ตอนที่ 371 เชิญคุณออกไปจากโลกของเธอ
ยชญ์คอตก “เธอไปแล้ว เธอไปกับเคนโด้แล้ว”
“อะไรนะ? ไปกับเคนโด้แล้ว เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!”
เขารู้สึกได้ว่านารายังรักเขาอยู่ สายตาของเธอตอนมองมาที่เขามันเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและโศกเศร้า
ผู้หญิงของเขา ไม่สามารถทิ้งเขาไปได้หรอก!
คณพศดึงเข็มที่อยู่บนหลังมือออกแล้วลุกขึ้นจากเตียง “ฉันจะไปตามหานารา ครั้งนี้ฉันจะไม่ยอมให้เธอหนีไปได้อีก”
ยชญ์เดินมาหยุดหน้าคณพศเพื่อห้ามเขา “คณพศ นายรู้ตัวได้หรือยัง? ตอนนี้นาราไม่ได้รักนายแล้ว ถ้าเธอรักนายจริงๆ ทำไมหนึ่งปีที่ผ่านมาถึงทิ้งนายกับมิราโดยไม่ไถ่ถามข่าวคราวอะไรเลยล่ะ?”
“นายจะไปรู้อะไร เธอทำเพื่อพวกเรา นายลืมไปแล้วเหรอว่าเธอโดนบังคับให้สาบานอะไรบ้าๆ แบบนั้น เมษาผู้หญิงโหดร้ายคนนั้นน่ะ ฉันผิดหวังจริงๆ ที่ตอนนั้นทำให้เธอตายแบบง่ายไปหน่อย!” เขาพูดด้วยความโกรธ แววตาของเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“คณพศ นายเลิกหลอกตัวเองได้แล้ว บนโลกนี้ยังมีผู้หญิงดีๆ อีกเยอะ นายอย่ายึดติดกับนาราอีกเลย” ยชญ์พูดเตือนคณพศแบบกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
คณพศผลักยชญ์ออก หมุนตัวเดินไปยังประตู “นายออกไป ถึงผู้หญิงพวกนั้นจะดีจะสวยกว่า แต่น่าเสียดายพวกเธอไม่ใช่นารา ฉันต้องการแค่นารา!”
ยชญ์ที่ถูกผลักออกก็อดที่จะพูดความจริงออกไปไม่ได้ “คณพศ เมื่อวานหลังจากนายเป็นลม นาราพูดกับฉันเองว่าเธอไม่ได้รักนายแล้ว ตอนนี้เธอเป็นคู่หมั้นของเคนโด้ แล้วถ้าเธอรักนายทำไมเธอทิ้งนายอยู่บนเวทีแล้วจากไปล่ะ?”
คณพศได้ยินดังนั้นก็นิ่งไปชั่วครู่ แต่เขาก็เดินไปที่ประตูอย่างไม่ลังเล “ไม่ เธอจะมีคู่หมั้นไม่ได้เด็ดขาด เพราะฉันจะฆ่าคู่หมั้นของเธอ!”
เมื่อพูดดังนั้นคณพศก็เดินออกไปจากห้องผู้ป่วยแบบไม่เหลียวหลัง
ยชญ์ส่ายหัวแบบไม่รู้จะทำอย่างไร เขามองไปยังพื้นห้อง สายตาเหลือบไปเห็นรองเท้าที่ยังวางอยู่ข้างเตียง ทำให้เขารู้ว่าคณพศเดินออกไปแบบเท้าเปล่า
เขาจนปัญญาแล้ว ยชญ์ทำได้เพียงหิ้วรองเท้าหนังจระเข้ที่เป็นงานแฮนด์เมดวิ่งตามคณพศออกไป “คณพศ ยังไงก็แล้วแต่ นายสวมรองเท้าแล้วค่อยไปสิ!”
เคนโด้พานารากลับมาสำนักงานใหญ่ NLยัง เขาวางเธอลงบนโซฟาในห้องประชุมอย่างเบามือ ตอนเขาหันไปรินน้ำให้เธอ ก็พบว่านาราฟื้นขึ้นมาแล้ว
“ฟื้นแล้วเหรอ ดื่มน้ำไหม? ฉันรินน้ำอุ่นมาให้” เคนโด้พูดพลางค่อยๆ ประคองเธอขึ้นมาและส่งน้ำอุ่นให้เธอ
นาราดื่มน้ำไปสองอึก ความตื่นเต้นที่เคยมีค่อยๆ สงบลง เธอมองเคนโด้อย่างรู้สึกเสียใจ “เคนโด้ ขอโทษจริงๆ ฉันทำงานแฟชั่นโชว์พังหมดเลย ฉันนี่ไม่ได้เรื่องเลย”
เคนโด้ส่ายหัว “ไม่เลย การจัดงานแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ประสบความสำเร็จมาก ในช่วงเวลาเพียงสั้นๆ เลขามาบอกฉันว่าพวกเราได้รับคำสั่งซื้อกว่า 100 รายการจากทั่วโลก”
“จริงเหรอ ดีสุดๆ ไปเลย” สีหน้าของนารามีชีวิตชีวาขึ้นเพราะความดีใจ แต่ดูไปแล้วเหมือนโกรธอยู่เล็กน้อย
“ใช่แล้ว นาราเธอต้องเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเอง ไม่มีใครสุดยอดเท่าเธอแล้ว” เคนโด้มองนาราอย่างลึกซึ้ง ดวงตาเต็มไปด้วยความมั่นใจ
ทันใดนั้นนัยน์ตาของนาราก็แสดงความอ้างว้างขึ้นมา “แต่ว่าฉันโดนคณพศก่อกวนจิตใจอย่างง่ายดาย ฉันไม่ได้เรื่องเอาซะเลย”
เคนโด้ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเงยหน้ามองเข้าไปยังนัยน์ตาที่หมดหนทางของนารา ชี้แนะเธอด้วยเสียงอ่อนโยน “นารา อย่าไปคิดเรื่องพวกนี้เลย ในเมื่อเธอตัดสินใจเพื่อไปบอกลา ก็อย่าให้เรื่องพวกนี้มากวนใจ การหนีน่ะมันไม่มีประโยชน์หรอกนะ เธอต้องกล้าที่จะเผชิญหน้ากับมันถึงจะหลุดพ้นออกจากเรื่องกวนใจนี้ได้”
นาราก้มหน้าลง เธอรู้ว่าเคนโด้พูดถูก แต่ว่าคณพศน่ะ ไม่ได้เป็นแค่เรื่องกวนใจเธอน่ะสิ เขาเป็นปีศาจในใจเธอ ปีศาจในใจที่หนียังไงก็หนีไม่พ้น!
“กริ๊ง…กริ๊ง…”
เสียงโทรศัพท์ในห้องทำงานดังขึ้น เคนโด้จึงเดินไปรับสาย “ใครครับ?”
เสียงวุ่นวายดังออกมาจากคนที่อยู่ปลายสายของเลขานุการ “ประธาน ข้างนอกมีคนมาค่ะ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเรารั้งเขาไว้ไม่อยู่แล้วค่ะ เขาบอกว่าต้องการพบคุณค่ะ”
เคนโด้มองดูสีหน้าที่มีความกังวลของนาราที่อยู่อีกด้าน จึงตอบกลับปลายสายไปว่า “โอเค ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”
พูดดังนั้น เคนโด้จึงลุกขึ้น จังหวะที่เขากำลังจะเดินออกจากห้องทำงาน นาราถามขึ้น “เคนโด้ เขามาเหรอ”
“ใช่ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้เพื่อไม่ให้เขาสร้างความวุ่นวายในบริษัท เธอก็รู้นิสัยของเขา” เคนโด้พูดจบ จังหวะที่เขาจะเดินออกไป เขาหันมาถามนารา “นารา การหนีมันไม่มีประโยชน์หรอกนะ เธอต้องกล้าที่จะเผชิญหน้ากับเขา คิดให้ดีว่าจะเลือกอะไร เธอถามใจตัวเองดูว่าแท้จริงแล้วเธอต้องการอะไร”
มองดูเงาของเคนโด้ค่อยๆ หายไปจากห้องทำงาน นาราทรุดลงบนโซฟาแบบไม่รู้จะทำอย่างไร ใช่ สิ่งที่เธอต้องการ แท้จริงแล้วคืออะไรกันแน่?
คณพศและยชญ์เดินตรงไปสำนักงานใหญ่ของ NLยัง เลขาหน้าห้องถามเขาอย่างมีมารยาท แต่เขาตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงโมโห “เรียกเคนโด้ออกมาหาฉันเดี๋ยวนี้!”
พูดจบ คณพศเดินตรงไปยังลิฟต์ ยชญ์ทำได้เพียงเดินตามเขาไป
เมื่อเขาเดินถึงหน้าลิฟต์ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัทNLยืนล้อมเขาไว้ “คุณครับ กรุณาอดทนรอสักครู่นะครับ เราขอยืนยันกับประธานก่อนว่าคุณได้นัดเขาไว้หรือเปล่า”
ในความเป็นจริงแล้วคณพศมีท่าทางที่น่าเชื่อถือ ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพวกนี้เกรงใจเขาเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังไม่กล้าแตะต้องตัวเขา
แต่ตอนนี้ในใจของคณพศเต็มไปด้วยความโกรธเดือดดาล เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพวกนี้จะรั้งเขาได้อย่างไร?
ขณะที่คณพศผลักเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพวกนี้ออกด้วยความโกรธ ก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เคนโด้เดินออกมาจากลิฟต์
เมื่อเห็นคนที่ไม่ได้เจอกันนานอย่างเคนโด้ ทำให้คณพศตาแดงก่ำขึ้นมา เขาเหวี่ยงหมัดไปทางเคนโด้ “เคนโด้ ไม่คิดว่าหลายปีมานี้ นายยังไม่เลิกหวังแถมยังกล้ามาแย่งเมียฉันไปอีก รนหาที่ตายชัดๆ!”
เคนโด้คิดไม่ถึงว่าคณพศมาถึงก็จะใช้ความรุนแรง เขาไม่ทันได้ป้องกันตัวเองแม้แต่น้อยจึงโดนหมัดของคณพศซัดเข้าให้จนล้มลงไปกองกับพื้น
“ประธานเคนโด้ พวกเรามาที่นี่ก็เพื่อจะเอาคนอย่างนายส่งสถานีตำรวจ!”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ตรงนั้นตกใจ พวกเขาล้อมคณพศเอาไว้และเตรียมที่จะพาเขาส่งสถานีตำรวจ
เคนโด้ค่อยๆ ลุกขึ้นมา มุมปากมีรอยแตกจนเลือดซิบ
เขาโบกมือไปมา เพื่อเป็นการห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทำอะไรคณพศ “พวกนายลงไปเถอะ”
ในเมื่อประธานบริษัทพูดเช่นนี้แล้ว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านั้นก็ทำตามคำสั่งแยกย้ายออกไปอย่างรวดเร็ว หน้าประตูลิฟต์จึงหลงเหลืออยู่แค่คนที่โกรธเดือดดาลอย่างคณพศและคนที่โดนหมัดหนักๆ อย่างเคนโด้
ตอนนี้เคนโด้ไม่ใช่เด็กผู้ชายที่อ่อนแอเหมือนแต่ก่อนแล้ว เขามองคณพศอย่างเฉยชา แววตาเต็มไปด้วยเมินเฉย
“คณพศ หมัดนี้ถือว่าผมเคารพคุณเป็นพี่ชาย ถ้าคุณยังกล้าใช้กำลังอีก อย่าหาว่าผมไม่เกรงใจก็แล้วกัน”
เคนโด้เอามือไปแตะคราบเลือดที่มุมปาก พูดอย่างเย็นชา “คณพศ ผมสงสัยจริงๆ ว่าคุณรักนาราอย่างจริงใจหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ในปีที่ผ่านมาเธอคงไม่ต้องมาแบกรับความทุกข์ระทมแบบนี้หรอก ตกลงไปในทะเล สูญเสียความทรงจำ ต้องร่อนเร่พเนจรแบบนี้ ทั้งหมดนี่ก็เพราะคุณทั้งนั้น! คุณคิดว่าตัวเองยังเอาเปรียบเธอไม่พอหรือไง ทั้งชีวิตคุณจะไม่ให้เธอมีความสุขเลยหรือไง เชิญคุณออกไปจากโลกของเธอซะ!”