ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1914 : หินโกลาหล

ตอนที่ 1914 : หินโกลาหล

  ข้างๆโถงกองทัพสังเกตการณ์นั้นมีเรือนและจวนต่างๆ ผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่ต่างก็เป็นคนระดับสูงในกองทัพ บางคนมาจากสมาคมชั้นนำ บางคนมาจากตระกูลใหญ่จากเมืองต่างๆ บางคนเป็นคนในทีมระดับสูง แทบทุกคนต่างก็เป็นมีอำนาจในเขตซื่อเซียว

  จินหยาง จ้าวโกลาหลคนหนึ่ง หลังจากที่ทำงานหนักมาหลายปีสุดท้ายเขาก็ได้บ้านที่นี่มาครอง

  แม้ว่าจินหยางจะไม่ได้เข้าร่วมกองกำลังไหนแต่เขามีเพื่อนมากมาย เขามีเส้นสาย เขามีมิตรสหายมากหน้า แม้แต่ เก่อเย่ก็ยังต้องไว้หน้าเขา เมื่อรวมกับทักษะที่เขามีแล้วก็มีน้อยคนนักที่จะกล้าหาเรื่องเขา

  ตอนนั้นที่บ้านของจินหยางได้ทำการต้อนรับแขกกลุ่มหนึ่ง ที่ด้านหน้าบ้านนั้นเกิดเสียงเอะอะดังขึ้นมา

  หลังจากที่เห็นกลุ่มคนที่ติดตราระดับราชา ยามทั้งสองที่ประตูบ้านก็พากันแสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา

    นี่คือบ้านของจินหยางใช่รึไม่ ?  หนึ่งในสามคนที่หน้าเหมือนกันได้ถามขึ้นมา คนอื่นๆยังแสดงท่าทีเยือกเย็นออกมาดังเดิม

    ใช่ ที่นี่คือบ้านของท่านจินหยาง เจ้าเป็นใคร ?  ยามคนหนึ่งถามขึ้นมา

  ชายหนุ่มได้ตอบกลับ   เราคือคนจากทีมคังเฉียง เรารับภารกิจของจินหยางมา เราจึงมาที่นี่เพื่อทำภารกิจ…รบกวนแจ้งเขาด้วย 

  ชัดแล้วว่าคนกลุ่มนี้คือคนที่มาจากหมู่บ้านฉิงหยาน จางลู่และคนอื่นๆที่รับภารกิจมา ภารกิจที่จินหยางได้ส่งต่อให้กับกองทัพสังเกตการณ์

    ทีมคังเฉียงรึ ?  ยามทั้งสองได้ยินแบบนั้นต่างก็พากันอึ้ง พวกเขาพากันมองไปที่จางลู่และคนอื่นๆด้วยท่าทีเคารพ ชื่อเสียงของทีมคังเฉียงนั้นแม้ว่าตอนนี้จะถดถอยตามกาลเวลา แต่ก็ยังไม่มีใครกล้าดูหมิ่นทีมคังเฉียง    รอสักครู่ ข้าจะไปแจ้งท่านจินหยางให้  ยามคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยท่าทีเคารพ

  ผ่านไปสักพักก็มีชายวัยกลางคนที่เหมือนกับพ่อบ้านก็เดินออกมาต้อนรับทุกคนด้วยท่าทีอบอุ่น   ข้ารู้มาว่าทีมคังเฉียงรับภารกิจนี้ เป็นเกียรติจริงๆ ข้าได้จัดงานเลี้ยงไว้ต้อนรับพวกท่านแล้ว หากพวกท่านไม่ถือสาก็เชิญเข้ามาในบ้านเล็กๆนี่เถอะ… 

  หลังจากที่พ่อบ้านพูดจบก็มีชายวัยกลางคนในชุดม่วงเดินออกมา เขาราวกับนักบวชลัทธิเต๋า เขายิ้มออกมาอย่างพอใจ  ข้าจินหยาง เป็นเกียรติของข้าที่ได้พบกับทุกคน เชิญทางนี้… 

  จางลู่มองไปที่จินหยาง แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธคำเชิญของจินหยาง ภายใต้การนำทางของจินหยางพวกเขาก็ได้เข้าไปในบ้านก่อนจะไปถึงที่สวน สวนแห่งนี้มีโต๊ะและเก้าอี้วางไว้พร้อมแล้ว มันมีกลุ่มคนรับใช้ที่คอยยกอาหารเข้ามาเตรียมเอาไว้

  เมื่อทุกคนนั่งประจำที่แล้ว จินหยางก็ได้พูดขึ้น   ข้าคิดว่าแค่คนแข็งแกร่งไม่กี่คนรับภารกิจนี้ก็เพียงพอแล้ว ไม่คิดเลยว่าทีมคังเฉียงจะรับภารกิจนี้ไป เป็นเกียรติจริงๆ หากพวกท่านไม่พอใจตรงไหน ข้าก็ต้องขอโทษด้วย ข้าเกิดมาต่ำต้อยไม่เคยเห็นโลกมาก่อน บางทีอาจจะที่รับรองไม่เหมาะสมพวกท่าน 

  จินหยางพูดทุกอย่างออกมาได้อย่างสำรวม

  เขามาถึงจุดนี้ได้นั้นนอกจากความสามารถที่โดดเด่นแล้วก็ด้วยทักษะการเข้ากับผู้คนของเขา

  จางลู่ไม่ได้รู้สึกรำคาญจินหยาง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะสนิทด้วย

    อย่าพูดถึงข่าวลือเลย ข้าอยากให้เจ้าพูดถึงภารกิจก่อน  จางลู่พูดขึ้น

  จินหยางยิ้มออกมา  ได้ งั้นข้าจะไม่อ้อมค้อมแล้ว 

  ระหว่างที่พูดคุยกันนั้นเขาก็ได้โบกมือให้กับพ่อบ้านและคนรับใช้ ทุกคนพากันหันกลับแล้วเดินออกจากที่นั่นไป   เรื่องนี้ข้าไม่อาจจะปิดบังจากพวกท่านได้ ภารกิจนี้อันที่จริงได้มาจากคนใหญ่โต  เขาเผยสีหน้าลึกลับออกมา   เขาเชื่อใจข้าในการสร้างอาวุธขึ้นมาโดยไม่สนว่าต้องเสียอะไรไปบ้าง  

  แน่นอนว่าสมบัติโกลาหลนั้นต้องใช้เวลานานกว่าจะสร้างขึ้นมาได้ มันไม่อาจจะสำเร็จในข้ามคืนได้

    ตอนแรกข้าก็ไม่มั่นใจอะไรมาก แต่ด้วยความช่วยเหลือจากพวกท่านแล้ว ข้าเชื่อว่ามันไม่มีโอกาสที่จะล้มเหลวได้เลย  จินหยางพูดขึ้นด้วยสีหน้ามั่นใจ   หากทำสำเร็จ นอกจากค่าตอบแทนที่ตกลงกันไว้แล้ว ข้าจะจ่ายรางวัลให้เพิ่มเติม 

  จินหยางไม่รู้ว่าจางลู่และคนอื่นๆอยู่ระดับแม่ทัพแล้ว ถึงจะเป็นแบบนั้นเขาก็ยังแสดงท่าทีถ่อมตัวและไว้หน้าจางลู่ และคนอื่นๆอยู่

  จางลู่พยักหน้า   ได้ แล้วจะเริ่มตอนไหน ? 

    มันขึ้นอยู่กับที่พวกท่านสะดวก หากพวกท่านสะดวกตอนนี้ก็เริ่มตอนนี้ได้เลย   เขาหัวเราะออกมา   หากพวกท่านไม่สะดวก จะรอก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร 

    งั้นก็มาเริ่มกันเลย  จางลู่ลุกขึ้นบิดขี้เกียจ   ข้าสงสัยว่าเจ้าจะสร้างสมบัติขึ้นมายังไงพอดี… 

  จินหยางพูดขึ้น   พวกท่านจะไม่รอกินให้เสร็จก่อนรึ ? 

  จางลู่โบกมือและพูดขึ้น   มันไม่สายที่จะกินหลังจากที่ทำภารกิจเสร็จ… 

  จินหยางอดไม่ได้ที่จะชมออกมา   พวกท่านคือทีมที่มีหลักการและแน่วแน่ที่สุดที่ข้าเคยพบมา ไม่แปลกเลยที่ทีมคังเฉียงเติบโตได้เร็วเช่นนี้ พวกท่านถึงกับได้รับความสนใจจากจักรพรรดิและโด่งดังกว่าทีมเทพปีศาจ เห็นคำพูดและการกระทำของพวกท่านแล้วสมกับชื่อเสียงจริงๆ 

  มันน่าเสียดายที่คำชมของจินหยางไม่ได้ส่งผลอะไรต่อจางลู่และคนอื่นๆเลย    งั้นรึ ? ขอบคุณที่ชม  จางลู่ยังแสดงท่าทีเยือกเย็นออกมา   เราเริ่มกันได้รึยัง ? 

  จินหยางไม่มัวไร้สาระ เขากังวลว่าหากพูดต่อไปแล้วอาจจะทำให้จางลู่และคนอื่นๆไม่พอใจเอาได้

  ในฐานะคนที่เก่งเรื่องการสื่อสารแล้ว เขารู้ว่าไม่มีใครไม่รู้สึกดีกับการโดนชม ตราบใดที่หลีกเลี่ยงเรื่องที่อีกฝ่ายไม่พอใจได้ก็ถือว่าสำเร็จแล้ว

    แน่นอน เชิญทางนี้   จินหยางลุกขึ้นก่อนจะนำทางทุกคนไปยังลานโล่งด้านหลัง ลานแห่งนี้รายล้อมด้วยกำพงสูงกันเอาไว้ พื้นดินปูด้วยหยกที่ดูแพง ที่ปลายลานแห่งนี้มีดอกไม้ไฟและต้นหญ้าที่ส่งกลิ่นหอมทำให้ทุกคนเพลิดเพลินไปกับมัน

  เมื่อมาถึงใจกลางลาน จินหยางก็หยุดและแสดงสีหน้าจริงจังออกมา จากนั้นเขาก็ได้ล้วงเอาผลึกออกมา

    นี่คือหินโกลาหล  จินหยางพูดขึ้นมาช้าๆ   หินโกลาหลคือหินที่กำเนิดขึ้นมาเองมันคือวัสดุพิเศษ มันคือสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้ในการสร้างสมบัติโกลาหล หินโกลาหลนี้มีค่าอย่างมากเพราะมันมีจำนวนหินโกลาหลที่น้อยที่ผ่านเกณฑ์ในการนำมาใช้สร้าง

  สมบัติ แค่กำเนิดขึ้นมาก็ควบแน่นไปด้วยกฎต่างๆ มันต้องเป็นหินโกลาหลที่กำเนิดขึ้นเองเท่านั้น นอกจากนี้แล้วก็ยังต้องมีความแข็งแกร่งระดับนายพลเพื่อที่จะปลดผนึกมันออกโดยไม่ทำให้หินโกลาหลเสียหาย 

  เงื่อนไขที่สูงแบบนี้ทำให้หินโกลาหลที่ผ่านเกณฑ์นั้นหายาก ค่าของมันจึงสูงขึ้นไปตาม

    หินโกลาหล 4 ก้อนนี้ล้วนมีแต่คุณภาพยอดเยี่ยม หากมองทั้งเขตซื่อเซียวแล้ว มันยากที่จะหาหินที่มีคุณภาพสูงกว่านี้ได้  จินหยางพูดขึ้น   ไม่วาจะเป็นก้อนไหนก็สามารถนำไปใช้เป็นแก่นของสมบัติระดับสูงได้ หลังจากที่สั่งสมพลังมากพอ มันก็จะกลายเป็นสมบัติระดับสูงที่น่าทึ่งแต่สมบัติที่คนระดับสูงต้องการนั้นสูงอย่างมาก หินโกลาหลก้อนเดียวไม่เพียงพอกับความต้องการของเขา ดังนั้นเขาจึงให้หินโกลาหลข้ามา 4 ก้อน เขาต้องการให้สร้างเกราะระดับสูงที่แกร่งที่สุดขึ้นมาเพียงชิ้นเดียว 

  จางลู่และคนอื่นๆต่างก็พากันแปลกใจ

  เกราะระดับสูงที่แกร่งที่สุดงั้นรึ ?

  ข้อกำหนดนี้สูงอย่างมาก !

  พวกเขาต่างก็พากันสงสัยว่าคนระดับสูงที่จินหยางพูดถึงเป็นใครกัน ?

    หินโกลาหลนี้หายาก หินโกลาหลขั้นสูงยิ่งหาได้ยาก  จินหยางหรี่ตาลงและพูดขึ้น   เอาจริงๆแล้วการมีโอกาสสร้างเกราะระดับสูงที่แกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ขึ้นมาได้นั้นก็ถือว่าเป็นโชคดีของเราแล้ว หากเราทำสำเร็จ ทั้งทะเลโกลาหลก็อาจจะจดจำชื่อของเราเอาไว้ !  

 

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า  ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร
มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ
      ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์
หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”
     เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ
ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้
    ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท