ตอนที่ 382 คนที่ลักพาตัวมิราคือวิษณุส์ที่หนีออกจากคุก
คณพศคว้ามือของเธอ แล้วกอดนาราเอาไว้ในอ้อมแขนแน่น “ผมไม่อนุญาตให้คุณพูดแบบนี้กับตัวเอง! ที่รัก นี่ไม่ใช่ความผิดของคุณ! แล้วก็ไม่ได้เกี่ยวกับคำสาบานบ้าบอนั่นแม้แต่นิดเดียวเข้าใจไหม?! คุณเชื่อผมเถอะนะ มันไม่ใช่ความผิดของคุณจริงๆ!”
“ถ้าไม่ใช่เพราะว่าฉันไปสาบาน จะเกิดเรื่องขึ้นกับมิราได้ยังไง?” นารามองคณพศอย่างหมดหนทาง แววตานั้นทั้งหวาดผวาและลนลาน
คณพศจูบหน้าผากของนาราอย่างปวดใจ ก่อนไล่ลงไปตามคิ้วเรียว จูบซับน้ำตาที่ไหลอาบใบหน้าของเธอ “ที่รัก ฟังผมนะ เชื่อใจผม มิราจะต้องปลอดภัยไม่เป็นอะไรทั้งนั้น”
นารานิ่งเงียบ เพียงแค่สะอื้นเบาๆ ไหล่กระเพื่อมเป็นครั้งคราว ปวดร้าวแทบไม่อาจทนไหว
และฉากที่พวกเขาโอบกอดกันนั้น ทั้งหมดถูกเคนโด้ที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาเห็นอย่างชัดเจน
เคนโด้ที่ถืออาหารเช้าเข้ามานั้นหลับตาลงอย่างสิ้นหวัง รู้สึกอ้างว้างจากก้นบึ้งของหัวใจ
เขาเพิ่งจะทำอาหารเช้าเสร็จ กำลังขึ้นมาเรียกนารากินข้าว แต่ไม่คิดมาก่อนเลยว่า ตัวเองจะมาเจอกับฉากนี้
นอกจากนี้เมื่อคืนเขายังแทบไม่ได้นอน เพียงแค่หลับตาลง ก็คาดเดาสถานการณ์ทางนี้ไปเองโดยไม่ได้ตั้งใจ ในใจเขาไม่ไว้ใจคณพศเอาซะเลยจริงๆ หวั่นกลัวว่าเขาจะฉวยโอกาสเอาเปรียบนาราอย่างไร้ยางอาย
แต่ว่า ที่แท้เขาก็กังวลไปอย่างไม่จำเป็น
ฮ่าๆ ความจริงแล้ว พวกเขานั้นคือคู่กันอย่างแท้จริง
ส่วนเขา ก็เป็นแค่บุคคลที่สามที่คิดเข้าข้างตัวเองไปฝ่ายเดียว เป็นผู้แพ้อย่างสมบูรณ์
ภายในห้อง คณพศกำลังปลอบประโลมนาราด้วยเสียงแผ่วเบา ส่วนนอกประตูนั้น เคนโด้กลับกำลังยืนอยู่ด้วยหัวใจที่เจ็บปวด
เป็นเช่นนั้น ความรู้สึกอันร้าวรานแทรกซึมเข้าสู่คนทั้งสาม ในขณะที่พวกเขาเฝ้ารออย่างทรมานในที่สุดยชญ์ก็กลับมา
เมื่อไปยังแววตาคาดหวังของทั้งสาม ยชญ์ก็หลับตาลงอย่างไม่อาจทานทน ส่ายหน้าอย่างไร้หนทาง “รถบรรทุกคันนั้นถูกทิ้งอยู่ในที่รกร้างในสลัม วันนี้พวกเราสอดส่องแทบจะทั่วทั้งฮาวายแล้ว แต่ก็ยังไม่พบเบาะแสอะไรเลย”
“ทำไมเป็นอย่างนี้ไปได้? มิราไม่เคยมาฮาวายมาก่อน ทำไมคนพวกนั้นถึงต้องลักตัวเขาไป?!” นาราเริ่มควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้
คณพศลูบหลังของเธออย่างเอาใจใส่ “อย่าตื่นตระหนกไปเลย มิราต้องไม่เป็นอะไรแน่”
“จะให้ไม่ตื่นตระหนกได้ยังไง?!” นาราผลักคณพศออก “ทั้งหมดเป็นเพราะฉัน เรื่องมันถึงได้กลายเป็นอย่างตอนนี้! ฉันต้องออกไปตามหามิราเอง!”
ว่าดังนั้น นาราก็วิ่งไปทางประตูอย่างทุลักทุเล
เคนโด้รีบตามไปทันที กลัวว่าจะเกิดอะไรไม่คาดคิดขึ้นกับนารา
คณพศกำลังจะสาวเท้าไล่ตามไป ทันดนั้นโทรศัพท์ในมือจะส่งเสียงดังขึ้นซะก่อน
เขาเดินไปรับสายไปด้วย ในสายส่งเสียงที่คุ้นเคยดังออกมา “ฮ่าๆ คณพศ นายกำลังสติแตกตามหาลูกชายนายให้ควั่กเลยใช่ไหมล่ะ? ฮะๆ ฮ่าๆๆ”
คณพศหยุดฝีเท้า เย็นยะเยือกลงอย่างรวดเร็ว “วิษณุส์ นายเหรอ?”
น้ำเสียงหม่นมัวนี้เขาฟังออก คือพี่ชายที่เอาชีวิตเขาไปแล้วครึ่งหนึ่ง
“ถูกต้อง! ฉันเอง! คณพศ นายคงจะไม่เคยคิดฝันมาก่อนล่ะสิ ว่าฉันจะแหกคุกออกมาได้! หึ! นายส่งฉันเข้าไป ทำให้ฉันต้องทุกข์ทรมาน ชาติที่ฉันจะทิ้งชีวิตเดิมไปซะ แล้วจะทำให้นายไม่ได้อยู่เป็นสุขแน่นอน!”
ผู้ที่โทรมานั้นคือวิษณุส์ เขาเอ่ยอย่างโหดเหี้ยม “บอกนายความจริงนาย เจ้าหนูตัวน้อยของนายอยู่ในกำมือฉัน ถ้าฉลาดหน่อยก็ว่าง่ายๆ เอาหนึ่งพันล้านมาที่ ท่าเรือเฉียนวาน อย่าเล่นตุกติดเอาตำรวจมาล่ะ! นายต้องมาคนเดียวเท่านั้น ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ฉันจะฆ่าเจ้าหนูนี่ซะ!”
ว่าจบ วิษณุส์ก็หยุดพูด แล้วในสายก็ดังขึ้นเป็นเสียงของมิรา “แด๊ดดี้ แด๊ดดี้ผมกลัว ผมอยู่ที่…..”
มิรายังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกวิษณุส์ขัดอย่างดุร้าย “เจ้าหนู ยังกล้าบอกอีกเหรอ?! หึ! คณพศ ข้าจะบอกแกให้ แกอย่าได้คิดจะใช้ลูกไม้อะไรทั้งนั้น ฉันมัดระเบิดไว้บนตัวลูกชายของแกเต็มไปหมดแล้ว อย่างมากก็แค่ตายไปพร้อมกับเขา! นับจำนวนเงินให้ดีแล้วค่อยมาจะดีกว่านะ!”
หลังจากวิษณุส์ทิ้งคำเตือนไว้อย่างร้ายกาจ ก็วางสายใส่คณพศไป
เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณตัดสาย ทันใดนั้นคณพศก็เหมือนถูกซัดจมดิ่งลงไปใต้ทะเล เขาได้ยินเสียงมิราเรียก ในใจเจ็บปวดจนอยากจะทำลายโลกนี้ให้สิ้นซาก!
มิราของเขา ชาตินี้ใครก็อย่าหวังจะมาทำร้ายเขาได้! วิษณุส์ ฉันจะทำให้นายต้องตายก็ไม่มีหลุมให้ฝัง!
เขาคิดไม่ถึงเลยสักนิด วิษณุส์ที่ถูกเขาส่งเข้าคุกไปถึงกับแหกคุกออกมาเชียวเหรอ
วิษณุส์จิตใจอำมหิต คุกก็หนีออกมาแล้ว ถ้าทำให้เขาโกรธขึ้นมาจริงๆ ผลที่ตามมาคงจะเหลือประมาณแน่ๆ
คิดไปคิดมา คณพศรู้สึกว่าเพื่อแก้ไขสถานการณ์เฉพาะ คงมีแต่ต้องทำตามคำเตือนของวิษณุส์ไปก่อน
เขาเหลือบมองนาราที่วิ่งหายไปทาประตู แล้วจึงหันมองยชญ์ที่อยู่ในห้อง “เตรียมเงินหนึ่งพันล้านให้ฉันทันที ฉันต้องไปหน้าท่าเรือเฉียนวาน”
“ชายสาม ใครเป็นคนลักพาตัวนายน้อยไปเหรอ?” ถึงยังไงยชญ์ก็เป็นคนที่คุ้นเคยกับอุปสรรคมากมาย จึงปะติดปะต่อเรื่องได้อย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่ามิราจะถูกลักพาตัวไปอย่างไม่ต้องสงสัย
ดวงตาของคณพศวาบประกายกระหายเลือด เค้นเสียงลอดไรฟัน “วิษณุส์!”
“ว่าไงนะ? ไม่ใช่ว่าเขาเข้าคุกไปแล้วหรอกเหรอ? มันจะเป็นไปได้ยังไง?!” ยชญ์ส่งเสียงออกมาอย่างตื่นตลึง “หรือว่าเขาหนีออกมาแล้ว?”
คณพศพยักหน้า “ไม่ผิดหรอก เดาว่าเราคงถูกเขาจับตามองมานานแล้วล่ะ เพราะความประมาทของพวกเรา คิดว่าเขาคงจะปลอมตัวเป็นพนักงานทำความสะอาด จากนั้นก็ลักพาตัวมิราที่ร้านอาหาร ตอนนี้เขาต้องการเงินหนึ่งพันล้าน ให้ฉันเอาไปให้ด้วยตัวคนเดียว”
ยชญ์แสดงความคัดค้านทันที “ชายสาม นายห้ามไปคนเดียวเด็ดขาด วิษณุส์แค้นนายขนาดนั้น ถ้าเจอนายเข้า เขาจะต้องอยากฆ่านายไปด้วยแน่ ถึงเวลามันจะไม่ยิ่งอันตรายเหรอ!?”
คณพศส่ายหน้าอย่างยืนกราน “ตอนนี้หมอนั่นเป็นหมาจนตรอกแล้ว ถ้าหากไม่ทำตามที่เขาพูด มิราจะตกอยู่ในอันตราย ฉันจะให้เกิดอะไรขึ้นกับมิราไม่ได้แบบนั้นนาราจะรับไหวได้ยังไง!”
คณพศสั่งยชญ์ด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก “เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องบอกเมียฉัน ถ้ากลับมาไม่ได้จริงๆ งั้นก็ให้ ก็ขอร้องให้เคนโด้ดูแลเธอด้วย! จำไว้นะ พวกนายตามมาด้วยไม่ได้เด็ดขาด เพื่อไม่ให้กระตุ้นวิษณุส์!”
“แต่ว่าชายสาม นายรู้ดีนี่ว่านี่เป็นเรื่องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย!” ยชญ์เหงื่อซึมอย่างหวั่นวิตก ฉันจะพาพวกคนอื่นๆ แอบตามไปด้วย คนมากก็ย่อมดี นายห้ามติดกับดักของวิษณุส์อย่างเด็ดขาดนะ!”
ทันใดนั้นคณพศก็ยิ้มออกมา “ยชญ์ เราเป็นพี่น้องกันมาตั้งหลายปี นายมองวิธีการของวิษณุส์ไว้สูง แล้วดูถูกระดับของฉันรึไง? วางใจได้ ฉันจะพามิรากลับมาโดยไร้รอยขีดข่วนได้แน่นอน! เพียงแต่ ในระหว่างนี้ อย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกนารา เพื่อไม่ให้เธอต้องแตกสลาย”
“แต่ว่า…” ยชญ์ที่ยังคงคิดจะเกลี้ยกล่อมคณพศ ถูกเขายกมือขึ้นขัดจังหวะ “ไม่ต้องพูดแล้วล่ะ ฉันตัดสินใจไว้แล้ว เรื่องหลังจากนี้ก็รบกวนนายด้วยนะ”
ว่าดังนั้น คณพศก็หมุนตัวเดินออกไป “จากนี้สิบนาที เปิดบัญชีหนึ่งพันล้านที่สวิสเซอร์แลนด์ แล้วส่งข้อความมาให้ฉัน”