บทที่ 340 ผู้หญิงที่เขารักที่สุดหลบอยู่เบื้องหลัง
เห็นยชญ์ถูกบังคับแบบไม่เต็มใจแบบนี้ คณพศก็แอบขำในใจ กระแอมเล็กน้อยแล้วดึงยชญ์ให้ตามเข้าไปที่นั่น ถือโอกาสชวนวิลเลียม “ไปนั่งด้วยกันกับพวกเราไหมครับ?”
วิลเลียม ส่ายหัวปฏิเสธ “พวกคุณไปเถอะ ฉันต้องไปต้อนรับแขกน่ะ ขอให้สนุกนะ”
พูดพลางเดินออกไปอย่างมีมารยาท
เมื่อเห็นวิลเลียมเดินไกลออกไป ยชญ์ก็บ่นเบาๆ “สมองวิลเลียม เบลอหรือเปล่า พวกเราจะไปคุยกับน้องสาวของเขานะ เขาขอให้เราสนุก นี่มันเหมือนขายน้องสาวตัวเองชัดๆ”
คณพศเคาะหัวยชญ์อีกรอบ “หุบปากเลย นายคิดว่าคนอื่นจะคิดสกปรกแบบนายหรอ?”
ครั้งนี้ยชญ์ไม่ยอมอีกแล้ว เขาชี้จมูกตัวเองแล้วถาม “เหอเหอ หนุ่มรูปงามที่มีความสามารถและรวยอย่างฉัน นายกล้าดียังไงมาใส่ร้ายฉัน นี่เป็นการโดนใส่ร้ายที่ใหญ่หลวงสุดๆ ฉันอะก็แค่ความคิดสกปรกเท่านั้น แต่นายอะร่างกายสกปรก เหอะ!”
คำพูดของยชญ์เปรียบเหมือนเสียงเล็กเสียงน้อย แต่ตอนนี้คณพศคิดถึงนาราแทบจะเป็นบ้าแล้ว ยชญ์ไม่ควรจะพูดเรื่องโง่ๆ แบบนี้ต่อหน้าคณพศ ทำให้คณพศคิดถึงเรื่องรักๆ ระหว่างเขากับภรรยา
เจมม่า มานั่งอยู่ที่มุมหนึ่งของโซฟา รอการมาของคณพศอย่างร้อนใจ เธอเห็นยชญ์กับคณพศเดินคุย เดินยิ้มกันมา ในใจของเธอชอบเขาขึ้นไปอีกขั้น ราชาที่ยืนอยู่บนบัลลังก์แต่กลับเป็นกันเองกับลูกน้อง ผู้ชายแบบนี้ เธอชอบมากๆ
คณพศไม่ได้ยินสิ่งที่เจมม่าประเมินตัวเขาอยู่ในใจ เขาดึงยชญ์มาและผลักยชญ์เข้าไปนั่งด้านที่ใกล้กับเจมม่า ส่วนเขานั่งอยู่ด้านนอก เจมม่า รู้สึกได้ว่าคณพศต้องสนใจในตัวเธอแน่นอน ยิ่งเขาปกปิดก็ยิ่งเห็นได้ชัด!
ดังนั้น ในใจของ เจมม่า คิดว่าท่าทีของผู้หญิงเป็นสิ่งที่เหนือกว่า เธอทำทีเป็นผู้หญิงอ่อนโยนสุภาพ เธอยื่นมือออกไปเลื่อนแก้วไวน์นี่เป็นวิธีการที่เธอคิดไม่กี่นาที ในใจเธอคิดอุตลุด รอคณพศมาชวนตัวเองหรือเธอจะไปชวนเขา?
“คุณเจมม่า ผมสนใจแบบร่างที่คุณออกแบบเป็นอย่างมาก คุณพอจะคุยกับผมเกี่ยวกับความคิดในการวาดของคุณได้ไหม?” คณพศพูดตรงๆ กับเจมม่า แบบไม่มีพิธีรีตอง
รอยยิ้มของเจมม่า ชะงักอยู่บนใบหน้า เธอคิดไม่ถึงว่าการคณพศชวนเธอมาคุยไม่ใช่เพราะอยากรู้จักเธอมากขึ้น แต่เพราะเขาอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับแบบร่างพวกนั้น
หรือว่านี่เป็นการทำความรู้จักอีกรูปแบบหนึ่ง?
ทันใดนั้นเจมม่า ก็รู้สึกกังวลขึ้นมา เพราะเธอไม่ได้เป็นคนออกแบบ แบบร่างพวกนั้น ดีไซเนอร์คนนั้น ทำยังก็ไม่ยอมออกจากบ้าน แม้แต่เธอก็ยังไม่เคยเห็นหน้า เป็นเพราะดีไซเนอร์ลึกลับคนนี้ไม่ยอมออกมาคบค้าสมาคมกับคนอื่น เธอเลยโดนพี่ชายที่ไม่ได้เตรียมการอะไรไว้มาขอให้เธอช่วยแทน
ถึงแม้แบบร่างพวกนั้นไม่ใช่ฝีมือของเธอ แต่ที่ วิลเลียม พูดไว้คราวก่อนไม่ผิด เธอเคยเรียนการออกแบบมาระยะหนึ่ง แต่ต่อมาเธอไม่มีแรงบันดาลใจและพรสวรรค์ เลยย้ายมาทำเกี่ยวกับด้านการขาย หน้าที่หลักๆ ของเธอก็คือ ช่วยพี่ชายดึงดูดลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย
คำถามของคณพศกะทันหันเกินไป เจมม่า นึกอยู่ในใจครู่ใหญ่ จึงนึกออกว่าตัวเองเคยเห็นแบบร่างพวกนั้น พูดจริงๆ นะ ตอนที่เธอเห็นแบบร่างพวกนั้น อิงตามความสามารถด้านการขายของเธอที่มีมาหลายปี ก็เดาได้เลยว่าเสื้อผ้าที่ทำออกมาตามแบบร่างพวกนั้นจะต้องขายดีอย่างแน่นอน
เจมม่าอดไม่ได้ที่จะคิดว่าอันตรายอยู่ใกล้แค่นิดเดียว โชคดีที่เธอไม่ได้เป็นทายาทที่นอนงอมืองอเท้า นี่เป็นการป้องกันไม่ให้เธอรู้สึกเสียหน้าต่อหน้าผู้ชายที่เธอชอบ
เจมม่า ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ แล้วแสร้งยิ้ม “จริงๆ แล้วแบบร่างพวกนี้ไม่ได้มีอะไรพิเศษหรอกค่ะ เพียงแค่มันเหมาะกับกระแสเฉยๆ ได้รับการตอบรับที่ดีจากทุกคนแบบนี้ เป็นเรื่องที่ฉันคิดไม่ถึงจริงๆ ค่ะ”
คณพศหรี่ตาลง แล้วถามต่อ “งั้น คุณมีแรงจูงใจอะไรที่ใช้ดอกแม็กโนเลียมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบหรอครับ?”
เจมม่า ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “อ๋อ แรงบันดาลใจของฉันทั้งหมดมาจากเสื้อผ้าแบบใหม่ล่าสุดนี่แหละค่ะ ตอนฉันเห็นเพื่อนร่วมงานทำงานจริงออกมามันงดงามมาก ในใจของตัวเองก็มีความคิดที่แตกต่างกัน ดังนั้น ก็เลยเป็นแรงบันดาลใจของสิ่งนี้ คุณก็รู้ใช่ไหม มันเป็นแสงเพียงแวบเดียว ฉันก็แค่คว้ามันไว้ได้เท่านั้น สำหรับดอกแม็กโนเลีย มันน่าจะเป็นสัญลักษณ์ของความรักที่บริสุทธิ์ค่ะ ”
สีหน้าของคณพศดูขรึมขึ้นมาทันใด เจมม่ากำลังโกหกอยู่ชัดๆ เขาดูแบบร่างพวกนั้นมาอย่างละเอียดแล้ว ได้แรงบันดาลใจจากกระแสของเสื้อผ้ารูปแบบใหม่ล่าสุดอะไรกัน ไร้สาระสิ้นดี! นี่มันเพราะดีไซเนอร์อยากสร้างสไตล์ใหม่ให้ผลงาน จึงนำองค์ประกอบของจีนผสมผสานเข้าไปต่างหาก
แต่ไม่ว่ายังไง เสื้อผ้าที่ซ่อนกลิ่นอายของจีนที่มีความสุภาพและเรียบง่ายพวกนั้น สามารถผสมผสานเข้ากับทุกๆทัศนียภาพที่สวยงามได้ก็ไม่แปลกใจเท่าใด การออกแบบเช่นนี้ มันสามารถทดสอบฝีมือของดีไซเนอร์ได้ดีที่สุด หากไม่มีจิตใจที่สงบ ทำยังไงก็ไม่สามารถออกแบบผลงานที่มีจิตวิญญาณแบบนั้นได้หรอก!
สำหรับดอกแม็กโนเลีย เป็นดอกไม้ที่นาราชอบที่สุด สัญลักษณ์ของมันไม่ใช่ความรักที่บริสุทธิ์ แต่คือความรักที่มั่นคงไม่มีวันเปลี่ยนแปลงต่างหาก
ถึงตอนนี้คณพศแน่ใจแล้วว่าเจมม่ากำลังสวมรอยเป็นคนอื่นอยู่ คณพศหันมาหายชญ์และแสดงท่าทีให้ยชญ์ชวนเจมม่าคุย
ถึงแม้ยชญ์จะไม่สนใจเรื่องการออกแบบ แต่เขาจำได้ว่าครั้งก่อนคณพศบอกเขาว่าบนผลงานล้วนมีดอกแม็กโนเลียเป็นสัญลักษณ์ จึงหลอกถามไปว่า “คุณ เจมม่า ไม่รู้ว่าปกติแล้วคุณชอบดอกไม้อะไรหรอครับ?”
เจมม่า หันไปหายชญ์และตอบด้วยน้ำเสียงเบิกบาน “มันอาจจะดูโบราณไปหน่อย แต่ฉันชอบดอกกุหลาบแดงค่ะ ส่วนดอกไม้อื่นๆ ไม่เข้าตาฉันเลยค่ะ”
ยชญ์ไว้อาลัยให้กับเจมม่า อย่างเงียบๆ เธอสวมรอยคนอื่นแบบนี้ ไม่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีหน่อยหรอ? เด็กน้อยผู้น่าสงสาร รอรับแรงพิโรธจากคณพศได้เลย!
สายตาของคณพศเยือกเย็นลงเรื่อยๆ เขามองเจมม่า โดยไม่พูดอะไร เหมือนอยากรู้ว่าในใจของเธอมีความลับอะไรซ่อนอยู่อีก ผู้หญิงคนที่เขารักสุดหัวใจคือนาราคนที่ซ่อนตัวอยู่
เมื่อโดนคณพศมองด้วยสายตาแบบนั้น เจมม่า ถึงกับนั่งไม่ติด เธอรู้สึกอึดอัดจึงถามออกไป “ประธานคณพศ ฉันทำอะไรผิดหรือเปล่าคะ?”
คณพศเก็บสายตาดุๆ ของเขาไว้ ยิ้มอย่างเป็นมิตร “ไม่มีครับ ผมชอบผลงานของคุณ เจมม่า มากๆ ครับ ถ้าคุณมีผลงานใหม่ ต้องรีบบอกผมทันทีเลยนะครับ ขอผมศึกษาดูหน่อยสักหน่อย”
เจมม่ายิ้มแบบหน้าชา ที่เธอมานั่งอยู่ตรงนี้หวังว่าเขาจะชวนคุยเพื่อสร้างความสนิทสนมกัน ไม่ใช่มาปรึกษาเรื่องแบบร่างอะไรพวกนี้ ! สไตล์ของคณพศช่างเป็นเอกลักษณ์เสียจริง ซ้ายก็แบบร่าง ขวาก็แบบร่าง ทำไมไม่เหมือนคุณยชญ์เลย ถามเธอว่าชอบอะไรนู้นนี่ ออกปากนัดเธอไปทานอาหารฝรั่ง ไปว่ายน้ำ เล่นสกี