ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1873 : ความตะลึงของซีหยุน

ตอนที่ 1873 : ความตะลึงของซีหยุน
  “ งั้นก็ต้องรบกวนเจ้าด้วย” จางหยูพูดด้วยรอยยิ้ม
ต้าฮวงรีบส่ายหน้า “ ไม่ได้รบกวนอะไรเลย ไม่มีปัญหาใดๆ” สักพักต้าฮวงก็พูดขึ้นต่อ “ ผู้อาวุโสเพิ่งตั้งทีมขึ้นมา บางทีพวกท่านอาจจะไม่รู้บางอย่างเกี่ยวกับภารกิจ อันที่จริงแล้วทุกทีมที่รับภารกิจไป ระหว่างที่รับภารกิจจะเดินทางได้ฟรีในโกลาหลซื่อเซียว ไม่ว่าจะเป็นที่เมืองรึหมู่บ้านไหน หรือแม้แต่เขตใหญ่ทั้งสาม ท่านแค่ไปหาผู้ดูแลแต่ละเขตแล้วบอกความต้องการได้เลย”
จางหยูแปลกใจ “ ฟรีรึ ? เจ้าไม่กลัวว่าจะมีบางทีมไปทำเรื่องอื่นโดยอ้างภารกิจรึ ?”
“ แม้ว่าบางทีมจะทำเช่นนั้นแต่มันก็ยังอยู่ในกฎ ไม่มีใครใส่ใจอะไร” ต้าฮวงพูดขึ้น
กฎนี้ทำให้ผู้คนอยากตั้งทีมขึ้นมามากกว่าเดิมและรับการว่าจ้างจากกองทัพทั้งสาม
ยิ่งมีทีมมากเท่าไหร่ก็ยิ่งลดแรงกดดันให้กับกองทัพทั้งสามมากเท่านั้น
เอาจริงๆแล้วนี่คือประโยชน์ที่กองทัพทั้งสามให้กับทีมต่างๆ ดังนั้นเพื่อทีมจะได้รับสิทธิพิเศษเรื่องนี้ พวกเขาจึงต้องรับภารกิจ
“ งั้นรึ ” จางหยูพบว่าการตั้งทีมขึ้นมาคือตัวเลือกที่ถูกต้องแล้ว พวกเขาเดินทางกันได้โดยไม่ต้องแลกอะไร และยังได้รับความสะดวกอื่นๆอีก อีกทั้งยังได้ลูกปัดกลับมาเป็นจำนวนมาก บอกได้ว่ามันเหมาะสำหรับสำนักคังเฉียงอย่างมาก
ผ่านไปสักพักตรงหน้าต้าฮวงก็มีวังวนแสงปรากฏขึ้นมา
จางหยูและคนอื่นๆได้เข้าไปในวังวนนั้น ไม่กี่อึดใจต่อมาวังวนนั้นก็หายไป พร้อมกับคนของสำนักคังเฉียง

ที่หมู่บ้านฉิงเหยียน
เมื่อมาที่หมู่บ้านฉิงเหยียนเป็นครั้งที่สอง จางหยูและคนอื่นๆก็คุ้นกับเส้นทางเป็นอย่างดี พวกเขาสามารถเดินทางไปที่สำนักงานได้อย่างง่ายดาย
ทหารกองทัพเทียนลั่วสองคนเห็นจางหยูและคนอื่นๆ สวมตราระดับราชาก็พากันหลีกทางให้ทันที
จำนวนคนในทีมคังเฉียงนั้นมีจำนวนมาก เมื่อเข้ามาในสำนักงานก็ทำให้ซีหยุนรู้ตัวทันที เขารีบเดินออกมาต้อนรับพวกนี้ทันที “ ท่านเจ้าสำนัก ยินดีด้วยที่ได้กลับมาอย่างปลอดภัย”
ตั้งแต่ตอนที่จางหยูรับภารกิจสนับสนุนและจากไป เขาก็จับตาดูตลอด ผ่านมาไม่นานเขาก็เห็นว่าภารกิจนี้ถูกรับรองโดยต้าฮวง มันสำเร็จอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งทำให้เขาเคารพทีมคังเฉียงมากกว่าเดิม
ต้องรู้ก่อนว่าภารกิจสนับสนุนเช่นนี้ จางหยูไม่จำเป็นต้องลงมือเองเลย แค่สมาชิกคนอื่นก็จัดการเผ่าสวรรค์ที่บุกเข้ามาได้หมดแล้ว สถิติที่น่ากลัวแบบนี้ใครกันจะกล้ามองข้าม ?
“ เจ้านี่รอบรู้จริงๆ” จางหยูพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
“ ข้อมูลภารกิจนั้นเราสามกองทัพจะตรวจสอบอยู่เสมอ ข้าเห็นข้อมูลมาแล้ว ผลงานของทีมคังเฉียงนั้นโดดเด่นอย่างมาก ” ซีหยุนเอ่ยชมออกมา เขาแสดงท่าทีเคารพอย่างมาก “ ท่านเจ้าสำนักโปรดรอสักครู่ ข้าจะไปจัดการเรื่องค่าตอบแทนให้กับท่าน ”
จางหยูพยักหน้าตอบรับก่อนจะพาคนอื่นๆไปที่ห้องโถง
แต่เดินออกมาได้ไม่กี่ก้าว จางหยูก็พูดขึ้นว่า “ จริงสิ ยังมีอีกภารกิจ เจ้าช่วยจัดการเรื่องค่าตอบแทนให้ด้วย “
ซีหยุนแปลกใจ “ เจ้าสำนักรับอีกภารกิจรึ ?”
เขาสนใจแค่ภารกิจสนับสนุน แต่ไม่รู้เลยว่าจางหยูกลับรับภารกิจอื่น มันโทษเขาไม่ได้ ยังไงซะกองทัพทั้งสามก็ตั้งภารกิจขึ้นมามากมาย มันมีจำนวนมหาศาล นอกจากภารกิจเร่งด่วนแล้ว เขาไม่อาจจะตรวจสอบภารกิจทั้งหมดได้ แม้ว่าเขาอยากจะทำแต่ก็อาจจะต้องใช้เวลานาน
บ่อยครั้งที่มีหลายภารกิจที่เขาไม่ใส่ใจ แต่ทีมอื่นรับไปแล้วทำมันสำเร็จ
“ ใช่ มันมีภารกิจรบอยู่ เจ้าคงรู้สินะ ? ” จางหยูพูดขึ้น
ภารกิจนี้ตั้งขึ้นมาหลายปีแล้ว มีทีมที่ไม่กลัวตายหลายทีมรับมันไปแต่แทบไม่มีใครรอดกลับมาได้ แต่การที่กลับมาได้มากกว่าครึ่งนี้ถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่ดีแล้ว ภารกิจนี้คือภารกิจที่ทุกทีมไม่กล้าจะแตะต้อง เพราะมันหมายถึงอันตรายอย่างมาก !
เขาไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจางหยูจะรับภารกิจนี้ไป
จางหยูพยักหน้าและยิ้ม “ ใช่ ภารกิจนั้นแหละ แต่โชคร้ายที่เราฆ่าได้แต่พวกทหาร เราสร้างความวุ่นวายให้กับกองทัพเผ่าสวรรค์และสร้างความเสียหายแค่เล็กน้อย เราไม่อาจจะทวงคืนพื้นที่กลับมาได้ ”
มุมปากของซีหยุนกระตุก ในมุมมองของเขาแล้วการที่ทีมคังเฉียงรอดกลับมาได้ก็ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์แล้ว ทีมคังเฉียงไม่ใช่แค่ชนะกลับมา เมื่อได้ยินคำพูดของจางหยูแล้ว มันดูเหมือนกับว่าพวกเขาได้ฆ่าทหารสวรรค์ไปจำนวนมาก สถิติแบบนี้นั้น เดาว่าทีมเทพปิศาจก็ต้องเงยหน้ามอง
ตอนนั้นเองความเคารพที่ซีหยุนมีต่อจางหยูและทีมคังเฉียงก็เพิ่มขึ้นหลายเท่า
“ มิทราบว่ามีบันทึกอะไรรึไม่ ?” ซีหยุนถามขึ้นมา “ ไม่ใช่ว่าข้าไม่เชื่อเจ้าสำนัก แต่ภารกิจนี้ค่อนข้างพิเศษ มันต้องมีบันทึกยืนยันเพื่อที่จะได้จัดการกับค่าตอบแทนถูก ”
จางหยูเดาเรื่องนี้ออกนานแล้ว เขาไม่ได้แปลกใจ เขาได้ให้ทีมคังเฉียงบันทึกภาพเอาไว้ หยวนเทียนจีและคนอื่นๆก้าวออกมาและส่งหินบันทึกภากให้กับซีหยุนกว่าสองพันก้อน แต่ละอันมีภาพในการต่อสู้บันทึกเอาไว้ รวมถึงกระบวนการในการต่อสู้ของพวกเขา
ซีหยุนรับหินนั้นไปและตรวจสอบดูทีละอันๆ
ขั้นแรกคือต้องตรวจสอบหินเหล่านั้นว่ามีปัญหารึไม่ เพื่อให้มั่นใจว่าภาพนื้คือภาพจริง จากนั้นก็ตรวจสอบรายละเอียดในหินต่างๆ
เมื่อซีหยุนดูภาพแรก ซีหยุนก็ต้องตัวสั่น ตาของเขาเบิกกว้างขึ้นทันที “ นี่…..ค่ายทหารเผ่าสวรรค์?”
เขาคิดว่าแม้ทีมคังเฉียงจะเข้าไปยังดินแดนเผ่าสวรรค์ แต่อย่างมากก็เข้าไปแค่ชายแดนและฆ่าทหารที่นั่น จากนั้นก็ค่อยถอยกลับมาแต่ภาพที่บันทึกมานี้ไม่ใช่แบบนั้นเลย
ทีมคังเฉียงเดินหน้าฆ่าฟันเผ่าสวรรค์ หากดูตามแผนที่แล้วพวกเขาได้ทำลายค่ายทหารของพวกนั้นไปหลายแห่งและฆ่าทหารเผ่าสวรรค์ไปจำนวนมาก !
นี่คือกองทัพเผ่าสวรรค์!
“ บ้าไปแล้ว !” หากไม่มีบันทึกนี้ ซีหยุนคงไม่เชื่อว่าจะมีทีมไหนบุกเข้าไปถึงค่ายทหารของกองทัพสวรรค์แบบนี้ได้ ทีมคังเฉียงได้ฆ่าฟันพวกนั้นและเดินทางไปมาได้อย่างอิสระ ราวกับผู้ใหญ่รังแกเด็ก พลังอันน่ากลัวที่พวกเขาแสดงออกมานั้นทหารเผ่าสวรรค์ไม่อาจจะต้านทานได้เลย จากภาพนี้ก็เห็นความแตกต่างด้านพลังได้อย่างง่ายดาย
ครึ่งนาทีต่อมา ซีหยุนก็ได้สติกลับมา เขากลืนน้ำลายและแอบมองไปที่ทีมคังเฉียงอย่างเกรงกลัว
กลุ่มคนที่ดูไร้พิษภัยเหล่านี้แต่เมื่อสู้กับกองทัพสวรรค์แล้ว พวกเขาก็ราวกับปีศาจ ทุกคนฆ่าทหารสวรรค์ไปไม่น้อยกว่า 20 คน เดาว่าพวกเขาคงฆ่าทหารเทียนไปมากกว่า 4-5 หมื่นคนรึอาจะมากกว่านั้น !
“ มีเรื่องอะไรรึ ” หยวนเทียนจีเห็นท่าทีของซีหยุนจึงรู้สึกสงสัยและถามขึ้นมา “ หินพวกนี้มีปัญหารึ ?”
ซีหยุนหวนนึกถึงภาพที่เห็นขณะมองไปที่ชายตรงหน้า ชายคนนี้ราวกับเทพสงคราม เขาได้ฆ่าทหารเผ่าสวรรค์ไปจำนวนมาก ความสามารถของชายคนนี้ แม้ว่าจะไม่ได้แกร่งที่สุดแต่ก็น่าจะอยู่ระดับแนวหน้า
หากก่อนหน้านี้ซีหยุนเคารพทีมคังเฉียง แต่หลังจากที่เห็นภาพในหินแล้วตอนนี้เขากลับเริ่มกลัวทีมคังเฉียงขึ้นมา ในประวัติศาสตร์โกลาหลซื่อเซียวแล้ว ไม่มีใครกล้าฆ่าทหารสวรรค์ถึงค่ายเช่นนี้ แต่ทีมคังเฉียงนั้นกล้า ไม่ใช่แค่กล้าเท่านั้นแต่ยังทำสำเร็จด้วย !
แม้ว่าหยวนเทียนจีจะแสดงท่าทีเป็นมิตร แต่ก็ยังทำให้ซีหยุนขาสั่นได้อยู่ดี
“ ไม่ ไม่มีปัญหาอันใด ” ซีหยุนพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเอง เขาใจเย็นขึ้น แต่เสียงก็ยังสั่นเหมือนเดิม
หยวนเทียนจีประหลาดใจ เขาสับสนว่าทำไมซีหยุนถึงได้ตัวสั่นเช่นนี้ได้
แต่เมื่อซีหยุนบอกว่าไม่มีปัญหา เขาก็ไม่คิดจะถามและพูดว่า “ หากเช่นนั้นรบกวนท่านจัดการเรื่องค่าตอบแทนด้วย ข้ายังต้องรีบกลับไปบ่มเพาะต่อ ”
การต่อสู้กับผู้บัญชาการใหญ่นั้นทำให้ทีมคังเฉียงรู้จุดอ่อนของตัวเอง ความฮึกเหิมที่มีได้หายไปจากใจของพวกเขา
ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า  ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร
มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ
      ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์
หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”
     เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ
ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้
    ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท