The king of War – บทที่ 282 ฆ่าโจวสุ้ยผิง

บทที่ 282 ฆ่าโจวสุ้ยผิง

“คุณก็เป็นแค่ผู้หญิงเลวทรามที่กล้าลงมือฆ่า แม้กระทั่งสามีคนเดียวของตัวเอง และยังมีหน้าจะมาพูดกฎหมายกับพวกเราอีก คู่ควรเหรอ?”

ผู้หญิงที่นั่งอยู่ที่นั่งข้างคนขับ ถามกลับด้วยใบหน้าเย็นชา เธอพูดแบบนี้ออกมา โจวยู่ชุ่ยคนนั้นถึงกับตะลึงงันไป

ตัวเธอนั้นคิดว่า เรื่องทั้งหมดนี้เป็นการกระทำที่ไร้ข้อตำหนิเป็นอย่างดีแล้ว ตอนนี้คิดไม่ถึงเลยว่าจะถูกคนพูดความผิดของเธอทั้งหมดออกมา

“ฉัน……ฉันไม่เข้าใจคุณกำลังพูดอะไร!” โจวยู่ชุ่ยพูดอย่างติดอ่าง

เดิมทีเธอคิดว่า อีกฝ่ายต้องการพาไปที่ไหนสักแห่ง แต่ว่ารอมาตั้งนาน รถยนต์ก็ไม่ขยับ เหมือนว่ารออะไรบางอย่าง

ในเวลานั้นเอง รถโฟล์คเภาตันสีดำหนึ่งคัน ค่อยๆจอดอยู่หน้ารถAudi มีร่างของวัยรุ่นออกมาจากด้านในรถ

ผู้หญิงที่อยู่ที่นั่งข้างคนขับลงรถมาอย่างรีบร้อน ตามร่างนั้นและพูดอย่างเคารพ: “พี่เฉิน โจวยู่ชุ่ยอยู่ในรถ!”

หยางเฉินพยักหน้า มองไปที่ผู้หญิงอ่อนวัยที่อยู่ตรงหน้า เอ่ยปาก: “หลายวันมานี้ ลำบากคุณแล้ว!”

ผู้หญิงคนนี้นั่นก็คือหันซวน หลังจากครั้งที่แล้วเธอมาหาหยางเฉินขอมีดทรราช ถูกหยางเฉินช่วยไว้ และยังคืนมีดทรราชให้เธอ เธอก็ติดตามอยู่กับหยางเฉิน

หลายวันมานี้ เธออยู่ที่โรงพยาบาลอย่างลับๆคอยปกป้องฉินต้าหย่งมาโดยตลอด ดังนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลทั้งหมด เธอนั้นรู้แจ้งกระจ่างชัดเป็นอย่างดี

หลังจากที่หยางเฉินขึ้นรถ ใบหน้าโจวยู่ชุ่ยเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกตกใจ: “หยางเฉิน!”

เธอทำไมถึงคิดไม่ถึงเลยว่าคนที่เธอพามาขึ้นรถนั้น คาดไม่ถึงว่าจะเป็นหยางเฉินส่งมา

“หยางเฉิน คุณนี่มันกล้าบ้าบิ่นเกินไปแล้วนะ ขนาดฉันยังกล้าลักพาตัวมาเลยเหรอ? คุณไม่กลัวว่าฉันจะฟ้องเสี่ยวฉี?”

โจวยู่ชุ่ยตื่นตะลึงอยู่สักครู่ ก็กลับมาเป็นท่าทางที่ขัดหูขัดตา พุ่งตรงมาด่าว่าหยางเฉินด้วยความไม่พอใจ

“เพี๊ยะ!”

หันซวนตบหนึ่งฉาดเข้าไปบนใบหน้าของโจวยู่ชุ่ย พูดอย่างโมโห: “คุณหุบปาก! ถ้ายังกล้าดูถูกเขาอีก ฉันจะเอาชีวิตแก!”

หันซวนในตอนนี้ สำหรับโจวยู่ชุ่ยแล้วเป็นคนที่ลงมือฆ่าคนได้จริง

ไม่กี่วันมานี้ โจวยู่ชุ่ยเป็นทำทารุณฉินต้าหย่งอย่างไรบ้าง เธอนั้นเห็นชัดเจนเป็นอย่างมาก ถ้าไม่ใช่กลัวจะแหวกหญ้าให้งูตื่น เธอก็คงลงมือไปนานแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เธอติดตามหยางเฉินแล้ว ในสายตาของเธอ หยางเฉินนั้นเป็นนายของเธอ ไม่อนุญาตให้ใครก็ตามทารุณกรรม

โจวยู่ชุ่ยไม่กลัวหยางเฉิน แต่กลายเป็นกลัวหันซวนสุดขีด

ตอนนี้ หันซวนพูดคำเหล่านี้ ทำให้เธอรู้สึกถึงความกดดันมหาศาลที่ไม่อาจจะเปรียบเปรยได้

ตั้งแต่แรกจนจบ หยางเฉินไม่ได้ห้ามปราม รอให้โจวยู่ชุ่ยสงบลงแล้ว ถึงจะมองเธอด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกและพูดกับเธอ: “คุณอย่าคิดนะว่า เรื่องที่ตัวเองทำทั้งหมดนั้น ไม่มีที่ติแล้ว อาศัยแค่หลักฐานที่เห็นอยู่ตอนนี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้คุณเข้าไปอยู่ในคุกตลอดชีวิตแล้ว! หรือแม้กระทั่งเป็นโทษประหารชีวิต!”

“แต่ฉันจะไม่ทำแบบนั้นหรอก รู้หรือเปล่าว่าทำไม?”

“นั่นก็เป็นเพราะว่าเสี่ยวซีและเสี่ยวยี ฉันไม่อยากให้พวกเธอต้องรู้สึกเศร้าเสียใจ!”

“ในเมื่อเสี่ยวซีเลือกที่จะให้คุณหนีจากไป ฉันก็ไม่รังเกียจที่จะปล่อยคุณไป!”

“แต่ นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่จะให้โอกาสคุณมีชีวิต! ถ้ายังมีครั้งหน้า ฆ่า!”

“เพล้ง……เพล้ง……”

สิ้นเสียงของหยางเฉิน พลังมหาศาลก็แพร่กระจายออกมาจากร่างของเขา หน้าต่างกระจกของรถAudi a6 แตกกระจายเป็นผุยผงในพริบตา

ฉากนี้ โจวยู่ชุ่ยตื่นตะลึงเบิกตาทั้งคู่มอง เหมือนกับว่านี่เป็นครั้งแรกที่รู้จักหยางเฉิน

บนร่างกายของหยางเฉิน เธอรู้สึกได้ถึงไอสังหารมหาศาลที่ไม่สามารถเปรียบเปรยได้ ถ้าหยางเฉินนั้นอยากได้ชีวิตของเธอ เป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก

หันซวนและร่างใหญ่ชุดดำสองคนนั้นเอง ก็ทำหน้าตาเซ่อซ่าไปเหมือนกัน

ถึงแม้ว่าพวกเขาเองก็ไม่เข้าใจแน่ชัด ว่าหยางเฉินทำได้อย่างไร แต่ก็เข้าใจถ่องแท้ว่า เรื่องทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับผู้ชายคนนี้

ไม่ได้ลงมือ ก็ทำให้กระจกหน้าต่างรถแต่ละเอียดเป็นผุยผงแล้ว นี่คงไม่ใช่ว่าเป็นการดำรงอยู่ของสิ่งที่น่าหวาดกลัวอย่างมากอย่างนั้นเหรอ?

“ส่งเธอไปที่เมืองโจวเฉิง ตระกูลโจว!”

หยางเฉินเดินลงจากรถไป พูดกำชับกับหันซวน

“รับทราบ พี่เฉิน!”

หลังจากที่ดูโจวยู่ชุ่ยถูกส่งตัวไป หยางเฉินถึงเข้ามาในโรงพยาบาล

เพียงแต่เข้าไม่รู้ก็คือ ฉากที่โจวยู่ชุ่ยถูกคนของเขาพาตัวไปนั้น ได้ถูกเฉินซีเห็นเข้าแล้ว

ในสายตาของฉินซี โจวยู่ชุ่ยถึงอย่างไรก็เป็นมารดา ดังนั้นก็อยากที่จะมองตามหลังส่งเธอครั้งสุดท้ายด้วยตาตัวเอง

แต่คิดไม่ถึงเลยว่า พอโจวยู่ชุ่ยลงมาจากตึก ก็ถูกคนใช้กำลังบังคับเข้าไปในรถ

และหลังจากนั้น หยางเฉินก็ปรากฏตัวออกมา

ในสายตาของฉินซีรู้สึกซาบซึ้ง ถึงแม้ว่าเธอนั้นจะไม่เข้าใจชัดเจนว่าหยางเฉินนั้นพูดอะไรกับโจวยู่ชุ่ยบ้าง แต่เธอมั่นใจ ว่าหยางเฉินนั้นไม่ทำร้ายโจวยู่ชุ่ย แค่จะส่งเธอเดินทางจากไป

“เสี่ยวซี!”

กำลังยืนอยู่ที่ข้างหน้าของหน้าต่าง ฉินซีที่เหม่อมองไปด้านล่าง ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงของหยางเฉิน จึงหันตัวกลับมา

“สามี!”

เธอหมุนตัวกระโดดเข้าไปในอ้อมกอดของหยางเฉิน ปล่อยเสียงดังร้องไห้ออกมา เหมือนว่าต้องการที่จะเอาความเจ็บปวดรวดร้าวภายในจิตใจ ระบายอารมณ์ออกมาให้หมด

หลังจากที่ฉินต้าหย่งถูกรถชน เธอรู้สึกว่าโลกของตัวเองได้พังทลายลง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตะกี้นี้ เห็นกับตาตัวเอง มารดาของตัวเอง ตอนที่จะฆ่าพ่อของตัวเอง ก็ยิ่งทำให้เธอสิ้นหวัง

มีเพียงผู้ชายคนนี้ที่อยู่ต่อหน้าเธอเท่านั้น ตอนที่เธอต้องการมากที่สุด ไม่ว่าอย่างไรก็ตามก็จะรีบมาปรากฏตัว

และมีเพียงผู้ชายคนนี้ ถึงจะสามารถทำให้เธอรู้สึกถึงความรักที่ลึกซึ้งที่สุดได้

เมืองเจียงโจวตระกูลเว่ย ภายในคฤหาสน์เดี่ยวหรูหราแห่งหนึ่ง

บนเตียงใหญ่หรูหรา คนวัยกลางคนรูปร่างเตี้ยอ้วนท้วนคนหนึ่ง กำลังสวมกอดผู้หญิงคนหนึ่ง กำลังมีสัมพันธ์กันอยู่

ขณะนั้นเอง มีเสียงเรียกของโทรศัพท์มือถือดังขึ้นกะทันหัน

ผู้ชายเตี้ยอ้วนท้วนอ่อนปวกเปียกขึ้นมาทันที แต่เขานั้นก็ไม่กล้ามีความละลายแม้เพียงเล็กน้อย สถานการณ์ทั่วไปแล้ว โทรศัพท์ที่โทรเข้ามาดึกขนาดนี้ แน่นอนว่าจะต้องมีเรื่องอะไรที่สำคัญมากอย่างแน่นอน

“ถ้าหากไม่บอกเหตุผลที่สมเหตุสมผลให้กับฉันได้ ฉันจะฆ่าแกให้ตาย!”

หลังจากที่ผู้ชายเตี้ยอ้วนท้วนรับโทรศัพท์ขึ้นมา พูดด้วยใบหน้าดุร้าย

“ประธานเว่ย เมื่อสักครู่นี้ โจวยู่ชุ่ยถูกคนพาตัวออกไปจากโรงพยาบาล คนของฉันแอบมองอย่างลับๆมาโดยตลอด”เสียงของลูกน้องดังเข้ามาทักทีจากในหูฟัง

ผู้ชายเตี้ยอ้วนท้วนลุกขึ้นมานั่งทันที เมื่อตอนกลางวันเขาเพิ่งพบกับเมิ่งฮุย ให้วลาเขาเพียงเจ็ดวัน ให้เขาหาวิธีทำลายเยี่ยนเฉินกรุ๊ปสาขาเจียงโจว

ด้วยเหตุนี้ เขาจึงคิดแผนการไว้เรียบร้อยแล้ว เลยส่งคนแอบสอดส่องอยู่ที่โรงพยาบาลตลอดเวลา

เพียงแต่ไม่คิดว่า รวดเร็วขนาดนี้ โอกาสก็มาถึงแล้ว!

“ฆ่าโจวยู่ชุ่ยซะ!”

ในสายตาของผู้ชายเตี้ยอ้วนท้วนทั้งคู่นั้น เต็มไปด้วยจิตสังหาร

รถAudi a6 สีดำ มุ่งตรงไปทางเมืองโจวเฉิงอย่างเร่งรีบ

นั่งอยู่เบาะด้านหลัง โจวยู่ชุ่ยที่ถูกร่างใหญ่ชุดดำสองคนควบคุมตัวไว้ ร่างกายทั้งหมดสั่นเทา

ถึงแม้ว่าจะเดินทางออกจากเจียงโจวมานานแล้ว แต่ว่าหยางเฉินกับคำขู่คุกคามเธอเมื่อตะกี้นี้ ยังคงชัดเจนอยู่ในโสตประสาทของเธอเหมือนเดิม

ขณะนี้ เธอเหมือนว่าอยู่ดีๆก็มีสติปัญญาขึ้นมาเป็นปกติ ในสมองคิดถึงเรื่องมากมาย

ยิ่งเห็นหันซวนมีท่าทางเคารพหยางเฉินขนาดนั้น เธอก็เข้าใจขึ้นมา ตั้งแต่แรก เธอนั้นทำผิดพลาดไปแล้ว

หยางเฉินในตอนนี้ ไม่ได้เหมือนเด็กน้อยยากจนที่ขอความช่วยเหลือไปทั่ว ขอยืมเงินห้าแสนเพื่อรักษามารดา แบบตอนแรกคนนั้นมาตั้งนานแล้ว

“ก๊า~”

ตอนนี้เอง รถเบรกอย่างรุนแรง หยุดรถตรงกลางถนนอย่างแน่นิ่ง

“อ่า……”

ศีรษะของโจวยู่ชุ่ยชนเข้ากับด้านหลังของที่เบาะแถวหน้าอย่างแรง ร้องออกมาด้วยเสียงสูงแหลมทันทีทันใด

หันซวนสีหน้าเยือกเย็นจับจ้องไปที่The Herdsmanสามคันด้านหน้า

ร่างใหญ่ชุดดำหลายคน ยืนอยู่ด้านหน้ารถ ตอนนี้สายตาจับจ้องมาที่รถของพวกเขา

“คุณขับรถกันภาษาอะไร?”

โจวยู่ชุ่ยบ่นอย่างไม่พอใจ เพียงแค่เธอเพิ่งจะเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นร่างใหญ่ชุดดำสี่คนยืนอยู่ด้านนอก สีหน้าเปลี่ยนซีดเผือดไปในทันที

“เขา……พวกเขาคือใครกัน?”

โจวยู่ชุ่ยถามออกมาอย่างสั่นเทา เพียงแต่ไม่มีใครสนใจ

“พี่ซวน! เอายังไงดี?”

คนคุ้มกันที่ขับรถ สีหน้าหนักแน่นมองมาที่หันซวน เขาและคนคุ้มกันโจวยู่ชุ่ยที่อยู่ด้านหลังพวกนั้น ทั้งหมดเป็นยอดฝีมือที่กวนเจิ้งซานเตรียมไว้

หันซวนหยิบมีดใหญ่ส่องแสงกระทบแสงจันทร์ พูดอย่างเยือกเย็น: “พวกคุณพาเธอกลับไปทางเดิม ถือโอกาสรายงานกับพี่เฉิน คนพวกนี้ ยกหน้าที่ให้ฉัน!”

“พี่ซวน!”

พวกนั้นกำลังอยากจะพูด ก็ถูกหันซวนห้ามปราม: “ทำตามที่ฉันบอก! ไป!”

สิ้นเสียง หันซวนก็หยิบมีดทรราชออกมาเรียบร้อยแล้ว ลงจากรถไป

ยอดฝีมือของตระกูลกวนนั้นรู้ความลำบากใจของหันซวน และก็รู้อย่างชัดเจนว่าโจวยู่ชุ่ยเป็นแม่ยายของหยางเฉิน ถึงแม้ว่าความผิดที่ให้อภัยไม่ได้ แต่ว่าก็ต้องปกป้องเป็นอย่างดี จึงรีบหันหัวรถกลับไป

เพียงแต่รถเพิ่งจะกลับหัว ด้านหลังก็มีรถThe Herdsmanอีกสามคันเรียงกันมา ปิดตายทางหนี

ตอนนี้เป็นเวลารุ่งสาง และทางนี้ ก็เป็นเพียงถนนซอยที่ตรงผ่านไปยังเมืองโจวเฉิง รถสามคันก็ทำให้ทางตันได้เรียบร้อยแล้ว

The king of War

The king of War

Status: Ongoing

ห้าปีก่อน หยางเฉินเพื่อให้ตัวเองคู่ควรกับฉินซี เขาจากไปโดยไม่ร่ำลา ห้าปีต่อมา เขาพกความสามารถอันน่าทึ่ง กลับมาอย่างรุ่งโรจน์ เพียงแต่ว่าพอมาถึง กลับพบว่าตนมีลูกสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท