบินด้วย
แต่คณพศที่อยู่ในรถนั้นหน้าดำเป็นก้นหม้อ เคลลี่ลั่วไอ้ก้างขวางคอ เขาจะไปสนามบินทำอะไรมิทราบ?
หรือยังคิดจะล่อลวงที่รักของเขาอีก? ช่างเถอะ พอนึกถึงชีวิตที่จะได้อยู่ด้วยกันกับที่รักหลังจากนี้ ก็ปล่อยให้ไอ้ฝรั่งนี่สมหวังอีกสักครั้งเป็นไร
เมื่อถึงอาคารผู้โดยสนามบิน นาราลากเก้าอี้ให้เคลลี่ลั่วก่อนโบกมือเรียกบริกร “ waiter,please give me a cup of coffee,no sugar and milk. ( บริกร ขอกาแฟหนึ่งแก้วไม่ใส่นมกับน้ำตาลนะคะ )”
“ok,please wait a moment (โอเค รอสักครู่นะครับ) ”บริกรสวมผ้ากันเปื้อนพยักหน้าเล็กน้อยก่อนเดินไปเตรียมกาแฟที่บาร์
เคลลี่ลั่วนั่งลง แววตาเต็มไปด้วยความรัก “ หวาน เธอยังจำนิสัยที่ฉันติดเวลาดื่มกาแฟได้อยู่เหรอ ดีจัง “
“ เรื่องเล็กน่ะค่ะ พี่ลั่ว เทียบกับที่พี่ทำให้ฉันไม่ได้หรอก แค่นี้ไม่ได้หนักหนาอะไร “ นาราพูด บริกรได้นำกาแฟมาเสิร์ฟ
“thanks。”เคลลี่ลั่วเอ่ยขอบคุณก่อนให้ทิปกับบริกรไปเล็กน้อย
“uncle,Why do you want to give the waiter a tip?”อยู่ๆ มิราก็ถามขึ้นด้วยสำเนียงอังกฤษแท้ๆ พูดจบก็กลัวว่าเคลลี่ลั่วจะได้ยินไม่ชัดจึงถามอีกครั้งด้วยภาษาจีน ”คุณลุง ทำไมต้องให้ทิปกับบริกรด้วยล่ะครับ?”
เมื่อได้ยินมิราพูดภาษาอังกฤษ เขาก็เบิกตากว้างมองเด็กชายตัวน้อยคนนี้
คณพศไอ้หมอนั่น ไม่นึกว่าจะทำให้หวานมีลูกชายที่น่ารักขนาดนี้ออกมาได้ บ้าชะมัด!
แต่ในขณะที่กำลังอิจฉาอยู่ เคลลี่ลั่วก็ไม่ลืมที่จะตอบคำถามของมิรา
เขายิ้มให้กับมิราอย่างอ่อนโยน “ เพราะเขาบริการให้ลุงไงครับ คุณลุงเลยควรจะให้ทิปเขาไปบ้าง “
“ งั้นเหรอครับ? แต่คุณพ่อผมไม่เคยให้เลยนะ”นั่นคือเหตุผลที่มิราสงสัย
ยังไงก็ตามเรื่องเขาไม่รู้ ความคิดของแด๊ ดดี้ที่ดูไม่น่าเชื่อถือคนนั้นของหมกมุ่นอยู่กับหม่ามี๊ของเขา จะได้ใส่ใจพนักงานซะที่ไหนกันล่ะ
คณพศถูจมูกอย่างอึดอัด จากนั้นก็เขกหัวมิราเบาๆ “ พูดอะไรมากมาย การดื่มกาแฟมันปิดนายไม่ได้เลยสินะ “
มิราแลบลิ้นออกมา ส่งเสียงฮึดฮัด เขาจงใจต่างหาก ใครให้แด๊ดดี้ฮุบหม่ามี๊ไว้คนเดียวตลอดกันล่ะ!
นาราช่วยมิราลูบตรงที่เพิ่งโดนคณพศเขกมา จากนั้นก็ค่อยพูดกับเคลลี่ลั่ว “ พี่ลั่ว ฉันเคยบอกกับพี่ไปแล้ว ลูกชายคนนี้ฉันเคยคิดว่าเสียไปแล้วแต่ก็กลับรอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์ “
เมื่อกี้ตอนที่อยู่ที่ปราสาทเธอลืมแนะนำให้เคลลี่ลั่วไปเลย
เคลลี่ลั่วพยักหน้า “ น่ารักมาก! “
นาราพูดกับมิราอย่างอ่อนโยน “ มิรา นี่คือคุณลุงลั่วนะ “
มิราพยักหน้าอย่างชาญฉลาด ตะโกนใส่เคลลี่ลั่ว “ สวัสดีครับลุงลั่ว ผมชื่อมิรา ปีนี้อายุ5ขวบ โสด IQ 180 ส่วนสูงอีกสิบปีคือ180ครับ “
เคลลี่ลั่วหัวเราะลั่น ลูบหัวน้อยๆ ของมิราแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน “ สวัสดี ฉันชื่อเคลลี่ลั่ว อายุ30 โสดเหมือนกัน…. “
อืม เขาชอบเด็กคนนี้ ถึงจะเป็นพวกแบบคณพศ แต่ก็เป็นลูกของหวานของเขาเหมือนกัน
มีแค่สาวสวยเพอร์เฟคขนาดนี้อย่างหวานเท่านั้นแหละที่คลอดเด็กที่ทั้งน่ารักและร่าเริงแบบนี้ได้
ถ้าหากเป็นลูกของเขาคงจะดีไม่ใช่น้อย!
มิราไม่นึกว่าเคลลี่ลั่วจะพูดเลียนแบบตัวเอง คิ้วโค้งขึ้นอย่างมีความสุข “ คุณลุง ลุงแก่ขนาดนี้แล้วยังโสดอีก ต้องพยายามหน่อยนะครับ! “
“ อืมเหรอ ได้เลย ลุงจะรีบแต่งกับเจ้าสาวแสนสวยเลย! “ เคลลี่ลั่วยิ้มพลางตอบ แต่ดวงตากลับมองไปยังนาราที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเขา
คณพศรู้สึกไม่สบายใจกับสายตาเย้ายวนแบบนั้นของเคลลี่ลั่วเอาซะเลย
เขาจัดการเสียงของตัวเองก่อนพูดกับนาราตรงๆ “ อ่า นารา ผมว่าคุณควรบอกลาคุณเคลลี่ลั่วได้แล้ว เพราะเราต้องขึ้นเครื่องอีกไม่นานจากนี้แล้ว “
นาราลังเลอยู่เล็กน้อย สุดท้ายก็พูดมันออกมา “ พี่ลั่ว ฉันจะไปฝรั่งเศสกับมิราสักหลายเดือน “