ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1896 : ฟื้นคืนสติ

ตอนที่ 1896 : ฟื้นคืนสติ

  ตอนที่ลั่วเกาตามสือฉีไปยังค่ายทหารเทียนลั่วของหมู่บ้านเสี่ยวอัน เขาก็พบว่าบรรยากาศนั้นอึมครึมอย่างมาก

  สมาชิกกองทัพเทียนลั่วต่างก็แสดงสีหน้ากังวลกับอาการของกวน

    หัวหน้าพวกเจ้าอยู่ไหน ?  ลั่วเกาถามกับทหารคนอื่นๆ

  ทหารเทียนลั่วคนหนึ่งได้ชี้ไปที่ตึกหลังหนึ่งแล้วพูดขึ้น   หัวหน้าอยู่ด้านใน 

    เขาเป็นยังไงบ้าง ?  ลั่วเกาถามขึ้นมา

    หัวหน้ายังอาการไม่สู้ดีนัก เขาอ่อนแออย่างมาก อาจจะตายตอนไหนก็ได้  ทหารคนหนึ่งตอบกลับ   พลังโกลาหลและจิตของเขาเกือบจะดับลงแล้ว 

  หากยังเหลือพลังโกลาหลและจิตอยู่บ้าง งั้นก็อาจจะฟื้นฟูตัวเองขึ้นมาได้

  แต่หากพลังโกลาหลและจิตดับลง งั้นโอกาสที่จิตสำนึกจะดับสูญก็มากขึ้นไปด้วย

  ลั่วเกาสีหน้าหม่นลงและถามขึ้นมา  เกิดอะไรขึ้น? 

  ทหารเทียนลั่วส่ายหน้าและพูดขึ้น   เราเองก็ไม่รู้ เรารู้แค่ว่าหัวหน้าได้พาทีมคังเฉียงไปยังหมู่บ้านฉิงเหยียนเพื่อทดสอบความแข็งแกร่ง จากนั้นคนของทีมคังเฉียงก็กลับมา แต่หัวหน้าไม่ได้กลับมาด้วย เราคิดว่าหัวหน้าคงไปทำธุระบางอย่าง จึงไม่ได้สนใจอะไรมาก ไม่คิดเลยว่าเราจะได้รับข่าวจากหัวหน้าหน่วยอีกคนว่าหัวหน้าบาดเจ็บหนัก 

  เหล่าทหารต่างก็ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น  ตอนที่เราพบเขา หัวหน้าก็อยู่ในสภาพนี้แล้ว 

    แล้วพวกนั้นว่ายังไงบ้าง ?   ลั่วเกาถามขึ้นมา

    หัวหน้าหน่วยที่นั่นบอกเราว่า พวกเขากำลังลาดตระเวนที่หมู่บ้านหย่งเล่อและพบกับหัวหน้าที่หมดสติอยู่ที่นั่น หลังจากที่ถามแล้วรู้ว่าเขาคือหัวหน้าหน่วยของหมู่บ้านเสี่ยวอันจากนั้นก็ให้คนมาส่งที่นี่   ทหารคนหนึ่งพูดขึ้นมา   สำหรับคนที่ทำร้ายหัวหน้านั้นและทำไมหัวหน้าถึงได้อยู่ในสภาพนี้ พวกนั้นก็ไม่รู้เช่นกัน  

  ลั่วเกาสีหน้าหม่นลง   กล้าทำร้ายคนกองทัพเทียนลั่ว อีกฝ่ายกล้าดีจริงๆ ! เจ้ารายงานเรื่องนี้รึยัง ? 

  เหล่าทหารพยักหน้า   เรารายงานเรื่องนี้แล้ว ผู้บัญชาการซีหยุนได้ติดต่อไปยังกองทัพสังเกตการณ์ และส่งคนไปตรวจสอบที่หมู่บ้านหย่งเล่อ 

  เรื่องนี้กองทัพสังเกตการณ์ต้องรับผิดชอบ พวกนั้นเชี่ยวชาญกับเรื่องแบบนี้มากกว่า

  แน่นอนว่าซีหยุนเลือกที่จะส่งคนของตัวเองไปตรวจสอบรึตรวจสอบด้วยตัวเองได้ แต่ประสิทธิภาพจะด้อยกว่าเมื่อเทียบกับคนของกองทัพสังเกตการณ์

    ผู้บัญชาการซีหยุนใส่ใจกับเรื่องนี้และกำลังเดินทางมา   ทหารอีกคนพูดขึ้น   เขาน่าจะมาถึงในไม่ช้า    ในฐานะหัวหน้าของกวนแล้ว เมื่อกวนบาดเจ็บ ซีหยุนก็เสียหน้าไปด้วย

  ถึงจะเพื่อตัวเขาเองแต่เขาก็ต้องหาต้นเหตุของเรื่องนี้

  ยิ่งไปกว่านั้นกวนก็เป็นหัวหน้าหน่วยที่สร้างผลงานได้ดี จนได้รับความสนใจจากซีหยุน

  ลั่วเกาพยักหน้าและเดินตรงเข้าไปในตึก ตึกนี้เล็กราวกับกระท่อม ด้านในมีแค่เตียงกับโต๊ะ เมื่อลั่วเกาเดินเข้าไปก็พบกวนที่นอนหมดสติอยู่บนเตียง

  เกราะของกวนเต็มไปด้วยรู ร่างกายส่วนบนเต็มไปด้วยบาดแผลจนย้อมเกราะเป็นสีแดง ราวกับเพิ่งขึ้นมาจากบ่อเลือด สภาพของเขาดูน่าอนาถอย่างมาก

    แก่นของเขาแทบจะพัง ต้องมีความแค้นแบบไหนกัน อีกฝ่ายถึงได้ลงมือหนักเช่นนี้ ?  ลั่วเกาขมวดคิ้ว   เมื่ออีกฝ่ายโจมตีกวน จนหมดสติได้ แล้วทำไมถึงไม่ฆ่ากวน  แม้ว่าสภาพของกวนในตอนนี้จะไม่ต่างจากคนตายแต่ก็ยังมีหวังที่จะรอด ตราบใดที่ยอมใช้บางอย่างที่มีค่า

  เมื่อเห็นสภาพกวน ลั่วเกาก็หดหู่อย่างมาก เขาอยากจะช่วยแต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรได้

  เขาเป็นแค่ผู้ดูแลหมู่บ้าน ไม่ได้มีสมบัติที่มีค่าอะไรเช่นนั้น

  ตอนนั้นเองก็มีเสียงหนึ่งตะโกนขึ้น   คำนับผู้บัญชาการ ! 

  ลั่วเการีบมองออกไปนอกประตูก็พบกับชายคนหนึ่งเดินเข้ามา

    ผู้บัญชาการซีหยุน !  ลั่วเกาไม่กล้ารอช้าและทำความเคารพทันที

  ซีหยุนมองไปที่ลั่วเกาก่อนจะพยักหน้าตอบรับ จากนั้นเขาก็หันไปหากวน เมื่อเห็นสภาพของกวน ซีหยุนก็อดไม่ได้ที่จะย่นขมวด

  แต่ซีหยุนไม่ได้พูดอะไรมาก เขาเดินตรงไปที่เตียง ใช้มือหนึ่งบีบปากของกวน ส่วนอีกมือก็แบออก จากนั้นก็มีขวดหยกขวดหนึ่งปรากฏขึ้นมากลางฝ่ามือ ต่อมาเขาก็เปิดฝาออกแล้วเทยาเข้าไปในปากกวนทันที ของเหลวหยดหนึ่งก็ไหลออกมาจากขวด ของเหลวนี้แผ่แสงศักดิ์สิทธิ์ออกมา จากนั้นมันก็ไหลเข้าไปในปากของกวน

    เจ้าจะรอดรึไม่ก็ขึ้นอยู่กับตัวเจ้าเองแล้วหลังจากนี้   ซีหยุนพึมพำออกมา

  เมื่อสะบัดมือขวดหยกนั้นก็กลายเป็นละอองสลายไปในอากาศ

  ลั่วเกาถามขึ้นมา   ท่านซีหยุน กวนจะรอดรึไม่ ? 

  ซีหยุนตอบกลับ   ข้าเพิ่งไปหาท่านอู๋ห่าว หัวหน้าสำนักงานใหญ่ของกองทัพ เขาได้ให้ยานี่กับข้า ยานี่ได้มาจากจักรพรรดิ มันสามารถชุบชีวิคนตายได้ แม้ว่าจะแค่หยดเดียวแต่ก็มีค่าที่ไม่อาจจะประเมินได้ มันน่าจะช่วยเด็กนี่ได้  

  เพื่อจะช่วยกวน ซีหยุนถึงกับยอมกรีดเลือดตัวเองออกมา  ยาที่มีค่าแบบนี้แม้แต่หัวหน้าอย่างเขาก็อาจจะไม่มีมัน

  หากอู๋ห่าวไม่ได้เป็นทหารระดับสูงในกองทัพสังเกตการณ์ที่ได้รับความเชื่อใจจากเก่อเย่แล้ว อู๋ห่าวคงไม่มียาที่มีค่าแบบนี้ได้

  ทั้งกองทัพเทียนลั่ว เดาว่าคงมีแค่จิงหง, ซูจิงและอีกไม่กี่คนที่จะมียาที่มีค่าแบบนี้ได้

  ในกองทัพเทียนลั่ว ซีหยุนมีตำแหน่งระดับกลางๆ ฐานะของเขาไม่ได้สูงนัก ดังนั้นจึงไม่มีโอกาสที่จะได้ยาแบบนี้มา โชคดีที่เพราะความสัมพันธ์กับทีมคังเฉียง จึงได้รับการสนใจจากอู๋ห่าวและได้ยานี่มา

  แค่หยดเดียวก็หายากแล้ว กวนไม่ได้แกร่งมากนัก เดาว่าแค่หยดเดียวก็น่าจะเพียงพอ

  แน่นอนว่าหลังจากนั้นประมาณ 10 อึดใจ จิตของกวนก็ฟื้นฟูกลับมาเล็กน้อย

  ผลของยาได้แสดงออกมาทันที !

    ท่านผู้บัญชาการ ท่านลั่วเกา  กวนค่อยๆลืมตาขึ้นและพูดออกมาช้าๆ

  เสียงของเขาอ่อนแรงอย่างมาก ราวกับมนุษย์ทั่วไปที่ไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน ใบหน้าของเขาเองก็ซีดเผือด

  ซีหยุนถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก   เจ้าตื่นแล้ว ดูเหมือนว่าผลของยานี่จะเหมือนกับที่ตำนานบอกไว้จริงๆ ไม่เสียชื่อยาเทพจริงๆ ! 

  ลั่วเกากังวลขึ้นมา   กวน เจ้ารู้สึกยังไงบ้าง ? เจ้าไม่เป็นอะไรไป ? 

    ขอบคุณท่านลั่วเกาที่เป็นห่วง  กวนอยากจะลุกขึ้นนั่งแต่ร่างกายของเขาก็ยังอ่อนแออยู่ จิตของเขาอ่อนแออย่างมาก เขาไม่อาจจะลุกขึ้นได้  เกือบไปแล้วสินะ 

    กวน  ซีหยุนแสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมาและถามขึ้น   ใครทำร้ายเจ้ากัน ? 

  เขาจำได้ว่ากวนอยู่ในหมู่บ้านฉิงเหยียนไม่นานก่อนจะจากไป เขาคิดว่ากวนจะกลับไปที่หมู่บ้านเสี่ยวอัน แต่ไม่คิดเลยว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับเขาขึ้น

  กวนพูดขึ้น   เป็นสายลับของเผ่าสวรรค์ ข้ากำลังจะไปที่หมู่บ้านหย่งเล่อเพื่อขายสมบัติ และได้พบบางคนกำลังสอดแนมกองทัพเทียนลั่วอยู่ ข้าจึงตามไป ข้าสงสัยว่าชายคนนี้อาจจะมีปัญหา ตอนที่เขาเดินออกจากถนนมา ข้าก็เข้าไปหยุดเขา เพื่อทำการตรวจสอบ ไม่คิดเลยว่าเขาจะทำการโจมตีข้าก่อน แค่การโจมตีเพียงครั้งเดียวก็ทำให้ข้ามีสภาพเช่นนี้ได้ไ

  เขาคงไม่ฟื้นหากไม่ใช่เพราะยาเทพนี่

  อีกฝ่ายอาจจะมั่นใจว่ากวนคงไม่รอดหรือกลัวว่าจะมีคนตามมาจึงรีบออกจากที่นั่น แต่โชคยังดีที่กวนรอดมาได้

  กวนหวาดกลัวอย่างมาก   เขาแข็งแกร่งมาก อย่างน้อยก็แกร่งระดับผู้บัญชาการ หรืออาจจะแกร่งเท่ากับผู้บัญชาการ ใหญ่ก็ได้  

  เพราะกลัวว่าจะทำให้คนอื่นแตกตื่นไปด้วยและทำให้กลายเป็นเป้าสายตา อีกฝ่ายจึงยั้งมือเอาไว้ ซึ่งนั่นทำให้กวนรอดมาได้    สายลับรึ ?  ซีหยุนสีหน้าบิดเบี้ยว   แค่ระดับผู้บัญชาการก็หยิ่งทะนงเช่นนี้เลยรึ ? กล้าดียังไงถึงลงมือในอาณาเขตของพวกเรา ? กองทัพสังเกตการณ์ตาบอดไปแล้วรึไง! 

  กวนเป็นลูกน้องที่ขยันในการฝึกฝน อนาคตเขาอาจจะเป็นผู้บัญชาการรึผู้บัญชาการใหญ่ก็ได้ แต่ตอนนี้แม้ว่าเขาจะรอดกลับมาได้ แต่แก่นชีวิตของเขาก็แทบจะพังแล้ว จิตของเขาก็อ่อนแอลงอย่างมาก เขาไม่อาจจะเติบโตขึ้นได้อีก

    บังอาจ !  ซีหยุนกำหมัดแน่น

  ลั่วเกาสะดุ้ง ไม่คิดเลยว่าคนที่เขาประเมินไว้สูงจะตกอยู่ในสภาพเช่นเดียวกับเขาได้

 

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า  ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร
มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ
      ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์
หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”
     เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ
ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้
    ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท