สายตาของหยางเฉินค่อยๆ อึมครึมลงไป เขามาที่เมืองเยี่ยนตู เดิมเพื่อจัดการเรื่องการแต่งงานของอ้ายหลิน แต่ทว่ายังไปไม่ถึงตระกูลหวัง กลับมาเจอเข้ากับคนของตระกูลหวังที่สนามบิน อีกทั้งฝ่ายตรงข้ามยังกล้าให้เขาคุกเข่าวิงวอนอีกด้วย
“พ่อหนุ่ม รีบขอโทษไปเถอะ! ไม่อย่างนั้นนายจะตายเอาจริงๆ นะ!”
“ใช่ อย่าใช้แต่อารมณ์เด็ดขาด ถ้าไม่เหลือชีวิตแล้ว งั้นก็ยิ่งไม่คุ้มเอาเสียเลย”
“ครั้งนี้คิดเสียว่าเป็นบทเรียน ที่เมืองเยี่ยนตู ทุกที่ล้วนเป็นลูกหลานตระกูลใหญ่ จะต้องระมัดระวังเอาไว้ให้ดี!”
ผู้คนที่หวังดีมากมายต่างรีบพูดโน้มน้าวใจกันขึ้นมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหยางเฉินดูเหมือนอายุน้อยขนาดนั้น ถ้าถูกฆ่าเพราะเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ คงเป็นโศกนาฏกรรมจริงๆ
“ไอ้หนุ่ม ฉันให้แกคุกเข่าลงขอร้องฉัน แกแม่งหูหนวกหรือไงกัน? ถ้าทำให้ฉันหมดอารมณ์สนุก ต่อให้แกเอาหัวโขกพื้น ฉันก็จะไม่ปล่อยแกไป”
เห็นหยางเฉินไม่คุกเข่าขอความเมตตา หวังหยู่ยิ่งรู้สึกโมโหเพิ่มขึ้นในชั่วขณะนั้น
รอบด้านล้วนเป็นผู้คนที่มุงดู เขาในฐานะหลานชายที่ผู้นำของตระกูลหวังรักมากที่สุด ย่อมไม่อาจเสียหน้าได้
ในความคิดของเขา หยางเฉินไม่ได้คุกเข่าขอความเมตตาในวินาทีแรก ถือว่าทำให้เขาขายขี้หน้าไปแล้ว
“แกนี่กำเริบเสิบสานเสียจริง”
หยางเฉินไม่โกรธแต่หัวเราะ ในสายตากลับประกายจิตอาฆาตแค้น พูดจาอย่างยิ้มกริ่ม “ตระกูลหวังแล้วยังไงกัน? เพราะแกเป็นคนของตระกูลหวัง แล้วจะสามารถทำตัวก้าวร้าวแบบนี้ก็ได้เหรอ ทั้งที่เป็นตัวเองทำผิด กลับอยากบังคับคนอื่นคุกเข่า?”
“มีลูกแล้วไม่อบรมสั่งสอน เป็นความผิดของพ่อ!”
“หรือว่าพ่อของแกไม่เคยสั่งสอนแก เรื่องที่ต้องทำตัวให้อ่อนน้อมถ่อมตนไว้เหรอ?”
“คนของตระกูลหวังคงไม่ใช่เหมือนกับนายหมดทุกคนมั้ง ไม่ได้รับการอบรมมาสักนิด?”
หยางเฉินหัวเราะเยาะติดกัน สอบถามต่อหน้าสาธารณชน
ตึง!
หลังจากที่เขาพูดเรื่องพวกนี้ออกมา ทั้งหมดต่างตื่นตกใจ!
ตระกูลหวังในสายตาของคนเหล่านี้ คือตัวตนยักษ์ใหญ่
คาดไม่ถึงหยางเฉินจะเหยียดหยามต่อหน้าผู้อื่นว่าคนของตระกูลหวังไม่ได้รับการสั่งสอน
“ไอ้หนุ่ม แกว่าอะไรนะ?”
ชั่วขณะนั้นหวังหยู่โกรธจัดถึงที่สุด สีหน้าอึมครึมถึงขีดสุดแล้ว
เติบโตมาขนาดนี้ เป็นครั้งแรกที่เขาเจอเรื่องราวแบบนี้ ชายหนุ่มคนหนึ่งที่รุ่นเดียวกับตนเอง กล้าเหยียดหยามตระกูลหวังต่อหน้าสาธารณชน
และไม่ใช่การสบประมาทใครสักคนแบบธรรมดา แต่ทุกคนในตระกูลหวังล้วนโดนดูถูกเหยียดหยามทั้งหมดแล้ว
“ฉันบอกว่าคนของตระกูลหวังล้วนแล้วแต่เป็นพวกสารเลวกลุ่มหนึ่ง พวกสารเลวที่ไม่ได้รับการสั่งสอน หรือว่าพูดผิดแล้วเหรอ?”
หยางเฉินพูดจายั่วเย้า ในสายตาเต็มไปด้วยการยั่วยุ
ถึงแม้แกจะเป็นคนของตระกูลหวัง หยอกเย้าแกสักหน่อย จะเป็นอะไรไป?”
“ฉันจะฆ่าแก!”
หวังหยู่โกรธฉุนเฉียวถึงที่สุด พุ่งเข้าไปทางหยางเฉินโดยตรง
ในเวลานี้เอง ภาพคนที่สูงใหญ่คนหนึ่งมาถึงกะทันหัน
“ปึง!”
เสียงดังสนั่นทีหนึ่ง ภายใต้ความตื่นตกใจของทุกคน ร่างกายของหวังหยู่ถูกชนลอยออกไปกลางอากาศทันที จากนั้นพ่นเลือดออกมาทีหนึ่ง
ทั้งหมดเงียบกริบ!
ทุกคนมองเหตุการณ์ฉากนี้อย่างตกตะลึงพรึงเพริด
“พี่เฉิน!”
หม่าชาวยืนตรงหน้าหยางเฉินด้วยความเคารพนับถือ
เมื่อสักครู่คนที่ถีบหวังหยู่ไปทีหนึ่ง ก็คือเขาเอง!
โชคดีที่หม่าชาวยั้งมือเอาไว้ ไม่อย่างนั้นภายใต้การถีบครั้งนั้น เดิมทีหวังหยู่ย่อมไม่มีทางรอดแต่อย่างใด
“ฉันเป็นหลานชายของผู้นำตระกูลหวัง แกกล้ามาทำร้ายฉันอีกเหรอ?”
หวังหยู่ดิ้นรนปีนขึ้นมาจากบนพื้น หน้าตาเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่อยากเชื่อ
ผมเผ้ายุ่งเหยิง หูฟังก็หลุดไปอยู่ด้านข้าง บนตัวเปื้อนฝุ่นไปหมด มุมปากยังมีรอยเลือด
ที่หน้าอกยังมีรอยเท้าขนาดใหญ่รอยหนึ่ง
“แกถือว่าเป็นใครกัน? ถีบแกแล้วจะเป็นอะไร? ต่อให้ฆ่าแกทิ้ง แล้วจะเกิดอะไรขึ้น?” ทั่วตัวหม่าชาวล้วนเป็นกลิ่นอายดุร้าย
เรื่องที่อ้ายหลินถูกบังคับให้แต่งงาน เดิมก็ทำให้เขาหงุดหงิดแทบแย่ ไม่มีที่ให้ระบายอารมณ์
เมื่อสักครู่มารับหยางเฉิน คาดไม่ถึงจะพบว่ามีคนกล้าเหยียดหยามหยางเฉิน ถ้าไม่ใช่เพราะที่นี่คือสถานที่สาธารณะ ตอนนี้หวังหยู่คงกลายเป็นเป็นศพไปแล้ว
“แกยังมีหน้ากล้ามาด่าฉันอีก?”
หวังหยู่โกรธจนควบคุมตัวไม่อยู่ กำหมัดทั้งสองไว้แน่น
แต่ว่าหม่าชาวถีบทีเดียวทำให้เขากระเด็นได้ เดิมทีเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหม่าชาว
เวลานี้ เขาจึงทำได้เพียงแค่โมโหด่ากราด แต่กลับไม่กล้าลงมือ
“ไม่จำเป็นต้องเสียเวลากับพวกขยะคนหนึ่งหรอก พวกเราไปกันเถอะ!”
หยางเฉินไม่มองหวังหยู่สักนิด หมุนตัวออกไป
หม่าชาวปล่อยหวังหยู่ไปอย่างคาดไม่ถึง รีบตามหลังออกไปด้วยกัน
คนเหล่านั้นที่รู้จักสถานะของหวังหยู่ต่างทำหน้าอึ้งทึ่ง ทำร้ายหลานคนโตของตระกูลหวัง แล้วจากไปแบบหยิ่งยโสไม่ยี่หระอะไรเช่นนี้?
หวังหยู่ท่าทางเดือดดาล ตั้งแต่เด็กเขาก็คาบช้อนทองมาเกิด ตั้งแต่เล็กจนโต ไม่ว่าเขาจะเดินไปที่ไหน ในคนอายุรุ่นเดียวกันทั้งหมด ยังเป็นคนคนนั้นที่ได้รับความสนใจมากสุด
ปัจจุบันนี้ ชายหนุ่มที่อายุเกือบเท่ากันกับเขาคนหนึ่ง มาทำร้ายเขาต่อหน้าสาธารณชน สุดท้ายยังไม่สนใจเขาจนกระทั่งออกไปแล้ว
“สารเลว กล้าทำร้ายฉัน ฉันจะให้แกได้รู้ว่าล่วงเกินคุณชายอย่างฉัน จุดจบเป็นยังไง!”
หวังหยู่พูดแบบหน้าตาดุร้ายเต็มที่
“คุณชายหยู่ครับ ท่านเป็นอะไรแล้วเหรอครับ?”
ในเวลานี้เอง ผู้ชายวัยกลางคนที่รูปร่างอ้วนฉุคนหนึ่งพาบอดี้การ์ดสองคนมารับที่สนามบินแล้ว ตอนที่เขามองเห็นหวังหยู่สภาพย่ำแย่แบบนี้ ชั่วขณะนั้นตกใจจนสีหน้าเปลี่ยน
“สารเลว คุณชายอย่างฉันโดนคนทำร้ายแล้ว พวกแกถึงเพิ่งเข้ามา?”
หวังหยู่ตบบนหน้าใหญ่ไขมันเยอะของชายวัยกลางคนทีหนึ่ง ตะคอกใส่อย่างเกรี้ยวกราด
ชายวัยกลางคนทำหน้าตกใจกลัวเต็มที่ พูดแบบหวาดหวั่น “คุณชายหยู่ครับ ขอโทษอย่างมากเลยครับ ผมมาสายแล้ว!”
“ทำทุกวิถีทาง หาเจ้าสารเลวสองคนนั้นให้เจอ กล้าทำร้ายฉัน ฉันจะให้พวกมันเหมือนตายทั้งเป็น!”
หวังหยู่หน้าตาเต็มไปด้วยความดุร้าย
“คุณชายหยู่วางใจได้ครับ ผมจะไปค้นหาเดี๋ยวนี้ ดูสิว่าเป็นใครกัน คาดไม่ถึงแม้แต่คุณชายหยู่อย่างท่าน ยังกล้ามาทำร้ายได้!”
ชายวัยกลางคนรู้จักนิสัยของหวังหยู่ จึงไม่กล้าเถียง รีบพูดรับประกันทันที
เวลานี้ หยางเฉินและหม่าชาวออกไปจากสนามบินแล้ว มุ่งหน้าไปยังทิศทางของโรงแรมตี้ตู
โรงแรมตี้ตูเป็นโรงแรมใหญ่ระดับห้าดาวแห่งหนึ่งของเมืองเยี่ยนตู ภายในตกแต่งได้หรูหราอย่างมาก ตระกูลใหญ่ของเมืองเยี่ยนตูมากมายล้วนจะมาจัดงานมงคลกันที่นี่
ตระกูลหวังและตระกูลอ้ายต่างเป็นตระกูลใหญ่ที่มีหน้ามีตาของเมืองเยี่ยนตู ตระกูลใหญ่ทั้งสองของที่นี่แต่งงานเกี่ยวดองกัน แค่คิดก็รู้แล้วว่าจะสร้างเสียงฮือฮามากแค่ไหนให้แก่เมืองเยี่ยนตู
ตอนมาถึงที่โรงแรมตี้ตู ที่ลานจอดรถหน้าประตูก็มีรถหรูสารพัดแบบจอดอยู่เต็ม โดยพื้นฐานเป็นรถราคาระดับสิบล้าน
หน้าประตูโรงแรม ตั้งรูปถ่ายชุดแต่งงานของคู่บ่าวสาวคู่หนึ่ง แต่ว่าผู้หญิงที่อยู่บนรูป เห็นได้ชัดว่าหน้าตาไม่ยินดี ส่วนฝ่ายชายกลับยิ้มแบบมีความสุขมาก
ผู้หญิงที่หน้าตาไม่ยินดี นอกจากอ้ายหลินแล้วจะเป็นใครไปได้อีก?
พอเข้าสู่โรงแรม ปูพรมแดงผืนใหญ่ยาวตรงไปสู่ห้องโถงงานเลี้ยง
หลังจากเข้ามาที่ห้องโถงงานเลี้ยง เป็นสีทองเหลืองอร่าม ทุกที่แขวนริบบิ้นและลูกโป่งหลากหลายสีเอาไว้
ในห้องโถงงานเลี้ยงขนาดใหญ่ ผู้คนแน่นขนัด ชูแก้วดื่มฉลองกันเต็มไปหมด ดูคึกคักเป็นพิเศษ
การปรากฎตัวของหยางเฉินไม่ได้ดึงดูดความสนใจของผู้ใด
หลังจากถือโอกาสหาที่นั่งแห่งหนึ่ง หม่าชาวรีบเข้ามาช่วยดึงเก้าอี้ออกให้หยางเฉิน หยางเฉินถือโอกาสนั่งลงไป
“พี่เฉิน การเตรียมงานของพวกเขาจัดเต็มมาก!”
ทันใดนั้นหม่าชาวส่งเสียงหัวเราะแบบเย้ยหยัน กวาดสายตามองไปหลายๆ ที่ ก่อนจะพูดอย่างเหยียดหยาม “แต่ล้วนเป็นพวกหัวมังกุท้ายมังกรกลุ่มหนึ่ง!”
หยางเฉินย่อมรู้สึกได้เช่นกัน เขาเพิ่งนั่งลงมา ก็มีแรงอาฆาตแค้นมากพอสมควร เข้ามาถึงที่ตัวของพวกเขา
เห็นได้ชัดว่าการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ในวันนี้ เป็นฝีมือของตระกูลหวงจริง ซึ่งคือพุ่งเป้ามาที่เขา
เพียงแต่คิดว่าอาศัยพวกไร้ประโยชน์ไม่กี่คนแบบนี้ จะสามารถรั้งเขาเอาไว้ได้เหรอ?
ต้องยอมรับว่าคนพวกนี้ไร้เดียงสากันมาก!