ถึงตอนนี้ เขาได้เชื่อแน่แล้ว เย่เสี่ยวเตี๋ยท้องได้ลูกชายกับหยางเฉิน
ผลสรุปอันนี้ แม้จะทำให้เขายากที่จะทำใจได้ แต่อย่างน้อยสิ่งที่ได้เห็นมาดของหยางเฉินเมื่อสักครู่ ไม่ทำให้เขาผิดหวัง
หนุ่มหล่อฝีมือดีอย่างนี้ ถ้าได้มาเป็นลูกเขย เป็นเรื่องที่ไม่ได้หาง่าย
“ผมกับลูกสาวคุณ ไม่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งอะไรกันใด ๆ เชื่อไม่เชื่อแล้วแต่คุณ!”
หยางเฉินพูดอย่างเย็นชาสุด ๆ
ถ้าหากไม่ได้เห็นแก่ที่เย่เสี่ยวเตี๋ยเสี่ยงตายเข้ามาขวางลูกกระสุนปืนให้เขาเมื่อกี้นี้ คงมีเหตุผลพอที่หยางเฉินจะฆ่าหล่อนทิ้งได้แล้ว
คำพูดของหยางเฉินแต่ละอักษร ล้วนเหมือนเป็นมีดทีละเล่ม ทิ่มแทงหัวใจเย่เสี่ยวเตี๋ยอย่างโหดร้าย
เย่เสี่ยวเตี๋ยก้มหน้า ปล่อยให้น้ำตารินร่วงหยดลงดิน
หนึ่งปีก่อนที่ผ่านมาเริ่มตั้งแต่ชายหนุ่มคนนี้ไปช่วยหล่อน ก็กลายเป็นฝันหวานแสนสวยที่หล่อนสะบัดไม่หลุด
แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยได้สัมผัสความรู้สึกเป็นใจกับต่างเพศ กลับต้องเจอะเจอรักแรกพบกับหนุ่มคนนี้ ถึงกับไม่สามารถลืมลงได้
กว่าจะได้พบเจออย่างแสนยาก ผู้ชายคนนี้ก็แต่งงานแล้ว คำพูดที่พูดเมื่อครู่นี้
ยิ่งทำให้บาดแผลในใจช้ำหนักลงไปอีก
ความรักมันก็แสนกลประมาณนี้ โดยเฉพาะรักข้างเดียวของรักแรกพบ จะมีก็แต่เพียงความเศร้า
“ลูกสาวข้าก็ร้องไห้ขนาดนี้แล้ว แกยังบอกไม่เคยมีอะไรกับลูกสาวข้า”
เย่ชังพูดอย่างเกรี้ยวโกรธ “เป็นลูกผู้ชายจริง ก็ต้องกล้าทำกล้ารับ อย่าทำตัวเหมือนเต่าเป็นแต่เอาหัวหดหลบในกระดอง!”
หยางเฉินจึงได้เห็น เย่เสี่ยวเตี๋ยก้มหน้าร้องไห้อยู่ พูดอย่างขุ่นเคืองว่า “เธอร้องไห้หาอะไรกันนะ?ยังไม่รีบชี้แจงให้ชัดเจนไปอีก ว่าเราทั้งสองไม่เคยได้มีสัมพันธ์อะไรกันเลย!”
ใครจะเชื่อได้ เย่เสี่ยวเตี๋ยไม่เพียงไม่ชี้แจง น้ำตายิ่งไหลหนักขึ้น
“ขอ…ขอโทษคะ!”
เย่เสี่ยวเตี๋ยในสภาพน้ำตานองเต็มหน้า พูดคำขอโทษกับหยางเฉินแล้ว หันพูดกับเย่ชังด้วยเสียงปนร้องไห้ว่า “คุณพ่อ ที่หนูพูดตะกี้เป็นเรื่องโกหกค่ะ หนูไม่ได้ท้อง ทั้งหมดไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา เพียงจะขอให้คุณพ่ออย่าทำร้ายเขา หนูขอร้องท่านละ!”
“บัดซบ!”
เย่ชังโกรธเกรี้ยวถึงที่สุด กัดฟันพูดอย่างแค้นเคืองว่า “ไอ้เด็กน้อย ลูกสาวข้ามีอะไรไม่คู่ควรกับแก?แกกล้าดียังไงทำแล้วไม่กล้ารับผิดชอบ!”
“หากไม่ใช่เห็นแก่ว่าแกมีอะไรกับลูกสาวข้า ป่านนี้แกก็เป็นศพไปแล้ว”
“ข้าบอกแกนะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แกก็คือลูกเขยของข้าเย่ชัง ถ้าแกขืนยังกล้าดีมาทำร้ายลูกสาวข้า ต่อให้ต้องเอาชีวิตคนแก่อย่างข้าเข้าแลก ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าเด็ดขาด!”
หยางเฉินมึนตึ๊บ พูดกันถึงขนาดนี้ยังไม่ชัดเจนกันอีกหรือ?
เย่เสี่ยวเตี๋ยก็พูดเองแล้วไม่ใช่หรือ ว่าไม่มีสัมพันธ์ข้องเกี่ยวอะไรเลย?
แล้วทำไมไอ้เฒ่าบัดซบนี่ ยังฝังใจว่าตัวเราเองไปมีอะไรกับเย่เสี่ยวเตี๋ยอยู่อีก?
ว่ากันตามบทในท้องเรื่อง มันควรจะเป็นว่าเขาหลบลูกกระสุนของเย่ชังได้ หลังจากนั้นก็จัดการฆ่าเขาทิ้งเสียไม่ใช่หรือ?
เย่ชังทำไมยังจะเอาเขาเป็นลูกเขยให้ได้นะ?
บรรดาแขกเหรื่อที่มางานตระกูลเย่ ต่างให้ความรู้สึกประมาณเหมือนดูหนังดูละคร แต่ละคนมีความรู้สึกสะท้อนใจในอารมณ์ หลายคนมองไปที่หยางเฉิน สายตาเต็มไปด้วยความไม่เป็นมิตร
แน่นอนว่า แม้กระทั่งแขกเหรื่อที่มา ล้วนแต่เชื่อว่าหยางเฉินเป็นประเภทผู้ชายกากเดนสังคม ไม่มีความรับผิดชอบ
ตาทั้งคู่ของเย่หวูซวงส่องประกายวาว พูดอย่างรู้สึกรำคาญขึ้นมาทันทีว่า “คุณอารอง ไอ้หมอนั่นมันแต่งงานแล้ว มันไม่คู่ควรกับเสี่ยวเตี๋ยหรอก”
“ว่าไปอีกที เสี่ยวเตี๋ยก็ยอมรับแล้ว ว่าหล่อนก็ไม่เคยได้มีอะไรกับไอ้หมอนั่น”
“ไอ้เด็กเวรคนนี้ มันก็ไอ้พวกหลอกลวง สมควรให้มันตายเพื่อชดใช้!”
ใบหน้าเย่หวูซวงเต็มไปด้วยความเหี้ยมโหด สำหรับตัวเขา หากเย่ชังไม่ตาย หยางเฉินก็ต้องตาย
จะปล่อยให้สองคนนี้ร่วมมือกันไม่ได้เด็ดขาด มิฉะนั้นแล้วชาตินี้ทั้งชาติเขาคงไม่ได้มีโอกาสจะฟื้นตัว
ในเมื่อทำแล้ว ก็ต้องยืนหยัดดันให้ถึงที่สุด
ระหว่างสองคนนี้ ต้องให้ตายไปสักข้างหนึ่ง
“หุบปากของแกเสีย!”
ด้วยเพราะหยางเฉินไม่ยอมรับว่ามีความสัมพันธุ์กับเย่เสี่ยวเตี๋ย เย่ชังก็มีความโกรธเป็นทุนอยู่แล้ว คำพูดของเย่หวูซวง จึงกระตุ้นเพลิงโกรธของเขาลุกโพรงขึ้นมาทันที
“นี่เป็นเรื่องภายในครอบครัวของข้า คนอื่นไม่มีคุณสมบัติที่จะมาสอด!”
เย่ชังพูดด้วยความโกรธพุ่งเดือด
“อารอง ผมก็เพียงหวังดีกับท่าน เกิดท่านโดนหลอก เกรงจะได้ไม่คุ้มเสียมั้ย?”
“อีกอย่าง ไอ้หมอนี่มันฆ่าซุจิ้นไม่พอ ยังทำเอารองเจ้าสำนักโรงยิมศิลปะการต่อสู้หงเหยียนบาดเจ็บสาหัสอีก”
“หรือท่านลืมแล้วว่า เจ้าสำนักโรงยิมศิลปะการต่อสู้หงเหยียน กับหลายท่านที่อยู่ในอันดับต้นของสมาคมบูโด ยังเป็นพี่น้องร่วมสาบานกันด้วย”
“ท่านคิดว่า โรงยิมศิลปะการต่อสู้หงเหยียน จะปล่อยไอ้หมอนี่ลอยนวลอยู่หรือ?”
“เพื่อไอ้หมอนี่คนเดียว กลับไปกระทบกระทั่งกับสมาคมบูโด มันไม่คุ้มกัน”
เย่หวูซวงพูดยุแยงต่อเนื่อง
ดวงตาหยางเฉินสาดประกายเย็นเยือกกะพริบหนึ่ง หรี่ตาจ้องเย่หวูซวงพูดว่า “ในเมื่อแกรนหาเรื่องอยากรีบตาย งั้นข้าก็จะส่งแกไปในที่ชอบเดี๋ยวนี้เลย!”
แผนของเย่หวูซวงที่วางไว้ เดิมก็หวังอยู่ว่าจะกระตุ้นจิตมุ่งฆ่าของหยางเฉิน ตอนนี้มาเป่าโหมให้เย่ชังลงมือกับหยางเฉินอีก
ต่อให้เย่ชังจะทะนงตัวอีกแค่ไหน ก็ยังให้รู้สึกมีอะไรไม่ปกติอยู่
คำว่าข้าก็จะส่งแกไปในที่ชอบเดี๋ยวนี้ จึงได้ทำให้เย่หวูซวงเหมือนตื่นจากฝัน
“หยางเฉิน แกจะข่มเหงคนมากไปแล้ว!”
เย่หวูซวงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพูด “ข้ายอมรับ ข้างตัวข้าไม่มีใครเอาชนะแกได้ แต่ที่นี่คือบ้านตระกูลเย่ แกคิดจะฆ่าข้า ผู้อาวุโสของตระกูลเย่ มีหรือจะปล่อยแก?”
เขาเป็นคนฉลาดมาก เพียงคำพูดไม่กี่คำ ก็แสดงออกถึงความเอือมระอาต่อหยางเฉิน อีกตอกย้ำว่าเหล่าผู้อาวุโสตระกูลเย่จะไม่ปล่อยหยางเฉินเป็นแน่
ในจำนวนคนทั้งหมดนี้ จะมีก็เย่ชังอยู่ในฐานะสูงที่สุด เขาพยายามจะโอนไฟสงครามระหว่างตัวเขากับหยางเฉิน เปลี่ยนโยนไปให้เป็นเย่ชังกับหยางเฉิน
“เย่หวูซวง แกนี่ช่างต่ำทรามไร้ยางอาย!”
เย่เสี่ยวเตี๋ยหยุดสะอื้นไห้ลงในที่สุด พูดจากใบหน้าที่โกรธแค้น “ตะกี้นี้ที่ข้างนอก แกก็ยอมรับอยู่เอง แกเป็นคนไปเชิญหยางเฉินมาเป็นแขกผู้ทรงเกียรติด้วยตัวเอง มาตอนนี้กลับมาปฏิเสธ”
คำพูดนี้หลุดออกจากปากมา สร้างความตื่นตระหนกไปทั่วบริเวณ
ทุกสิ่งที่เป็นสภาพตามที่เห็น เหตุส่วนใหญ่เกือบทั้งหมด ก็เพราะทุกคนในตระกูลเย่ต่างเห็นว่า หยางเฉินเป็นผู้ที่มาโดยไม่ได้รับเชิญ
และเย่หวูซวงก็ไม่ยอมรับ ว่าหยางเฉินเป็นแขกที่เขาเชิญมาเอง
เย่เสี่ยวเตี๋ยกลับเอาข้อเท็จจริงมาเปิดพูด สายตาทุกคู่ต่างก็ทยอยมองกันไปที่เย่หวูซวงในทันที
เย่ชังอัดเต็มความโกรธบนใบหน้า ตาจ้องเขม็งไปที่เย่หวูซวง พูดเสียงกร้าว “แกต้องมีคำอธิบายมาให้ข้า!”
ในความจริงแล้ว ความสัมพันธ์ของเขากับเย่หวูซวง จัดว่าดีมากกันมาตลอด
เย่หวูซวงเองก็ยังเคยเป็นตัวช่วยเย่ชัง ในการชิงตำแหน่งทายาทหัวหน้าตระกูลเย่
เย่ชังเองไม่มีลูกชาย ตั้งความหวังไว้กับเย่หวูซวงไว้ก็มีอยู่มาก ถึงขนาดมีความตั้งใจแล้วอยู่ว่า รอให้เขาได้รับตำแหน่งหัวหน้าตระกูลเป็นไปอย่างราบรื่นแล้ว ก็จะยืนยันแต่งตั้งเย่หวูซวงเป็นทายาทคนใหม่สืบต่อ
ด้วยความสนิทสนมในสัมพันธภาพขนาดนี้ เย่ชังไม่เคยเลยที่จะมีความระแวงในตัวเย่หวูซวง แต่มาขณะนี้ เป็นครั้งแรกที่เขาให้เกิดความรู้สึกสงสัยในตัวเย่หวูซวง
หน้าของเย่หวูซวงซีดเผือด ในแผนที่เขาวางไว้ เหตุการณ์ทั้งหมดต้องเกิดขึ้นก่อนเย่เสี่ยวเตี๋ยเข้ามาถึงในงาน หยางเฉินกับเย่ชัง ต้องมีแพ้ชนะให้เห็นใครอยู่ใครตาย
เป็นถึงผู้โดดเด่นเยี่ยมยอดที่สุดในรุ่นเด็กหนุ่มตระกูลเย่ มีหรือจะธรรมดา?
ในตอนวางแผนการทั้งหมดนี้อยู่นั้น ก็ได้คิดถึงเหตุอันเป็นไปได้ที่จะเกิด
“คุณอารอง ผมต้องขออภัยจากท่าน!”
ในขณะที่ทุกคนกำลังตื่นตะลึงกันอยู่ จู่ ๆ เย่หวูซวงก็ทรุดลงคุกเข่าทั้งสองข้าง ทำตาแดง ๆ พูดว่า “ก็เพราะรู้ว่าไอ้เจ้าหมอนี่ไม่ธรรมดา ผมจึงไม่อยากปล่อยให้มันอยู่กับเสี่ยวเตี๋ย!”
“ผมได้ล่อให้มันมาที่นี่ เดิมทีก็เพื่อจะให้มันรู้ ให้มันเห็นว่าตัวเขาต่างชั้นระดับกับตระกูลเย่อยู่มาก จะได้สำเหนียกตัวได้แล้วถอยไป”