The king of War – บทที่ 527 เทพสงครามผู้ชนะ

บทที่ 527 เทพสงครามผู้ชนะ

“ถูกที่เขาเป็นลูกเขยของฉัน แต่ภายในเวลาครึ่งชั่วโมง เขาไม่มีทางมาตระกูลเย่ เพื่อฉันหรอก”

“เพราะฉันเพิ่งคลอดลูกสาวได้ไม่นาน ฉันก็ทอดทิ้งเธอ”

“ตอนนี้ ลูกสาวฉันไม่ยอมเจอหน้าฉัน ขนาดหยางเฉินยังข่มขู่ฉัน ว่าถ้ากล้าวุ่นวายกับลูกสาว เขาจะฆ่าฉัน”

“ความสัมพันธ์เช่นนี้ นายคิดว่าเขาจะมาช่วยฉันไหม”

เย่ม่านกัดฟันพูด แววตาของเธอเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

เธอคิดไม่ถึงจริงๆ เธอวางแผนมาหลายสิบปี ทั้งหมดต้องพึ่งหยางเฉิน ขนาดความเป็นความตาย ยังต้องดูว่าหยางเฉินจะยอมช่วยเธอหรือเปล่า

เธอไม่พอใจ และโกรธมาก

แต่เมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้ มันอยู่เหนือการควบคุมของเธอ ตอนนี้เธอทำได้เพียงอธิษฐานให้ทรราช ไม่เห็นเธออยู่ในสายตา

“นั่นเป็นเรื่องของพวกเธอ ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน!”

ทรราชแสยะยิ้ม สีหน้าของเขาเหี้ยมโหด “ภายในครึ่งชั่วโมง พวกเธอจะใช้วิธีไหนก็ได้ ทำให้เขามาที่นี่ ถ้าไม่มา คนที่ตาย จะไม่ใช่แค่เธอ!”

ข่มขู่!

นี่มันเป็นการข่มขู่ชัดๆ

ชื่อของทรราช มาจากการที่เขาโหดเหี้ยม ไร้ความเมตตา เมื่อเจอคนแบบนี้ มีหรือเขาจะใจอ่อน

คำพูดของเขา ทำให้คนทั้งตระกูลเย่ ตกอยู่ท่ามกลางความสิ้นหวัง

คนนอกคิดว่า สมาคมบูโดแข็งแกร่งกว่าแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู เพียงเล็กน้อย แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ บางทีแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูร่วมมือกัน ถึงจะเหนือกว่าสมาคมบูโดเพียงเล็กน้อย

ยิ่งไปกว่านั้น ความแค้นและบุญคุณตลอดหลายปี แปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู ไม่มีทางร่วมมือกันได้

ถ้ารู้ว่าตระกูลเย่ใกล้จะโดนสมาคมบูโดทำลาย พวกเขาคงรอชม ด้วยความคาดหวังเท่านั้น

อีกด้าน หยางเฉินกลับมาถึงโรงแรมเยี่ยนตู ตอนนี้เขากำลังวิดีโอคอล คุยกับภรรยาและลูกสาว

“พ่อจะกลับบ้านวันไหน หนูคิดถึงพ่อมาก”

เสียงหวานๆ ของเสี้ยวเสี้ยวดังขึ้น หยางเฉินรู้สึกว่าใจจะละลายแล้ว

“พรุ่งนี้เช้า พ่อก็กลับไปแล้ว จะได้ไปส่งลูกที่โรงเรียนอนุบาล แล้วก็ไปส่งแม่ที่ทำงานด้วย”

หยางเฉินยิ้มและเอ่ยขึ้น

เขาคิดว่าเรื่องที่เมืองเยี่ยนตู พอจะแก้ไขได้แล้ว ความรักของหม่าชาวกับอ้ายหลินนับวันยิ่งดีขึ้น เยี่ยนเฉินกรุ๊ปก็มาอยู่ในมือเขาแล้ว

“พ่อโกหก!”

เสี้ยวเสี้ยวเบะปาก และพูดด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์

“พ่อจะโกหกเสี้ยวเสี้ยวได้ยังไง พ่อจองตั๋วเครื่องบินพรุ่งนี้แล้ว รับรองได้เลยว่าไปส่งลูกที่โรงเรียนอนุบาลได้แน่นอน”

หยางเฉินยกมือขวาขึ้นมา และพูดสัญญา

“พ่อโกหก! พ่อโกหก!”

เสี้ยวเสี้ยวพูดงอน ตาของเด็กน้อยแดงก่ำ น้ำตาใกล้ไหลออกมา

“พ่อไม่ได้โกหกลูกจริงๆ นะ!” หยางเฉินทำอะไรไม่ถูก

ขณะนั้น ฉินซีเพิ่งอาบน้ำเสร็จ และเดินออกมา เห็นสองพ่อลูกกำลังเถียงกัน เธออดขำไม่ได้ เธอยิ้มแล้วพูดว่า “หยางเฉิน พรุ่งนี้วันหยุด ฉันกับเสี้ยวเสี้ยวหยุด”

หยางเฉินเข้าใจทันที เขาปาดเหงื่อด้วยความโล่งอก

เขากลัวลูกสาวและภรรยาร้องไห้ที่สุด เสี้ยวเสี้ยวบอกว่าเขาโกหก แต่ไม่ได้บอกเหตุผล เขาจึงร้อนใจมาก

“เสี้ยวเสี้ยว พ่อผิดเอง พ่อลืมไปว่าพรุ่งนี้เป็นวันหยุด พรุ่งนี้พอพ่อถึงบ้าน พ่อจะพาลูกไปสวนสัตว์แต่เช้าเลยดีไหม”

หยางเฉินพูดขอโทษจากใจจริง

“ดีค่ะ!”

ใครจะไปรู้ว่าคนที่กำลังจะร้องไห้อย่างเสี้ยวเสี้ยว เมื่อได้ยินว่าหยางเฉินจะพาไปสวนสัตว์ ความไม่พอใจบนใบหน้าของเธอหายไปทันที และตอบอย่างมีความสุข

หยางเฉินไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี จู่ๆ เขารู้สึกเหมือนโดนลูกสาว ‘เล่นงาน’

ขณะนั้นฉินซีจึงพูดว่า “หยางเฉิน ไว้ค่อยคุยกัน ฉันมีสายเข้า”

“โอเค เจอกันพรุ่งนี้เช้า!”

หยางเฉินยิ้มและเอ่ยขึ้น

หลังวางสาย หยางเฉินรู้สึกสุขใจมาก

เรื่องที่เกิดในตระกูลเย่ รวมถึงเรื่องที่โดนคนของสมาคมบูโด ลอบฆ่าระหว่างทาง ทำให้เขาไม่พอใจมาก

หลังจากได้คุยวิดีโอคอลกับลูกสาวและภรรยา ความไม่พอใจเหล่านั้น หายวับไปในพริบตา

เขาเตรียมจะอาบน้ำ เสียงมือถือดังขึ้น เป็นฉินซีที่เพิ่งวางสายไปเมื่อครู่

“ที่รัก เพิ่งวางสายไปไม่ใช่เหรอ”

หยางเฉินถามอย่างสงสัย

“ที่รัก เมื่อกี้เธอเพิ่งโทรมา บอกว่าคนของสมาคมบูโดไปที่ตระกูลเย่ และกำลังรอนาย ให้นายไปที่นั่นภายในครึ่งชั่วโมง ถ้านายไม่ไป เขาจะฆ่าเธอ!”

น้ำเสียงของฉินซี แฝงไปด้วยความตื่นตระหนก

เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของหยางเฉิน เคร่งขรึมขึ้นทันที

เขารู้ดีว่า เธอที่ฉินซีพูดถึง คือเย่ม่าน

เขาเคยคิดว่าคนของสมาคมบูโด ต้องมาหาเขา แต่คิดไม่ถึงว่าจะไปที่ตระกูลเย่เร็วขนาดนี้ แถมใช้เย่ม่าน มาข่มขู่เขาด้วย

“ที่รัก นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

“สมาคมบูโดมีอำนาจขนาดไหนกัน”

“ตระกูลเย่เป็นหนึ่งในตระกูลที่แข็งแกร่ง ในเมืองเยี่ยนตูไม่ใช่เหรอ”

“ทำไมถึงมีคนตามไปฆ่าถึงตระกูลเย่”

เสียงตื่นตระหนกของฉินซี ดังออกมาจากลำโพง เป็นน้ำเสียงที่สะอึกสะอื้น

เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เธอเป็นห่วงหยางเฉินมาก อีกทั้งยังเป็นห่วงเย่ม่านด้วยเช่นกัน

ถึงเธอจะแสดงออกว่าไม่ยอมรับเย่ม่านเป็นแม่ แต่ยังไง ผู้หญิงคนนี้ก็เป็นแม่แท้ๆ ของเธอ

ตอนนี้แม่อาจจะโดนฆ่า เธอจะไม่เป็นห่วงได้อย่างไร

แต่เธอเป็นห่วงหยางเฉินมากกว่า

คนที่กล้าข่มขู่ตระกูลเย่ จะเป็นคนธรรมดาได้ยังไงกัน

ถ้าหยางเฉินไปตระกูลเย่ จะเกิดอันตรายขึ้นกับเขาหรือเปล่า

ตอนนี้ในใจของเธอขัดแย้งกันไปหมด และสับสนมากด้วย

คนหนึ่งคือแม่แท้ๆ ส่วนอีกคนคือสามีที่เธอรักมาก

เธอทั้งไม่อยากให้หยางเฉิน ไปตระกูลเย่ ทั้งอยากให้เย่ม่านปลอดภัย

แต่นี่เป็นเรื่องที่ไม่สามารถเกิดขึ้นพร้อมกันได้

“ฟังนะเสี่ยวซี ผมจะไม่เป็นอะไร คุณไปนอน พรุ่งนี้ผมรับรองว่าจะกลับไปแต่เช้า!”

หยางเฉินรีบพูด ขณะที่พูด เขาสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว และเตรียมจะออกไป

“ที่รัก นายจะไปตระกูลเย่ใช่ไหม”

ฉินซีเอ่ยถาม หยางเฉินยังไม่ได้ตอบ เธอก็ปล่อยโฮออกมา “ที่รัก ฉันเป็นห่วงนาย! ไม่อยากให้นายไปตระกูลเย่ แต่ฉันก็กลัวว่าเธอจะตาย!”

ฉินซีร้องไห้สะอึกสะอื้น หยางเฉินรู้สึกใจแทบสลาย แววตาของเขาเต็มไปด้วยความอาฆาต

“ที่รัก คุณเชื่อใจผมหรือเปล่า”

น้ำเสียงดึงดูดของหยางเฉินดังขึ้นอีกครั้ง

“ฉันเชื่อใจนายอยู่แล้ว!” ฉินซีพูดอย่างแน่วแน่

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ผมก็วางใจ อย่าลืมสิว่าสามีของคุณคือใคร”

น้ำเสียงของหยางเฉินเต็มไปด้วยความมั่นใจ “เทพสงครามผู้ชนะ ขนาดศัตรูหลายประเทศ ต้องการชีวิตผมในสนามรบ ก็ยังทำไม่ได้ สมาคมบูโดกระจอกๆ จะทำอะไรผมได้ยังไง”

เหมือนน้ำเสียงของหยางเฉิน มีพลังเวทมนตร์ ตอนนี้ฉินซีรู้สึกแน่วแน่ขึ้นมา

“ที่รัก ฉันเชื่อใจนาย!”

ฉินซีพยายามสะกดกลั้นน้ำเสียงของตัวเอง ไม่ให้สะอื้น เธอกัดฟันแล้วพูดว่า “ไม่ว่าจะดึกขนาดไหน รอนายจัดการเรื่องทางนั้นเสร็จ ส่งข้อความมาหาฉันด้วย!”

“ได้!”

หยางเฉินตอบอย่างแน่วแน่

หลังวางสาย หยางเฉินออกมาถึงนอกโรงแรม

เมื่อได้ยินเสียงในห้องหยางเฉิน หม่าชาวจึงตามมาอย่างเงียบๆ เมื่อหยางเฉินวางสาย จึงถามว่า “พี่เฉิน เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ”

The king of War

The king of War

Status: Ongoing

ห้าปีก่อน หยางเฉินเพื่อให้ตัวเองคู่ควรกับฉินซี เขาจากไปโดยไม่ร่ำลา ห้าปีต่อมา เขาพกความสามารถอันน่าทึ่ง กลับมาอย่างรุ่งโรจน์ เพียงแต่ว่าพอมาถึง กลับพบว่าตนมีลูกสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท