ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1878 : น้องซีหยุน

ตอนที่ 1878 : น้องซีหยุน
  “ หากเจ้าทำได้ ข้าหวังว่าเจ้าจะพาเราไปส่งที่หมู่บ้านเสี่ยวอัน ” จางหยูมองไปที่ซีหยุน
ซีหยุนไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเรื่องนี้ เขาเดินออกมาจากตึกและตรงไปที่ลาน ก่อนจะเรียกวังวนออกมาทันที
หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจคนของทีมคังเฉียงก็หายไปจากลาน
ตอนที่ซีหยุนกำลังจะกลับนั้น อู๋ห่าวก็ได้มาหยุดเขาเอาไว้ “ ช้าก่อน ผู้บัญชาการซีหยุน”
ซีหยุนแปลกใจ ก่อนหน้านี้อู๋ห่าวไม่ได้สนใจเขาเลยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้กลับเรียกชื่อเขา อีกฝ่ายไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน
มันเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าได้รับความเคารพจากผู้บัญชาการใหญ่แห่งกองทัพสังเกตการณ์ !
“ยังมีธุระอะไรหรือขอรับหัวหน้า?” ซีหยุนยังแสดงท่าทีเคารพต่ออู๋ห่าว
อู๋ห่าวมองไปที่ซีหยุนแล้วพูดว่า “ เจ้ารู้อะไรเกี่ยวกับทีมคังเฉียงบ้าง ?”
เอาจริงๆแล้วเขาอยากรู้ที่มาของจางหยู
ซีหยุนส่ายหน้า “ ขออภัยด้วย ข้าไม่รู้ว่าพวกเขามาจากไหน”
“ งั้นทำไมพวกเขาถึงตั้งทีมขึ้นมาในหมู่บ้านฉิงเหยี่ยนกันละ ?” อู๋ห่าวถามขึ้นมา “ การตั้งทีมต้องทดสอบความแข็งแกร่งก่อน หากข้าจำไม่ผิด ทีมคังเฉียงนั้นเจ้าเป็นคนรับรองไม่ใช่รึไง ? เจ้ารู้ความแข็งแกร่งของพวกเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ ?”
ซีหยุนไม่ได้ปิดบัง ยังไงซะอู๋ห่าวก็รู้ความแข็งแกร่งของจางหยูแล้ว ปิดบังไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร
“ ข้าเพิ่งทราบความแข็งแกร่งของพวกเขา” ซีหยุนตอบตามจริง “ ทั้งทีมคังเฉียงนั้นนอกจากสมาชิกที่ชื่อว่าต้นไม้โกลาหลแล้ว ผลการทดสอบของคนอื่นๆต่างก็เป็นสีแดง ความแตกต่างคือความเข้มของแสง บางคนเกือบจะเป็นสีทอง…”
อู๋ห่าวนิ่งอึ้งไป เขารู้ว่าทีมคังเฉียงนั้นน่ากลัวแต่ไม่คิดว่าจะน่ากลัวถึงเพียงนี้!
ทีมที่เต็มไปด้วยผู้บัญชาการและผู้บัญชาการใหญ่นั้น ไม่แปลกเลยที่พวกเขาจะน่ากลัว !
เมื่อคิดถึงท่าทีดูหมิ่นต่อทีมคังเฉียงในตอนแรก อู๋ห่าวก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกลัวขึ้นมา ทีมคังเฉียงนี้แม้แต่สมาชิกทั่วไปก็ยังน่ากลัว
“ แล้วผู้อาวุโสล่ะ ?” แม้อู๋ห่าวพอจะเดาได้ว่าความแข็งแกร่งของจางหยูนั้นอยู่ที่ระดับใด แต่ก็อดไม่ได้ที่จะถามออกมาอยู่ดี
“ แน่นอนว่าเป็นสีขาว” ซีหยุนไม่ลังเลที่จะตอบกลับ “ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ความแข็งแกร่งของเจ้าสำนักนั้นอยู่ในระดับท่านแม่ทัพแน่ๆ ข้าถึงกับสงสัยว่าในหมู่แม่ทัพแล้ว เจ้าสำนักอาจจะอยู่ในระดับแนวหน้า”
เมื่อคิดถึงแรนเดล หากความแข็งแกร่งของจางหยูด้อยกว่า ทีมคังเฉียงและทีมลั่วชาจะหนีออกมาได้รึ ?
“ ข้าแค่สงสัยเลยถามดู” อู๋ห่าวไอแห้งๆออกมา
เขาเดินไปใกล้ๆ ซีหยุนแล้วกระซิบ “ น้องซีหยุน ก่อนหน้านี้ข้าเสียมารยาทกับพวกเขาไปมาก มันเป็นความผิดของข้าเอง ข้าอยากให้เจ้าขอโทษแทนข้า หวังว่าน้องซีหยุนจะไม่ใส่ใจกับคำพูดของข้า ข้าขอขอบคุณเจ้าด้วยสำหรับเรื่องนี้”
แค่พูดไม่กี่คำก็ทำให้ฐานะของซีหยุนสูงขึ้น จากผู้บัญชาการซีหยุนเป็นน้องซีหยุน
บางทีสักวันซีหยุนอาจจะกลายเป็นพี่ซีหยุนก็ได้
เมื่อเห็นท่าทีประจบของอู๋ห่าว ซีหยุนก็รู้สึกดีขึ้นมา นี่คือความสำเร็จที่ไม่อาจจะประเมินได้
ก่อนที่จะพบกับทีมคังเฉียง เขาไม่เคยคิดว่าผู้บัญชาการตัวเล็กๆอย่างเขา จะถูกผู้บัญชาการใหญ่ระดับสูงของกองกำลังสังเกตการณ์เรียกว่าน้อง อีกฝ่ายถึงกับต้องเอาใจเขาด้วยซ้ำ
“ หัวหน้าสบายใจได้ ข้าจะพูดแทนเองหากมีโอกาส” ซีหยุนแสดงท่าทีสุภาพออกมา
“ หัวหน้าอะไรกัน ข้ามีชื่อไม่ใช่รึ ?” อู๋ห่าวทำท่าทีไม่พอใจ “ น้องซีหยุนดูถูกข้ารึไง ?”
“ นี่ ”
“ หากน้องซีหยุนไม่โกรธเคืองข้า ก็เรียกข้าว่าพี่ก็แล้วกัน ” อู๋ห่าวมองไปที่ซีหยุนด้วยสีหน้าจริงจัง “ จากวันนี้ไปเจ้าคือน้องของข้า ข้าเป็นพี่ของเจ้า เจ้ากับข้าเป็นพี่น้องกัน หากสุขก็จะสุขไปด้วยกัน หากทุกข์ก็จะทุกข์ไปด้วยกัน หากเจ้ามีปัญหาอะไรในอนาคตก็บอกข้าได้เลย ไม่ต้องกังวล เพราะตราบใดที่ไม่เกินความสามารถของข้า พี่คนนี้จะจัดการให้เจ้าเอง”
“ นี่มัน…จะดีรึ ?”
“ มันไม่ดีตรงไหนกัน ! เอาแบบนี้แหละ !” อู๋ห่าวโบกมือ “ นอกซะจากว่าเจ้าจะรังเกียจข้า”
ซีหยุนดีใจอย่างมากแต่ก็ยังเงียบอยู่ เขาแสดงท่าทีลังเลออกมา แต่เมื่อเห็นว่าอู๋ห่าวแสดงท่าทีโมโหออกมา เขาถึงได้พูดขึ้น “ได้ พี่อู๋ ”
อู๋ห่าวหัวเราะออกมา “ ดี ! น้องที่ดี !”
เมื่อได้ยินแบบนั้นซีหยุนก็ขนลุกขึ้นมา หากไม่ได้เจอกับตัวคงไม่รู้ว่าผู้บัญชาการใหญ่จะเป็นกันเองแบบนี้ได้  เมื่อได้ยินคำพูดของอู๋ห่าว ซีหยุนก็ต้องตอบรับ “ ท่านพี่ !”
“ ดี !” อู๋ห่าวถึงกับน้ำตาซึม
“ ท่านพี่ !” ซีหยุนรู้สึกเหมือนอยากจะอ้วก
“ ท่านพี่ !”
“ น้องข้า !”
สุดท้ายซีหยุนก็ถึงกับเอียนจนแทบขนลุก
แต่ก็โชคยังดีที่อู๋ห่าวไม่ได้ทรมานเขาต่อ
“ เอาล่ะ ข้าจะไปจัดการธุระของผู้อาวุโส คงไม่ได้พูดคุยกับเจ้าต่อ หลังจากนี้เราค่อยหาโอกาสไปดื่มกัน” อู๋ห่าวตบไหล่ซีหยุน “ สำหรับผู้อาวุโสแล้ว ข้ารบกวนเจ้าพูดกับเขาแทนข้าด้วย”
“ ท่านพี่สบายใจได้ ข้ารู้ว่าต้องทำยังไง” ซีหยุนตอบกลับ
อู๋ห่าวเผยรอยยิ้มพอใจออกมา ก่อนจะไปส่งซีหยุน
หลังจากในลานว่างเปล่า อู๋ห่าวก็รักษาท่าทีของตนก่อนจะเดินกลับเข้าไปในตึก
ทหารในลานต่างก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“ เกิดบ้าอะไรกับซีหยุนผู้นี้กัน ?”
“ ทำไมท่านอู๋ถึงได้สนิทกับเขาเช่นนั้นได้ ?”
“ พวกเขาเหมือนสนิทกันทันทีที่ออกมา มันแปลกจริงๆ…”

ที่หมู่บ้านเสี่ยวอัน
สุดท้ายทีมคังเฉียงก็ได้กลับมาที่นี่
มันไม่เหมือนเมืองที่คึกคัก หมู่บ้านเสี่ยวอันยังคงดูอ้างว้างและเงียบสงบเช่นเคย
จางหยูนำทีมไปหาลั่วเกาทันที ชายคนนี้ยังคงทำงานของตนตามเดิม
“ ท่านลั่วเกา” จางหยูเดินเข้าไปในจวนและทักทายอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม
ลั่วเกามองไปที่จางหยู เมื่อเห็นว่าจางหยูใส่ตราระดับราชา เขาก็อดไม่ได้ที่จะเผยสีหน้าตะลึง “ ท่านตั้งทีมระดับราชาขึ้นมารึ ?”
ออกจากหมู่บ้านไปรอบเดียว กลับมาอีกทีก็กลายเป็นทีมระดับราชาเสียแล้ว มันทำให้ลั่วเการู้สึกอึ้ง
“ กวน ไม่ได้บอกท่านรึ ?” จางหยูแปลกใจ “ เขายังไม่กลับมาอีกรึ ?”
ลั่วเกาพูดขึ้น “ กวนน่ะรึ ? ตั้งแต่ไปกับท่าน เขาก็ยังไม่ได้กลับมา บางทีอาจจะมีธุระบางอย่าง”
จางหยูไม่ได้สนใจอะไรมากและพูดขึ้น “ ไม่แปลกเลยที่ท่านไม่รู้ แต่ก็ยังไม่สายที่จะรู้เรื่องนี้”
หลังจากนั้นสักพัก จางหยูก็พูดขึ้น “ ก่อนหน้านี้เราติดค้างกวนเอาไว้ ข้าฝากนี่ให้กับเขาด้วย เราใช้เงินของเขาในการเดินทาง ฉะนั้นเราไม่ควรติดค้างกวน” เมื่อพูดจบจางหยูก็ส่งลูกปัดให้กับลั่วเกา
ด้วยความร่ำรวยของทีมคังเฉียงในตอนนี้แล้ว พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องติดค้างใคร
“ ท่านหาลูกปัดได้เร็วแบบนี้เลยรึ ?” ลั่วเกาพูดขึ้นมาด้วยความแปลกใจ
จางหยูยิ้มออกมาแต่ก็ไม่ได้อธิบายอะไร เขากลัวว่าหากบอกไปแล้วจะทำให้ลั่วเกาหัวใจวาย
“ ท่านลั่วเกา ข้ามาหาท่านนอกจากมาคืนลูกปัดแล้วก็มาเพื่อรบกวนท่านหนึ่งอย่าง” จางหยูแสดงสีหน้าจริงจังออกมา
“ ว่ามาได้เลย” ลั่วเกาไม่รู้ความแข็งแกร่งของจางหยู แต่มั่นใจว่าต้องแกร่งกว่าตนมากแน่ๆ
จางหยูพูดขึ้น “ หลังจากนี้จะมีคนจากกองทัพสังเกตการณ์มาหาท่าน รบกวนท่านส่งคนไปที่โกลาหลหิน โกลาหลที่ซุนกวนสร้างขึ้นมา จากนั้นก็เดินทางไปที่โลกป่า เพื่อส่งข่าวให้กับคนของสำนักคังเฉียง เรื่องนี้สำคัญอย่างมาก ข้ารบกวนท่านด้วย ”
ลั่วเกาได้ยินแบบนั้นก็ไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขาพยักหน้าทันที “ ไม่มีปัญหา”
แค่ส่งข้อความน่ะเป็นเรื่องเล็กน้อย
“ ดีจริง ! ” จางหยูยิ้มออกมา “ ข้าไม่กล้าให้ท่านเหนื่อยเปล่า นี่ลูกปัด 100 ลูกสำหรับเป็นค่าตอบแทนท่าน” เขาเอาลูกปัด 100 ลูกออกมาส่งให้กับลั่วเกา “ ข้าหวังว่าท่านจะไม่ปฏิเสธ”
เมื่อเห็นว่าจางหยูยอมให้ลูกปัด 100 ลูกง่ายๆ ลั่วเกาก็ยิ่งแปลกใจ ทีมคังเฉียงเดินทางออกไปนานเท่าไหร่กัน ? ทำไมพวกเขาถึงได้รวยแบบนี้?
ด้านนอกนั้นหาลูกปัดได้ง่ายๆรึไง ?
ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า  ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร
มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ
      ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์
หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”
     เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ
ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้
    ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท