The king of War – บทที่ 154 ถือว่าแกดวงซวย

บทที่ 154 ถือว่าแกดวงซวย

หยางเฉินขมวดคิ้วแล้ว ฉินซีไม่ได้บอกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นผู้หญิงของตระกูลจางเหรอ?

ทำไมถึงไปที่ตระกูลสงได้?

“คุณหยางครับ นี่คือหวงอู่ลูกน้องของผม ผมให้เขาตามคุณไปด้วยดีไหมครับ?” หวังเฉียงสอบถามอย่างระมัดระวัง

หยางเฉินหน้าตาเย็นเฉียบ “ตามฉันไปตระกูลสง!”

ได้ยินคำพูดของหยางเฉิน ในใจหวงอู่ตื่นตระหนก ตระกูลสงนั่นเป็นตระกูลชั้นหนึ่งของเมืองเจียงโจว ตำแหน่งเป็นรองเพียงแค่สี่พรรคแห่งเมืองเจียงโจวเท่านั้น คาดไม่ถึงหยางเฉินจะพาเขาไปที่ตระกูลสง นี่ไม่ใช่ไปหาที่ตายถึงที่เหรอ?

เห็นหวงอู่ตกตะลึงไป หวังเฉียงจึงตบไปบนศีรษะของเขาทีหนึ่ง ก่อนจะตวาดใส่ “คุณหยางให้แกตามเขาไปตระกูลสง แกแม่งยังตะลึงทำอะไรอยู่?”

หวงอู่มองหยางเฉินที่ก้าวเท้าออกไปแบบระมัดระวัง พูดด้วยท่าทางเป็นกังวล “พี่เฉียง ที่ผมหมายถึงคือตระกูลชั้นหนึ่งของเมืองเจียงโจว ตระกูลสงนะ”

“ฉันรู้ว่าเป็นตระกูลสงนั้นแน่นอนอยู่แล้ว ขืนพูดไร้สาระอีก ก็ไสหัวไปไกลๆ เลย!”

หวังเฉียงกัดฟันแน่น ถ้าไม่ใช่หยางเฉินสั่งให้เขาคุ้มครองฉินซีด้วยตนเอง เขาคงไปที่ตระกูลสงกับหยางเฉินเองแล้ว

จนถึงวินาทีนี้ หวงอู่ถึงสำนึกได้ ชายหนุ่มคนนั้นไม่ธรรมดา ไม่อย่างนั้นหวังเฉียงคงไม่ให้เขาติดตามไปด้วย ทั้งๆ ที่รู้ว่าอยู่ภายใต้สถานการณ์ต้องไปตระกูลสง

“พี่เฉียง ผมเข้าใจแล้วครับ!”

ในสายตาของหวงอู่เต็มไปด้วยความฮึกเหิม เขารู้ว่านี่คือโอกาสอย่างหนึ่งของเขา

“รีบไสหัวไปสิ! คำสั่งของคุณหยางคือคำสั่งของฉัน ไม่สิ คำสั่งของคุณหยาง แกต้องเห็นเป็นราชโองการ ถึงแม้ให้แกไปตาย แกก็ลังเลไม่ได้แม้แต่น้อย นี่คือโอกาสของแก เข้าใจมั้ย?”

หวังเฉียงกัดฟันพูด ถ้าไม่ใช่เวลาที่กระชั้นชิด เขาจะไม่ยอมให้หวงอู่รับรู้ความเก่งกาจของหยางเฉินเป็นแน่

“พี่เฉียงวางใจได้ ผมไม่ทำให้พี่ผิดหวังแน่นอน!”

หวงอู่พูดจบ รีบวิ่งตามหยางเฉินไปทันที

หวังเฉียงมองภาพด้านหลังของหยางเฉินอยู่ บ่นพึมพำเสียงต่ำ “หลังผ่านวันนี้ไป เกรงว่าเมืองเจียงโจวคงไม่มีตระกูลสงอีก กล้าล่วงเกินคุณหยาง ถือว่าพวกนายดวงซวยจริง!”

คฤหาสน์ตระกูลสง

โฟล์กเภาตันสีดำคันหนึ่งจอดอยู่หน้าประตู ตามมาด้วยอาวดี้a6สีดำอีกหลายคันก็จอดอยู่หน้าประตู

“พี่หวง เมื่อกี้ผมมองเห็นสองคนนั้นพาผู้หญิงคนนั้นเข้าไปในตระกูลสง ผมกลัวเจอเข้า เลยไม่ได้ตามเข้าไป”

หวงอู่เพิ่งลงจากรถ หนุ่มอันธพาลคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามาหา

หวงอู่พยักหน้าเล็กน้อย สายตามองไปยังหยางเฉิน เวลานี้ในใจเขาแอบมีความรู้สึกอารมณ์เลือดร้อน

หลังจากหวังเฉียงขึ้นมามีอำนาจ สถานะของตนย่อมพลอยได้ดีไปด้วย สามารถเทียบได้กับผู้นำตระกูลชั้นหนึ่ง แต่พออยู่ต่อหน้าหยางเฉินกลับยังคงตอบรับด้วยความระวัง ปัจจุบันนี้มาที่ตระกูลสงตระกูลชั้นนำด้วย ดูท่าทางอยากบุกเข้าไปโดยพลการ

“คุณหยางครับ ผมพาลูกน้องมาด้วยสิบคน ไม่อย่างนั้นผมส่งคนแอบหลบเข้าไปก่อนดีหรือเปล่าครับ?” หวงอู่ถามอย่างระมัดระวัง

หยางเฉินหน้าตาไร้ความรู้สึก เงยหน้ามองป้ายใหญ่ติดประตูด้านบนอักษรทองเขียนว่า‘บ้านสง’แวบหนึ่ง ในสายตามีแสงคมกริบแวบผ่าน

“ป้ายอันนี้ ฉันไม่ชอบมากๆ!”

หยางเฉินพูดประโยคนี้ออกมากะทันหัน หวงอู่และบรรดาลูกน้องต่างหน้าตามึนงง ไม่เข้าใจหยางเฉินหมายความว่าอะไร

ตอนที่หวงอู่กำลังขบคิดคำพูดประโยคนี้ของหยางเฉิน ทันใดนั้นหยางเฉินงอนิ้วดีดไปยังป้ายทีหนึ่ง

“ปึง!”

เสียงดังขึ้นทีหนึ่ง ชั่วขณะนั้นป้ายใหญ่อักษรทองนั้นหล่นลง ตกอยู่บนพื้น ก่อนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ

เวลานี้หวงอู่และคนอื่นๆ ตกตะลึงกันหมด ลูกน้องที่เขาพามาเหล่านั้นยิ่งตกใจกลัวกันสุดๆ โดยเฉพาะที่นี่คือตระกูลสง เดิมทียังคิดว่าที่หวงอู่พาพวกเขามาคือการเจรจากัน แต่หยางเฉินกลับหักป้ายติดประตูของตระกูลสงไปโดยตรง

นี่สำหรับตระกูลใดๆ ก็ตามแต่ ล้วนเป็นการยั่วยุที่ยิ่งใหญ่

ประเด็นคือสรุปเขาทำได้อย่างไรกัน?

ต่อให้ยิงปืนนัดหนึ่งไปยังป้ายติดประตู ก็ไม่อาจทำให้มันหล่นลงมาได้มั้ง?

“เชี้ย พี่หวง เจ้าโง่นี้อยากหาเหาใส่หัวให้พวกเราเหรอ?”

“ใช่ แม้แต่ป้ายของตระกูลสงยังกล้าทำลาย

“ผมเคยได้ยินว่าป้ายอันนี้แขวนมาเป็นร้อยปีแล้วนะ”

……

ลูกน้องเหล่านั้นของหวงอู่ เวลานี้ต่างหน้าตาตกใจกลัว

ตำแหน่งในปัจจุบันของหวังเฉียง ถึงแม้สามารถเทียบได้กับผู้นำของตระกูลชั้นนำ แต่พวกเขาเป็นเพียงคนตัวเล็กๆ ชั้นล่างสุด กล้าลงมือกับป้ายของตระกูลชั้นนำได้อย่างไรกันล่ะ?

“แม่งหุบปากไปให้หมดเลย! ใครกล้าพูดอีกสักคำเดียว ฉันฆ่ามันตายแน่!”

ในขณะนั้นหวงอู่โมโหเดือดดาล หวังเฉียงมอบหมายให้เขามาแล้ว ต่อให้หยางเฉินอยากให้เขาตาย เขาก็ไม่สามารถลังเลอันใดได้เลย

บางทีคนอื่นอาจมองไม่เห็น แต่หวงอู่กลับมองเห็นได้แจ่มชัด เมื่อสักครู่หยางเฉินเพียงแค่หยิบหินก้อนเล็กก้อนหนึ่ง จากนั้นงอนิ้วดีดไป ก็ทำป้ายแตกได้

ก้อนหินเล็กๆ ก้อนหนึ่ง พออยู่ในมือของหยางเฉินกลับเป็นเหมือนลูกกระสุน แค่คิดก็รู้ว่าความสามารถของหยางเฉินแกร่งมากแค่ไหน

หยางเฉินไม่มองหวงอู่และคนอื่นเลย เพียงแค่พูดจาเย็นชา “หวงอู่มากับฉัน คนอื่นไสหัวออกไปให้หมด!”

ชั่วขณะนั้นหวงอู่ดีใจ รีบตะโกนบอกเหล่าลูกน้องที่ด้านหลัง “แม่งไสหัวไปไกลๆ ให้หมดเลย! ต่อไป พวกแกอย่าออกมาให้ฉันเห็นหน้าอีก!”

ทิ้งท้ายด้วยประโยคนี้ หวงอู่รีบตามหยางเฉินเข้าไปในตระกูลสงด้วยกันทันที

“แก แกเป็นใครกัน? ถึงกล้ามาทำลายป้ายของตระกูลสง!”

เวลานี้ การ์ดสองคนที่หน้าประตูได้ยินเสียงก็พุ่งออกมาแล้ว ตอนที่พวกเขามองเห็นป้ายหล่นแตกเป็นเสี่ยงๆ หน้าตกใจกลัวเต็มที่ เสียงสั่นเครือไปหมด

“แม่งเอ๊ย!”

ไม่รอหยางเฉินเอ่ยปาก หวงอู่ใช้มือเปล่า พุ่งเข้าไปหาการ์ดเฝ้าประตูคนหนึ่ง

อาจเพราะเป็นเวลาทำงานช่วงกลางวัน ในตระกูลสงที่กว้างใหญ่จึงมีคนไม่มากนัก

หน้าประตูมีเพียงการ์ดแค่สองคน เห็นหวงอู่ลงมือ อีกคนหนึ่งตกใจหน้าเปลี่ยนสี รีบหยิบนกหวีดออกมาจะเป่า

“ป้าบ!”

แต่ในเวลานี้เอง หยางเฉินขยับทันใด คว้าที่คอของการ์ดคนนั้นเอาไว้ ใช้แรงนิดหน่อย ร่างกายของการ์ดคนนั้น คาดไม่ถึงถูกยกขึ้นมาด้วยมือข้างเดียว ในดวงตาเต็มไปด้วยความตกใจกลัว

“ยี่สิบนาทีก่อนหน้านี้ มีบอดี้การ์ดสองคนกับผู้หญิงคนหนึ่งมาที่ตระกูลสง ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน?” หยางเฉินถามอย่างเย็นชา

เพิ่งพูดจบ หยางเฉินก็ปล่อยมือ ร่างกายของการ์ดคนนั้นอ่อนยวบล้มลงที่พื้น หายใจหอบรุนแรง เมื่อสักครู่เขามีความรู้สึกใกล้จะตายแล้ว

หวงอู่ที่ด้านข้าง ถือโอกาสแย่งกระบองของการ์ดอีกคนมา ตีไปสองสามทีจนการ์ดคนนั้นสลบนิ่งไปแล้ว

จากนั้นมองหยางเฉินอีกที คาดไม่ถึงปราบการ์ดคนหนึ่งได้อยู่หมัด เวลานี้ใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียบหน้าอกของการ์ดคนนั้นอยู่

“เขา พวกเขาไปหาเจ้าบ้านสงแล้ว!”

การ์ดคนที่โดนหยางเฉินเหยียบไว้ใต้เท้ารู้สึกถึงแรงกดดันที่มาจากหน้าอก ยังกล้าปิดบังอีกที่ไหนกัน

“คฤหาสน์หลังไหน?” หยางเฉินถามอีก

“ทางนั้น ตรงกลางสุด หลังนั้นที่เหมือนกับคฤหาสน์หลังอื่น” การ์ดบอกพร้อมยื่นมือชี้ไปยังคฤหาสน์หลังหนึ่งไม่ไกลออกไปนัก

“ตึง!”

หยางเฉินถือโอกาสถีบออกไปทีหนึ่ง การ์ดสลบลงไปทันที

หวงอู่มองเห็นการกระทำของหยางเฉินที่ว่องไวเช่นนี้ ไม่กล้าหายใจแรงเลยทีเดียว ในใจมีเพียงความตื่นตกใจและตื่นเต้น

ที่ตื่นตกใจคือความสามารถของหยางเฉินแกร่งมาก ตื่นเต้นคือเขาวิ่งมาก่อเรื่องวุ่นที่ตระกูลสงแล้ว ขอเพียงออกไปได้ เรื่องนี้เพียงพอให้เขาโอ้อวดไปทั้งชาติ

แต่เขาเข้าใจความหมายของหวังเฉียง ส่งเขามา เป็นเพราะให้เขาและหยางเฉินสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

เวลานี้ เขาตามติดด้านหลังของหยางเฉินด้วยความระมัดระวัง ตรงไปยังคฤหาสน์ตรงกลางหลังนั้น

“พวกแกเป็นใครกัน?”

หยางเฉินและหวงอู่เพิ่งเดินมาถึงด้านหน้าประตูคฤหาสน์ตรงกลาง บอดี้การ์ดสองคนที่สวมชุดสูทรีบเข้ามาทันที ตะโกนใส่ด้วยหน้าตาโหดเหี้ยม

The king of War

The king of War

Status: Ongoing

ห้าปีก่อน หยางเฉินเพื่อให้ตัวเองคู่ควรกับฉินซี เขาจากไปโดยไม่ร่ำลา ห้าปีต่อมา เขาพกความสามารถอันน่าทึ่ง กลับมาอย่างรุ่งโรจน์ เพียงแต่ว่าพอมาถึง กลับพบว่าตนมีลูกสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท